ดีใจจังค่ะ ที่เห็นคุณว่ามีความสุข

ขอให้คุณWylsmith สมหวังดังตั้งใจนะคะ
คิดดี พูดดี ทำดี ด้วยความตั้งใจ
ขอให้คุณได้สิ่งดีดีที่คุณหวังเอาไว้...กลับคืนมา
รักษาสิ่งที่มีค่าเอาไว้นะคะ
สิ่งที่ผ่านมา...ก็แล้วไป จำไว้เป็นบทเรียนค่ะ

เป็นกำลังใจให้คุณเสมอนะคะ

ธรรมรักษาค่ะ

สวัสดีครับกัลยาณมิตรผู้มีพระคุณทุกท่าน ตั้งแต่ผมเข้ามาในลานธรรมแห่งนี้ก็มีแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิตมากขึ้นครับ ผมปราถนาอยากให้ผู้ที่กำลังหลงผิด นอกใจภรรยาได้เข้ามาบ้างจังเลย เผื่อว่าจะกลับใจได้บ้าง ครอบครัวจะได้อบอุ่น เห็นแล้วน่ารักดี
เมื่อวานได้มีโอกาสไปทานสุกี้กับภรรยา ถึงแม้นว่าเธอจะวางตัว และพูดคุยกับผมแบบไม่ใช่ภรรยาคุยกับสามี แต่ผมก็ยังรู้สึกดีนะ ที่เธอให้โอกาสนี้กับผม ผมหยอกล้อเธอให้เธอหัวเราะได้ (ผมดีใจมากที่เห็นเธอหัวเราะ) อาหารที่ทานเหลือเธอบอกให้ห่อให้ผมกลับไปทานที่บ้านโดยเน้นย้ำว่า"อย่าเอาไปทิ้งนะ สตางค์ทั้งนั้น เงินหามาลำบาก ให้รู้จักเก็บ ๆ ไว้บ้าง แก่ตัวแล้วจะไม่ลำบาก" ผมดีใจมากนะที่เธอเตือนผมและแสดงออกอย่างนี้ ผมอดไม่ได้ที่จะคาดหวังว่าจะได้กลับมาเป็นครอบครัวเหมือนเดิมครับ

คุณทักทายครับ คุณพูดถูกมาก ๆ เลยครับ ผู้หญิงเวลาใจแข็งแล้ว แข็งยิ่งกว่าเพชรอีก ผมรู้สึกว่าภรรยาผมไม่มีทางที่จะใจอ่อนเลยครับ (เพราะผมทำไม่ดีกับเธอไว้แรงมาก ๆ เธอเคยบอกว่าผมบีบคั้นเธอถึงขั้นอาจจะฆ่าตัวตายได้เลย)

ธรรมช่วยล้างใจให้มีสุข
Wylsmith

สวัสดีค่ะ คุณWylsmith ยังมาให้กำลังใจเหมือนเดิมค่ะ ความพยายามอยู่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่นนะคะ อย่าถอดใจง่าย ๆ นี่ก็ดีขึ้นเยอะแล้วนะคะ อย่ายอมแพ้ค่ะ โอกาสมีให้สำหรับคนที่กลับตัวเสมอค่ะ

สวัสดีคะ นับว่าเธอให้โอกาสคุณที่จะทำดีกับเธอแล้วนะคะ ก้าวทีละก้าวนะคะ สร้างความรู้สึกดีๆให้กับเธอแล้วเธอจะรับรู้ได้เองคะว่าคุณจะไม่ทำให้เธอผิดหวังอีกอย่างแน่นอน เป็นกำลังใจให้คะ

ธรรมสวัสดีครับกัลยาณมิตรผู้มีพระคุณทุก ๆ ท่าน ช่วงสองวันที่ผ่านมานี้ผมพยายามโทรหาภรรยาผมเพื่อพูดคุยถามสารทุกข์สุขดิบกับเธอ แต่เธอไม่ค่อยจะรับโทรศัพท์ผมโดยบอกว่า ไม่สะดวก ผมไปทำงานต่างจังหวัด ผมคิดถึงเธอก็เลยซื้อของมาฝาก เธอก็ตอบว่าไม่ต้องการ และอย่ากดดันเธอ ซึ่งผมเข้าใจนะ เพราะว่าเธอคงยังไม่พร้อมที่จะพบหรือพูดคุยกับผมจริง ๆ จึงมี Re-action แบบนี้ ถามผมตอนนี้ผมนะตั้งใจดูแลและใส่ใจเธอเหมือนกับที่ผมตั้งปณิธานไว้ แต่ก็มีกังวลว่าจะสร้างความรำคาญให้กับเธอ กลัวเธอปิดประตู ปิดหน้าต่าง ในการสื่อสารทั้งหมดจริง ๆ (เป็นความกลัวในสิ่งที่ยังไม่เกิด แต่ไม่สามารถห้ามไม่ให้ใจคิดได้จริง ๆ) ผมไม่ถอดใจที่จะดูแลเอาใจใส่เธอให้ดีที่สุดตามที่ตั้งใจไว้ ผมมีความสุขที่ได้กลับตัวกลับใจ และรู้สึกสบายใจที่ได้ทำเช่นนี้ แต่ยอมรับว่ายังทุกข์อยู่ทุกครั้งที่คิดถึงพฤติกรรมที่ไม่ดีในอดีต ครับ

Wylsmith

บางที การถอยห่างออกมาอาจเป็นทางเลือกที่เำหมาะสมกว่า เพราะการเกี่ยวข้องกับสัตว์สังขารใดๆ ที่จะไม่เป็นบุญและบาปย่อมไม่มี..
........
จริงอยู่ ที่เราอาจพยายามทำในสิ่งที่คิดว่า"ดี" ....แต่สิ่งที่ดีของเรากับของผู้อื่นอาจ"ไม่เหมือนกัน"..บางทีกลับกลายเป็นการเบียดเบียนกันโดยคิดไม่ถึงก็เป็นได้..จึงพึงระมัดระวัง...เขากับเรามีสิทธิเท่าเทียมกันในการเป็นอิสระและโลกส่วนตัว...บางที บางคน เมื่อเห็นทุกข์แล้ว ได้ปัญญา รู้ว่าเหตุที่มาของทุกข์คืออะไร เมื่อเป็นเช่นนี้ เขาย่อมไม่ดิ้นรน ไม่ยินดีที่จะเข้าหาหรือรับเอาเหตุนั้นมาเพื่อสร้างทุกข์แก่ตนอีก..ดังนั้น เมื่อคิดจะทำอะไรๆแก่ใคร ก็พึงเห็นความจำเป็นของเขา เคารพในความต้องการของเขาเป็นสำคัญ..

การไม่ยึดมั่นหมายในสิ่งหรือบุคคลใดๆ ไม่ว่าจะด้วยอาการไรๆ ย่อมเป็นความเบาสบายและอิสระโดยประการทั้งปวง...การฝึกตนเพื่อความมีตนเป็นเพื่อน เป็นที่พึ่งได้ คือวิถีทางที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงสอน....เพราะได้ตนเป็นเพื่อนเป็นที่พึ่ง แม้จะอยู่คนเดียวหรือรวมกลุ่มก็ไม่ต่างกันในที่สุด..

ขออนุโมทนาในการดำเนินชีวิตด้วยวิถีธรรมของท่านWylsmith:ครับ

ขอให้มีความสุขครับ

อนุโมทนากับคนผิดที่คิดได้นะคะ
กรรมดีในปัจจุบันก็ส่งผลดีให้คุณรู้สึกดีแล้ว ดีใจด้วย
ขอให้คุณทำดีต่อไป ไม่ใช่แค่อดีตภรรยาคุณ
แต่ทำดีกับทุกคนและตัวเองด้วย
วันนึงความดีจะสนองตอบคุณคะ
กรุงโรมไม่ได้สร้างในวันเดียวนะคะ

ธรรมสวัสดีครับ กัลยาณมิตรผู้มีพระคุณทุกๆ ท่าน ตั้งแต่ผมได้รับกำลังใจดี ๆ จากทุกท่านทำให้ผมเข้มแข็งและมั่นคงในความตั้งใจมากขึ้นครับ ผมได้พบกับสิ่งดี ๆ หลายอย่าง ออกกำลังกายทุกวัน รู้สึกว่าเป็นหนุ่มขึ้นเยอะเลย (ภูมิใจจัง) ผมได้มีโอกาสพบภรรยาผมบ้างและได้พูดคุยกัน ซึ่งจิตใจเธอก็เข้มแข็งเหมือนกัน เธอตัดผมได้ 100 % แล้ว แต่เธอพบและพูดคุยกับผมในฐานะอะไรนั้นผมไม่รู้หรอก รู้แต่ว่าผมยังมีโชคดีอยู่บ้างที่เธอให้โอกาสผมเจอหน้า ผมเป็นห่วงสุขภาพเธอมาก แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรได้ดีไปกว่านี้ เพราะจะซื้อวิตามิน หรืออาหารเสริม ต่าง ๆ ให้เธอ เธอก็บอกว่าไม่ต้องการ เธอให้ผมเก็บสตางค์ไว้ เพราะผมไม่มีใคร แก่ตัวแล้วจะลำบาก นี่คือคำพูดของเธอเวลาเจอกับผม

คำแนะนำของท่าน -DD- นั้นน่าสนใจมาก ที่บอกว่า "การถอยห่าง อาจจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสม" แต่ว่าผมยังไม่สามารถตัดใจได้ ไม่สามารถละการยึดมั่นในความผูกพันระหว่างผมกับเธอได้ ผมยังยึดติดกับเธออยู่ ผมรักเธอโดยปราศจากเงื่อนไขของการครอบครอง แต่ผมต้องการรับผิดชอบเธอไปตลอดชีวิตผมควรทำอย่างไรเล่า? จึงเหมาะสม

Wylsmith

การรักและห่วงใยกันไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันนะคะ เพียงแค่เรามีความรู้สึกดีๆ และดูแลเธอห่างๆ ก็เป็นเรื่องน่ายินดีแล้วมิใช่เหรอ โทรถามสารทุกข์ เจอกันบ้างบางเวลา ก็น่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ ค่อยเป็นค่อยไปอย่าให้เธอรู้สึกว่าถูกบีบคั่น หรือถูกครอบครอง อยากให้คุณให้เวลาเธอปรับตัวปรับใจ รักษาระดับของคุณไว้ อย่าจู่โจม เพราะคุณก็รู้ว่าที่ผ่านมาเธอบอบช้ำกับการกระทำของคุณ ที่เธอให้โอกาสคุณทุกวันนี้ก็ถือว่าดีแล้วคะ ดีกว่าที่จะไม่ได้เจอหน้ากันเลยนะคะ เวลาจะรักษาจิตใจของคุณทั้งสองให้ดีขึ้นอย่างแน่นอนคะ สักวันเธอต้องรับรู้ได้คะว่าคุณรู้สึกดีเมื่อมีเธอ วันนั้นคงไม่นานเกินรอสำหรับคุณนะคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ อย่าท้อคะ

Wylsmith:



ขอให้อ่านทบทวนข้อความนี้บ่อยๆ ท่าน Wylsmithจะพบว่านี้คือกำแพงที่มองไม่เห็นที่ตั้งขึ้นแล้วระหว่างคุณกับเธอ...อันว่ากำแพงนั้นยิ่งมองไม่เห็นยิ่งแน่นหนายิ่งกว่ากำแพงที่เป็นวัตถุ มองเห็นได้ แต่กำแพงที่เกิดจากใจย่อมมีปริมณฑลที่ใครๆไม่อ่านกำหนดได้ การจะปีนหรือข้ามกำแพงวัตถุย่อมยังอาจทำได้แม้เขาจะกั้นด้วยอุปกรณ์แม้เหล็กแหลมหรือเครื่องขวางอันพิศดารมีเลเซอร์แลกับระเบิดก็ตาม..แต่กำแพงใจนั้นขวางให้ไกลกันแม้กายนั้นสัมผัสกันอยู่นั่นเทียว...



ข้อนี้ดูคล้ายดีมากในความรู้สึก แต่ ควรทราบว่า เมื่อใดที่มีความยึดติดเป็นต้นกำเนิดในใครๆหรืออะไร เมื่อนั้นความทุกข์นานัปการย่อมตามมาดุจเงา..เพราะความยึดติดคือตัณหา องค์ธรรมของเขาคือโลภะ..ก็โลภะนั้น ชื่อว่าจะลดลงหรือไม่งอกงามแผ่ขยายอำนาจขึ้นย่อมไม่มี ปุถุชนผู้มีโลภะเกิดย่อมมีความต้องเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆหาที่จบมิได้ พึงอย่าดูหมิ่นกำลังของเขาเลย ..

ดูเถิดว่าใครๆไม่เคยเรียกร้องว่า .."ท่านเจ้าข้าฯโปรดเอื้อเฟื้อช่วยข้าพเจ้าด้วย ข้าพเจ้าทำธุรกิจได้กำไรมา๑บิลเลียนดอลลาร์.. เวลานี้ ข้าพเจ้ากำลังถูกความโลภครอบงำให้อยากได้เพิ่มขึ้นอีกสามเท่า..ใครก็ได้ช่วยหยุดความโลภนี้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด" หรือ"ช่วยด้วยครับท่านผูเจริญ ข้าพเจ้ามีแฟนสามคนแล้วถูกใจหมดทั้งสามเลย ถ้าจะให้เลิกคนใดคนหนึ่งข้าพเจ้าคงตายแน่..ทำยังไงดี" ดังนี้.. ..

แต่สิ่งที่ปรากฏในพลังของโลภะคือ "ได้คืบจะเอาศอก" ..ไปเรื่อยๆจนถึงหัวแลเท้านั่นแหละ..นี่คือปกติของพลังโลภะ เวลานี้อาจนึกว่ากำลังมีความอาทรที่ใสบริสุทธิ์ แต่ไม่รู้ตัวว่ากิเลสคือความหวังลึกๆเข้ามาแอบแฝงอยู่..เพราะเขาหลบเนียนมาก คนที่เคยเห็นเรื่องแบบนี้เขามองออกและมาบอกกล่าวให้รู้กัน..ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับการวางใจของตนแล้วว่าจะทำอย่างไร..

เมื่อเราปรารถนาดีแก่เธอจริงแท้ ก็พึงกล่าวแก่เธอเป็นครั้งสุดท้ายว่า...

"นี่แน่ะน้องหญิง กรรมชั่วอันใดที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินกันมาตลอดเวลาในชาตินี้ ข้าพเจ้าสำนึกแล้วและขออโหสิกรรมอย่าให้เป็นเวรผูกกันต่อไปเลย เพื่อชดเชยความเดือดร้อนที่เึคยก่อไว้ ข้าพเจ้า ขอปวารณาว่าจะให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลแก่ท่านจนสุดความสามารถในทุกเรื่อง หากท่านประสงค์ โปรดอย่าได้ลังเลที่จะติดต่อข้าพเจ้าได้ที่ ที่อยู่....Tel :....หากไม่ติดต่อมา วันนี้คือวันสุดท้ายในการพบเจอกันของเราทั้งสอง..ด้วยอำนาจบุญกุศลทั้งทานศีลภาวนาที่ข้าพเจ้าบำเพ็ญมาแล้วด้วยดี ขอบุญนั้นแผ่มาถึงท่านด้วย ท่านจงอนุโมทนารับเอา และขอความสวัสดิ์พิพัฒน์มงคลพึงบังเกิดแก่ท่านตราบเท่ากาลนานเทอญ.."

นี้เป็นสิ่งที่ท่านพึงพิจารณาใคร่ครวญ การที่เราทำอาการเหมือนตื๊อด้วยคิดว่าเราหวังดี ไม่ช่วยแปรเอาผลคือความอึดอัดขัดเคืองของเขาให้กลายเป็นเครื่องชี้การกระทำของเราว่าเป็น"บุญ"ไปได้..แต่กลับกลายเป็นการเบียดเบียน--เป็นฝ่ายอกุศลไปเสียแล้ว .. ผลจากเหตุเช่นนี้ย่อมไม่น่าปรารถนามิใช่หรือครับ..

กราบขอบพระคุณท่าน -DD- ที่ได้กล่าวเตือนสติผมครับ คำว่า "ได้คืบเอาศอกฯ" นั้นผมเข้าใจแล้วครับ กำแพงที่ท่านกล่าวถึงนั้นผมยังไม่เข้าใจครับ รบกวนขอคำแนะนำให้ผมได้เข้าใจชัดกว่านี้จักเป็นพระคุณยิ่งครับ

Wylsmith