วันเวลาปัจจุบัน 22 ก.ค. 2025, 05:50  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 285 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 11, 12, 13, 14, 15, 16, 17 ... 19  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ม.ค. 2010, 21:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




untitled0.2.bmp
untitled0.2.bmp [ 119.18 KiB | เปิดดู 3867 ครั้ง ]
เราเป็นแค่เศษดวงดาว บนท้องฟ้าอันไกลกว้าง
แค่เศษดวงดาว ที่ไม่มีแสงในตัวเอง
ยามใดที่ได้ฟังเพลง ความหมายลึกทิ่มแทงใจ
น้ำตาก็พาลจะไหล ใจหลงทาง
แทบจะรับไม่ไหว ใครที่เป็นอย่างฉัน
คงรู้...ดีไม่มีคำบรรยาย หากเลือกได้อีกสักครั้ง
ฉันขอวอน อย่าให้ต้องเป็นอย่างนี้
คนไม่มีบ้าน อยากมีใครช่วยส่องแสง
ชี้นำทาง ให้เศษดาวไม่เคว้งคว้าง
ลอยหลงทางไป ช่วยฉันทีได้ไหม
เป็นแสงในใจให้ฉัน

เดียวดายอยู่ในลมฝน
พายุพัดซัดกระหน่ำ พัดคนอย่างเธอกับฉัน
มาพบกัน เธอปวดร้าวใช่ไหม
คงไม่ต่างกับฉัน เศษดาว..เหมือนกัน
ที่แสงตะวันหลงลืม หากเลือกได้อีกสักครั้ง
ฉันขอวอน อย่าให้ต้องเป็นอย่างนี้
คนไม่มีบ้าน อยากมีใครช่วยส่องแสง
ชี้นำทาง ให้เศษดาวไม่เคว้งคว้าง
ลอยหลงทางไป ช่วยฉันทีได้ไหม
เป็นแสงในใจให้ฉัน หากเลือกได้อีกสักครั้ง
ฉันขอวอน อย่าให้ต้องเป็นอย่างนี้
คนไม่มีบ้าน อยากมีใครช่วยส่องแสง
ชี้นำทาง ให้เศษดาวไม่เคว้งคว้าง
ลอยหลงทางไป ช่วยฉันทีได้ไหม
เป็นแสงในใจให้ฉัน ช่วยฉันทีได้ไหม
เป็นแสงในใจให้กัน


http://solno07.exteen.com/20091220/entry




ใครที่กำลังเผชิญกับความรู้สึกตรงนี้อยู่ ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้
ขอให้อดทนเจริญสติให้ต่อเนื่อง แล้วคุณจะพบทางสว่าง

การเจริญสติ จะช่วยรักษาโรคทางใจได้ทุกโรค
เมื่อรักษาตั้นเหตุแห่งโรคได้ คือ ใจ
ผลที่ได้รับอย่างแน่นอนคือ สุขภาพทั้งใจและกายเรานั้นดีขึ้นอย่างทันตาเห็น

การเจริญสติ ไม่ต้องใช้เงินทองเลยแม้แต่สตางค์แดงเดียว
สิ่งที่ต้องใช้คือ กำลังกาย และกำลังใจอันเด็ดเดี่ยว
กระทำความเพียรอย่างต่อเนื่อง ไม่ท้อถอย ไม่ว่าจะพบเจอกับอะไรก็ตาม

ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ในชีวิตของเรา
นั่นคือ เหตุที่เราเคยกระทำไว้ในอดีตทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม
แม้นจะระลึกได้หรือระลึกไม่ได้เลยก็ตาม สิ่งที่เราได้กระทำทั้งหมด เราต้องรับผล

เพราะความไม่รู้ เราจึงก่อเหตุใหม่ที่เป็นทั้งกุศลกรรมและอกุศลกรรมขึ้นไปเรื่อยๆ
นั่นคือ เราได้ก่อภพก่อชาติใหม่ ขึ้นไปเรื่อยๆ

เราจึงต้องมาเจริญสติเพราะเหตุนี้ เพื่อมีสติ เมื่อมีสติที่แข็งแรงขึ้น สัมปชัญญะหรือตัวรู้
หรือปัญญา หรือตามแต่บัญญัติที่เราจะให้ค่าให้ความหมายกัน
แต่ที่แน่ๆคือ มันคือ ความรู้สึกตัว ขณะที่เรากำลังลงมือกระทำสิ่งๆนั้น
ไม่ใช่ลงมือทำแบบเลื่อนลอย ทำแบบสักแต่ว่าทำ
ถูกหรือผิด แยกแยะไม่ได้ กุศลหรืออกุศลแยกแยะไม่ถูก
เหตุมี ผลย่อมมี หนีไม่พ้นหรอก

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ก.พ. 2010, 23:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




untitled....bmp
untitled....bmp [ 17.77 KiB | เปิดดู 3742 ครั้ง ]
เหนื่อยนักน้องจงหยุดพักไว้ก่อน
อ่อนล้าจะมามัวฝืนไปทำไม
รุ่งพรุ่งนี้เริ่มต้นใหม่ดีเสียกว่า
เหนื่อยอ่อนหมดอารมณ์

เมื่อวานพ้นไปก็เป็นอดีต
พรุ่งนี้ฝันดีอย่าตรม
แต่วันนี้อ่อนแรงเพราะใจล้มนอนหลับ
รุ่งพรุ่งนี้น้องยังมีทาง

ตื่นนอนตั้งใจให้ดี สู้อีกทีฟ้ายังรุ่งสาง
แม้น้องใจหม่น
อดทนเอาเสียอย่าง
ไม่นานจะเจอทางเหมือนโรยกลีบดอกไม้

ชีวิตมืดมิดตลอดอยู่อย่างนั้นเสียเมื่อไหร่
เหนื่อยคราใดพักใจเอาแรง

เมื่อวานพ้นไปก็เป็นอดีต
พรุ่งนี้ฝันดีอย่าตรม
แต่วันนี้อ่อนแรงเพราะใจล้มนอนหลับ
รุ่งพรุ่งนี้น้องยังมีทาง
ไม่ใช่ล้มเพราะนอนเอาแรง.

http://solno07.exteen.com/20100112/entry-1

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.พ. 2010, 18:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




5.bmp
5.bmp [ 480.52 KiB | เปิดดู 3732 ครั้ง ]
ฝากดอกไม้นานาพันธุ์ ฝากความฝันอันสูงค่า
ฝากรอยยิ้มและน้ำตา ที่หลั่งมาจากหัวใจ
ฝากสายรุ้งที่แพรวพราว ฝากแสงดาวที่แสนไกล
เป็นบทเพลงอ่อนหวาน เป็นสายธารอ่อนไหว
ฝากรักหวานละไม มอบให้เธอ

ให้เธอก้าวไป อย่าไหวหวั่น
จุดหมายร่วมกัน เราฝันใฝ่
ให้โลกนี้งดงาม ด้วยความสุขสดใส
มีรอยยิ้มความเข้าใจ ให้ทุกคน
ปลูกความฝันอันยิ่งใหญ่ แด่ดวงใจทุกดวง
จุดไฟรักให้โชติช่วง ดับไฟลวงเล่ห์มายา
โลกสวยด้วยน้ำใจ เป็นรักใหม่เราขึ้นมา
คืนนี้ถ้าเธอหนาว ร่วมผิงดาวบนฟ้า
จากรัก...จากศรัทธา ของเรา

http://solno07.exteen.com/20081026/entry-17

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 00:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




1.jpg
1.jpg [ 162.96 KiB | เปิดดู 3717 ครั้ง ]
คนที่เป็นผู้ชายที่ธรรมดา
คนที่เคยอุ้มเรา ขี่คอขึ้นบนบ่า
คนที่ทำให้เรา ไม่เคยรอช้า
คอยเช็ดน้ำตา เมื่อเวลาเราล้ม

คนที่เห็นเราเด็ก ตลอดเวลา
คนที่ชอบเป็นห่วง แต่ไม่ค่อยโทรมา
คนที่ไม่เคยบอก บอกว่ารักนะ
แต่รู้กันอยู่ รู้กันอยู่ ว่ารักเรามากเท่าไหร่

จะบอกรักเท่าไหร่ สักพันหมื่นครั้งยังไม่พอ
เท่าความซึ้งใจ ที่มันเต็มร้นใจ
ในโลกมี แค่หนึ่ง ให้คนคนนี้ที่หนึ่ง
ผู้ชายคนนี้ ที่รักเราเกินใคร
(ผู้ชายคนนี้ คนที่เรียกว่าพ่อเรา)

คนที่ทำให้เรา ต่างๆนาๆ
คนที่พร้อมจะแบกภาระ ไว้บนบ่า
คนที่ทำแต่งานจนกลับบ้านช้า
แต่รู้กันอยู่ รู้กันอยู่ ว่าเขานั้นทำเพื่อใคร

http://radio.sanook.com/music/player/ /

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.พ. 2010, 20:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




BABBU_wallpaper_004.jpg
BABBU_wallpaper_004.jpg [ 95.69 KiB | เปิดดู 3722 ครั้ง ]
ฉันเคย อยากลองเป็นพระจันทร์
chan koie yaak long bpen pra-jan
I once wanted to try being the moon

ลอยขึ้นฟ้าสักวัน ได้งั้นคงดี
loi keun faa sak wan dai ngan kong dee
To float up in the sky one day, to be able to do that would be nice

พบเธอ จึงเข้าใจได้ทันที
pop ter jeung kao jai dai tan tee
Finding you, I was able to understand immediately

บนท้องฟ้ามีแต่ฟ้า ไม่มีของดี
bon tong faa mee dtae faa mai mee kong dee
Up in the sky there’s only the sky, there’s no good things

อยู่บนนั้นมีแค่ดาวกับฟ้า
yoo bon nan mee kae daao gap faa
Up there there’s only the stars and the sky

อยู่ตรงนี้ อาจจะดีมากกว่า
yoo dtrong nee aat ja dee maak gwaa
To be right here might be better

ได้ใกล้เธอ ยามผู้คนนิทรา
dai glai ter yaam poo kon nit-traa
I can be near you, during the time people sleep

ถามจันทร์ ข้างบนดีหรือเปล่า
taam jan kaang bon dee reu bplao
I’ll ask the moon, is it nice up there?

มีแค่ฟ้ากับดาว เคยเหงาบ้างไหม
mee kae faa gap daao koie ngao baang mai
To have only the sky and the stars, do you ever get lonely?

ฉันเอง ก็เคยเหงาไม่มีใคร
chan ayng gor koie ngao mai mee krai
I was once lonely without anyone

แต่วันนี้มีที่รัก อยู่เคียงหัวใจ
dtae wan nee mee tee rak yoo kiang hua jai
But today I have a sweetheart near my heart

อยู่บนนั้นมีแค่ดาวกับฟ้า
yoo bon nan mee kae daao gap faa
Up there there’s only the stars and the sky

อยู่ตรงนี้ อาจจะดีมากกว่า
yoo dtrong nee aat ja dee maak gwaa
To be right here might be better

ได้ใกล้เธอ ได้อยู่ตรงนี้ เพียงฉันและเธอ
dai glai ter dai yoo dtrong nee piang chan lae ter
I can be near you, I can be right here, only you and me


http://truemusic.truelife.com/song/2009 ... 634893450/

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 ก.พ. 2010, 21:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




385172nu0kffzxkf.gif
385172nu0kffzxkf.gif [ 47.05 KiB | เปิดดู 3887 ครั้ง ]
รึง ๆ รัง ๆ มันขึ้น รึง ๆ รัง ๆ
รึง ๆ รัง ๆ มันขึ้น รึง ๆ รัง ๆ
มันขึ้นทั้งบนทั้งล่าง มันขึ้นหนา ๆ บาง ๆ
มันขึ้นสั้นบ้าง ยาวบ้าง
มันขึ้นทุกที่ทุกทาง

รุบริบ ดุ๊บดิ๊บ รุบริบ ดุ๊บดิ๊บ รุบริบ ดุ๊บดิ๊บ
รุบๆ รุบ ๆ ดิ๊บๆ ดิ๊บๆ
จั้งซี่ไม่ต้องถอน พันนี้มันต้องโกน พันนี้มันต้องโกน (หนวดนะพี่ อย่าคิดมาก)
คู้คี่ คู้คี่ โค๊ดเค็ด คู้คี่ คู้คี่ คู้คี่ โค๊ดเค็ด คู้คี่
เด็กๆ มันยังไม่มี ใหญ่ๆมันจึงจะมี แก่ๆแล้วจึงเปลี่ยนสี
จับๆ แล้วจั๊กกะจี้

ขนยาวมันคัน ขนสั้นมันแข็ง
บ้างก็ดำก็แดง แล้วเคลอะ ๆ คละ ๆ
ใครเที่ยวไปถอนแล้ว ไอ้ยาลังกะ
พันนี้มันต้องโกน พันนี้มันต้องโกน พันนี้มันต้องโกน
โกนแหละพี่น้องเหอมันถึงติเกลี้ยง เหอ
มันเต็มเสียเหม็ดมันเต็มรูหมูกรูปาก
มันเต็มเสียเหม็ดมันเต็มรูหมูกรูปาก
คันถอนให้เกลี้ยงมันยาก ถ้าโกนแล้วมันไม่ยาก
พันนี้มันต้องโกนสิวะ
ตึงๆๆๆๆ ถอนๆๆๆๆทำไมไม่โกน


http://solno07.exteen.com/20090714/entry-2


:b32:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.พ. 2010, 16:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




385172nu0kffzxkf.gif
385172nu0kffzxkf.gif [ 318.11 KiB | เปิดดู 3668 ครั้ง ]
กี่วันคืนจะผ่านไป กี่ฤดูจะผ่านมา
แม่ก็ยังเฝ้าคอยลูกกลับ
นับวันเวลาเจ้าโตแล้วไป
สร้างครอบครัวใหม่
ไม่หันมาสนใจแม่เลย
แม่ถนอมเลี้ยงลูกรัก
รักเกินรักยิ่งสิ่งใด
ไม่ให้ใครทำร้ายให้ลูกเจ็บ
แม่ทำงานหนักให้ลูกสบาย
เมื่อเจ้าโตใหญ่
เป็นคนดีมีค่าของสังคม

แม่ทั้งห่วงหวง คิดถึงดวงใจ
ลูกจ๋า แวะเวียนหาแม่บ้างซิ
แม่อยู่เหงาๆ เดี่ยวเดียวดาย
เฝ้าคอยคิดหวังว่า ลูกจะมา
แต่ไม่มีเลย หรือลืมแม่แล้วลูกจ๋า



ถึงอย่างนี้แม่ก็รัก แม่จะรอ รอ รอ
คงสักวัน ลูกอาจจะคิดถึงแม่
แม่เฝ้ามองดูอยู่ข้างเสมอ
ถ้ามีเวลากลับมาหาแม่สักที นะลูกจ๋า

http://solno07.exteen.com/20100219/bodyslam-2

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.พ. 2010, 22:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




899653auo0ce263x.gif
899653auo0ce263x.gif [ 172.49 KiB | เปิดดู 3653 ครั้ง ]
หากเราคิด อะไร ซักอย่าง
เพื่อเป็นทาง สู่ความ สำเร็จ หากเราคิด จะทำ ให้เสร็จ
อย่าพูดเท็จ กับตัว ของเรา

อย่าง น้อย เราควร ต้องดู
เพื่อจะรู้ ว่าดี หรือไม่
หากต้องทำ แล้วเบียดเบียน ใคร ไม่ทำ

เมื่อชีวิต คือการก้าว เดิน
เรื่องสรรเสริญ คือความยิ่ง ใหญ่
เมื่อชีวิต คือการก้าว ไป
ประดับไว้ ทำดีได้ ดี

ตอก ย้ำ ทำดี ได้ ดี
สิ่ง นี้ ที่เป็น ศักดิ์ ศรี รู้แล้ว ทำดี เข้าไป
ถึงไหน ก็ไม่ มีโง่ เกิดเป็นคน ทนโท่
ทำดี โอ้โฮ ได้ดี

หากปัญหา ยังมาสุม อยู่
เท่ากับรู้ ความดีนั้น ห่าง หากไม่คิด จะทำเสีย บ้าง
ไม่มีทาง ทำดีได้ ดี

ตอก ย้ำ ทำดี ได้ ดี
สิ่ง นี้ ที่เป็น ศักดิ์ ศรี รู้แล้ว ทำดี เข้าไป
ถึงไหน ก็ไม่ มีโง่ เกิดเป็นคน ทนโท่
ทำดี โอ้โฮ ได้ดี

เมื่อชีวิต คือการก้าว เดิน
เรื่องสรรเสริญ คือความยิ่ง ใหญ่
เมื่อชีวิต คือการก้าว ไป ประดับไว้ ทำดีได้ ดี
ทำ ดี ได้ ดี ทำ ดี ได้ ดี ทำ ดี ได้ ดี...

http://music.gmember.com/player/html_pl ... 8800037801

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ก.พ. 2010, 21:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




701397zbug7up9ij.gif
701397zbug7up9ij.gif [ 305.39 KiB | เปิดดู 3728 ครั้ง ]
เย็น....ฝนพรำพร่างพรูสู่พฤกษา
พรมไม้ป่า สดใสในวสันต์
หัวใจเรา ฉ่ำชื่นเช่นดังคืนวัน
ฝันและใฝ่โลกใหม่ต้องเป็นของเรา

ยามฝนหลั่ง เมฆบังบดทิวเขา
ยามเห็นเจ้า เปียกปอนตอนใกล้สาง
พบคนจริง ยิ่งยงคู่คงเส้นทาง
เห็นผู้สร้าง ความทรงจำ มิเลือนจากใจ

ยืนหยัดทะนง คู่คงเส้นทางยืดเยื้อ ยิ้ม...เพื่อความฝันใกล้บรรลุชัย
ยามเห็นหน้า ต้องตาสื่อความหมาย
จับมือทักทาย ส่งยิ้มกลางสายฝน
พบความจริง ยิ่งหมายมั่นในกมลหนทางสู้....สู่ชัยมิไกลจากเรา

http://solno07.exteen.com/20090228/entry-1





เราทุกรูปทุกนาม การกระทำทุกๆอย่าง ล้วนเกิดจากความไม่รู้ทั้งนั้นแหละค่ะ
หากเราสามารถรู้ถูก รู้ผิด ตามความเป็นจริง โดยไม่ใช่ ถูกหรือผิด ตามความคิดของเราได้
เราคงไม่ต้องมาทุกข์ทรมาณ มานั่งเสียใจกันแบบนี้

อดีต เราไม่สามารถกลับไปย้อนแก้ไขอะไรได้ ที่แก้ได้คือ ปัจจุบัน
การแก้ปัจจุบันคือ เป็นการแก้ที่ต้นเหตุ ต้นเหตุทั้งหมดคือใคร คือ ใจเรานั่นเอง
ตราบใด ที่เรายังมีคำว่า " ของเรา " นั่นคือ จะสร้างความทุกข์ใจไม่รู้จักจบสิ้น

เราควรฝึกใจเราใหม่ อย่าเข้าไปยึดติดกับสิ่งใดๆ เพราะถึงแม้ว่าจะไม่มีเรา
สิ่งต่างๆยังไงก็ไม่คงทน ย่อมเสื่อมสิ้นไปตามสังขาร ตามอายุขัยของสิ่งๆนั้น

กายนี้ก็สักแต่ว่ากาย มันประกอบด้วยธาตุ มีแต่ความสกปรก เราต้องคอยชำระล้างทุกเช้า เย็น
ยิ่งถ้าอยู่บ้าน อากาศร้อนๆ ชำระไม่รู้วันกี่รอบ

แล้ว ... ใจเราล่ะ เคยหวนกลับมาทบทวนดูมั่งไหม?
วันนี้เราได้ทำการขัดล้างทำความสะอาดใจดวงนี้ของเรากันมั่งแล้วหรือยัง?

เวลาความทุกข์เข้ามาเกาะกินใจเรา เคยพิจรณามั่งไหมว่า ใครทำให้เราทุกข์?
ทุกข์เพราะอะไร?

ไม่ได้มีใครทำให้เราทุกข์เลย เราทำตัวเราเอง ทุกข์เพราะคิด เพราะยึดติดจนเกิดอุปทาน
เราไปยึดติดกับสิ่งนอกตัว จนลืมคิดพึ่งพาตัวเอง พึ่งพาในสิ่งที่มีกันอยู่ทุกรูปทุกนาม

" สติ สัมปชัญญะ " สิ่งนี้คือ " คำตอบ " สำหรับทุกๆคน
ขอเราจงมี สติ สัมปชัญญะรู้อยู่กับใจเราให้ได้ทุกขณะ
ถ้ายังมีไม่ได้ ให้เราฝึกค่ะ " เจริญสติปัฏฐาน ๔ "

ใหม่ๆ แรกๆ อาจจะยังทำไม่ได้ เพราะไม่มีใครแนะนำ หรือ ไม่รู้จะไปถามใคร
ให้เริ่มต้นทำแบบง่ายๆ คือ รู้ในกายและใจของเรา รู้แบบปกติเหมือนเรารู้ทั่วๆไป

เริ่มต้นง่ายๆ สละเวลา เดินจงกรม 5 นาที แล้วต่อด้วย นั่งอีก 5 นาที
เวลาเดิน เดินแบบปกติที่เราเดิน แต่ให้เรารู้ที่เท้ากระทบพื้น
ความคิดจะเกิด ก็ช่างความคิด ให้กลับมารู้อยู่กับเท้าที่กำลังเดินอยู่
จับเวลาดูว่า 5 นาที เดินกี่ก้าว จำเอาไว้

หลังจากเดินแล้ว มานั่งต่อ จะนั่งที่ไหนๆก็ได้ ไม่จำเป็นต้องนั่งท่าขัดสมาธิ
จะนั่งเหยียดแข้ง เหยียดขา หลังพิงข้างขวา นั่งบนเก้าอี้ ฯลฯ
คือ ทำตามสะดวก ทำตามสบาย ตามที่แต่ละคนนั้นถนัด
ไม่ต้องไปบังคับตัวเอง เพราะถ้าเราไปกดดันตัวเอง จะพาลเบื่อหน่ายไม่อยากทำ

มือจะวางบนหน้าตัก หรือจะวางยังไงก็ได้ ตามสบาย
ถ้านั่งไม่ได้ อาจจะเพราะอะไรก็ชั่ง ก็นอนได้ตามสบาย

พอนั่งลงเรียบร้อยแล้ว ให้หลับตาลง
การที่ให้หลับตาลงนั้น เพื่อไม่ให้จิตไปซัดส่ายข้างนอก จิตจะได้รู้อยู่แต่ใน

สูดหายใจยาวๆลึกๆ 5 ครั้ง ปล่อยลมหายใจออกช้าๆ ไม่ต้องรีบ
แล้วหายใจปกติ แต่ให้หายใจยาว อย่าหายใจสั้น
คนหายใจสั้นจะเป็นคนขี้โมโห

รู้อยู่กับลมหายใจเข้าออก พอครบเวลา 5 นาที
อย่าเพิ่งลืมตา แบ่งผลบุญให้คนอื่นๆก่อน จะเดิน 5 นาที นั่ง 5 นาที นี่ถือว่าได้กุศลแล้วนะ
ให้หลับตา หายใจยาวๆ ตั้งใจแผ่เมตตา กรวดน้ำ เสร็จแล้วอธิษฐานจิต

ทำแบบนี้ ทำทุกๆวัน รับรอง ชีวิตดีขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ
จะสวดมนต์ก่อนหรือไม่สวดมนต์ก็ได้ ตามสะดวกค่ะ

ถ้ามีเวลามากพอ ก็ค่อยๆปรับเวลาเพิ่ม ทั้งการเดิน และนั่งได้ ตามแต่จะสะดวก
หรือจะทำแต่เพียงเท่านี้ก็ได้ค่ะ

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มี.ค. 2010, 22:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




5.bmp
5.bmp [ 270.58 KiB | เปิดดู 3592 ครั้ง ]
ขุนเขายะเยือกหวังเพียงผู้เดินทางผ่าน
ไป ให้ไกลสุดไกล
เพียงคนเดินผ่าน นั้นไปไม่มีวันสิ้น
กองเกวียนยังเคลื่อนไหล
ชีวิตมีวันสิ้น...คนไม่มีวันพอ

เฮ้ย!!เอ็งมาจากไหน หัวอกผาไหวเจ้าไปไหนมา
ข้าท่องไปในแดนไพร หนทางยาวไกลภูผาสูงชัน
เฮ้ย!!แล้วเอ็งไปทำไร กองเกวียนบ้านไพรผู้ใดเข็นขับ
มีเรื่องราวมากมายจะเล่า เอ็งจงฟังข้าก่อน
คนบนแผ่นผืนดินเดือดร้อน แนวภูผาลำธาร
หรีดเรไร...ร้องระงม

ลมพัดใบไม้ไหว ใจเจ้าอ่อนไหวลู่เล่นตามลม
ยุทธภพกว้างไกล กระบี่สั่นไหว ต้นไทรไหวโบก
ข้าน้อยผู้ยากไร้ มิเคยหวั่นไหว แม้จะหมองหม่น
มีเรื่องราวมากมายจะบอก เอ็งจงฟังข้าบ้าง
ยุคกระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย น้ำเต้าน้อยจะถอยจม
บ้านเมือง...ถอยหลังเข้าคลอง

มีน้ำในจอกให้คนผู้เดินทางผ่าน ใครต้องการเมามาย
มีรักยิ่งใหญ่ให้คนผู้เดินทางผ่าน ใครต้องการดื่มกิน
ตำนานเพลงแม่น้ำร้อยสาย
ขับลำนำเพลงเรือ

มากินเหล้ากันเหวย มาร้องเพลงเย้ยยั่วเย้าจันทรา
มาเชิญมาเถิดหนา มาร่ำสุราผสานเพลงกล่อม
อ่านกวีเย้ยจันทร์ ฝันให้ไกลที่สุด
ร่ำสุราเย้ยจน คนทุกข์นานทานทน

ขุนเขายะเยือกหวังเพียงผู้เดินทางผ่าน
ไปให้ไกลสุดไกล
เพียงคนเดินผ่านนั้นไปไม่มีวันสิ้น
กองเกวียนยังเคลื่อนไหล
ชีวิตมีวันสิ้น...คนไม่มีวันพอ
ชีวิตมีวันสิ้น...คนไม่มีวันพอ

http://solno07.exteen.com/20100304/entry-3





นี่คือ วิถีชีวิตของชาวบ้านที่เราสามารถพบได้เกือบจะทุกๆที่
การเจริญสติปัฏฐาน ๔ ก็เหมือนกับนักเดินทาง เพียงแต่ไม่ต้องเดินทางไปแห่งหนตำบลใดๆ
แต่เป็นการเดินทางอยู่ในกายและจิต ของตัวเรานี่เอง

ผู้ที่เจริญสติ จะมีเรื่องราวมากมาย ทุกๆการกระทบ คือ สภาวะของแต่ละคน
แต่ละคนจึงมีเรื่องแตกต่างกันไปตามเหตุที่แต่ละคนที่ได้กระทำกันมา และที่เคยสร้างเหตุกับคนอื่นๆมา

หนึ่งการกระทบ คือ หนึ่งการชดใช้ พร้อมๆกับหนึ่งของเหตุที่กำลังจะสร้างขึ้นใหม่
จิตเรานี้ไวมากๆ ไวยิ่งกว่าสิ่งใดๆในโลกนี้ เราจึงต้องมาเจริญสติกันเพราะเหตุนี้

เจริญสติ เพื่อจะได้มี ทั้ง สติ สัมปชัญญะ รู้เท่าทันทุกๆการกระทบที่เกิดขึ้น
ลำพังแค่ สติ แบบที่คนเราปกติทั่วๆไปมีอยู่กันนั้นยังไม่มีกำลังมากพอที่รู้เท่าทันจิตได้
เพราะขาดกำลังหนุนที่สำคัญคือ ตัวสัมปชัญญะ หรือ ความรู้สึกตัว ตัวนี้สำคัญมากๆ
ตัวสัมปชัญญะ หรืออีกนัยยะหนึ่ง เขาเรียกว่า ตัวปัญญา ก็แล้วแต่สมมุติที่เขาว่าไว้นะ
ถ้ากล่าวโดยสภาวะนั้น ตัวสัมปชัญญะ มีบทบาทสำคัญมากๆ

เช่น ในการเดิน ขณะที่เดินอยู่ หากเราไม่ได้มาเจริญสติ เราก็รู้นะ ระลึกได้ว่า กำลังเดินอยู่
แต่เจ้าความรู้สึกตัวขณะที่กำลังเดินนี่สิ มันไม่สามารถรู้ได้อย่างต่อเนื่อง
เดี๋ยวจิตมันก็แว่บหนีไปเที่ยวแล้ว ไปหาอดีตมั่ง วิ่งไปหาอนาคตที่ยังไม่เกิดมั่ง
สุดท้ายโดนความทุกข์เล่นงาน ทุกข์เพราะคิด ความคิดของตัวเอง

เรามาฝึกเจริญสติ เพื่อจะได้รู้อยู่ขณะปัจจุบันให้ทันได้มากขึ้น จิตจะได้หนีไปเที่ยวไม่ได้
เอาจิตผูกไว้อยู่กับกาย เอาตัว สติ สัมปชัญญะเปรียบเสมือนเชือก คอยดึง คอยรั้งเอาไว้

ในบทเพลงนี้ มีอยู่ประโยคหนึ่ง ถูกต้องเลยนะกับคำกล่าวนี้


ชีวิตมีวันสิ้น...คนไม่มีวันพอ



ตรงนี้เรื่องจริงเลย ชีวิตนับวันสิ้นลงไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็ถึงเวลาสิ้นสุดจริงๆของชีวิต
แต่คนเรา เมื่อยังไม่รู้จักคำว่า " พอ " เลยไม่มีวัน " พอ "
มีแล้วยังไม่พอ ยังตะเกียกตะกายที่จะมีให้มากขึ้นไปอีก

วัฏสงสารถึงได้ยืดยาวออกไปเรื่อยๆ เพราะเหตุนี้ ไม่ใช่เพราะใครทำให้เกิดขึ้นเลยนะ
เหตุเกิดจากตัวเราเองทั้งนั้นเลย

มาเป็นผู้มีสติอยู่เถิด โดยการมาเจริญสติปัฏฐาน ๔ กัน
การเจริญสติปัฏฐานนี้ อิสระสุดๆ ไม่มีรูปแบบตายตัว
ทุกคนสามารถเลือกปฏิบัติได้ ตามใจตัวเอง

ถนัดแบบไหนก็ทำแบบนั้น ไม่มีถูก ไม่มีผิด ไม่ต้องไปคาดหวัง
ทำไปเรื่อยๆ ทำอย่างต่อเนื่อง มีกำลังแค่ไหน ทำตามกำลังของตัวเอง
พอวันใด สติ สัมปชัญญะมากพอ เราสามารถนำมาปรับรายละเอียด ข้อปลีกย่อยได้ :b8:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 05 มี.ค. 2010, 22:23, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2010, 21:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




untitled0.5.bmp
untitled0.5.bmp [ 397.32 KiB | เปิดดู 3690 ครั้ง ]
ดับไปทีละดวง

ร่วงไปที่ละดอก

ทิ้งความเขลาเล่าบอก

แสวงหา


อาจโลกไม่ทันรู้

ดูไปก็ไร้ค่า

ใช่เห็นความเป็นมา

ประหนึ่งใจ



กว่าโลกล่วงรู้หน

ค้นเห็นจะรู้ไหน

กว่าธรรมแจ้งอำไพ

ก็ลับล่วง



ผละไปทีละร่าง

ว่างไปทีละห้วง

ความเขลาอันเปล่ากลวง

ยังยึดมั่น



เคลื่อนไปทีละคืบ

สืบไปทีละฝัน

วุ่นวายทุกวัยวัน

มิอาจรู้



กว่าจะเข้าใจซึ้ง

ถึงหนที่ค้นสู่

มืดไปทุกประตู

มิอาจแจ้ง



ดับไปทีละดวง

ล่วงไปทีละแหล่ง

สัจธรรมสำแดง

อยู่เช่นนั้น


http://www.oknation.net/blog/phutanow/2 ... 11/entry-1





ทุกสรรพสิ่งล้วนเป็นเช่นนั้นแล .... เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ....
ไม่ว่าจะมีเราหรือไม่มีเราก็ตาม :b48:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 06 มี.ค. 2010, 21:58, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2010, 22:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ย. 2009, 16:20
โพสต์: 537

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:


เราทุกรูปทุกนาม การกระทำทุกๆอย่าง ล้วนเกิดจากความไม่รู้ทั้งนั้นแหละค่ะ
หากเราสามารถรู้ถูก รู้ผิด ตามความเป็นจริง โดยไม่ใช่ ถูกหรือผิด ตามความคิดของเราได้
เราคงไม่ต้องมาทุกข์ทรมาณ มานั่งเสียใจกันแบบนี้

อดีต เราไม่สามารถกลับไปย้อนแก้ไขอะไรได้ ที่แก้ได้คือ ปัจจุบัน
การแก้ปัจจุบันคือ เป็นการแก้ที่ต้นเหตุ ต้นเหตุทั้งหมดคือใคร คือ ใจเรานั่นเอง
ตราบใด ที่เรายังมีคำว่า " ของเรา " นั่นคือ จะสร้างความทุกข์ใจไม่รู้จักจบสิ้น

เราควรฝึกใจเราใหม่ อย่าเข้าไปยึดติดกับสิ่งใดๆ เพราะถึงแม้ว่าจะไม่มีเรา
สิ่งต่างๆยังไงก็ไม่คงทน ย่อมเสื่อมสิ้นไปตามสังขาร ตามอายุขัยของสิ่งๆนั้น

กายนี้ก็สักแต่ว่ากาย มันประกอบด้วยธาตุ มีแต่ความสกปรก เราต้องคอยชำระล้างทุกเช้า เย็น
ยิ่งถ้าอยู่บ้าน อากาศร้อนๆ ชำระไม่รู้วันกี่รอบ

แล้ว ... ใจเราล่ะ เคยหวนกลับมาทบทวนดูมั่งไหม?
วันนี้เราได้ทำการขัดล้างทำความสะอาดใจดวงนี้ของเรากันมั่งแล้วหรือยัง?

เวลาความทุกข์เข้ามาเกาะกินใจเรา เคยพิจรณามั่งไหมว่า ใครทำให้เราทุกข์?
ทุกข์เพราะอะไร?

ไม่ได้มีใครทำให้เราทุกข์เลย เราทำตัวเราเอง ทุกข์เพราะคิด เพราะยึดติดจนเกิดอุปทาน
เราไปยึดติดกับสิ่งนอกตัว จนลืมคิดพึ่งพาตัวเอง พึ่งพาในสิ่งที่มีกันอยู่ทุกรูปทุกนาม

" สติ สัมปชัญญะ " สิ่งนี้คือ " คำตอบ " สำหรับทุกๆคน
ขอเราจงมี สติ สัมปชัญญะรู้อยู่กับใจเราให้ได้ทุกขณะ
ถ้ายังมีไม่ได้ ให้เราฝึกค่ะ " เจริญสติปัฏฐาน ๔ "

ใหม่ๆ แรกๆ อาจจะยังทำไม่ได้ เพราะไม่มีใครแนะนำ หรือ ไม่รู้จะไปถามใคร
ให้เริ่มต้นทำแบบง่ายๆ คือ รู้ในกายและใจของเรา รู้แบบปกติเหมือนเรารู้ทั่วๆไป

เริ่มต้นง่ายๆ สละเวลา เดินจงกรม 5 นาที แล้วต่อด้วย นั่งอีก 5 นาที
เวลาเดิน เดินแบบปกติที่เราเดิน แต่ให้เรารู้ที่เท้ากระทบพื้น
ความคิดจะเกิด ก็ช่างความคิด ให้กลับมารู้อยู่กับเท้าที่กำลังเดินอยู่
จับเวลาดูว่า 5 นาที เดินกี่ก้าว จำเอาไว้

หลังจากเดินแล้ว มานั่งต่อ จะนั่งที่ไหนๆก็ได้ ไม่จำเป็นต้องนั่งท่าขัดสมาธิ
จะนั่งเหยียดแข้ง เหยียดขา หลังพิงข้างขวา นั่งบนเก้าอี้ ฯลฯ
คือ ทำตามสะดวก ทำตามสบาย ตามที่แต่ละคนนั้นถนัด
ไม่ต้องไปบังคับตัวเอง เพราะถ้าเราไปกดดันตัวเอง จะพาลเบื่อหน่ายไม่อยากทำ

มือจะวางบนหน้าตัก หรือจะวางยังไงก็ได้ ตามสบาย
ถ้านั่งไม่ได้ อาจจะเพราะอะไรก็ชั่ง ก็นอนได้ตามสบาย

พอนั่งลงเรียบร้อยแล้ว ให้หลับตาลง
การที่ให้หลับตาลงนั้น เพื่อไม่ให้จิตไปซัดส่ายข้างนอก จิตจะได้รู้อยู่แต่ใน

สูดหายใจยาวๆลึกๆ 5 ครั้ง ปล่อยลมหายใจออกช้าๆ ไม่ต้องรีบ
แล้วหายใจปกติ แต่ให้หายใจยาว อย่าหายใจสั้น
คนหายใจสั้นจะเป็นคนขี้โมโห

รู้อยู่กับลมหายใจเข้าออก พอครบเวลา 5 นาที
อย่าเพิ่งลืมตา แบ่งผลบุญให้คนอื่นๆก่อน จะเดิน 5 นาที นั่ง 5 นาที นี่ถือว่าได้กุศลแล้วนะ
ให้หลับตา หายใจยาวๆ ตั้งใจแผ่เมตตา กรวดน้ำ เสร็จแล้วอธิษฐานจิต

ทำแบบนี้ ทำทุกๆวัน รับรอง ชีวิตดีขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ
จะสวดมนต์ก่อนหรือไม่สวดมนต์ก็ได้ ตามสะดวกค่ะ

ถ้ามีเวลามากพอ ก็ค่อยๆปรับเวลาเพิ่ม ทั้งการเดิน และนั่งได้ ตามแต่จะสะดวก
หรือจะทำแต่เพียงเท่านี้ก็ได้ค่ะ


ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ :b8:

จริงอย่างยิ่งเลยครับ คนเราไม่เคยทุกข์เพราะใครมาทำให้เราทุกข์
เราทุกข์ก็เพราะตัวของเราเอง
เหตุที่ทำให้เกิดผลทั้งสิ้นทั้งปวงล้วนแล้วแต่มาจากกายใจของเราเอง
การจะไม่ให้เกิดผลต่างๆได้อีกนั้น ก็คือการไม่เกิดมาอีก

การเจริญสติตามแนวสติปัฏฐาน ๔ ตามที่คุณwalaipornแนะนำนั้น
เป็นประโยชน์อย่างยิ่งที่จะทำให้เกิดสติมากขึ้นเรื่อยๆ

ผมขอเสนอแนะแนวทางการวิปัสสนาควบคู่ไปกับการเจริญสติปัฏฐาน ๔
พิจารณากายที่เคลื่อนไหวอยู่นั้นในความเป็น ดิน น้ำ ลม ไฟ
และพิจารณาสภาวะของนามในการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
จะเกิดปัญญาและถอดถอนความยึดมั่นถือมั่นได้ดียิ่งขึ้นครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 มี.ค. 2010, 22:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว



อนุโมทนาและขอบคุณค่ะ :b8:
เห็นคุณพงพันเป็นผู้ใฝ่รู้ นำมาให้อ่านค่ะ
viewtopic.php?f=7&t=28295&start=15

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 22:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ย. 2009, 16:20
โพสต์: 537

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:

อนุโมทนาและขอบคุณค่ะ :b8:
เห็นคุณพงพันเป็นผู้ใฝ่รู้ นำมาให้อ่านค่ะ
viewtopic.php?f=7&t=28295&start=15


ขอบคุณมากครับ อนุโมทนาสาธุครับ :b8: อ่านและพิจารณาตามแล้วก็ทำให้เกิดปัญญาครับ
และเห็นหลักสำคัญที่กล่าวไว้ว่า



walaiporn เขียน:
รู้พระไตรลักษณ์ชั้นภาวนามยญาณ ได้แก่ เห็นความเกิดดับของรูปนามชัดเจนแจ่มแจ้ง
ปราศจากการจำตำรา ปราศจากการนึกคิดค้นเดาใดๆทั้งสิ้น เกิดขึ้นในขณะปัจจุบันเท่านั้น


ญาณตรงนี้เป็นปัญญาที่ทำให้หลุดพ้นได้ จากการพิจารณารูปนามนั้นก็คือขันธ์๕สู่ไตรลักษณ์
อนุโมทนาเป็นอย่างยิ่งถ้าใครได้เกิดปัญญาในขั้นนี้ที่เกิดจากการวิปัสสนานี้
สาธุ สาธุ สาธุ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 มี.ค. 2010, 19:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว




379811vjedbyx1sn.gif
379811vjedbyx1sn.gif [ 440.28 KiB | เปิดดู 3525 ครั้ง ]

มีดวงดาว ทอประกาย ส่องทางในยามมืดมน
มีอ้อมแขนสำหรับคน ที่รักในยามเหน็บหนาว
มีคำปลอบโยน มีคนห่วงใยในยามที่ใจทุกข์เศร้า
มีคน คิดถึงเวลาเหงา แต่ว่าคนอย่างฉัน

ได้แต่เหงา เหงา โลกมีเพียงเท่านั้น
ได้แต่เพ้อ.. ฝัน.. อยู่อย่างนั้น ฮือ ฮือ

อยากมีคนมาแทนที่คำว่าเหงา
อยากให้คำว่าเรา มาแทนที่คำว่าฉัน
อยากให้ฟ้าเบื้องบนส่งคนมาคิดถึงกัน ส่งมารักกัน
อยากเป็นคนสำคัญของใครสักคน

ในอ้อมแขนไม่เคยมีใครได้แต่กอดตัวเองทุกวัน
มีความรักรอแบ่งปัน แต่ไม่มีใครต้องการสักคน
โอ้ดาวนำทาง ดวงนั้นอยู่ไหนอย่าปล่อยให้ใจมืดมน
มีบ้างไหมใครสักคน ที่เกิดมาเพื่อฉัน

ได้แต่เหงา เหงา โลกนี้เพียงเท่านั้น
ได้แต่เพ้อ ฝัน อยู่อย่างนั้น ฮือ ฮือ

อยากมีคนมาแทนที่คำว่าเหงา
อยากให้คำว่าเรา มาแทนที่คำว่าฉัน
อยากให้ฟ้าเบื้องบนส่งคนมาคิดถึงกัน ส่งมารักกัน
อยากเป็นคนสำคัญ

อยากมีคนมาแทนที่คำว่าเหงา
อยากให้คำว่าเรา มาแทนที่คำว่าฉัน
อยากให้ฟ้าเบื้องบนส่งคนมาคิดถึงกัน ส่งมารักกัน
อยากเป็นคนสำคัญ ของใครสักคน

http://solno07.exteen.com/20100217/entry





วันนี้รู้สึกสงบและยังคงรู้สึกถึงความสุขใจที่มีอยู่ แบบอิ่มๆอยู่ในใจ
ฟังเพลงนี้ รู้สึกโรเมนติกมากๆ ชอบฟังเสียงของก๊อต นักร้องแต่ละคนจะมีสไตล์ของตัวเอง

เมื่อก่อน เราเคยมีนะ ความรู้สึกแบบเพลงๆนี้ บางครั้งมันรู้สึกเหงาๆแบบบอกไม่ถูก
เหมือนเรารอคอยสักคนหนึ่งอยู่ มีความรู้สึกว่า ใครคนนั้นเขาเองก็รอคอยเราอยู่เช่นเดียวกัน
คุณล่ะ เคยเป็นบ้างไหมกับความรู้สึกเช่นนี้?

ก็นานมากๆเลยนะกับความรู้สึกเช่นนี้ ที่เคยเกิดขึ้นกับเราตั้งแต่เริ่มจำความได้
เรามีความรู้สึกว่า เราได้มาจากที่ๆหนึ่งที่ไกลและแสนไกลมากๆ

บางครั้ง มีความรู้สึกว่ามีใครคนหนึ่งอยู่ใกล้ๆเราตลอดเวลา ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
บางครั้งเคนฝันถึงเขาคนนั้น ฝันว่า เขาบอกว่า เขารอเราอยู่ เมื่อไหร่เราจะกลับไปหาเขา
เสียงเขาดูเศร้ายิ่งนัก แต่เรากลับจำอะไรเกี่ยวกับเขาไม่ได้เลย นิดเดียวก็ไม่มี

วันนี้พอเปิดเพลงนี้ฟัง ทำให้เราหวนคิดถึงเขาคนนั้น นานแล้วสิ ที่เราไม่เคยคิดถึงเขาเลย
ฟังเพลงแล้วทำให้คิดถึงเขา ผู้ไม่มีตัวตน ที่เฝ้ารอเราอยู่ อยู่ในที่ๆไม่มีอยู่จริง

สำหรับเรื่อง สภาวะความรักในโลกปัจจุบัน ที่เราเพิ่งผ่านมา แต่ยังมีการชดใช้อยู่
ตอนนี้ความรู้สึกของเราแผ่วเบาลงไปเรื่อยๆ เพราะเข้าใจถึงเหตุและผล
สิ่งที่เกิดขึ้นกับเราทั้งหมด นั่นคือ เราได้ชดใช้ให้กับเขาคนนั้น ก็ยังทะยอยใช้เขาอยู่นะ
เขายังคงมีทวงเราประปราย เพียงแต่เรานั้น ไม่ไปทุกข์จากการกระทำของเขาเหมือนเมื่อก่อน
เป็นผู้ดูมากขึ้น ยิ่งเขากระทำมากเท่าไหร่ จิตมันซึมซับไว้หมด ทำให้เกิดความปล่อยวางมากขึ้น

นี่แหละ เหตุทั้งหมดที่เกิดขึ้น เกิดจากเพราะความไม่รู้ จึงได้สร้างเหตุที่ไม่ดี ผลที่ได้รับเลยไม่ดีเช่นนี้
เราเคยทำร้ายเขา เขาก็มาทำร้ายเรา เมื่อเราเข้าใจตรงเหตุและผลแล้ว เราจะมีแต่จิตที่คิดให้อภัยกับเขา
ไม่มารู้สึกคับแค้นใจ ทุกข์ใจ เสียใจเหมือนก่อนๆ มีแต่จะมองด้วยความเข้าใจว่า ทำไมเขาจึงทำเช่นนั้นกับเรา

กับอีกคนที่ไร้ตัวตน ได้ยินแต่เสียงเฝ้าถามว่า เมื่อไหร่จะกลับไปสักทีนั้น
ตอนนี้ไม่คิดจะไปไหนอีกแล้ว มีแต่มุ่งหน้าไปเส้นทางเดียวเท่านั้น ไม่ปรารถนาการเกิดอีกแล้ว
เหนื่อยนะ ทุกข์นะ เพราะทุกๆครั้งของการเกิดจะมีความไม่รู้เป็นของแถมมาคู่กัน
ไม่รู้ก่อนที่จะรู้ แล้วกว่าจะรู้ล่ะ สร้างเหตุใหม่ไปอีกตั้งเท่าไหร่ แค่คิดก็สยองแล้ว

ทำความเพียรต่อเนื่อง เล็กๆน้อย เก็บสะสมหน่วยกิตตลอด เก็บไว้สะสมเป็นกำลัง เป็นเสบียงใช้ในการเดินทาง
ชีวิตทุกวันนี้ นับว่า มีความสุขมากๆเลยนะ ทุกข์สักแต่ว่ารู้มากขึ้น ดับไวมากขึ้น ไม่ไปเกาะเกี่ยวนาน

ความเหงาแทบจะไม่มีในหัวใจเลย เพียงแต่บางครั้ง เมื่อฟังเพลง เราก็ยังมีอารมณ์ประมาณนี้อยู่
มีนะ แต่มีความสุข ไม่ได้ไปรู้สึกเหงาแต่อย่างใด ยิ่งเข้าใจ ยิ่งพบแต่ความสุข

ทางที่กำลังเดินอยู่นี้ ไม่ไปคาดหวังว่าเมื่อไหร่จึงจะถึงจุดหมายปลายทาง
ไม่เคยคำนึงถึงตรงนี้เลยนะ นิดเดียวไม่มี ไม่ไปคิดว่า เมื่อไหร่จะถึง แล้วจะทำสำเร็จไหม
รู้แต่ว่า หากเราทำต่อเนื่องไปเรื่อยๆ สักวันเราต้องจบการเดินทางนี้แน่นอน ไม่ต้องมาเดินทางอีกต่อไป
เพียงแต่ตอนนี้เรากำลังสร้างเหตุใหม่ เป็นเหตุที่ดี เพื่อเป็นปัจจัยสำหรับการเดินทางต่อไป
จนกว่าจะถึงจดหมายปลายทาง ต้องมีสักวันที่ฝันนั้นเป็นจริงอย่างแน่นอน :b12:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แก้ไขล่าสุดโดย walaiporn เมื่อ 08 มี.ค. 2010, 19:16, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 285 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 11, 12, 13, 14, 15, 16, 17 ... 19  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร