วันเวลาปัจจุบัน 25 ส.ค. 2025, 03:47  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


- สถานที่ปฏิบัติธรรม
แนะนำรายชื่อสถานที่ปฏิบัติธรรมกรรมฐานทั่วประเทศ
http://www.dhammajak.net/forums/viewforum.php?f=9

- รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=30



กลับไปยังกระทู้  [ 27 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2012, 20:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


อ้างคำพูด:
สึกอุปสมบทใหม่

[๕๐๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้
ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่ได้ปิดบังไว้แล้วสึก
เธออุปสมบทใหม่ ไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้น พึงให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ฯ

[๕๐๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้
ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ไม่ได้ปิดบังไว้แล้วสึก
เธออุปสมบทใหม่ ปิดบังอาบัติเหล่านั้น

พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ฯ

[๕๑๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้
ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ปิดบังไว้แล้วสึก
เธออุปสมบทใหม่ ไม่ปิดบังอาบัติเหล่านั้น

พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อน แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ฯ

[๕๑๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้
ต้องอาบัติสังฆาทิเสสหลายตัว ปิดบังไว้แล้วสึก
เธออุปสมบทใหม่ ปิดบังอาบัติเหล่านั้น

พึงให้ปริวาสในกองอาบัติตามที่ปิดบังไว้ครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัตแก่ภิกษุนั้น ฯ

------------------------------------------------------
พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๖ จุลวรรค ภาค ๑
มานัตหนึ่งร้อย สึกอุปสมบทใหม่
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka1/v ... 655&Z=7210

-ไม่ได้ปิดบัง สึกไปแล้ว กลับเข้ามาบวชใหม่ ไม่ปิดบัง ให้มานัต
-ไม่ได้ปิดบัง สึกไปแล้ว กลับเข้ามาบวชใหม่ ปิดบัง ให้ปริวาสในกองอาบัติครั้งหลัง แล้วให้มานัต
-ปิดบังไว้ สึกไปแล้ว กลับเข้ามาบวชใหม่ ไม่ปิดบัง ให้ปริวาสในกองอาบัติครั้งก่อน แล้วให้มานัต
-ปิดบังไว้ สึกไปแล้ว กลับเข้ามาบวชใหม่ ปิดบัง ให้ปริวาสในกองอาบัติครั้งก่อนและหลัง แล้วให้มานัต


เหลือให้เลือกสองกรณีนะครับ กลับเข้ามาบวชใหม่ แล้วเปิดเผยไม่ปิดบัง
สงฆ์ก็จะให้อยู่ปริวาส นับมานัต คือจำนวนวันเดือนปีที่เคยปิดบังไว้ในครั้งก่อน
ราตรีไม่ขาด อยู่กรรมครบ สงฆ์ก็จะอัภพาน ออกจากครุกาบัติสังฆาทิเสสให้

รายละเอียด ปริวาส มานัต อัภพาน ศึกษาเพิ่มเติมจาก link ที่โยมพี่สาวิกา
ทำ link ไว้ให้ได้เลยครับละเอียดดีแล้ว อนุโมทนาสาธุ ^^

ความจริงมีหลายความเห็นที่คิดว่า หากบอกคืนสิกขาบทแล้ว ก็แล้วกันไป
คือไม่มีอาบัติสำหรับฆราวาส อันนี้ก็ทรงมีข้อบัญญัติ
เรียกว่า มานัตหนึ่งร้อย เอาไว้แล้ว จะทำตามก็ได้ไม่ทำตามก็ได้
แต่กระนั้นก็เพื่อความบริสุทธิ์หมดจดของพรหมจรรย์ของตนเอง
แม้จะสึกสิกขาลาเพศไปแล้ว ก็ยังได้รับผล ได้รับอานิสงส์


อ้างคำพูด:
ประโยชน์แห่งวินัยเป็นต้น

[วินัยเป็นข้อปฏิบัติให้บรรลุความหลุดพ้นจากกิเลสเป็นที่สุด]

ก็อีกประการหนึ่ง กุศลธรรมเหล่าใดซึ่งมีสังวรเป็นมูล อันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้แล้ว, บุคคลผู้ทรงวินัยนั่นแล ชื่อว่าเป็นทายาทแห่งกุศลธรรมเหล่านั้น เพราะธรรมเหล่านั้นมีวินัยเป็นมูล.

สมจริงดังคำที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า

วินัย ย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่สังวร (ความสำรวม), สังวรย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่อวิปปฏิสาร (ความไม่เดือดร้อน), อวิปปฏิสารย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่ความปราโมทย์, ความปราโมทย์ย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่ปีติ (ความอิ่มใจ), ปีติย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่ปัสสัทธิ (ความสงบ), ปัสสัทธิย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่ความสุข, ความสุขย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่สมาธิ (ความตั้งใจมั่น), สมาธิย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่ยถาภูตญาณทัสสนะ (ความรู้เห็นตามเป็นจริง), ยถาภูตญาณทัสสนะย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่นิพพิทา (ความเบื่อหน่าย), นิพพิทาย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่วิราคะ (ความสำรอกกิเลส), วิราคะย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่วิมุตติ (ความหลุดพ้น), วิมุตติย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่วิมุตติญาณทัสสนะ (ความรู้เห็นความหลุดพ้น), วิมุตติญาณทัสสนะย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่อนุปาทาปรินิพพาน (ความดับสนิทหาเชื้อมิได้), การกล่าว การปรึกษา กิริยานั่งใกล้ความเงี่ยโสตลงสดับ แต่ละอย่างๆ มีอนุปาทาปรินิพพาน คือ ความพ้นพิเศษแห่งจิต ไม่ถือมั่น นั่นเป็นผล. เพราะฉะนั้น ควรทำความพยายามโดยเอื้อเฟื้อในการเล่าเรียนพระวินัย ดังนี้แล.
----------------------------------------------------
อรรถกถา มหาวิภังค์ ปฐมภาค
http://www.84000.org/tipitaka/attha/att ... 8%E0%B8%94

เหตุผลที่หากกลับมาบวชก็ต้องทำคืน เพราะอาบัติท่านแบ่งไว้มีสองลักษณะ
คือ ที่ทำคืนได้ กับทำคืนไม่ได้ หรือมีเศษเหลือ กับไม่มีเศษเหลือ ก็นัยเดียวกัน
ที่เหลือเศษ คือยังมีความผิด ต่อกุศลกรรม ต่อความดีงามของตนเอง
[แม้ลดภาวะตนเอง เวียนไปสู่คฤหัสถ์] บอกลาสิกขา ไม่ถือ สังฆาทิเสสที่ ๑ แล้วก็ตาม
นั่นเพื่อมุ่งต่อความบริสุทธิ์ของจิตใจ ท่านจึงให้เราสามารถแก้ไขอาบัติหนัก
ชั่วหยาบ ได้ด้วยการ อยู่ปริวาส นับมานัต อัพพาน
ส่วนอาบัติเบา ไม่ชั่วหยาบ แสดงการปลงอาบัติ ก็ออกจากอาบัติได้ นับตั้งแต่วันสึก

ส่วนที่ติดที่ทำคืนไม่ได้ เช่น อาบัติสังฆาทิเสส ก็หมดไปทุกข้อบัญญัติเมื่อลาสิกขา
ส่วนกรรมน่าติเตียน ที่สมมติกันว่าเป็นสิ่งไม่ดีงามสำหรับพรหมจรรย์ หากไม่รักษา
กรรมที่ทำเอาไว้แล้ว ก่อเอาไว้แล้ว ย่อมมีวิบากตามมาแน่นอน เช่น ความเดือดเนื้อร้อนใจ
ความไม่สบายใจต่างๆ นาๆ หากคิดว่าคืน สิกขาบท จึงไม่มีผลแก่บุคคล ก็เท่ากับว่าปฏิเสธ
เรื่องของกรรมและผลของกรรมใน สัมมาทิฏฐิ ๑๐ ข้อ ๔
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA% ... 0%E0%B8%B4
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=6&t=30703

เป็นมิจฉาทิฏฐิบุคคลโดยแท้ ^^

ดังนั้น คืนแต่สิกขาบท (สีลสิกขา) ส่วนกรรมดีก็ตามชั่วก็ตามที่กระทำแล้ว
บุคคลนั่นเองย่อมเป็นทายาทแห่งกรรมนั้นๆ มีกรรมนั้นๆ เป็นกำเนิด มีกรรมนั้นเป็นเผาพันธ์ุ...

แต่เมื่อคืนกลับมา ถือประพฤติพรหมจรรย์ เพื่อความบริสุทธิ์หลุดพ้น
ก็ต้องแก้โทษ ที่ตนได้ล่วงเกินไป แสดงความผิด ความละอาย
เพื่อความสำรวม เพื่อระวังในกาลต่อๆ ไป

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ยุคสมัยเปลี่ยนไป ความเข้าใจคุณของการบวช มีน้อย
จึงอาจทำให้กุลบุตรประมาทขาดความระมัดระวัง

หากบุคคลที่เลือกที่จะปกปิดไม่ทำคืน ก็จะมีผลมีโทษต่อเฉพาะบุคคลนั้นๆ นั่นเอง
ไม่ว่าจะเป็นภิกษุหรือ ฆราวาส เพราะ

[วินัยเป็นข้อปฏิบัติให้บรรลุความหลุดพ้นจากกิเลสเป็นที่สุด]

หากเดือดร้อน ไม่สบายใจ ไม่สงบ ตนเองก็ตำหนิติเตียนตนเองได้
ทั้งถูกผู้อื่นตำหนิติเตียน นี่แหละ โทษของ ความวิบัติแห่งศีล คือถูกปรามาส
เพราะความที่ตนไม่สามารถ รักษาพระธรรมวินัยไว้ได้

หากดูแคลนศีล ปล่อยศีล แล้วมีจิตใจชั่วหยาบ พุทธบัญญัติที่สมมติให้รักษา
ให้ศึกษา เพื่อพ้นไปจากกิเลส ถึงเป็นของสมมติที่ผู้รู้ วิญญูชนคนประเสริฐ
ทั้งหลายเขาต่างก็สมมติกันว่าดีงาม ยังประพฤติผิด ทำผิด ไม่เข้าใจโดยแท้

ป่วยการกล่าวไปถึงคุณธรรมขั้นอื่นๆ ที่อาศัยศีลเป็นบาทฐานยิ่งๆ ขึ้นไป
บุคคลเหล่านั้นย่อมห่างไกลจากพระสัทธรรม เป็นคนพาล
แต่สำคัญตนว่าเป็นบัณฑิต มาทำความเอื้อเฟื้อใส่ใจ ศีล กันนะครับ เจริญพร ^^

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2012, 15:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:
แจ่มแจ้งดีแท้ กับเมตตาและกรุณาของท่านพุทธฎีกา ที่คัดสรรธรรมมาแสดงได้ตรงประเด็น
สาธู้.... ๆ...... ๆ

:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2012, 19:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


พุทธฏีกา เขียน:

หากดูแคลนศีล ปล่อยศีล แล้วมีจิตใจชั่วหยาบ พุทธบัญญัติที่สมมติให้รักษา
ให้ศึกษา เพื่อพ้นไปจากกิเลส ถึงเป็นของสมมติที่ผู้รู้ วิญญูชนคนประเสริฐ
ทั้งหลายเขาต่างก็ สมมติกันว่าดีงาม ยังประพฤติผิด ทำผิด ไม่เข้าใจโดยแท้

ป่วยการกล่าวไปถึง คุณธรรมขั้นอื่นๆ ที่อาศัย ศีล เป็นบาทฐานยิ่งๆ ขึ้นไป
บุคคลเหล่านั้นย่อมห่างไกลจากพระสัทธรรม เป็นคนพาลแต่สำคัญตน-
ว่าเป็นบัณฑิต
มาทำความเอื้อเฟื้อใส่ใจ ศีล กันนะครับ เจริญพร ^^


:b8: :b8: :b8:

:b16: :b16: :b16:
:b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2012, 04:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
อ้างคำพูด:

หากดูแคลนศีล ปล่อยศีล แล้วมีจิตใจชั่วหยาบ พุทธบัญญัติที่สมมติให้รักษา
ให้ศึกษา เพื่อพ้นไปจากกิเลส ถึงเป็นของสมมติที่ผู้รู้ วิญญูชนคนประเสริฐ
ทั้งหลายเขาต่างก็ สมมติกันว่าดีงาม ยังประพฤติผิด ทำผิด ไม่เข้าใจโดยแท้

ป่วยการกล่าวไปถึง คุณธรรมขั้นอื่นๆ ที่อาศัย ศีล เป็นบาทฐานยิ่งๆ ขึ้นไป
บุคคลเหล่านั้นย่อมห่างไกลจากพระสัทธรรม เป็นคนพาลแต่สำคัญตน-
ว่าเป็นบัณฑิต
มาทำความเอื้อเฟื้อใส่ใจ ศีล กันนะครับ เจริญพร ^^


:b8: :b8: :b8:

:b16: :b16: :b16:
:b32:

คำสอนของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล "คิดเท่าไรก็ไม่รู้ ต่อเมื่อหยุดคิดจึงรู้"

เชื่อได้ส่วนใหญ่ เข้ามาในนี้เพื่อหาวิธีไปสู่นิพพาน นั้นเป็นจุดหมายหลัก
ดังนั้นผู้ที่จะเป็นครู จะต้องเข้าใจจุดมุ่งหมายที่แท้ของผู้ฟังด้วย จึงจะเป็นครูผู้สอนที่ดี
ศีลเป็นธรรมเบื้องต้นของชาวพุทธ ที่ทุกคนรู้ดีและปฏิบัติกันมาเป็นปกติ
แต่ธรรมของพระพุทธเจ้ามีจุดหมายปลายทางที่ไกลกว่านั้น
ดังนั้นการสอนให้อยู่กับศีลดีครับ แต่การสอนให้ยึดมั่นถือมั่นกับศีลเป็นทุกข์
ต้องเข้าใจว่าศีลคืออะไร
ศีลคือการอยู่อย่างปกติหรือการเข้าไปยึดมั่นถือมั่นกันแน่ ต้องแยกให้ถูก

สอนคนถ้าสอนตามจุดมุ่งหมายของพระพุทธเจ้า
ต้องมีความเข้าใจและมั่นเอาหลักนั้นมาเป็นเหตุเป็นประธาน
ไม่เช่นนั้น มันจะเป็นการสอนให้บุคคลย่ำอยู่กับที่ เดินวนอยู่กับวัฏฏสงสาร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2012, 07:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
:b8: :b8: :b8:


ทางปฏิบัตติอันถูกชอบ

ฉะนั้น สีลัพพตุปาทานดังกล่าวมานี้ ก็มิใช่ว่าจะเป็นสิ่งที่ทุกคนจะพากันละพากันทิ้งได้ หรือเป็นสิ่งที่เป็นของไม่ดี จำเป็นที่จะต้องแบ่งตามภูมิตามชั้น กล่าวคือถ้าเป็นศีลและวัตรในภายนอกพุทธศาสนา อันเป็นศีลและวัตรที่ผิดต่างๆ นั่นก็เป็นอันว่าผู้นับถือพุทธศาสนา ก็ต้องละต้องเว้นไปโดยลำดับ และมาถึงศีลและวัตรในพุทธศาสนาเอง ก็จะต้องละต้องเว้นเหมือนกัน แต่ว่าก่อนที่จะละจะเว้นก็ต้องสมาทาน คือต้องรับถือปฏิบัติก่อน และจะต้องอาศัยตัณหาเพื่อละตัณหาดังกล่าวมานั้น คือยังจะต้องมีสีลัพพตปรามาส สีลัพพตุปาทาน อยู่ในการปฏิบัติมาโดยลำดับ แต่ว่าก็ยึดและปล่อยไปเป็นขั้นๆ เหมือนอย่างคนเดินขึ้นบันไดซึ่งมีหลายขั้น ก็ต้องขึ้นไปทีละขั้น และขั้นที่กำลังขึ้นอยู่นั้น ก็จะต้องเหยียบอยู่บนบันไดทั้งสองเท้าในขั้นนั้น ดั่งนี้เรียกว่ายังมีสีลัพพตปรามาสสีลัพพตุปาทานอยู่ในขั้นนั้น แต่ว่าที่จะก้าวขึ้นขั้นต่อไปนั้น ก็จะต้องละขั้นที่กำลังยืนอยู่นั้น ก้าวขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง คือว่าปล่อยขั้นที่กำลังยืนอยู่ทีแรกนั้น ถ้าหากว่าไม่ปล่อยขั้นที่กำลังยืนอยู่ทีแรกนั้น ยังคงยืนอยู่ในขั้นเดิมนั่นแหละ ก็แปลว่าก้าวขึ้นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องปล่อยขั้นที่ ๑ ก้าวขึ้นไปสู่ขั้นที่ ๒ ก็จะต้องยึดขั้นที่ ๒ ทรงตัวอยู่ในขั้นที่ ๒ แล้วก็ปล่อย เดินขึ้นไปเป็นขั้นๆ ดั่งนี้ จึงจะขึ้นสูงขึ้นไปได้โดยลำดับ จนถึงขั้นสุดท้ายแล้วก็เป็นอันว่าปล่อยได้หมด ดั่งนี้

เพราะฉะนั้น ในทางพุทธศาสนาที่แสดงธรรมะอันละเอียดนี้ จึงไม่ใช่หมายความว่า ข้อที่แสดงนั้นเป็นสิ่งที่มีโทษ ต้องละเสียหมดตั้งแต่เบื้องต้น ถ้าละเสียหมดตั้งแต่เบื้องต้นแล้ว ก็เป็นอันว่าปฏิบัติอะไรไม่ได้ เหมือนอย่างว่ามีบันได ก็เป็นอันว่าขึ้นบันไดกันไม่ได้ เพราะขึ้นบันไดแล้วก็จะต้องเหยียบขึ้นไปทีละขั้น ถ้าสอนว่าอย่าให้เหยียบ เหยียบแล้วไปยึด อย่างนี้ก็เป็นอันว่าไม่ต้องขึ้นบันไดกัน แล้วเป็นอันว่าก้าวขึ้นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้น ก็จะต้องยึด จะต้องปล่อย ไปโดยลำดับดั่งนี้ ให้เป็นขั้นๆ ไป นี้กล่าวในข้อที่เป็นข้อที่พึงปฏิบัติ คือเป็นทางปฏิบัติอันถูกชอบ แต่ว่าถ้าเป็นทางปฏิบัติอันไม่ถูกไม่ชอบแล้วก็ต้องปล่อยเสียทีเดียว ไม่ต้องไปทดลองก่อน เช่นว่าเว้นจากการฆ่า มีเมตตากรุณา ก็ไม่ต้องไปทดลองฆ่าเสียก่อนแล้วจึงเว้น ละเสียทีเดียว แต่ในข้อที่พึงปฏิบัตินั้น ก็ให้ปฏิบัติไป แล้วก็ต้องก้าวขึ้นไปเป็นขั้นๆ ดังกล่าวมานี้ ดั่งนี้เป็นอธิบายในสีลัพพตุปาทาน ความยึดถือศีลและวัตร

:b8: สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน ที่ชาวพุทธควรรู้
พระนิพนธ์ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=30&t=42529

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2012, 09:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 20:58
โพสต์: 36

แนวปฏิบัติ: ยุบหนอ-พองหนอ
งานอดิเรก: ฟังเพลง
ชื่อเล่น: เด่น
อายุ: 32

 ข้อมูลส่วนตัว


สรุปว่า อาบัติสังฆาทิเสส ถ้าลาสิกขาเป็นคฤหัสถ์ก็ไม่ต้องกังวล เพราะไม่มีผลปิดกั้นสวรรค์หรือมรรคผลแต่อย่างใด สร้างกุศลตามฐานะของตน ก็บรรลุคุณธรรมชั้นสูงได้ แต่ถ้าหวนคืนสู่เพศบรรพชิต ก็จำเป็นที่จะต้องกระทำคืนหรือแก้ไขให้ถูกต้องตามพุทธบัญญัติ :b8: :b8: :b35:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2012, 11:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 18:54
โพสต์: 615

สิ่งที่ชื่นชอบ: พระไตรปิฏก อรรถกถา
ชื่อเล่น: พุทธฏีกา
อายุ: 0
ที่อยู่: ดอยสัพพัญญู

 ข้อมูลส่วนตัว www


denchai เขียน:
สรุปว่า อาบัติสังฆาทิเสส ถ้าลาสิกขาเป็นคฤหัสถ์ก็ไม่ต้องกังวล เพราะไม่มีผลปิดกั้นสวรรค์หรือมรรคผลแต่อย่างใด สร้างกุศลตามฐานะของตน ก็บรรลุคุณธรรมชั้นสูงได้ แต่ถ้าหวนคืนสู่เพศบรรพชิต ก็จำเป็นที่จะต้องกระทำคืนหรือแก้ไขให้ถูกต้องตามพุทธบัญญัติ :b8: :b8: :b35:

อนุโมทนาสาธุ^^

.....................................................
39777.กฎกติกา มารยาท และบทลงโทษ ในการใช้บอร์ด

42529.สีลัพพตปรามาส - สีลัพพตุปาทาน (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)
44772.e-Book สัมมาทิฏฐิ ตามพระเถราธิบายของท่านพระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 1 (ลานธรรมเสวนา)
พระไตรปิฎกมาแล้ว อรรถกถาอยู่ตรงไหน ตอนที่ 2 (ลานธรรมเสวนา)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 พ.ย. 2015, 13:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 05:25
โพสต์: 620


 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss :b8:
ขออนุโมทนาสาธุค่ะ
กระทู้นี้ประโยชน์มากสำหรับพระบวชใหม่ และผู้ที่คิดจะบวชพระ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 พ.ค. 2019, 12:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ธ.ค. 2008, 09:34
โพสต์: 1321


 ข้อมูลส่วนตัว


4Aขออนุโมทนาสาธุการค่ะ :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มิ.ย. 2024, 21:24 
 
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ย. 2012, 15:32
โพสต์: 2962


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ก.ย. 2024, 09:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 มิ.ย. 2009, 10:51
โพสต์: 2813


 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ส.ค. 2025, 21:15 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2562

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b39: :b44: ขออนุโมทนา สาธุๆๆ ค่ะ
:b8: :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 27 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร