วันเวลาปัจจุบัน 20 ก.ค. 2025, 03:16  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 40 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.พ. 2010, 16:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ม.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 141


 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องของคุณnamka เหมือนกับรุ่นน้องที่ทำงานเลยค่ะ เค้าเล่น msn แล้วนัดเจอกัน ผู้ชายเป็นรั้วของชาติเหมือนกัน เป็นคนต่างจังหวัด เค้าพึ่งเจอกันไม่นานผู้ชายก็ขึ้นมาหานัดเจอกันไปเที่ยวบ้านรุ่นน้อง แล้วเมื่อปีใหม่รุ่นน้องก็ตัดสินใจไปเที่ยวบ้านผู้ชายที่ต่างจังหวัด แล้วตกลงกันว่าปีนี้จะมาหมั้น แล้วปีหน้าก็จะแต่งเลย แ่ต่ครอบครัวของรุ่นน้องเค้าไม่ค่อยชอบเพราะผู้ชายเงินเดือนน้อย แต่รุ่นน้องเรารักเค้าหมดใจไปแล้ว ตอนนี้เราก็ได้แต่อวยพรขอให้เค้าโชคดี เจอคนดีจริง ๆ เพราะมีความรู้สึกว่าการเจอกันแบบนี้ดูไม่ค่อยหน้าไว้ใจเท่าไร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.พ. 2010, 01:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2008, 14:07
โพสต์: 285

อายุ: 0
ที่อยู่: ประเทศไทย

 ข้อมูลส่วนตัว


เสียใจกับเรื่องนี้ด้วยครับ เรื่องที่แล้วไปแล้วก็ปล่อยไป อยู่กับปัจจุบันดีกว่าครับ

สำหรับเรื่องหนี้บัตรเครดิตที่กลัวว่าเขาจะไม่จ่ายนะครับ
ก็ลองดู statement เก็บเงินดูสิครับ ว่าแต่ละเดือนเขาค้างจ่ายมั้ย
ถ้าเขาจ่ายทุกเดือนก็ถือว่าไม่เป็นไร
แต่ถ้าเขาไม่จ่าย คุณก็ต้องจ่ายเองไปก่อนนะครับ ดอกเบี้ยบัตรเครดิตมันแพงครับ
แล้วลองโทรไปคุยกับ call center ว่าบัตรเครดิตนี้ยกเลิกบัตรได้มั้ย
ยกเลิกรายการที่ซื้อได้มั้ย ถ้ายกเลิกแล้วให้เขาไปยึดโน้ตบุ๊คคืนเองได้มั้ย
ถ้าไม่ได้ ก็ต้องจ่ายเงินแทนไปก่อนจนหมด

ถ้าคุณเองต้องผ่อนให้เขาทั้งหมดและอยากได้โน้ตบุ๊คคืน ก็ลองปรึกษาตำรวจดูนะครับ
กฎหมายช่วยได้ครับ แต่อาจเสียเวลาดำเนินเรื่อง
และอาจมีปัญหาจุกจิกกวนใจครับ

ลองคิดดูนะครับ

.....................................................
"ใครเกิดมา ไม่พบพระพุทธศาสนา ไม่เลื่อมใส ไม่ปฎิบัติ ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย เป็นโมฆะตลอด ตั้งแต่วันเกิดจนวันตาย"

"ให้พากันหมั่นให้ทาน รักษาศีล เจริญเมตตาภาวนา"

พระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
http://www.luangta.com/

"ทำสมาธิมากเนิ่นช้า คิดพิจารณามากฟุ้งซ่าน หัวใจของการปฏิบัติคือการมีสติในชีวิตประจำวัน"
หลวงปู่มั่น

"ดูจิต...ด้วยความรู้สึกตัว"
หลวงพ่อปราโมทย์ สวนสันติธรรม ชลบุรี
http://www.wimutti.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.พ. 2010, 01:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www



ถ้าเหงาก็เข้ามาคุยกับเพื่อนๆที่นี่....หรือหาอ่าน
เรื่องราวดีๆในนี้ มีให้ศึกษาเยอะเลยค่ะ.... :b17:

เป็นกำลังใจให้....ขอให้โชคดีนะค่ะ :b4:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.พ. 2010, 03:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


namka:

อ้างคำพูด:
ตอนนี้รอลุ้นค่ะ ว่าสิ้นเดือน เขาจะจ่ายอะไรให้บ้าง


ขออนุโมทนาที่คุณnamka นำเรื่องมาเป็นข้อเตือนใจคนอื่นๆ นับว่าเป็นกุศลอย่างยิ่ง..

สำหรับเรื่องที่เกิดแก่คุณนั้นมาจากเหตุอดีต ๓ ประการคือ การที่เคยล่วงศีลข้อ๓มาก่อนจึงได้ต้องประสบปัญหาเรื่องรักที่ไม่สมหวัง ..การที่เคยฉ้อโกงคนอื่นอันเป็นการล่วงศีลข้อ๒จึงต้องเสียทรัพย์ และการล่วงมุสาวาทโกหกคนอื่นมาก่อนจึงถูกโมฆะบุรุษนี้หลอกลวง...บาปเหล่านี้ได้เหตุปัจจัยแล้วจึงส่งผลให้ได้รับในปัจจุบัน..

เมื่อทราบเหตุที่มาของสิ่งที่ประสบอยู่แล้วก็ย่อมไม่โทษใครๆว่าเป็นเหตุนำทุกข์และความเดือดร้อนมาให้ เพราะที่แท้แล้วสิ่งเหล่านี้เกิดเพราะตนเองเท่านั้น หากเราไม่เคยทำบาปมาก่อน ไฉนเลยจึงจะได้รับผลเช่นนี้ พระบรมศาสดาทรงตรัสสอนไว้ว่า สิ่งทั้งปวงย่อมไหลมาแต่เหตุ ดังนั้นเมื่อทำเหตุไม่ดีมาผลจึงเป็นทุกข์..

จากการวางใจของคุณnamka ที่ตัดใจเลิกคบพาลชนคนนี้ แสดงถึงความเป็นผู้มีปัญญาน่าชื่นชมครับ การเลิกคบคนพาลนับเป็น"มงคล"ข้อแรกที่แสดงไว้ใน"มงคลสูตร" คุณ namka จึงได้ชื่อว่าเป็นผู้มองกาลไกล..เพราะหากคบพาลบุรุษนี้ต่อไปย่อมจะได้แต่ความหายนะเป็นแน่แท้..เขาผู้นี้กำลังแผ้วทางเพื่อไปมีชีวิตที่ต้องประสบสิ่งอันไม่น่าชอบใจทำนองเดียวกับที่คุณ namka กำลังได้รับอยู่นี้เช่นกัน เพียงแต่รอให้ปัจจัยพร้อมในอนาคตเท่านั้น..หากคุณ namka เพิ่ม"คุณ"ให้ตนเองด้วยการอภัยให้เขา ทั้งเจริญกุศลทั้งปวงมีการประพฤติศีลอย่างมั่นคงแผ่เมตตาแก่ชายผู้มืดบอดหลงทำบาปกรรมอย่างเพลิดเพลินนี้ และผูกพยาบาทเขา..บาปที่เขาทำจะมีผลรุนเเรงและจะมีโอกาสส่งผลจนอาจจะทันได้เห็นแม้ในอัตภาพนี้ทีเดียว

สำหรับเรื่องหนี้สิน หากไม่เหลือบ่ากว่าแรงแล้วก็พึงชำระคืนเจ้าหนี้ด้วยตนเองดีที่สุด เพราะชายชั่วที่สามารถพูดโกหกได้นั้น ใครจะพึงหวังประโยชน์อะไรๆจากเขาได้ หากคิดจะจัดการเขาด้วยกฏหมายทางโลกก็ต้องพิจารณาถึงการผูกพันเกี่ยวข้องทางกรรมที่จะมีเนื่องกันต่อไปอีก จึงควรไตร่ตรองให้รอบคอบ

บางทีการยุติด้วยการยอมรับอย่างสันติวิธีอาจดีกว่าคิดเอาคืน เพราะไม่แน่ว่า การเอาคืนจะเป็นโอกาสให้"เสีย"ไปมากกว่าที่ควรจะเป็นเข้าทำนอง"ผีซ้ำด้ามพลอย"หรือไม่..

เมื่อเห็นว่าชายไร้ศีลคนนี้ไม่อาจรับผิดชอบใช้หนี้คืนได้ ประโยชน์อันใดที่เราจะยังติดต่อเขาอีก?? พึงยุติการติดต่อทั้งปวง เพราะการติดต่อแต่ละครั้งย่อมเป็นไปเพื่อความผิดหวัง ตามมาด้วยโทสะอันเป็นบาปใหม่ควรหรือที่เราจะปล่อยใจไปเป็นอกุศลเพื่อทุกข์โทษแก่ตน ..เราควรรีบเปลี่ยนเบอร์โทรเสียเองจึงควร เพราะพาลชนคนชั่วนั้น ย่อมมีเล่ห์กลสารพัดสุดคาดเดาได้..ใครจะคาดคะเนได้ว่าเขาจะไม่ตามมารังควานด้วยวิธีการอันใครๆคิดไม่ถึงได้ในภายหน้า การติดต่อกับเขาจึงเหมือนเปิดประตูไว้คอยรับโจรนั่นเอง อันตรายครับ.. :b49: :b50: :b49:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.พ. 2010, 08:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2010, 15:54
โพสต์: 10

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตอนนี้ยอมรับค่ะ ว่าเริ่มวางได้เยอะแล้ว ช่วงนี้กลับไปอยู่บ้านแม่ค่ะ
แม่เป็นเสมือนพยาบาลค่ะ ลูกบาดเจ็บมาก็ทำการเยียวยาและรักษา
คุณแม่จับนั่งสมาธิค่ะ นั่งสมาธิกับคุณแม่ทุกวันเลย วันละ 2 ชั่วโมง
ถึงได้ปล่อยวางได้เยอะ
สำหรับเขา ถ้าเขาไม่ชดใช้หนี้ให้ ก็คงไม่ได้ดำเนินการ ตามกฎหมายใดๆ
ใช้วิธียอมรับแต่ไม่ได้ยอมแพ้นะ (ไม่ยอมแพ้กรรมค่ะ จะทำแต่กรรมดีเยอะๆ เลย)
แค่ไม่อยากไปทำอะไรเพิ่ม เพราะกลัวว่าจะเป็นการเพิ่มเวรกรรมอะไรกันอีก
อโหสิกรรมให้ แล้วให้มันจบๆ กันไปซะ
ตอนนี้ญาติทางฝ่ายชายทราบเรื่องแล้วค่ะ
พ่อของเขาโทรมาหาดิฉัน แล้วก็ขอโทษแทนลูกชายเขา
และบอกว่าเขาไม่เคยสอนให้ลูกชายเขามาทำตัวหลอกลวงผู้หญิงเลย
แต่เขาก็ไม่ได้พูดถึงนะคะ ว่าเขาจะชดใช้หนี้ให้หรือเปล่าหากลูกชายเขาไม่ยอมจ่าย
ได้แต่บอกว่า ถ้ามีอะไรก็ให้โทรหาพ่อได้
(ลืมบอกไป ว่าพ่อของเขาก็เป็นรั้วของชาติเหมือนกัน)
ดิฉันก็ได้แต่รับฟังค่ะ แต่ก็รู้สึกดี ที่พ่อเขาก็ไม่ได้ดูดายกับปัญหาที่เกิดขึ้น
ซึ่งถ้าเป็นคนอื่นคงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องโทรหาดิฉันก็ได้

ดิฉันมีเรื่องอยากจะสอบถามกัลยาณมิตรค่ะ
การที่ดิฉันไม่ทราบมาก่อน ว่าเขามีแฟนอยู่แล้ว และดิฉันได้ไปคบหากับเขา
ถือว่าดิฉันผิดศีลข้อ 3 หรือศีลข้อ 3 ด่างพร้อยหรือไม่คะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.พ. 2010, 12:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ย. 2009, 17:20
โพสต์: 532

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สั้นๆคำว่า อโหสิ กับ แล้วๆไป ทุกเรื่องที่เกี่ยวข้อง ไม่เอ๊ะไม่อ๊ะ ไม่นั้นไม่นี้ แล้วจะสั้น หมดสั้น หมดเป็นปัญหากับทุกเรื่อง ไม่ติด ไม่ขัด ไม่ข้อง ไม่คา ในส่วนหนึ่งส่วนใด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.พ. 2010, 22:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ตอนนี้ยอมรับค่ะ ว่าเริ่มวางได้เยอะแล้ว ช่วงนี้กลับไปอยู่บ้านแม่ค่ะ
แม่เป็นเสมือนพยาบาลค่ะ ลูกบาดเจ็บมาก็ทำการเยียวยาและรักษา
คุณแม่จับนั่งสมาธิค่ะ นั่งสมาธิกับคุณแม่ทุกวันเลย วันละ 2 ชั่วโมง
ถึงได้ปล่อยวางได้เยอะ


ขออนุโมทนาที่คุณมีคุณแม่ที่มีใจฝักใฝ่ในธรรมอันหาได้ยากนักในปัจจุบัน นับว่าเป็นบุญของคุณยิ่งนัก..สิ่งใดจะประเสริฐเลิศเท่าการมีพ่อแม่เช่นนี้คงไม่มีอีกแล้ว และเพราะท่านมีธรรมะจึงสามารถสงเคราะห์ช่วยลูกได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยธรรมะโอสถ ที่จะปัดเป่าทุกข์ของลูกได้ไม่เพียงในปัจจุบันชาติเท่านั้น..แต่ยังเป็นการสะสมบารมีและอุปนิสัยปัจจัยอันเกษมของลูกเพื่อให้ได้พบธรรมะอีกหลายภพชาติ นับว่าเป็นความ"พิเศษ"จริงๆ ...คุณมีบุญมากครับ...

อ้างคำพูด:
ตอนนี้ญาติทางฝ่ายชายทราบเรื่องแล้วค่ะ
พ่อของเขาโทรมาหาดิฉัน แล้วก็ขอโทษแทนลูกชายเขา
และบอกว่าเขาไม่เคยสอนให้ลูกชายเขามาทำตัวหลอกลวงผู้หญิงเลย
แต่เขาก็ไม่ได้พูดถึงนะคะ ว่าเขาจะชดใช้หนี้ให้หรือเปล่าหากลูกชายเขาไม่ยอมจ่าย
ได้แต่บอกว่า ถ้ามีอะไรก็ให้โทรหาพ่อได้
(ลืมบอกไป ว่าพ่อของเขาก็เป็นรั้วของชาติเหมือนกัน)
ดิฉันก็ได้แต่รับฟังค่ะ แต่ก็รู้สึกดี ที่พ่อเขาก็ไม่ได้ดูดายกับปัญหาที่เกิดขึ้น
ซึ่งถ้าเป็นคนอื่นคงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องโทรหาดิฉันก็ได้


แม้จะเป็นพ่อลูกกันก็มิได้หมายความว่าต้องมีนิสัยเหมือนกัน...ในบางครั้งพ่อแม่เลวลูกดีก็มี หรือกลับกันก็มาก..เมื่อพ่อเขาโทรมาขอโทษก็แสดงถึงความเป็น"ผู้ใหญ่"ที่มีสำนึกในทางจริยธรรมอยู่ แม้ตนเองมิได้ก่อเหตุ..แต่เลือดเนื้อเชื้อไขประพฤติสิ่งที่โลกติเตียนก็เกิดความละอายชั่วขึ้นมา ..

.. แต่ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าท่านไม่ทราบหรือว่าลูกชายมีคนรักแน่นอนอยู่แล้ว? หากทราบ ทำไมจึงไม่เตือนลูกหรือบอกคุณ?..แต่เอาเถิด เรื่องผ่านไปแล้วไม่มีประโยชน์จะคิดถึงอีก..ขอให้เพิ่มความระวังในการเกี่ยวข้องกับทั้งพ่อและลูก..เพราะเขาทราบกันแล้วว่า"คุณมีเงิน" เรื่องเช่นนี้ยากที่จะคาดเดาได้ว่า ใครจะคิดและทำอะไรต่อไป..ไม่แนะนำให้ติดต่อฝ่ายชายหรือญาติใดๆของเขา แต่ให้"ปิดบัญชี"คนกลุ่มนี้ไปแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ดีกว่าครับ..

อ้างคำพูด:
ดิฉันมีเรื่องอยากจะสอบถามกัลยาณมิตรค่ะ
การที่ดิฉันไม่ทราบมาก่อน ว่าเขามีแฟนอยู่แล้ว และดิฉันได้ไปคบหากับเขา
ถือว่าดิฉันผิดศีลข้อ 3 หรือศีลข้อ 3 ด่างพร้อยหรือไม่คะ


คุณไม่ได้ล่วงศีลข้อ๓แต่ประการใด ฝ่ายชายนั้นล่วงทั้งศีลข้อ ๒ ,๓และ๔
ควรเจริญ"กรุณา"แก่เขาว่า"ขอเขาอย่าได้ไปนรกเลย ขอให้พ้นจากเวรกรรมชั่วที่ก่อไว้ อย่าถูกใครหลอกเลย"ดังนี้ เป็นการทำกุศลแก่ตนโดยการปรารภพฤติกรรมชั่วของคนอื่น..นี่เป็นวิธี"ได้บุญ"แบบง่ายๆ แต่ทำได้ยากหากใจมีโทสะกั้นไว้ ลองทำดูครับ ทำบ่อยๆ ในที่สุดเกิดใจกรุณาขึ้นได้จนชำนาญ มีประโยชน์สำหรับรักษาใจให้ออกจากโทสะได้ครับ.

.อย่าลืมยุติความเดือดร้อนใจให้เร็วที่สุดครับ เราเริ่มต้นใหม่ได้เสมอครับ :b4: :b46: :b47: :b48: :b41:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.พ. 2010, 08:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2010, 15:54
โพสต์: 10

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


.. แต่ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าท่านไม่ทราบหรือว่าลูกชายมีคนรักแน่นอนอยู่แล้ว? หากทราบ ทำไมจึงไม่เตือนลูกหรือบอกคุณ?

คุณพ่อของฝ่ายชายท่านไม่ทราบเรื่องของดิฉันเลยค่ะ ว่าลูกชายท่านคบดิฉันอยู่อีกคน
คนที่ทราบเรื่องนี้มีแค่แม่และน้องสาวของเขา โดยเขาบอกกับแม่และน้องสาวเขาว่า
ดิฉันเป็นแฟนอีกคนหนึ่ง เป็นคนนิสัยดี ซึ่งเขาก็รักเหมือนกัน (อันนี้น้องสาวเขาเล่าให้ฟังทีหลัง)
แต่น้องสาวและแม่เขาไม่ทราบค่ะ ว่าเขามาหลอกให้ดิฉันซื้อของให้ เขาทั้งสองเพิ่งมารู้ทีหลัง
และที่คุณพ่อของฝ่ายชายท่านมาทราบเรื่อง ก็เนื่องจากน้องสาวเขาโทรไปบอกคุณพ่อค่ะ
ไปเล่าให้ฟังหมดเลย ว่าที่ผ่านมาพี่ชายทำอะไรกับดิฉันไว้บ้าง
ท่านถึงได้นิ่งเฉยไม่ได้ เลยต้องโทรมาหาดิฉัน
ซึ่งจากการได้พูดคุย และพอจะทราบข้อมูลเกี่ยวกับตัวท่านจากลูกชายและลูกสาวของท่านก่อนแล้ว
ก็ทราบว่าท่านเป็นผู้หนึ่งที่ปฏิบัติธรรมอยู่ตลอด
และยังสอนดิฉันหลายเรื่องเกี่ยวกับธรรมะและกฎแห่งกรรม
ตอนนี้ดิฉันกลับมาอยู่คอนโดแล้วค่ะ แต่ก็ยังคงนั่งสมาธิและสวดมนต์ทุกวัน ตามที่คุณแม่สอน
และอาทิตย์ที่จะถึงนี้ คงจะไปปฏิบัติธรรมค่ะ
ในเรื่องของจิตใจทุกอย่างดีขึ้นตามลำดับค่ะ แต่ยังมีอดคิดแว่บ ๆ กับน้ำตาคลอ ๆ ไม่ได้
ได้ธรรมะเป็นทางเยียวยาจิตใจค่ะ

ขอบคุณทุกท่านนะคะ ที่ให้คำแนะนำ เพราะที่ผ่านมาดิฉันกังวลใจมาก
ว่าเรื่องของดิฉัน ที่ไปคบกับผู้ชายที่มีแฟนอยู่แล้ว (โดยที่ดิฉันไม่รู้)
จะเป็นการทำผิดศีลข้อ 3 หรือไม่ แต่ตอนนี้ก็คลายความกังวลในข้อนี้ได้แล้ว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.พ. 2010, 09:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ขอให้เจริญในธรรมนะค่ะ :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มี.ค. 2010, 13:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2010, 15:54
โพสต์: 10

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีค่ะทุกท่าน

หลบไปปฏิบัติธรรม สวดมนต์ และทำใจยอมรับกับปัญหาที่เกิดขึ้น
จนวันนี้ ทุกอย่างค่อยๆ คลี่คลาย แต่ก็ยังมีเรื่องราวเกิดขึ้น
จนต้องมาเล่าให้กัลยาณมิตรทั้งหลาย ช่วยคลี่คลายปัญหาค่ะ

เป็นเรื่องของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ที่บังเอิญรู้จักใน msn
และบังเอิญน้องคนนี้ มีจำเลยคนเดียวกับดิฉัน
น้องคนนี้ อายุแค่ 20 ปี ยังเรียนหนังสืออยู่
และคบกับแฟนคนที่ดิฉันเจอทาง msn มาก่อนดิฉัน มากว่า 2 ปี

ซึ่งฝ่ายชาย มีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่ทางกรุงเทพฯ แล้วคบกันมากว่า 8 ปี
แต่ในระยะเวลาที่มาปฏิบัติราชการอยู่ต่างจังหวัด ก็มาคบกับน้องเขาประมาณ 2 ปี
ในระหว่างที่คบกับน้องเขา ก็เหมือนกับที่ดิฉันโดนแหละค่ะ
คือน้องเขาโดนขอยืมเงิน และก็โดนออดอ้อนให้ซื้อของแพงๆ ให้
ซึ่งจำนวนเงินรวมที่น้องคนนี้ โดนหลอกเอาเงินไป ในระยะเวลา 2 ปี
โดนเยอะกว่าดิฉันมากมาย และที่สำคัญพอผู้ชายคนนี้ พอมาพบดิฉันทาง msn
ก็ได้ไปทำการบอกเลิกคบกับน้องเขาแบบไม่มีปี่ ไม่มีขลุ่ย เพื่อจะมาคบกับดิฉัน
แต่ได้ให้เหตุผลกับน้องเขาไปว่า มีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้วที่กรุงเทพฯ
และรู้สึกผิดกับแฟนที่คบอยู่ จะกลับตัวกลับใจ ทำตัวซื่อสัตย์กับแฟน
เด็กผู้หญิงคนนึงที่ยังอ่อนต่อโลก รับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น
จนต้องลาออกจากมหาวิทยาลัย พักการเรียนและกลับไปอยู่ที่บ้าน
ระหว่างนั้น เธอก็โทรตามง้องอน ฝ่ายชาย เฝ้าถามเขาว่าเธอทำผิดอะไร
ถึงได้มาหลอกเธอ ให้เสียทั้งเงิน เสียทั้งตัวให้ และเขาก็เป็นชายคนแรกในชีวิตของเธอด้วย
สิ่งที่ได้รับคำตอบกลับมา คือความเฉยเมย เฉยชา ไม่พูดจาอะไร ไม่รับโทรศัพท์เธออีก
ด้วยความที่อ่อนต่อโลก อ่อนต่อประสบการณ์ เธอตัดสินใจกินยาฆ่าตัวตาย 30 เม็ด
แต่มีคนส่งเธอไปล้างท้องที่ รพ.ทัน เขามาเยี่ยมเธอด้วยสายตาเย็นชาและสีหน้าเฉยเมย
และถามเธอว่า "อยากตายมากนักเหรอ"
ตอนนี้น้องคนนี้ รอดจากความตายค่ะ แต่เสียการเรียน และพักฟื้นฟูจิตใจอยู่ที่บ้านเกิด
สิ่งที่ดิฉันทำได้คือ ให้กำลังใจ ให้เธอกลับไปเริ่มต้นเรียนอีกครั้ง
และไม่ทำอะไรโง่ ๆ ฆ่าตัวตายอีก พยายามโน้มน้าวให้เธอสวดมนต์และปฏิบัติธรรม
ให้เธออโหสิกรรมให้แก่เขา ผู้ชายใจร้ายและเห็นแก่ตัว

ดิฉันอยากให้เพื่อนกัลยาณมิตร ช่วยแนะนำดิฉันเพิ่มเติมค่ะ
ว่าดิฉันพอจะช่วยเหลือและแนะนำน้องเขาเพิ่มเติมอะไรได้บ้างคะ
ในกรณีนี้ ดิฉันก็บอกไม่ถูกว่าทำไมถึงได้รู้สึกหดหู่และทุกข์ใจไปกับสิ่งที่น้องเขาเจอค่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มี.ค. 2010, 14:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มิ.ย. 2008, 22:40
โพสต์: 1769

แนวปฏิบัติ: กินแล้วนอนพักผ่อนกายา
งานอดิเรก: ปลุกคน
สิ่งที่ชื่นชอบ: Tripitaka
ชื่อเล่น: สมสีสี
อายุ: 0
ที่อยู่: overseas

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ดิฉันอยากให้เพื่อนกัลยาณมิตร ช่วยแนะนำดิฉันเพิ่มเติมค่ะ
ว่าดิฉันพอจะช่วยเหลือและแนะนำน้องเขาเพิ่มเติมอะไรได้บ้างคะ
ในกรณีนี้ ดิฉันก็บอกไม่ถูกว่าทำไมถึงได้รู้สึกหดหู่และทุกข์ใจไปกับสิ่งที่น้องเขาเจอค่ะ


ก่อนอื่นขออนุโมทนาคุณ namkaในการเพียรเจริญกุศลและมีจิตกรุณาคิดสงเคราะห์ผู้ที่ตกอยู่ในทุกข์นะครับ.. :b8:

เรื่องการพูดคุยทาง Internet นี้ ต้องขอย้ำว่าเป็นช่องทางให้ได้พบพาลชนง่ายมากทีเดียว จึงต้องระมัดระวังกันให้มาก ..

เรื่องช่วยเด็กนั้น คงไม่ง่ายนักเพราะหากเขาไม่มีบุญพอ การจะช่วยอย่างไรก็คงไม่มีผล คุณจึงต้องวางใจไว้เป็นเรื่องแรกว่า เขาก็มีกรรมเป็นของตน หากเราช่วยแล้วเขาไม่ฟังและยังทุกข์อยู่เราจะไม่เสียใจหรือผิดหวัง..เพราะใครๆจะป้องกันใครๆให้พ้นอำนาจกรรมได้ย่อมไม่มี..แม้ความเศร้าใจที่เห็นเขาทุกข์เช่นนี้ก็เป็นการทำบาปทางใจของเราเอง หากเราไม่ละคลายความทุกข์ใจนี้ของตนก่อน เราจะช่วยใครอื่นได้ละหรือ...

เมื่อเราวางใจให้เป็นกลางไม่หวั่นไหวแล้ว ก็สามารถแนะนำเด็กนั้นต่อไปด้วยการแนะสิ่งเป็นประโยชน์ให้เช่นการให้เขาหาที่พึ่งอันเกษมคือพระรัตนตรัย การเจริญทาน ประพฤติศีลและเจริญภาวนาปฏิบัติธรรมหาหนังสือธรรมะให้เขาอ่านเช่นความรักหลากสีของคุณดังตฤณ หรือprintข้อความธรรมะที่เห็นว่าน่าประทับใจจาก web นี้หรือที่อื่นส่งให้เขาอ่าน เพื่อเพิ่มขวัญและกำลังใจแก่เขา หากอยู่ใกล้ก็อาขชักชวนไปฟังธรรมตามกาล เข้าปฏิกรรมฐานตามควรเป็นต้น ..

ขออย่าได้คาดหวังอะไรๆว่าเขาจะหายทุกข์หรือทำตามที่เราแนะนำ ปล่อยวางว่าเราทำดีที่สุดเพื่อเกื้อกูลเขาแล้ว หากเขามีบุญเก่ามาดี ย่อมสามารถต่อยอดบุญบารมีของตนเองสืบไป..

อนุโมทนาครับ.. :b46: :b47: :b48: :b41:

.....................................................
ศีล ๕ รักษาตนไม่ให้เกิดในอบายภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มี.ค. 2010, 14:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2009, 23:20
โพสต์: 70

ชื่อเล่น: pmam
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แล้วเรื่องร้ายก็ผ่านไป..เป็นกำลังใจให้นะ :b4: ต้องยอมรับแล้วชดใช้(หนี้บัตร)กันไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2010, 22:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 13:22
โพสต์: 146

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b48: เป็นกำลังใจให้นะค่ะ
:b49: สู้สู้
:b47: สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมค่ะ

.....................................................
ทำไมต้องปล่อยว่าง
เพราะทุกอย่างมี ความว่าง มาแต่เดิม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มี.ค. 2010, 10:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มี.ค. 2010, 11:42
โพสต์: 4

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็เรียกร้องอะไรกลับคืนมาไม่ได้
ตอนี้ก็อยากให้คุณรักตัวเองมาก ๆ ยังไงก็ยังมีพ่อ แม่
ที่รักเราจริง ขอเป็นกลังในให้นะคะ สู้ ๆๆๆๆ :b4: :b4:
ฉันเชื่อว่าเวลาจะช่วยให้เราคลายทุกข์จากหนักเป็นเบาไปเองค่ะ :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มี.ค. 2010, 11:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2010, 15:54
โพสต์: 10

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณทุกท่านมากค่ะ

ตอนนี้ทุกวันหยุดเสาร์-อาทิตย์มุ่งหน้าไปแต่วัดค่ะ ไปปฏิบัติธรรมแบบอาทิตย์เว้นอาทิตย์เลย
อาทิตย์ไหนไม่ไปปฏิบัติธรรม ก็ไปหาพระในบ้านค่ะ ก็กลับไปอ้อนคุณแม่ ไปดูแลท่าน
เมื่อก่อนเคยคิดว่า แค่สวดมนต์ ทำบุญ ก็น่าจะพอแล้วมั้ง กับชีวิตคนทำงาน
จนกระทั่งต้องมาเจอทุกข์กับตัวเอง ถึงได้รู้ว่าอืม ยังไม่พอนะ เราต้องเจริญสติด้วยนะ
เพราะพอเจอปัญหาเข้าจริง กลับตั้งหลักรับกับปัญหาไม่ได้เลย
แต่ตอนนี้ ตั้งแต่ปฏิบัติธรรม ใจนิ่งได้มาก ๆ

ก็มีเรื่องของตัวเองมาบอกกล่าวเพิ่มเติมนะคะ

ตอนนี้ ทางพ่อแม่ของฝ่ายชาย แจ้งดิฉันมาว่า ยินดีจะคืนเงินดิฉันเป็นเงินก้อนให้แล้วค่ะ
แล้วให้ลูกชายเขา ไปผ่อนเอากับเขาเอง
ท่านคงสงสารดิฉันมั้งคะ หรือไม่ก็อาจจะเป็นเพราะผลบุญหรือเปล่าก็ไม่ทราบ
ตอนนี้ท่านก็ขอเลขที่บัญชีไปแล้ว ก็รอแต่ว่าท่านจะโทรมาแจ้งว่าโอนเงินให้หรือยัง
ก็ดีค่ะ อย่างน้อยก็จากกันด้วยดี คงไม่มีอะไรที่ต้องมาค้างคาใจกัน หรือต้องติดต่อกันอีก


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 40 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร