วันเวลาปัจจุบัน 09 ส.ค. 2025, 20:03  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 11:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว




LifeofBuddha039.png
LifeofBuddha039.png [ 351.1 KiB | เปิดดู 1950 ครั้ง ]
อรรถกถา อัสสกชาดก
ว่าด้วย ไม่รู้ของจริงเพราะมีสิ่งใหม่ๆ ปิดไว้
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภการเล้าโลมของภรรยาเก่า (ของภิกษุรูปหนึ่ง) ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า อยมสฺสกราเชน ดังนี้.
ความย่อมีว่า ภิกษุนั้น พระศาสดาตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุ ได้ยินว่า เธอกระสันจริงหรือ กราบทูลว่า จริงพระเจ้าข้า ตรัสถามว่า เพราะเหตุไร เธอจึงกระสัน กราบทูลว่า เพราะภรรยาเก่าพระเจ้าข้า. จึงตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ หญิงนั้นมีความรักในเธอ มิใช่ในบัดนี้เท่านั้น แม้เมื่อก่อน เธอก็ได้รับทุกข์ใหญ่หลวง เพราะอาศัยหญิงนั้นเหมือนกัน แล้วทรงนำเรื่องอดีตมาตรัสเล่า
ในอดีตกาล พระราชาพระนามว่า อัสสกะ ครองราชสมบัติอยู่ในนครชื่อว่า ปาฏลิ แคว้นกาสี พระองค์มีอัครมเหสีพระนามว่า อุพพรี เป็นที่รักใคร่โปรดปรานของพระองค์ มีรูปโฉมงดงามน่าดู มีพระฉวีเหนือมนุษย์ แต่ยังไม่ถึงวรรณะทิพย์. พระนางได้สิ้นพระชนม์ลง พระราชาทรงโศกาดูร เสวยทุกข์โทมนัสยิ่งนัก เพราะการสิ้นพระชนม์ของพระนางนั้น พระองค์ให้เชิญพระศพของพระนางลงในราง แล้วใส่น้ำมันหล่อไว้ ยกไปตั้งไว้ใต้พระแท่นไสยาสน์ ทรงอดพระกระยาหาร บรรทมกันแสงปริเทวนาการ.
พระราชมารดาพระราชบิดา หมู่พระญาติมิตรอำมาตย์ พราหมณ์ คหบดีเป็นต้น พากันทูลปลอบโยนเป็นต้นว่า อย่าทรงเศร้าโศกไปเลยมหาราช สังขารทั้งหลายเป็นของไม่เที่ยง ก็ไม่สามารถให้พระองค์ยินยอมได้ พระองค์ทรงรำพันอยู่เช่นนั้นล่วงไป ๗ วัน.
ในกาลนั้น พระโพธิสัตว์เป็นดาบส สำเร็จอภิญญาห้าและสมาบัติแปด อยู่ในหิมวันตประเทศ เจริญอาโลกกสิณตรวจดูชมพูทวีปด้วยทิพยจักษุ เห็นพระราชาปริเทวนาการอยู่อย่างนั้น ดำริว่า เราควรเป็นที่พึ่งของพระราชาพระองค์นั้น จึงเหาะไปบนอากาศด้วยอิทธานุภาพ แล้วลงไปในพระอุทยาน นั่งเหนือแผ่นมงคลสิลา ราวกะว่า พระปฏิมาทองคำ.
ครั้งนั้น มาณพ พราหมณ์ชาวนครพาราณสีคนหนึ่งไปพระอุทยาน เห็นพระโพธิสัตว์ จึงนั่งลงไหว้ พระโพธิสัตว์กระทำปฏิสันถารกับมาณพนั้น แล้วถามว่า มาณพ พระราชาทรงตั้งอยู่ในธรรมหรือ. มาณพตอบว่า ขอรับพระคุณเจ้า พระราชาทรงตั้งอยู่ในธรรม แต่พระมเหสีของพระองค์สิ้นพระชนม์เสียแล้ว พระองค์เชิญพระศพของพระนางไว้ในรางแล้ว ทรงบรรทมพร่ำเพ้อรำพัน วันนี้เป็นวันที่ ๗ พระคุณเจ้าจะไม่ช่วยพระราชาให้พ้นจากทุกข์บ้างหรือ เมื่อมีผู้มีศีล เช่นท่านสมควรจะให้พระราชาเสวยทุกข์เช่นนั้นหรือ.
พระโพธิสัตว์กล่าวว่า ดูก่อนมาณพ เราไม่รู้จักพระราชา หากพระราชาจะเสด็จมาถามเรา เรานี่แหละจะทูลบอกที่ที่พระมเหสีไปเกิด จะให้พระนางตรัสสนทนากับพระราชาทีเดียว. มาณพนั้นกล่าวว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ถ้าเช่นนั้น ขอพระคุณเจ้านั่งรออยู่ที่นี้ จนกว่ากระผมจะทูลเชิญพระราชาเสด็จมา มาณพรับปฏิญญาของพระโพธิสัตว์แล้ว ไปเฝ้าพระราชา กราบทูลความนั้น แล้วทูลพระองค์ควรเสด็จไปยังสำนักของท่านผู้มีจักษุทิพย์.
พระราชาทรงดีพระทัยที่จะได้ทรงเห็นพระนางอุพพรี เสด็จขึ้นรถไปอุทยาน ไหว้พระโพธิสัตว์ แล้วนั่ง ณ ส่วนหนึ่ง ถามว่า ได้ยินว่าท่านรู้ที่เกิดของพระเทวีจริงหรือ. พระโพธิสัตว์ทูลว่า จริงพระเจ้าข้า. ตรัสถามว่า เกิดที่ไหน. ทูลว่า
ข้าแต่มหาราช พระนางทรงมัวเมาในรูป อาศัยความเมาไม่ทรงทำกรรมดี จึงไปเกิดในกำเนิดหนอนมูลโค. ตรัสว่า ข้าพเจ้าไม่เชื่อ. ทูลว่า ถ้าเช่นนั้น อาตมาจะแสดงแก่พระองค์ แล้วให้พูด. ตรัสว่า ดีแล้ว จงให้พระนางพูดเถิด.
พระโพธิสัตว์ได้ทำให้หนอนสองตัวมาด้วยอานุภาพของตน โดยอธิษฐานว่า ขอให้หนอนสองตัวจงชำแรกก้อนโคมัยออกมาเบื้องพระพักตร์ของพระราชา หนอนสองตัวก็ออกมาตามนั้น. พระโพธิสัตว์ เมื่อจะแสดงพระเทวี จึงกราบทูลว่า ข้าแต่มหาราช พระเทวีอุพพรีนี้จากพระองค์ไปแล้ว เดินตามหลังหนอนโคมัยมา ขอพระองค์จงทอดพระเนตรเถิด. พระราชาตรัสว่า พระคุณเจ้า ข้าพเจ้าไม่เชื่อว่า สัตว์ที่เกิดในกำเนิดหนอนโคมัยชื่ออุพพรี พระโพธิสัตว์ทูลว่า มหาบพิตร อาตมาภาพจะให้หนอนนั้นพูด. ตรัสว่า ให้พูดเถิดพระคุณเจ้า.
พระโพธิสัตว์ เมื่อจะให้หนอนพูดด้วยอานุภาพของตนจึงเรียกว่า แน่ะนางอุพพรี นางหนอนพูดเป็นภาษามนุษย์ว่า อะไรเจ้าคะ.
พระโพธิสัตว์ถามว่า ในอัตภาพที่ล่วงแล้ว ท่านเป็นอะไร. ตอบว่า ข้าพเจ้าเป็นมเหสีของพระเจ้าอัสสกะ ชื่ออุพพรีเจ้าคะ.
ถามว่า ก็เดี๋ยวนี้พระราชาอัสสกะยังเป็นที่รักของเจ้า หรือว่าหนอนโคมัยเป็นที่รักของเจ้า. ตอบว่า ท่านเจ้าขา พระราชาเป็นพระสวามีของข้าพเจ้าในชาติก่อน ครั้งนั้น ข้าพเจ้าเที่ยวชื่นชมรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะกับพระราชานั้นในอุทยานนี้ แต่เดี๋ยวนี้ ตั้งแต่ข้าพเจ้าไปต่างภพกันแล้ว พระราชาอัสสกะจะเป็นอะไรกับข้าพเจ้าเล่า บัดนี้ ข้าพเจ้าจะสังหารพระเจ้าอัสสกะ เอาพระโลหิตในพระศอของพระองค์ มาล้างเท้าของหนอนโคมัยผัวของข้าพเจ้าเสีย แล้วได้กล่าวคาถาเหล่านี้ด้วยภาษามนุษย์ ในท่ามกลางบริษัทว่า :-

ประเทศนี้ เราผู้มีความจงรัก ได้เที่ยวเล่นอยู่กับพระเจ้าอัสสกะผู้เป็นพระสวามีที่รัก ผู้มีความประสงค์ตามความใคร่.

ความสุขและความทุกข์เก่า ถูกความสุขและความทุกข์ใหม่ปกปิดไว้ เพราะฉะนั้น หนอนจึงเป็นที่รักของเรายิ่งกว่าพระเจ้าอัสสกะอีก.

ในบทเหล่านั้น บทว่า อยมสฺสกราเชน เทโส วิจริโต มยา
ความว่า อุทยานประเทศอันน่ารื่นรมย์นี้ เราเคยเที่ยวไปกับพระเจ้าอัสสกะ.
คำว่า อนุ ในบทว่า อนุกามยกาเมน เป็นเพียงนิบาต.
ความว่า เราผู้มีความใคร่ต่อพระเจ้าอัสสกะนั้น ได้เที่ยวเล่นกับพระเจ้าอัสสกะผู้ใคร่เรา.
บทว่า ปิเยน ได้แก่ เป็นที่รักในอัตภาพนั้น.
บทว่า นเวน สุขทุกฺเขน โปราณํ อปิถิยฺยติ
ความว่า นางหนอนกล่าวว่า ท่านเจ้าขา สุขเก่าถูกสุขใหม่ปกปิดครอบงำ ทุกข์เก่าถูกทุกข์ใหม่ปกปิดครอบงำ นี้เป็นธรรมดาของโลก.
บทว่า ตสฺมา อสฺสกรญฺญาว กีโฏ ปิยตโร มมํ
ความว่า เพราะสุขทุกข์เก่าถูกสุขทุกข์ใหม่ปกปิด
ฉะนั้น หนอนจึงเป็นที่รักของข้าพเจ้ายิ่งกว่าพระเจ้าอัสสกะร้อยเท่าพันเท่า.

พระเจ้าอัสสกะได้สดับดังนั้นแล้ว ทรงแค้นพระทัย ยังประทับอยู่ ณ ที่นั้น รับสั่งให้ย้ายศพพระเทวีออกไป ทรงสรงสนานพระเศียร แล้วไหว้พระโพธิสัตว์ เสด็จเข้าพระนคร ทรงอภิเษกสตรีอื่นเป็นอัครมเหสี ทรงครองราชสมบัติโดยธรรม.
ฝ่ายพระโพธิสัตว์ถวายโอวาทพระราชาให้ทรงหายโศกแล้ว ก็ได้กลับไปยังป่าหิมพานต์.

พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประกาศสัจธรรม ทรงประชุมชาดก.
เมื่อจบสัจธรรม ภิกษุผู้กระสันได้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล.
พระเทวีอุพพรีในครั้งนั้น ได้เป็น ภรรยาเก่า (ของภิกษุนั้น) ในครั้งนี้
พระเจ้าอัสสกะได้เป็น ภิกษุกระสัน
มาณพได้เป็น สาริบุตร
ส่วนดาบส คือ เราตถาคต นี้แล.

จบ อรรถกถาอัสสกชาดกที่ ๗

.. อรรถกถา อัสสกชาดก ว่าด้วย ไม่รู้ของจริงเพราะมีสิ่งใหม่ๆ ปิดไว้ จบ.

อ่าน เนื้อความในพระไตรปิฎก
http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.p ... 551&Z=1557
:b42: :b42: :b42:
:b44: :b44: :b44:
:b8: :b8: :b8:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 เม.ย. 2010, 11:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว




mongkol06-35.jpg
mongkol06-35.jpg [ 90.7 KiB | เปิดดู 1928 ครั้ง ]

พระโพธิสัตว์ถามว่า ในอัตภาพที่ล่วงแล้วท่านเป็นอะไร.
ตอบว่า ข้าพเจ้าเป็นมเหสีของพระเจ้าอัสสกะ ชื่ออุพพรีเจ้าคะ.
ถามว่า ก็เดี๋ยวนี้พระราชาอัสสกะยังเป็นที่รักของเจ้าหรือว่า หนอน
โคมัยเป็นที่รักของเจ้า. ตอบว่า


ท่านเจ้าขา พระราชาเป็นพระ-
สวามีของข้าพเจ้าในชาติก่อน ครั้งนั้นข้าพเจ้าเที่ยวชื่นชมรูป
เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะกับพระราชานั้นในอุทยานนี้ แต่เดี๋ยวนี้
ตั้งแต่ข้าพเจ้าไปต่างภพกันแล้ว พระราชาอัสสกะจะเป็นอะไรกับ
ข้าพเจ้าเล่า
บัดนี้ข้าพเจ้าจะสังหารพระเจ้าอัสสกะ เอาพระโลหิต ในพระศอของพระองค์มาล้างเท้าของหนอนโคมัยผัวของข้าพเจ้าเสีย

แล้วได้กล่าวคาถาเหล่านี้ด้วยภาษามนุษย์ในท่ามกลาง
บริษัทว่า :-
ประเทศนี้เราผู้มีความจงรักได้เที่ยวเล่น
อยู่กับพระเจ้าอัสสกะผู้เป็นพระสวามีที่รัก ผู้มี
ความประสงค์ตามความใคร่.
ความสุขและความทุกข์เก่า ถูกความสุข
และความทุกข์ใหม่ปกปิดไว้
เพราะฉะนั้นหนอน
จึงเป็นที่รักของเรายิ่งกว่าพระเจ้าอัสสกะอีก.


ตัดมาส่วนหนึ่งจาก...


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้าที่ 305

พระไตรปิฏกศึกษา-โรงเรียนวัดสามแยก
พระไตรปิฏกฉบับวัดสามแยก(สำหรับประชาชน) => เรื่องรูปร่าง...ในพระไตรปิฏก => ข้อความที่เริ่มโดย: thanadol ที่ มีนาคม 24, 2008, 08:15:51 am


--------------------------------------------------------------------------------
หัวข้อ: เมาในรูปตายแล้วเป็นหนอนกินขี้ (อัสสกชาดก)
เริ่มหัวข้อโดย: thanadol ที่ มีนาคม 24, 2008, 08:15:51 am
--------------------------------------------------------------------------------

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้าที่ 305


ในอดีตกาลพระราชาพระนามว่า อัสสกะ ครองราชสมบัติ
อยู่ในนครชื่อว่า ปาฏลิแคว้นกาสี. พระองค์มีอัครมเหสีพระนาม
ว่าอุพพรี เป็นที่รักใคร่โปรดปรานของพระองค์ มีรูปโฉมงดงาม
น่าดู มีพระฉวีเหนือมนุษย์ แต่ยังไม่ถึงวรรณะทิพย์. พระนางได้
สิ้นพระชนม์ลง. พระราชาทรงโศกาดูร เสวยทุกข์โทมนัสยิ่งนัก
เพราะการสิ้นพระชนม์ของพระนางนั้น. พระองค์ให้เชิญพระศพ
ของพระนางลงในรางแล้วใส่น้ำมันหล่อไว้ ยกไปตั้งไว้ใต้พระ-
แท่นไสยาสน์ ทรงอดพระกระยาหารบรรทมกันแสงปริเทวนาการ.
พระราชมารดาพระราชบิดา หมู่พระญาติมิตรอำมาตย์ พราหมณ์
คหบดีเป็นต้น พากันทูลปลอบโยนเป็นต้นว่า อย่าทรงเศร้าโศก
ไปเลย มหาราช สังขารทั้งหลาย เป็นของไม่เที่ยง ก็ไม่สามารถ
ให้พระองค์ยินยอมได้. พระองค์ทรงรำพันอยู่เช่นนั้นล่วงไป ๗ วัน.
ในกาลนั้นพระโพธิสัตว์เป็นดาบสสำเร็จอภิญญาห้าและสมาบัติ
แปด อยู่ในหิมวันตประเทศ เจริญอาโลกกสิณตรวจดูชมพูทวีป
ด้วยทิพยจักษุ เห็นพระราชาปริเทวนาการอยู่อย่างนั้น ดำริว่า
เราควรเป็นที่พึ่งของพระราชาพระองค์นั้น จึงเหาะไปบนอากาศ
ด้วยอิทธานุภาพ แล้วลงไปในพระอุทยานนั่งเหนือแผ่นมงคลสิลา
ราวกะว่า พระปฏิมาทองคำ.

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้าที่ 306

ครั้งนั้นมาณพพราหมณ์ชาวนครพาราณสีคนหนึ่ง ไป
พระอุทยานเห็นพระโพธิสัตว์จึงนั่งลงไหว้. พระโพธิสัตว์กระทำ
ปฏิสันถารกับมาณพนั้นแล้วถามว่า มาณพพระราชาทรงตั้งอยู่
ในธรรมหรือ. มาณพตอบว่า ขอรับพระคุณเจ้า พระราชาทรง
ตั้งอยู่ในธรรม แต่พระมเหสีของพระองค์สิ้นพระชนม์เสียแล้ว
พระองค์เชิญพระศพของพระนางไว้ในรางแล้วทรงบรรทม
พร่ำเพ้อรำพันวันนี้เป็นวันที่ ๗ พระคุณเจ้าจะไม่ช่วยพระราชา
ให้พ้นจากทุกข์บ้างหรือ เมื่อมีผู้มีศีล เช่นท่านสมควรจะให้
พระราชาเสวยทุกข์เช่นนั้นหรือ. พระโพธิสัตว์กล่าวว่า ดูก่อน
มาณพ เราไม่รู้จักพระราชา หากพระราชาจะเสด็จมาถามเรา
เรานี่แหละจะทูลบอกที่ที่พระมเหสีไปเกิด จะให้พระนางตรัส
สนทนากับพระราชาทีเดียว. มาณพนั้นกล่าวว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า
ถ้าเช่นนั้น ขอพระคุณเจ้านั่งรออยู่ที่นี้ จนกว่ากระผมจะทูลเชิญ
พระราชาเสด็จมา มาณพรับปฏิญญาของพระโพธิสัตว์แล้ว ไป
เฝ้าพระราชา กราบทูลความนั้น แล้วทูลพระองค์ควรเสด็จไป
ยังสำนักของท่านผู้มีจักษุทิพย์. พระราชาทรงดีพระทัยที่จะได้
ทรงเห็นพระนางอุพพรี. เสด็จขึ้นรถไปอุทยาน ไหว้พระโพธิสัตว์
แล้วนั่ง ณ ส่วนหนึ่งถามว่า ได้ยินว่าท่านรู้ที่เกิดของพระเทวี
จริงหรือ. พระโพธิสัตว์ทูลว่า จริงพระเจ้าข้า. ตรัสถามว่า เกิด
ที่ไหน. ทูลว่า ข้าแต่มหาราช พระนางทรงมัวเมาในรูป อาศัย
ความเมาไม่ทรงทำกรรมดี จึงไปเกิดในกำเนิดหนอนมูลโค. ตรัส

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้าที่ 307

ว่า ข้าพเจ้าไม่เชื่อ. ทูลว่า ถ้าเช่นนั้น อาตมาจะแสดงแก่พระองค์
แล้วให้พูด. ตรัสว่า ดีแล้ว จงให้พระนางพูดเถิด. พระโพธิสัตว์
ได้ทำให้หนอนสองตัวมาด้วยอานุภาพของตน โดยอธิษฐานว่า
ขอให้หนอนสองตัวจงชำแรกก้อนโคมัยออกมาเบื้องพระพักตร์
ของพระราชา. หนอนสองตัวก็ออกมาตามนั้น. พระโพธิสัตว์
เมื่อจะแสดงพระเทวี จึงกราบทูลว่า ข้าแต่มหาราช พระเทวี
อุพพรีนี้จากพระองค์ไปแล้ว เดินตามหลังหนอนโคมัยมา ขอ
พระองค์จงทอดพระเนตรเถิด. พระราชาตรัสว่า พระคุณเจ้า
ข้าพเจ้าไม่เชื่อว่า สัตว์ที่เกิดในกำเนิดหนอนโคมัยชื่ออุพพรี.
พระโพธิสัตว์ทูลว่า มหาบพิตร อาตมาภาพจะให้หนอนนั้นพูด.
ตรัสว่า ให้พูดเถิดพระคุณเจ้า.
พระโพธิสัตว์เมื่อจะให้หนอนพูดด้วยอานุภาพของตน จึง
เรียกว่า แน่ะนางอุพพรี. นางหนอนพูดเป็นภาษามนุษย์ว่า อะไร
เจ้าคะ. พระโพธิสัตว์ถามว่า ในอัตภาพที่ล่วงแล้วท่านเป็นอะไร.
ตอบว่า ข้าพเจ้าเป็นมเหสีของพระเจ้าอัสสกะ ชื่ออุพพรีเจ้าคะ.
ถามว่า ก็เดี๋ยวนี้พระราชาอัสสกะยังเป็นที่รักของเจ้าหรือว่า หนอน
โคมัยเป็นที่รักของเจ้า. ตอบว่า ท่านเจ้าขา พระราชาเป็นพระ-
สวามีของข้าพเจ้าในชาติก่อน ครั้งนั้นข้าพเจ้าเที่ยวชื่นชมรูป
เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะกับพระราชานั้นในอุทยานนี้ แต่เดี๋ยวนี้
ตั้งแต่ข้าพเจ้าไปต่างภพกันแล้ว พระราชาอัสสกะจะเป็นอะไรกับ
ข้าพเจ้าเล่า บัดนี้ข้าพเจ้าจะสังหารพระเจ้าอัสสกะ เอาพระโลหิต

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้าที่ 308

ในพระศอของพระองค์มาล้างเท้าของหนอนโคมัยผัวของข้าพเจ้า
เสีย แล้วได้กล่าวคาถาเหล่านี้ด้วยภาษามนุษย์ในท่ามกลาง
บริษัทว่า :-
ประเทศนี้เราผู้มีความจงรักได้เที่ยวเล่น
อยู่กับพระเจ้าอัสสกะผู้เป็นพระสวามีที่รัก ผู้มี
ความประสงค์ตามความใคร่.
ความสุขและความทุกข์เก่า ถูกความสุข
และความทุกข์ใหม่ปกปิดไว้ เพราะฉะนั้นหนอน
จึงเป็นที่รักของเรายิ่งกว่าพระเจ้าอัสสกะอีก.
ในบทเหล่านั้น บทว่า อยมสฺสกราเขน เทโส วิจริโต มยา
ความว่า อุทยานประเทศอันน่ารื่นรมย์นี้ เราเคยเที่ยวไปกับ
พระเจ้าอัสสกะ. คำว่า อนุ ในบทว่า อนุกามยกาเมน เป็น
เพียงนิบาต. ความว่า เราผู้มีความใคร่ต่อพระเจ้าอัสสกะนั้น
ได้เที่ยวเล่นกับพระเจ้าอัสสกะผู้ใคร่เรา. บทว่า ปิเยน ได้แก่
เป็นที่รักในอัตภาพนั้น. บทว่า นเวน สุขทุกฺเขน โปราณ อปิถิยฺยติ
ความว่า นางหนอนกล่าวว่า ท่านเจ้าขา สุขเก่าถูกสุขใหม่ปกปิด
ครอบงำ ทุกข์เก่าถูกทุกข์ใหม่ปกปิดครอบงำ นี้เป็นธรรมดา
ของโลก. บทว่า ตสฺมา อสฺสกรญฺาว กีโฏ ปิยตโร มม. ความว่า
เพราะสุขทุกข์เก่าถูกสุขทุกข์ใหม่ปกปิด ฉะนั้น หนอนจึงเป็นที่รัก
ของข้าพเจ้ายิ่งกว่าพระเจ้าอัสสกะร้อยเท่าพันเท่า.



แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 08 เม.ย. 2010, 11:31, แก้ไขแล้ว 8 ครั้ง.
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร