วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 08:29  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.พ. 2011, 00:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


รูปภาพ


วิธีดับทุกข์ เพราะ...ผัวเมีย

เรื่องของผัว-เมีย เป็นเรื่องธรรมดาของผู้ที่ครองเรือนจะต้องมี พระอริยะ ๒ พวกแรก คือ พระโสดาและพระสกิทาคา ก็ยังอยู่ครองเรือนได้

ถ้าผัวเมียทั่วไปมีกัลยาณศีล และกัลยาณธรรม คือ ศีล ๕ และธรรม ๕ แล้ว ครอบครัวนั้น ก็ย่อมมีความสุขตามโลกีย์วิสัยไม่มีปัญหาให้ผู้เขียนต้องนำมาดับกันในที่นี้

แต่ที่จะเขียนต่อไปนี้ หมายถึง ผัว เมีย ที่อยู่ด้วยกันแล้วเกิดมีความทุกข์ขึ้น จึงต้องหาทางแก้ และการแก้ในที่นี้ ก็จะแก้ที่กรรมปัจจุบัน ไม่พูดถึงกรรมในอดีต เพราะแก้ไม่ได้

ตามธรรมดาปุถุชนเต็มขั้น ย่อมจะต้องมีดีบ้างชั่วบ้างปะปนกันไป มากบ้างน้อยบ้าง การกระทบหรือขัดใจกัน จึงต้องมีเป็นธรรมดาของ "ลิ้นกับฟัน" คำของคนในอดีตจึงว่า

"อยู่คนเดียว ให้ระวังความคิด..อยู่กับมิตร ให้ระวังวาจา"

ผัวเมียที่จะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข หรือมีความทุกข์นั้น ขึ้นอยู่กับเหตุ ๒ ประการ คือ เสน่ห์กับเสนียด

เสน่ห์ คือมีสื่อที่ทำให้ผัวหรือเมียรัก เช่น พูดจาไพเราะอ่อนหว่าน พูดจริง พูดในสิ่งท่ควรพูด เป็นต้น การแต่งตัวสะอาดเรียบร้อยอยู่เสมอ ขยันในการบ้านเรือน หรือหน้าที่ของตน

ถ้าเป็นหญิง ก็ต้องทำกับข้าว จัดเสื้อผ้า และบ้านเรือนน่าอยู่น่านอน น่านั่ง ไม่หึงหวงจนเกินเหตุ ไม่ทำใจคับแคบ ไม่กีดกันญาติหรือเพื่อนของผัว เคารพ เกรงใจซึ่งกันและกัน ไม่นอกใจผัว รู้จักใช้จ่ายเป็นต้น

ถ้าเป็นชาย ก็ต้องขยันทำงาน ละสิ่งเสพติดต่าง ๆ ทำตัวเป็นผัวที่ดี เป็นพ่อที่ดีของลูก ไม่นอกใจเมีย เป็นต้น

ทั้งหญิงและชาย ควรศึกษาจิตใจของกันและกัน และพยายามถนอมน้ำใจกัน เป็นคนมีเหตุผล อย่าตามใจตน ก็ย่อมจะอยู่ด้วยกันยืดยาว และมีความสุขร่วมกัน

การอยู่ร่วมกันนาน ๆ แต่มีเรื่องขัดใจกัน จะพูดจะทำอะไรก็เอาลูกเป็นสื่อ นอนหันหลังให้กัน หรือแยกกันนอน มันจะมีความสุขได้อย่างไร?

เสนียด คือ มีแต่จัญไร และอัปมงคล พบกันก็มีแต่บ่นหรือด่า ฝ่ายที่ถูกบ่นหรือด่า ก็ไม่อยากอยู่ใกล้ ไม่อยากเข้าบ้าน ก็ต้องไปหาบ้านอยู่ใหม่ ถ้ามีลูกด้วยกันก็มีปัญหามาก

ขอให้มั่นใจเถิดว่า เมื่อมีปัญหาหรือความทุกข์เกิดขึ้น จะต้องมีการปฏิบัติผิดกฎของศีลและธรรมเกิดขึ้นแล้วไม่ฝ่ายผัวเมียหรือไม่ก็ทั้งสองฝ่าย

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


แก้ไขล่าสุดโดย Bwitch เมื่อ 23 ก.พ. 2011, 09:38, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.พ. 2011, 00:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มิ.ย. 2009, 09:55
โพสต์: 4062

แนวปฏิบัติ: มรณานุสสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: ตรงปลายจมูก

 ข้อมูลส่วนตัว


:b48: วิธีปฏิบัติ

ขั้นแรก ควรสำรวจตนเองก่อน ว่าเหตุที่เกิดขึ้นนี้เกิดจากอะไร ? ใครเป็นคนก่อ ? ถ้าเกิดจากเรา ก็จงยอมรับและรีบตัดสินใจแก้ในทันที

ถ้าปัญหานั้น เกี่ยวโยงถึงอีกฝ่ายหนึ่ง ก็ให้ปรึกษาหารือ ให้อยู่บนฐานแห่งความเป็นจริง แล้วร่วมกันแก้ ถ้าแก้ไม่ได้ ก็อาจปรึกษาท่านผู้รู้ต่อไป

อุปสรรคสำคัญที่ทำให้ผัวเมียต้องแตกกัน หรืออยู่ด้วยกันอย่างไร้ความสุข ก็คือ ทิฐิมานะ ดื้อรั้น เห็นแก่ตัวจัดจนขาดเมตตา คือความรักและปรารถนาดีต่อกัน

อีกประการหนึ่ง คือการขาดความรับผิด จะรับแต่ชอบอย่างเดียวมักจะโทษว่าคนอื่นผิดเสมอ เมื่อตัวทำผิดก็ไม่รับ และปกปิด ถ้าคนอื่นทำผิดแม้เล็กน้อย ก็ถือเป็นเรื่องใหญ่โต และจะนำมาพูดกระทบ ไม่รู้จักจบสิ้น

อันปุถุชนเดินดินนั้น ที่จะทำอะไรไม่ผิดเลยนั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้นอกจากจะไม่ทำอะไรเลย และการไม่ทำอะไรเลยนั้น ก็เป็นความผิดอีกคือ ผิดที่ไม่ทำ

อันวิสัยของคนดีนั้น เมื่อทำผิดแล้วก็ต้องยอมรับ และยอมแก้ไขไม่ให้เกิดผิดซ้ำอีก คนที่ทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิด เป็นคนสุขภาพจิตเสื่อม อยู่ที่ไหน ? กับใครก็เดือดร้อนที่นั่น คือเมื่อเกิดความผิดขึ้นก็จะป้ายไปให้ผู้อื่น เมื่อเกิดความดีก็จะรีบรับเอาเสียเอง ไม่ว่าจะชอบธรรมหรือไม่ก็ตาม

คนประเภทนี้ มีอยู่ในครอบครัวใด ครอบครัวนั้นก็หาความสันติสุขได้ยาก

ดังนั้น ผัวเมียคู่ใดต้องการความสุขในการครองเรือนร่วมกัน ควรปลูกฝังคุณธรรมในการครองเรือน ให้มีด้วยกันทั้งสองฝ่าย ชีวิตสมรสย่อมจะเดินไปตามทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างแท้จริง

ทางแก้

ควรใช้หลักธรรม ๓ ชุด คือ มีศีล ๕ ละเว้นอบายมุขและมีฆราวาสธรรมอีก ๔ ข้อ คือ
- ชุดศีล ๕ และธรรม ๕ ควรฝึกทำให้ได้
๑. ไม่ฆ่าสัตว์ (รวมทั้งคนด้วย) และมีเมตตา
๒. ไม่ลักทรัพย์ และมีสัมมาชีพ
๓. ไม่ผิดผัว-เมียคนอื่น และมีความสันโดษ คือการยินดีและพอในในคู่ครองของตนเท่านั้น หรือมีกามสังวร
๔. ไม่พูดเท็จ และมีสัจจะ
๕. ไม่ดื่มสุรา และมีสติ ไม่ประมาท

- ชุดอบายมุข ๖ ต้องเว้นให้ขาด
๑. การดื่มน้ำเมา
๒.การเป็นคนเจ้าชู้
๓.เล่นการพนัน
๔.การเที่ยวเตร่
๕.การคบคนชั่ว
๖.ความเกียจคร้าน

- ฆราวาสธรรม ๔ ควรมีประจำ
๑. สัจจะ สัตย์ซื่อและจริงใจต่อกัน
๒.ทมะ ฝึกฝนปรับปรุงตนให้ดีขึ้น
๓.ขันติ อดทนและอดกลั้นทุกสิ่ง
๔.จาคุแบ่งปันและสละมะเร็งในอารมณ์

ถ้าครอบครัวทั้งผัวเมีย ปฏิบัตธรรมเพียง ๓ ชุดเท่านี้ ขอรับรองว่าต้องมีความสุข ตามวิสัยของกัลยาปุถุชนอย่างแน่นอน
โปรดลองสำรวจดูสิว่า ท่านปฏิบัติบกพร่อง ในศีลและธรรมะ ๓ ชุดนี้บ้างไหม ? หรือสิ่งเหล่านี้ ไม่เป็นปัญหาให้ท่านต้องทุกข์ก็ขอผ่านไปยังจุดที่เป็นปัญหาให้เกิดทุกข์ได้อีก คือ

๑. การจู้จี้ พูดมาก ขี้บ่น ข้อนี้ส่วนมากเป็นแก่แม่บ้าน ส่วนพ่อบ้านก็มีบ้างแต่น้อย ต้นเหตุเพราะ คนในบ้านไม่ให้ความร่วมมืออะไร ๆ จึงมาตกแก่แม่บ้านหมด ทั้งงานนอกงานใน ขี้เยี่ยวไม่ออกก็แม่บ้านคนเดียว ถ้า "ทำใจ" คือวางและปลงไม่ได้ โรคประสาทก็จะมาเยือนอย่างแน่นอน

ทางแก้ ทั้งพ่อบ้าน แม่บ้านและลูกบ้าน ควรร่วมมือกัน อะไรพอทำได้ก็ควรช่วยกัน และแม่บ้านที่ฉลาด ก็ไม่ควรจะผูกขาดงานในบ้านเสียคนเดียว ใคร ๆ ทำให้ก็ไม่ถูกใจ ควรฝึกให้ลูก ๆ ขยันและช่วยตัวเองให้มาก

๒. การเอาแต่ใจตัว คือชอบทำอะไรเผด็จการ ไม่ปรึกษาหารือกันก่อน ผัวเมียแม้มีสองร่าง (ตัว) แต่ควรมีหัวใจเดียวกัน บ้านจึงจะสันติสุขควรเป็นคนมีเหตุผล อย่าทำอะไรตามทาสของอารมณ์แม้ว่าการทำเช่นนั้นจะไม่ทำให้ครอบครัวแตกแยกก็จริง แต่ต้องนอนหันหลังให้กัน มันจะมีความสุขทั้งกายและใจได้อย่างไร ?

ทางแก้ ควรควบคุมอารมณ์ ก่อนทำหรือพูดควรมีสติ และปัญญากำกับด้วย เราไม่ชอบสิ่งใด ก็ไม่ควรทำหรือพูดสิ่งนั้น ควรลด ทิฐิมานะ และอุปาทานให้มาก เอาเหตุผลและความถูกต้องเป็นแนวทาง

๓. ควรมีสันโดษ คือ พอใจสิ่งที่มี และยินดีในสิ่งที่ได้ อย่าเทียบฐานะกับคนที่ด้อยกว่า แล้วใจจะเป็นสุข

๔. ครอบครัวแสนสุข คือ ทั้งพ่อแม่และลูก ควรอยู่ในศีลธรรมทางศาสนา มีความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ และผู้มีพระคุณ

๕. การหย่าร่าง เมื่อมีความจำเป็นต้องแยกกัน ควรระลึกถึงลูก ๆ ให้มาก การมีพ่อแม่ การมีแม่ขาดพ่อ หรือการอยู่กับพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงนั้น ยากนักที่ลูก ๆ จะได้รับความรักและความอบอุ่น มักจะเป็นเด็กที่มีปัญหาแก่สังคม อย่าได้ทิ้งเวรกรรมไว้กับลูกเล็ก ๆ เลย เขายังอ่อนต่อโลกและชีวิตนัก

จากคู่มือดับทุกข์
:b48: http://www.dhammathai.org/book/dubtuk01.php

.....................................................
~ นิพพานัง ปัจจโยโหตุ ~


แก้ไขล่าสุดโดย Bwitch เมื่อ 23 ก.พ. 2011, 09:42, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.พ. 2011, 03:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2011, 02:26
โพสต์: 1


 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านผู้หญิงโปรดฟังทางนี้ และท่านผู้ชายพึงระลึกไว้ด้วยว่า .....

กรุณา.....อย่า

Onion_L
โยนความผิดให้อีกฝ่าย
เคยไหมที่คำว่า “คุณไม่เคยเข้าใจฉันเลย” ทำให้อะไร ๆ กลับยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิม คุณอาจจะเมินหน้าหนี ไม่พูดไม่จากัน คุณอาจจะหันหลังให้กันในขณะที่บรรยากาศแห่งความน่าอึดอัดนั้นจะยังคง อัดแน่นอยู่ในหัวใจ…
นั่นเพราะความเข้าใจกันเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้ความรักมั่นคง คุณจึงไม่ควรโทษว่าความผิดพลาดหรือการกระทบกระทั่งกันด้วยเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ นั้น เป็นผลมาจากการที่อีกฝ่ายหนึ่งไม่ใส่ใจหรือรักที่นับวันจะยิ่งลดน้อยลงจนคุณรู้สึกได้บางครั้งมันอาจจะไม่เป็นเช่นนั้น เรื่องของคนสองคนไม่จำเป็นที่จะต้องมีคนผิดเสมอไปท้ายที่สุดคุณอาจพบว่าเรื่องจริงของความไม่เข้าใจนั้นอาจเกิดจากการที่คุณสองคนไม่รู้จักปรับตัวเข้าหากันก็เป็นได้ :b23:

Onion_L
ยกเอาจุดอ่อนของอีกฝ่ายขึ้นมาพูด
เมื่อถึงจุดหนึ่งที่คุณไม่รู้จะยกอ้างสรรหาคำพูดอะไรที่จะมาด่าทอใส่กัน คุณอาจจะพลั้งเผลอยกเอาข้อด้อยของอีกฝ่ายขึ้นมาพูดอย่างไร้เหตุผลคุณเชื่อไหม…หลายคู่ต้องจบกันด้วยสาเหตุจากเรื่องไม่เป็นเรื่องเช่นนี้เอง ไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่คุณจะหยิบยกเอาจุดอ่อนของคนรักขึ้นมาพูดเพราะก่อนที่คุณจะคบกันนั่นหมายความว่าคุณสามารถยอมรับความเป็นตัวเขาหรือเธอได้ตั้งแต่แรกแล้ว ดีไม่ดีการกระทำเช่นนี้อาจทำให้คุณดูแย่ลงในสายตาคนรักและสุดท้ายคุณอาจจะกลายเป็นคนผิดในเรื่องนั้น ๆ ก็เป็นได้ :b5:

Onion_L
ขุดเรื่องเก่าขึ้นมาพูดเป็น “ครั้งที่ล้าน”
เรื่องเก่า ๆ ก็คือเรื่องที่ผ่านมาแล้ว ประโยชน์อะไรที่คุณจะไปรื้อฟื้นมันขึ้นมาเพื่อทำให้บรรยากาศที่มันคุกรุ่นอยู่แล้วยิ่งแยาลงไปอีก คุณรู้ไหมว่าการกระทำเช่นนั้นนอกจากจะไม่ทำให้กลับมาคืนดีกัน ความรักที่คุณสองคนเคยมีให้แก่กันก็รังแต่จะลดน้อยลงไปกว่าเดิมอีกด้วย :b14:

Onion_L
ตำหนิกันไปมา
เป็นเรื่องดีหากคนสองคนจะเปิดใจพูดกันว่าต่างฝ่ายต่างมีข้อเสียที่ต้องปรับปรุงอย่างไรแต่บรรยากาศที่ไม่เป็นใจอาจทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้าย คุณคงไม่อาจเปิดใจกว้างรับฟังคำตำหนิจากอีกฝ่ายในขณะที่ความโกรธเข้าครอบงำจตใจเป็นแน่ ถ้าอยากจะติเตียนกันแล้วล่ะก็…รอให้อารมณ์เย็นกว่านี้ก่อนดีไหม? :b6:

Onion_L
โยนข้าวของใส่กัน
ข้าวของในที่นี่คงไม่ได้หมายความว่าเป็นการปาหมอนใส่กันอย่างในมิวสิควิดีโอ แต่เป็นของใกล้มือ ไม่ว่าจะแก้วน้ำ จาน ชาม ของแข็ง หรืออาจจะของมีคม ที่ให้ผลไม่ดีด้วยประการทั้งปวง เพราะนอกจากของจะเสียแล้ว คุณก็อาจจะเจ็บตัว และยังได้แผลเป็นของแถมจากการทะเลาะกันอีกด้วย :b34:

Onion_L
ใช้คำหยาบ
คงเป็นเรื่องแย่ถ้าหากคุณจะต้องทนฟังถ้อยคำหยาบคายจากอีกฝ่าย ซึ่งมันคงจะไม่แปลกอะไรหรอกถ้าฝ่ายนั้นเป็นผู้ชาย ดังนั้นคุณสาว ๆ โปรดจำไว้ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายสักแค่ไหน ถ้าคำหยาบจะหลุดจากปากก็ขอให้เป็นวิธีสุดท้ายที่จะเลือกใช้อย่าปล่อยให้บรรยากาศพาไปเป็นอันขาดเชียว เพราะนอกจากจะทำให้ผู้หญิงเราดูแย่แล้ว เปอร์เซ็นต์ที่จะเลิกกันก็มีสูงตามไปด้วย :b21:

Onion_L
พาดพิงไปถึงพ่อแม่พี่น้องหรือเพื่อนของอีกฝ่าย
อย่าปล่อยให้เรื่องส่วนตัวกลายเป็นเรื่องส่วนรวมคุณอาจจะทะเลาะกันก็ขอให้อยู่แต่ในบ้าน แต่อย่าได้พาลไปถึงคนอื่นเป็นอันขาดเชียว โดยเฉพาะคุณสาว ๆ พึงรู้เอาไว้ว่าเรื่องเพื่อนสำหรับผู้ชายถือเป็นของต้องห้ามคุณพาดพิงแม้เพียงนิดเดียว เรื่องเล็ก ๆ มันอาจจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตขึ้นมาได้ ในขณะเดียวกันคุณก็ไม่ควรกล่าวอ้างไปถึงญาติพี่น้องเขาด้วย เพราะนอกจากจะเป็นการลามปามอย่างไม่รู้กาละเทศะ คุณก็อาจกลายเป็นยายตัวร้ายในสายตาคนรักโดยไม่รู้ตัว :b7:

Onion_L
ไม่พูดด้วย
ไม่เสมอไปที่ความเงียบจะทำให้คนสองคนเข้าใจกัน การไม่พูดไม่จาอาจทำให้ได้ผลดีบางครั้ง แต่คุณสาว ๆ ต้องอย่าลืมว่าในเรื่องที่ละเอียดอ่อนมนุษย์ผู้ชายที่มาจากดาวอังคารเขาไม่มีวันเข้าใจ การปิดหากเงียบจึงไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้อง คุณควรลดทิฐิในตัวเองลงเสียบ้างแล้วหันมาเปิดอกคุยกันด้วยความละมุนละไมจะดีกว่า :b16:

:b4: ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที่ทำให้ผิดใจ แต่สิ่งที่ทำให้ความรักมั่นคงอยู่ได้ก็ขึ้นอยู่กับคนสองคนเป็นสำคัญ น้ำตาที่เสียมันคอยแต่จะกัดกร่อน กินหัวใจกันไป คิดถึงตอนที่ทำดีให้แก่กันมามากมาย ตอนที่รักกันได้ยังไง คิดเสียว่าบางทีช่วงเวลาที่แย่ ๆ เหล่านั้นอาจช่วยทำให้รักของคุณแข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิม เรื่องทางโลกถ้าหนีออกมายังไม่ได้ ขอให้จงอยู่ด้วยสติ มีศีลครองตัวครองใจ เรื่องร้าย ๆ ก็จะทุเลาเบาบางลง ระลึกไว้เสมอว่า สามี หรือ ภรรยา เลิกกันก็เป็นคนอื่นไป เราจะไปยึดติดอะไรกับแค่สังขาร ขอให้รักตัวเองก่อนแต่ไม่ใช่เห็นแก่ตัว คนมีเมตตา สัตว์โลกทั้งหลายก็อยากอยู่ใกล้ :b4:

:b8: ขออนุโมทนาด้วยค่ะ ขอให้ท่านทั้งหลายประสบโชคดีเรื่องของความรักนะคะ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.พ. 2011, 08:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7872

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8: :b8: :b8: :b20: โมทนาสาธุการด้วยค่ะ

แม่มดน้อย Bwitch และคุณตัวไกลวัดแต่ใจศรัทธา

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร