สวัสดีจ้ะ...สาวน้อยช่างสงสัย(หนูน้อม)
เหตุการณ์ที่หนูพบเจอในวัยเด็กหรือวัยโตบอกให้รู้ว่ามนุษ์เราต้องเวียนว่ายอยู่ในวัฎสงสาร บุญทำกรรมแต่งทั้งนั้นแหละลูก ไม่มีใครหนีพ้นไม่ว่าจะเป็นคนสวยหรือคนที่อยู่ในธรรมทุกคนย่อมต้องชดใช้กรรมด้วยกันทั้งนั้น หนักบ้างเบาบ้างแตกต่างกันไป อย่าไปสงสัยในชีวิตคู่เลยพูดยากจ้ะหนูโชคดีแล้วที่สนใจในธรรมตั้งแต่อายุยังน้อยหมั่นทำความเพียรไปดีกว่านะจ๊ะ ใดๆในโลกล้วนไม่จีรังยั่งยืนผ่านมาแล้วก็ผ่านไป สิ่งหนึ่งที่พี่เชื่อโดยไม่มีความสงสัยก็คือคำสอนของพระพุทธเจ้าล้วนเป็นจริงทุกอย่าง ขอให้เจริญในธรรมนะหนู

โอย คุณสาวเหลือน้อย

เรียกคุณดีกว่า เพราะไม่แน่ใจว่าใครแก่กว่ากัน

อายุน้อมไม่น้อยแล้วล่ะค่ะ ดีไม่ดี คนเรียกป้าได้ จริงๆก็มีหลานแล้วนะ ลูกของลูกพี่ลูกน้องน่ะค่ะ
เป็นป้าน้อมไปแล้ว

ส่วนเรื่องช่างสงสัยน่ะค่ะ จริง แบบว่าเป็นการสนทนาธรรมด้วยไงคะ
เรื่องบางเรื่องก็ทราบแล้ว แต่ก็อยากฟังจากปากคนอื่นอีก บางที่คนเราก็มีแง่มุมต่างๆที่น่าสนใจ
หากไม่ถาม หรือเขาไม่พูดก็อดฟัง

เลยเป็นคนชอบถามค่ะ สมัยทำงานใหม่ๆตอนจบปริญญาตรี รุ่นพี่ที่ทำงานเขาเซ็งเลย ว่าจะรู้ละเอียดไปทำไมนัก ทุกวันนี้ก็เป็นอยู่ บางทีถามจนคนเขาค้อนให้ จ๋อยไปเลย


ป.ล คุณมานิตาคิดเหมือนน้อมเปี๊ยบเลย คือผู้หญิงแต่งงานไป มักจะมีภาระมากขึ้น ลำบากมากขึ้นทั้งกายและใจ แต่ผุ้ชายกลับสบาย...มิน่าผู้ชายไม่ค่อยชอบโสด เพราะมันสบาย สบายอะไรอย่างนั้น มีคนทำให้ทุกอย่าง บางคนข้าวแทบไม่ต้องกินเองแล้วมั้งนั่น มีคนป้อนให้ด้วย เอ้อดีเนอะ เป็นผู้ชายเนี่ย...

มันน่าจะกลับกันเนอะ ให้ผุ้หญิงสบายและให้ผู้ชายทำงานให้ สะใจ 555 (อ่ะ ล้อเล่นนน)

ไม่แน่นะครับ..เพราะบุญทำมาไม่เหมือนกัน
ดูอย่าง..
พ่อผม..งานในบ้าน..มีทั้งซักผ้า..ทำกับข้าว..ล้างถ้วยล้างจานก็ทำไม่เกี่ยง..งานที่ใช้แรง..พ่อทำทุกอย่าง
แม่ผม..งานในบ้าน..ทำกับข้าวบ้าง..กับ..การเงิน

ที่จริงแล้ว..ในโลกนี้..จะหาเรื่องที่แน่นอน..เป็นสูตรตายตัว..ไม่มี

เพราะคนเราไม่ได้เกิดมาแค่ครั้งเดียว..เดียวเกิดเป็นชาย..เดียวเป็นหญิง..สลับกันไปสลับกันมา..ไม่แน่นอนอะไร

แต่ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไร...ที่ว่า..ไม่ลำบากกายลำบากใจ..ไม่มี

ทำไมพ่อคุณกบน่ารักจัง..จะไปหาจากที่ไหนเนี่ยแบบนี้

น้อมพูดไปงั้นแหละ ที่ว่าผู้ชายน่าจะได้ทำงานแทนผุ้หญิง จริงๆแล้วเข้าใจดีว่าเป็นบุญของผู้ชายส่วนใหญ่ จริงๆแล้วผู้หญิงก็ติดนิสัยชอบบริการด้วย เป็นธรรมชาติน่ะค่ะ

อย่างน้อมถ้าไม่ได้บริการ จะรู้สึกเหมือนงานน้อย ด้อยค่า ต้องหาเรื่องทำงานค่ะ ^^

เป็นผู้หญิงมันก็ต้องทำตัวให้น่ารักๆ ถ้ามีครอบครัวไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่เรา หรือสามีเราก็ต้องบริการให้ดี พระพุทธองค์บอกว่าถ้าบริการดีๆแล้ว มีศีล หากปรารถนาจะเป็นชายก็ย่อมได้
แต่ถ้ายังไม่อยากเป็นผู้ชาย ก็จะได้เป็นผู้หญิงชั้นดี มีความสุขสบายขึ้นมาอีกหน่อย (แต่ก็ยังมีทุกข์พิเศษมากกว่าคุณผู้ชายนะคะ)

ทราบยังงี้แล้วผุ้หญิงอยากเป็นผู้ชายบ้างไหม ? ถ้าอยากก็ประพฤติพรหมจรรย์ หรือดูแลสามีให้เหมือนเทวดานะคะ เอาแบบไหนดีก็เลือกเอา

ส่วนน้อม..ขอคิดดูก่อนนะคะ ว่าอยากเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายดี สงสัยกรรมจะยังไม่หมด..ยังไม่เห็นอยากเป็นผู้ชายเท่าไรเลย T_T ไม่เหมือนคุณแม่ของน้อม ทำบุญมาดี ชาตินี้ค่อนข้างสบาย ปรนนิบัติคุณพ่อก็ดี แล้วก็เบื่อหน่ายคลายกำหนัดในความเป็นเพศหญิงด้วย สงสัยใกล้ละ

พ่อทำกับข้าว..เพราะแม่ทำรสชาติไม่ถูกปาก..

นางแบบที่พาเที่ยววัดเทวราชฯใช่คุณน้อมมั้ยคะ ถ้าใช่ความสาวอิฉันก็คงเหลือน้อยตามชื่อแหละเจ้าค่ะ แต่ถ้าไม่ใช่(แอบดีใจว่าเรายังไม่แก่)รู้สึกถูกชะตาค่ะเลยเข้ามาคุยด้วย ไม่โกรธกันนะคะ
คุณกบช่างเปรียบเทียบ คุณพ่อคุณแม่ น่ารักดีค่ะ

เฮ้ย..แต่ละคำถาม

สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตการแต่งงานครั้งนี้ คือลูก

แต่ถ้าจะเทียบเป็น % ในการแต่งงานครั้งแรกในชีวิตนี้ขอให้ 20 % ค่ะ

นรกดี ๆ นี่เองค่ะ และขอบอกกล่าวพี่ ๆ น้อง ๆ ท่านใดที่ยังไม่ได้แต่งงานนะค่ะ ขอให้ดูกันให้นาน ๆ ค่ะ ดิฉันหมั้นกันมา 3-4 ปี ถึงจะแต่ง แต่งงานได้วันเดียวเปลี่ยนจาก
หน้ามือ เป็นหลังมือ ถ้าย้อนเวลาได้จะไม่ขอแต่งงานกับผู้ชายคนนี้
คงเป็นเวรกรรมของเราเองที่ได้คู่ไม่ดี

ปล. ผู้ชายดี ๆ เขาก็มีค่า

ขึ้นอยู่กับกฎแห่งกรรมค่ะ ใช่ว่าทุกคนแต่งงานแล้วจะมีแต่ความสุขอย่างเดียว มันมีทั้งสุขและทุกข์ ขึ้นอยู่กับว่าคุณทำกรรมอะไรไว้ กับใคร เมื่อไร แต่ถ้าถามว่าเวลาย้อนกลับไป ขอตอบว่าอยู่คนเดียวดีกว่า ไม่ต้องทุกข์ ไม่ต้องเป็นกังวล เป็นห่วง ถามว่าจะเหงาไหม อาจจะมี แต่ถ้ามีอะไรทำหรือมีเพื่อนฝูง ก็ไปไหนไปกัน ถ้าเนื้อคู่ดี ก็ทำบุญร่วมกันมาดี ถ้าเนื้อคู่ที่คอยทะเลาะกัน ไม่ช่วยเหลือกัน ก็เป็นคู่เวรคู่กรรมกัน

การตัดสินใจว่าจะได้แต่งกันไหม ขึ้นอยู่กับเวลาและกรรมค่ะ

ไม่รุ ไม่ชี้แล้ว วันนี้ไม่ตอบใครแล้วค่ะ ขอร้องเพลงก่อน

ชื่อเพลง อารมณ์ดี ได้ยินตั้งแต่สมัยเด็กๆ วันประกวดเล่นดนตรีที่YAMAHA ยังจำได้ดี เพราะเพื่อนรุ่นเด็กที่ประกวดวันนั้น ร้องเพราะมาก ตอนนี้เอามาทำใหม่ซะแล้ว ร้องโดย "ว่าน ธนกฤต" ร้องละน๊า..

อารมณ์ดีเพราะมีความสุข
ไม่มีทุกข์จะให้ไม่สุขได้อย่างไร
ความรักนั้นเหมือนต้นไทร
แตกกิ่งใบคลุมใจร่มเย็น

อารมณ์ดีเพราะมีเธออยู่
ก็มันรู้ว่ามีใครอยู่ข้างใน
หลับตาคิดถึงเธอเมื่อไร
ปลื้มใจและอารมณ์ดี

กินเราก็กินสบาย กินอะไรก็ลื่น
นอนเราก็นอนสบายทุกคืน
เป็นความสบายส่วนตัว

อารมณ์เย็นเหมือนน้ำในโอ่ง
ก็มันโล่งเมื่อได้รักใคร
กุหลาบน้อยลอยกลางใจ
คิดถึงทีไรก็อารมณ์ดี

กินเราก็กินสบาย กินอะไรก็ลื่น
นอนเราก็นอนสบายทุกคืน
เป็นความสบายส่วนตัว

อารมณ์เย็นเหมือนน้ำในโอ่ง
ก็มันโล่งเมื่อได้รักใคร
กุหลาบน้อยลอยกลางใจ
คิดถึงทีไรก็อารมณ์ดี

ที่นี่แนบ youtube ไม่ได้เหรอคะ ถ้าได้แนบไม่เป็นด้วย หาฟังเองนะ แล้ววันหลังจะมาคุยด้วยใหม่ค่ะ

ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ เพราะว่ารักของปุถุชนเป็นรักที่มีตัณหา

คิดว่าอะไรทุกข์กว่ากันระหว่าง

1.อกหัก (รักเขาข้างเดียว)
2. รักกันแต่มันเป็นไปไม่ได้เหมือน กามนิต วาสิฎฐี ภาคพื้นดิน
3.รักกันแต่ไม่รู้ว่ารักกัน เพราะไม่เคยแสดงออก
4.รักกันได้แต่งงานกัน แต่ต่อมาหย่ากัน หรือต่อมาเกลียดกัน
5.เป็นเพื่อนกัน แต่ต่อมาอีกฝ่ายหนึ่งเริ่มคิดอย่างอื่นมากกว่าเพื่อน เลยต้องเก็บซ่อนความรุ้สึก

คุยกันเล่นๆ คิดว่าอะไรทุกข์กว่ากัน คำถามใหม่ ไฉไล อีกเหมือนเดิมค่ะ

สำหรับเรา เราคิดว่าข้อนี้ค่ะ

1.อกหัก (รักเขาข้างเดียว)
ถ้า2ข้อนี้

2. รักกันแต่มันเป็นไปไม่ได้เหมือน กามนิต วาสิฎฐี ภาคพื้นดิน

3.รักกันแต่ไม่รู้ว่ารักกัน เพราะไม่เคยแสดงออก

เราคิดว่าไม่ทุกข์เท่าไหร่ เพราะได้เก็บความรู้สึกที่ดีๆไว้

สำหรับ2ข้อนี้

4.รักกันได้แต่งงานกัน แต่ต่อมาหย่ากัน หรือต่อมาเกลียดกัน

5.เป็นเพื่อนกัน แต่ต่อมาอีกฝ่ายหนึ่งเริ่มคิดอย่างอื่นมากกว่าเพื่อน เลยต้องเก็บซ่อนความรุ้สึก

เราถือว่าเป็นทุกข์ ที่เราเต็มใจที่จะทุกข์ค่ะ :b7:

ทำไมคนห้องแห่งความรัก จึงไม่ค่อยจะทิ้งกันให้เหงา สักทีรึอาจจะเป็นเพราะคนเยอะก็ได้

บางห้องที่น้อมชอบไปอยู่ โอย เหงามาก เหงาและเย็น...จับขั้วหัวใจ จนต้องมารับคำปลอบประโลมใจจากห้องแห่งความรัก ให้หายเหงา..(แต่ก็ยังชอบห้องนั้น ตัดใจไม่ได้สักที)

นานาทัศนะว่า รักแบบไหน ถึงจะทุกข์ที่สุด..น้อมเริ่มคิดแล้วว่า รักแล้วทุกข์ทั้งนั้น เพราะไม่ใช่รักของพระอริยเจ้า ถึงจะรักแล้วสมหวังได้แต่งงานกัน หรือ อกหักรักเขาข้างเดียวก็ตาม

นึกถึงเด็กๆที่ไม่รู้จักรักใครสักคน เป็นเพื่อนกันหมดไม่มีความอยากยึดครอง มีแต่สิ่งดีๆให้กัน มีแต่ความรุ้สึกดีๆให้กัน มีความสุขจะตายไป..

คนเราทำไมต้องมีตัณหา และมีความรักแบบอยากยึดครองด้วย เอ้อ

[color=#8040FF]คุยไปคุยมาเรื่องความรัก อาจจะทำให้เข้าใจสัจจะอะไรบางอย่างก็ได้ ห้องแห่งความรักไม่ใช่ห้องแห่งความเพ้อฝัน !!! อย่างที่เคยเข้าใจ [/color]

.รักกันได้แต่งงานกัน แต่ต่อมาหย่ากัน หรือต่อมาเกลียดกัน


ข้อนี้เลยค่ะคุณน้อม ฯ คิดว่า 90 % ในลานนี้ที่เลือกข้อนี้ แล้วก็เป็นอย่างข้อนี้อีกนั่นแหละ
ถ้ารู้เหตุการณ์ล่วงหน้ารับรอง ไม่ได้แอ้มหรอกค๊า