วันเวลาปัจจุบัน 16 ก.ย. 2025, 07:32  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านนิทาน จากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=5



กลับไปยังกระทู้  [ 2685 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 108, 109, 110, 111, 112, 113, 114 ... 179  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์ เมื่อ: 05 มี.ค. 2019, 18:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
เมื่อนั้น ก็ใช้วาจาอ่อนหวานชักนำบุรุษไปได้ เหมือน
ชาวกัมโพชลวงม้าด้วยสาหร่าย ฉะนั้น เมื่อใด หญิง
ทั้งหลายผู้มุ่งหวังไม่เห็นทรัพย์ของบุรุษที่ควรถือเอาได้
เมื่อนั้น ย่อมละทิ้งบุรุษนั้นไป เหมือนคนข้ามฟากถึง
ฝั่งโน้นแล้วละทิ้งแพไป ฉะนั้น หญิงทั้งหลายเปรียบ
ด้วยเครื่องผูกรัด กินทุกอย่างเหมือนเปลวไฟ มีมายา

กล้าแข็งเหมือนแม่น้ำมีกระแสเชี่ยว ย่อมคบบุรุษได้
ทั้งที่น่ารักทั้งที่ไม่น่ารัก เหมือนเรือจอดไม่เลือกฝั่งนี้
และฝั่งโน้น ฉะนั้น หญิงทั้งหลายไม่ใช่ของบุรุษคน
เดียวหรือสองคน ย่อมรับรองทั่วไปเหมือนร้านตลาด

ผู้ใดสำคัญมั่นหมายหญิงเหล่านั้นว่า ของเรา ก็เท่ากับ
ดักลมด้วยตาข่าย แม่น้ำ หนทาง ร้านเหล้า สภา
และบ่อน้ำ ฉันใด หญิงในโลกก็ฉันนั้น เขตแดนของ
หญิงเหล่านั้นไม่มี หญิงทั้งหลายเสมอด้วยไฟกินเปรียง
เปรียบด้วยงูเห่า ย่อมเลือกคบแต่บุรุษที่มีทรัพย์ เหมือน

โคเลือกกินหญ้าที่ดี ๆ ในภายนอก ฉะนั้น ไฟกินเปรียง
๑ ช้างสาร ๑ งูเห่า ๑ พระราชาผู้ได้รับมูรธาภิเษก
แล้ว ๑ หญิงทั้งปวง ๑ สิ่งทั้ง ๕ นี้ นรชนพึงคบด้วย
ความระวังเป็นนิตย์ เพราะสิ่งทั้ง ๕ นี้ มีความแน่นอน
ที่รู้ได้ยากแท้ หญิงที่งามเกินไป ๑ หญิงที่คนหมู่มาก

รักใคร่ ๑ หญิงที่เหมือนมือขวา ๑ หญิงที่เป็นภรรยา
คนอื่น ๑ หญิงที่คบหาด้วยเพราะเหตุแห่งทรัพย์ ๑
หญิง ๕ จำพวกนี้ ไม่ควรคบ.


+ ผูกมิตรด้วยการให้ ผู้ใจด้วยความดี อยากมีดีก็ต้องสร้างสมกันเอง
+ คิดว่าตนดีแล้วจึงมิคิดจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขตนเอง
คิดว่าตนยังไม่ดีจึงคิดเปลี่ยนแปลงแก้ไขและปรับปรุงตนเอง
+ รักลูกมากเลี้ยงลูกดีเกินไป ระวังจะเสียใจภายหลัง
+ ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งใช้ยิ่งมาก
เพราะความมักมากจึงทำจิตให้ตกต่ำ
+ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร
เวรย่อมระงับด้วยการให้อภัย
เวรย่อมระงับด้วยจิตที่เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสต์ เมื่อ: 05 มี.ค. 2019, 18:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
ในคาถาเหล่านั้นมีอรรถาธิบายว่า คำว่า หยาบช้า หมายความว่าร้าย
กาจ. คำว่า หยาบช้า นี้ ท่านกล่าวหมายถึงหญิงที่มีความกำหนัดรักใคร่ แม้ใน
โจรที่เขาผูกนำไปฆ่า ดุจในเรื่องกณเวรชาดกฉะนั้น. คำว่า ใจเบา อธิบายว่า
เพียงชั่วครู่เดียวเท่านั้น ก็มีใจเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เรื่องหญิงใจเบานี้ บัณฑิตพึง
แสดงด้วยเรื่องจุลลธนุคคหชาดก ส่วนความเป็นผู้ไม่รู้จักคุณคน ของพวก

หญิงเหล่านี้ บัณฑิตพึงแสดงด้วยเรื่องตักการิยชาดก ในเอกนิบาต. คำว่า
ไม่ถูกผีสิง อธิบายว่า บุรุษที่ไม่ถูกเทวดาเข้าสิง หรือไม่ถูกยักษ์เข้าสิง
หรือไม่ถูกภูตผีเข้าสิงไม่ควรเชื่อหญิงผู้มีวาทะว่าตนเป็นผู้มีศีลพรตเลย ส่วน
บุรุษที่ถูกภูตเข้าสิงจึงควรเชื่อ. คำว่า สิ่งที่ทำแล้ว หมายถึงอุปการคุณที่คนอื่น

ทำแล้วแก่ตน. คำว่า สิ่งที่ควรทำ หมายถึงกิจที่ตนควรทำ. คำว่า ไม่รู้
จักมารดา อธิบายว่า หญิงเหล่านี้ละทิ้งญาติแม้ทั้งหมด ชื่อว่า ย่อมไม่รู้จัก
แม้มารดาเป็นต้น เพราะคอยติดตามบุรุษที่ตนมีจิตรักใคร่ผู้เดียวเท่านั้น ดุจ
มารดาของมหาปันถกุฏุมพี. คำว่า เป็นคนเลว ได้แก่ ไม่มียางอาย. คำว่า

ของตน หมายถึงใจของตัวเอง. คำว่า เมื่อมีอันตราย หมายถึงอันตราย
ทุกชนิด. คำว่า กิจ หมายถึงหน้าที่ที่ควรกระทำนั้น ๆ คำว่า ลุ่ม ๆ ดอน ๆ
คือ ขึ้น ๆ ลง ๆ เหมือนอย่างว่าเงาไม้ในประเทศที่มีพื้นที่ไม่เสมอกัน ย่อมลง
ไปสู่ที่ลุ่มบ้าง ขึ้นไปสู่ที่ดอนบ้าง ฉันใด แม้ใจของหญิงเหล่านั้นก็เหมือนกัน
ย่อมไม่เลือกว่าใคร ๆ ทั้งสูงสุดและต่ำสุด คำว่า ไหวไปไหวมา คือไม่

ตั้งอยู่ในที่เดียว. คำว่า ล้อรถ อธิบายว่า ใจของหญิงย่อมหมุนไปเหมือน
กงล้อที่หมุนไปตามเกวียนฉะนั้น. คำว่า ที่ควรจะถือเอาได้ หมายถึงทรัพย์
อันเป็นวัตถุที่ตนควรจะถือเอาได้ คำว่า ทรัพย์ หมายถึงทรัพย์ทุกชนิด.
คำว่า ชักพาไป คือ นำพาไปสู่อำนาจของตน.


+ ผูกมิตรด้วยการให้ ผู้ใจด้วยความดี อยากมีดีก็ต้องสร้างสมกันเอง
+ คิดว่าตนดีแล้วจึงมิคิดจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขตนเอง
คิดว่าตนยังไม่ดีจึงคิดเปลี่ยนแปลงแก้ไขและปรับปรุงตนเอง
+ รักลูกมากเลี้ยงลูกดีเกินไป ระวังจะเสียใจภายหลัง
+ ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งใช้ยิ่งมาก
เพราะความมักมากจึงทำจิตให้ตกต่ำ
+ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร
เวรย่อมระงับด้วยการให้อภัย
เวรย่อมระงับด้วยจิตที่เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสต์ เมื่อ: 05 มี.ค. 2019, 19:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
คำว่า ด้วยสาหร่าย หมายถึงสาหร่ายที่เกิดในน้ำ ได้ยินว่า
เมื่อชาวกัมโพชทั้งหลายปรารถนาจะจับม้าจากป่า จึงกั้นคอกลงในที่แห่งหนึ่ง
ตกแต่งประตูแล้วเอาน้ำผึ้งทาสาหร่ายที่ลอยอยู่บนน้ำ ที่พวกม้าป่าเคยกิน
แล้ว ทอดหญ้าบนฝั่งให้ต่อเนื่องกับสาหร่ายต่อ ๆ ไปจนถึงประตูคอกทา
น้ำผึ้งตลอดมา พวกม้าป่าลงไปดื่มน้ำแล้วเที่ยวกินหญ้าทาน้ำผึ้ง ด้วยติด

ใจในรส ก็ย่อมเข้าไปสู่ที่นั้นโดยลำดับ. พวกชาวกัมโพชเหล่านั้น
ล่อม้าด้วยสาหร่ายนำไปสู่อำนาจได้ ฉันใด แม้หญิงเหล่านี้เห็นทรัพย์
แล้วย่อมชักนำบุรุษไปสู่อำนาจ ด้วยถ้อยคำอันละเอียดอ่อนหวานเพราะ
ต้องการจะเอาทรัพย์นั้นด้วยประการฉะนี้. คำว่า แพ หมายถึงสิ่งที่

ผูกมัดกันเข้าอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่ยึดถือเอาเมื่อต้องการจะข้ามฟาก. คำว่า
อุปมาเหมือนเครื่องผูกมัด อธิบายว่า เช่นกับเครื่องผูกรัด เพราะผูกใจ
บุรุษทั้งหลายไว้. คำว่า มีมายากล้าแข็ง คือมีมายาหลักแหลม มีมายาเร็ว.
คำว่า เหมือนแม่น้ำ อธิบายว่า หญิงทั้งหลายมีมายาเร็วพลัน เหมือนแม่น้ำ

ซึ่งมีน้ำตกลงมาจากภูเขา ย่อมมีกระแสน้ำเชี่ยว ฉะนั้น. คำว่า เหมือน
ร้านตลาด อธิบายว่า ร้านตลาดที่เขาวางของขาย ย่อมมีอุปการะแก่ทรัพย์
ที่มีมูลค่าเหล่านั้น ฉันใด แม้พวกหญิงเหล่านั้นก็เหมือนกัน คำว่า ผู้ใด
อธิบายว่า บุรุษผู้ใดสำคัญว่าหญิงเหล่านั้นเป็นของตน คำว่า ดัก อธิบายว่า

บุรุษนั้นพึงดักลมด้วยตาข่าย. คำว่า ฝั่งฝาของเขาไม่มีเลย อธิบายว่า
สถานที่มีแม่น้ำเป็นต้นเหล่านี้ ย่อมไม่มีความขีดคั้นว่า จะพึงไปได้ในที่นี้ ใน-
เวลาโน้นเท่านั้น บุคคลพึงเข้าไปได้ในขณะที่ตนปรารถนาแล้ว ๆ ทั้งกลางคืน
ทั้งกลางวันไม่มีกำหนดว่า คนชื่อโน้นเท่านั้นจึงจะเข้าไปได้ ผู้มีความประสงค์
จะเข้าไป ก็ย่อมเข้าไปได้ทุกคนฉันใด แม้ความขีดคั้นของพวกหญิงเหล่านี้
ก็ย่อมไม่มีฉันนั้นเหมือนกัน.


+ ผูกมิตรด้วยการให้ ผู้ใจด้วยความดี อยากมีดีก็ต้องสร้างสมกันเอง
+ คิดว่าตนดีแล้วจึงมิคิดจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขตนเอง
คิดว่าตนยังไม่ดีจึงคิดเปลี่ยนแปลงแก้ไขและปรับปรุงตนเอง
+ รักลูกมากเลี้ยงลูกดีเกินไป ระวังจะเสียใจภายหลัง
+ ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งใช้ยิ่งมาก
เพราะความมักมากจึงทำจิตให้ตกต่ำ
+ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร
เวรย่อมระงับด้วยการให้อภัย
เวรย่อมระงับด้วยจิตที่เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสต์ เมื่อ: 05 มี.ค. 2019, 19:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
คำว่า เสมอด้วยไฟอันกินเปรียง อธิบายว่า ไฟย่อมไม่อิ่ม
ด้วยเชื้อ ฉันใด แม้หญิงเหล่านี้ ก็ย่อมไม่อิ่มด้วยความยินดีในกิเลส
ฉันนั้นเหมือนกัน. คำว่า อุปมาเหมือนหัวงูเห่า อธิบายว่า หญิง
ทั้งหลายเช่นกับหัวงูเห่า ด้วยเหตุ ๕ ประการเหล่านี้ คือ เป็นผู้มักโกรธ ๑
มีพิษร้าย ๑ ผูกโกรธไว้ ๑ มีลิ้นชั่ว ๑ มักจะประทุษร้ายมิตร ๑ บรรดาเหตุ

ทั้ง ๕ อย่างนั้น บัณฑิตพึงทราบว่า มีพิษร้ายเพราะมีความกำหนัดมาก มี
ลิ้นชั่ว เพราะกล่าวคำส่อเสียดประทุษร้ายมิตร เพราะมักประพฤตินอกใจสามี.
คำว่า เหมือนโคที่เลือกกินหญ้าในภายนอก อธิบายว่า โคทั้งหลายละทิ้ง
สถานที่ซึ่งตนเคยหากินแล้ว เลือกกินแต่หญ้าที่อร่อย ๆ ที่ตนชอบใจในภายนอก
ฉันใด เเม้หญิงเหล่านั้นก็เหมือนกัน ย่อมละทิ้งบุรุษที่หมดทรัพย์สิน แล้วคบ

กับชายที่มีทรัพย์คนอื่นต่อไปอีก. คำว่า ได้มูรธาภิเษก หมายถึงพระเจ้า-
แผ่นดิน. คำว่า หญิง หมายถึงหญิงทั้งหมด คำว่า นี้ หมายถึงชนทั้ง ๕
จำพวกเหล่านี้. คำว่า ด้วยความระวังเป็นนิตย์ อธิบายว่า นรชนพึงเป็น
ผู้มีความระวังอยู่เป็นนิตย์ มีสติตั้งอยู่อย่างมั่นคง คือ เป็นผู้ไม่ประมาท. คำว่า

รู้ได้ยาก คือรู้ได้แสนจะลำบาก คำว่า สภาพที่แน่นอน หมายถึงอัธยาศัย
อธิบายว่า จริงอยู่ ไฟถึงจะบำเรออยู่นาน ถ้าเผลอก็ไหม้เอาได้ ช้างสารที่
คุ้นเคยกันมานานก็ยังฆ่าคนเลี้ยงได้ งูเห่าแม้เลี้ยงไว้จนเชื่อง ถ้าประมาทก็กัด


+ ผูกมิตรด้วยการให้ ผู้ใจด้วยความดี อยากมีดีก็ต้องสร้างสมกันเอง
+ คิดว่าตนดีแล้วจึงมิคิดจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขตนเอง
คิดว่าตนยังไม่ดีจึงคิดเปลี่ยนแปลงแก้ไขและปรับปรุงตนเอง
+ รักลูกมากเลี้ยงลูกดีเกินไป ระวังจะเสียใจภายหลัง
+ ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งใช้ยิ่งมาก
เพราะความมักมากจึงทำจิตให้ตกต่ำ
+ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร
เวรย่อมระงับด้วยการให้อภัย
เวรย่อมระงับด้วยจิตที่เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสต์ เมื่อ: 05 มี.ค. 2019, 19:01 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
คนเลี้ยงได้ พระราชาแม้จะทรงโปรดปราน ถ้าพลั้งก็ถึงชีวิต หญิงทั้งหลาย
ก็เหมือนกัน ถึงจะคลุกคลีกันมาเป็นเวลาสักเพียงไร ถ้าเกิดไม่พอใจ ก็อาจจะ
ฆ่าให้ถึงตายได้. คำว่า หญิงที่งามเกิน อธิบายว่า หญิงที่สวยงามเกินไป
ผู้ชายไม่ควรคบหาด้วย. คำว่า หญิงที่คนหมู่มากรักใคร่ หมายถึงหญิง
อันเป็นที่รักใคร่ เป็นที่ชอบใจของชายเป็นอันมาก ประหนึ่งหญิงงามเมือง ที่

คนพอใจตั้งครึ่งแคว้นกาสี ชายไม่ควรคบ. คำว่า หญิงที่เหมือนมือขวา
หมายถึงหญิงที่สันทัดในการฟ้อนรำและการขับร้อง จริงอยู่ หญิงเช่นนั้นย่อม
มีคนปรารถนามาก มีเพื่อนมาก เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรคบ. คำว่า หญิงที่
เห็นแก่ทรัพย์ อธิบายว่า หญิงใดคบชายเพราะเห็นแก่ทรัพย์อย่างเดียว
หญิงนั้นแม้ไม่มีใครหวงแหน ชายก็ไม่ควรคบหา ด้วยว่าหญิงชนิดนั้น เมื่อ
ไม่ได้ทรัพย์ย่อมเกรี้ยวกราด.

เมื่อพญานกกุณาละกล่าวอย่างนี้แล้ว มหาชนได้ฟังคาถาอันไพเราะ
ของมหาสัตว์ ก็ให้สาธุการว่า น่าชมเชย ท่านกล่าวดีจริง ๆ แม้พญานก
กุณาละนั้นได้กล่าวโทษของหญิงทั้งหลาย ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้แล้วก็นิ่งอยู่

พญาแร้งชื่อว่า อานนท์ ได้ฟังคำนั้นแล้ว จึงกล่าวว่า ดูก่อนพญานกกุณาละ
ผู้เป็นสหาย แม้ข้าพเจ้าก็จักขอกล่าวโทษของพวกหญิงตามกำลังความรู้ของ
ข้าพเจ้าบ้าง ว่าแล้วก็ปรารภกถาแสดงโทษต่อไป.

พระศาสดา เมื่อจะทรงแสดงเรื่องราวที่พญาแร้งปรารภกถาแสดงโทษ
ของหญิงนั้น จึงตรัสว่า ได้ยินว่า ในครั้งนั้น พญาแร้งชื่ออานนท์ รู้แจ้งซึ่งคาถา
เบื้องต้น ท่ามกลาง และเบื้องปลายของพญานกกุณาละแล้ว จึงได้ภาษิตคาถา
เหล่านี้ในเวลานั้นว่า

ถ้าบุรุษจะพึงให้แผ่นดินอันเต็มด้วยทรัพย์นี้ แก่
หญิงที่ตนนับถือไซร้ หญิงนั้นได้โอกาสก็จะพึงดูหมิ่น
บุรุษนั้น เราจึงไม่ยอมตกอยู่ในอำนาจของพวกหญิง
เผอเรอ เมื่อมีอันตรายและเมื่อกิจธุระเกิดขึ้น หญิง
ย่อมละทิ้งผัวหนุ่มผู้หมั่นขยัน มีความประพฤติไม่
เหลาะแหละ เป็นที่รักเป็นที่พอใจ เพราะฉะนั้น เรา
จึงไม่วิสาสะกับหญิงทั้งหลาย บุรุษไม่ควรวางใจว่า


+ ผูกมิตรด้วยการให้ ผู้ใจด้วยความดี อยากมีดีก็ต้องสร้างสมกันเอง
+ คิดว่าตนดีแล้วจึงมิคิดจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขตนเอง
คิดว่าตนยังไม่ดีจึงคิดเปลี่ยนแปลงแก้ไขและปรับปรุงตนเอง
+ รักลูกมากเลี้ยงลูกดีเกินไป ระวังจะเสียใจภายหลัง
+ ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งใช้ยิ่งมาก
เพราะความมักมากจึงทำจิตให้ตกต่ำ
+ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร
เวรย่อมระงับด้วยการให้อภัย
เวรย่อมระงับด้วยจิตที่เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสต์ เมื่อ: 05 มี.ค. 2019, 19:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
หญิงคนนี้ปรารถนาเรา ไม่ควรวางใจว่า หญิงคนนี้
ร้องไห้กระซิกกระซี้เรา เพราะว่า หญิงทั้งหลายย่อม
คบได้ทั้งบุรุษที่น่ารัก ทั้งบุรุษที่ไม่น่ารัก เหมือนเรือ
จอดได้ทั้งฝั่งโน้นฝั่งนี้ ฉะนั้น ไม่ควรวิสาสะกะใบไม้
ลาดที่เก่า ไม่ควรวิสาสะกะมิตรเก่าที่เป็นโจร ไม่ควร
วิสาสะกะพระราชาว่า เป็นเพื่อนของเรา ไม่ควร

วิสาสะกะหญิงแม้จะมีลูก ๑๐ คนแล้ว ไม่ควรวิสาสะ
ในหญิงที่กระทำความยินดีให้ เป็นผู้ล่วงศีลไม่สำรวม
ถึงแม้ภรรยาจะพึงเป็นผู้มีความรักแน่นแฟ้น ก็ไม่ควร
วางใจ เพราะว่าหญิงทั้งหลายเสมอกับท่าน้ำ หญิง
ทั้งหลายพึงฆ่าชายก็ได้ พึงตัดเองก็ได้ พึงใช้ให้ผู้อื่น
ตัดก็ได้ พึงตัดคอแล้วดื่มเลือดกินก็ได้ อย่าพึงกระทำ

ความสิเนหาในหญิงผู้มีความรักใคร่อันเลวทราม ผู้ไม่
สำรวม ผู้เปรียบเหมือนด้วยท่าน้ำ.

คำเท็จของหญิงเหมือนคำจริง คำจริงของหญิง
เหมือนคำเท็จ หญิงทั้งหลายย่อมเลือกคบแต่ชายที่มี
ทรัพย์ ดังโคเลือกกินหญ้าที่ดี ๆ ในภายนอก หญิง
ทั้งหลายย่อมประเล้าประโลมชายด้วยการเดิน การ

จ้องดู ยิ้มแย้ม นุ่งผ้าหลุด ๆ ลุ่ย ๆ และพูดเพราะ
หญิงทั้งหลายเป็นโจรหัวใจแข็งดุร้าย เป็นน้ำตาลกรวด
ย่อมไม่รู้อะไร ๆ ว่าเป็นเครื่องล่อลวงในมนุษย์ ธรรมดา
หญิงในโลกเป็นคนลามก ไม่มีเขตแดน กำหนัดนัก
ทุกเมื่อและคะนองกินไม่เลือก เหมือนเปลวไฟไหม้
เชื้อทุกอย่าง บุรุษชื่อว่าเป็นที่รักของหญิงไม่มี ไม่เป็น
ที่รักก็ไม่มี.


+ ผูกมิตรด้วยการให้ ผู้ใจด้วยความดี อยากมีดีก็ต้องสร้างสมกันเอง
+ คิดว่าตนดีแล้วจึงมิคิดจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขตนเอง
คิดว่าตนยังไม่ดีจึงคิดเปลี่ยนแปลงแก้ไขและปรับปรุงตนเอง
+ รักลูกมากเลี้ยงลูกดีเกินไป ระวังจะเสียใจภายหลัง
+ ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งใช้ยิ่งมาก
เพราะความมักมากจึงทำจิตให้ตกต่ำ
+ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร
เวรย่อมระงับด้วยการให้อภัย
เวรย่อมระงับด้วยจิตที่เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสต์ เมื่อ: 05 มี.ค. 2019, 19:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
เพราะหญิงทั้งหลายย่อมคบบุรุษได้ทั้งที่รักทั้งที่
ไม่น่ารักเหมือนเรือจอดได้ทั้งฝั่งนี้และฝั่งโน้น.
บุรุษชื่อว่าเป็นที่รักของหญิงไม่มี ไม่เป็นที่รักก็
ไม่มี หญิงย่อมผูกพันชายเพราะต้องการทรัพย์ เหมือน
เถาวัลย์พันไม้ หญิงทั้งหลายย่อมติดตามชายที่มีทรัพย์

ถึงจะเป็นคนเลี้ยงช้าง เลี้ยงม้า เลี้ยงโค คนจัณฑาล
สัปเหร่อ คนเทหยากเยื้อก็ช่าง หญิงทั้งหลายย่อม
ละทิ้งชายผู้มีตระกูลแต่ไม่มีอะไร เหมือนซากศพ แต่
ติดตามชายเช่นนั้นได้ เพราะเหตุแห่งทรัพย์.

ในคาถาเหล่านั้นมีอรรถาธิบายว่า คำว่า เบื้องต้นท่ามกลางและ
เบื้องปลาย คือ พญาแร้งรู้แจ้งซึ่งเบื้องต้น ท่ามกลางและเบื้องปลายแห่งคาถา.
คำว่า ได้ช่อง คือได้โอกาส. คำว่า อยากได้เรา อธิบายว่า บุรุษไม่พึงวิสาสะ
กับหญิงทั้งหลายด้วยคิดว่า หญิงนี้อยากได้เรา. คำว่า ใบไม้ลาดที่เก่า อธิบาย
ว่า บุรุษไม่พึงวิสาสะกับใบไม้ลาดซึ่งเก่าที่เขาลาดไว้แล้ว เมื่อวานนี้ หรือใน

วันก่อน ๆ เมื่อยังมิได้ลองตบ ๆ ดูก่อน หรือยังมิได้พิจารณาแล้ว ไม่พึงใช้สอย
ด้วยว่าสัตว์เลื้อยคลานพึงเข้าไปอาศัยอยู่ หรือว่าศัตรูพึงซุกศาสตราไว้ในเครื่อง
ลาดนั้น. คำว่า เพื่อนเก่าที่เป็นโจร อธิบายว่า โจรซึ่งซุ่มอยู่ในที่ที่คอย
ประทุษร้ายคนเดินทาง บุคคลไม่ควรวิสาสะว่าเป็นมิตรเก่าของเรา เพราะ

ธรรมดาว่า โจรทั้งหลายย่อมฆ่าคนที่รู้จักตัวเสียทีเดียว. คำว่า เป็นเพื่อน
ของเรา อธิบายว่า ด้วยว่า พระราชานั้นมักกริ้วโกรธได้อย่างรวดเร็ว เพราะ


+ ผูกมิตรด้วยการให้ ผู้ใจด้วยความดี อยากมีดีก็ต้องสร้างสมกันเอง
+ คิดว่าตนดีแล้วจึงมิคิดจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขตนเอง
คิดว่าตนยังไม่ดีจึงคิดเปลี่ยนแปลงแก้ไขและปรับปรุงตนเอง
+ รักลูกมากเลี้ยงลูกดีเกินไป ระวังจะเสียใจภายหลัง
+ ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งใช้ยิ่งมาก
เพราะความมักมากจึงทำจิตให้ตกต่ำ
+ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร
เวรย่อมระงับด้วยการให้อภัย
เวรย่อมระงับด้วยจิตที่เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสต์ เมื่อ: 05 มี.ค. 2019, 21:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
ฉะนั้น บุคคลจึงไม่ควรวิสาสะกับพระราชาว่า เป็นเพื่อนของเรา. คำว่า มีลูก
สิบคน อธิบายว่า บุรุษไม่พึงวิสาสะด้วยคิดว่า หญิงนี้แก่แล้ว บัดนี้คงจะ
ไม่ประพฤตินอกใจ จักรักษาตนดังนี้. คำว่า ทำความยินดี อธิบายว่า
กระทำความยินดีแก่พวกชนพาล. คำว่า เป็นผู้ล่วงศีล คือเป็นผู้ก้าวล่วงศีล

เสียแล้ว. คำว่า มีความรักอันฝังแน่น อธิบายว่า ถึงแม้ว่าหญิงจะมีความรัก
ฝังแน่น แม้เป็นเช่นนั้นบุคคลก็ไม่พึงวิสาสะกับหญิงนั้น ถามว่า เพราะ
เหตุไร ? ตอบว่า เพราะหญิงทั้งหลายเสมอด้วยแม่น้ำ อธิบายว่า ธรรมดา
หญิงย่อมเป็นของทั่วไป แก่ชายทั้งหมดเปรียบเหมือนท่าน้ำ. คำว่า พึงฆ่า

อธิบายว่า หญิงทั้งหลายที่โกรธสามี หรือมีความรักใคร่ชายอื่น พึงกระทำ
การฆ่าเป็นต้นนี้ทั้งหมด. คำว่า มีความรักใคร่อันเลวทราม คือมีอัธยาศัย
อันเลว. คำว่า ความรักใคร่ อธิบายว่า อย่าได้ทำความสิเนหาในพวกหญิง
เห็นปานนี้. คำว่า เสมอด้วยท่าน้ำ คือเช่นกับท่าน้ำ ด้วยอรรถว่าทั่วไป
แก่หมู่ชนทั้งหมด.

คำว่า เท็จ คือคำมุสาวาทของหญิงเหล่านั้น เช่นกับคำจริง
ทีเดียว. คำว่า ด้วยการเดินเป็นต้น อธิบายว่า บัณฑิตพึงแสดงอุมมา-
ทันตีชาดก ด้วยการจ้องดู และการเล้าโลม พึงแสดงเรื่องนฬินิกาชาดก ด้วย
การนุ่งผ้าไม่มิดชิด พึงแสดงเรื่องของพระนันทเถระมีคำเป็นต้นว่า ข้าแต่บุตร
แห่งเจ้า ขอท่านพึงรีบมาไว ๆ เถิดดังนี้ ด้วยการพูดไพเราะ คำว่า เป็นโจร

คือหญิงทั้งหลายเป็นโจรด้วยนำทรัพย์ที่สามีหามาได้ให้พินาศไป. คำว่า หัวใจ
แข็ง คือมีดวงใจอันแข็งกระด้าง. คำว่า ดุร้าย คือ มีใจคิดประทุษร้าย
อธิบายว่า มักโกรธด้วยเหตุเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น. คำว่า บ่นเป็นน้ำ-
ตาลกรวด คือเป็นประดุจน้ำตาลกรวดด้วยการบ่นแต่ถ้อยคำที่หาประโยชน์
มิได้. คำว่า ลามก คือเป็นผู้หาความยั้งคิดมิได้ เป็นผู้เลวทราม. คำว่า
ย้อมด้วยกิเลส อธิบายว่า เป็นผู้มีความกำหนัดในกาลทุกเมื่อ คำว่า คะนอง
คือเป็นผู้คะนองด้วยความคะนองกายเป็นต้น คำว่า เหมือนเปลวไฟ อธิบายว่า
เปลวไฟย่อมกินเชื้อทั้งหมดไม่เลือกฉันใด แม้หญิงเหล่านั้นก็เหมือนกัน ย่อม


+ ผูกมิตรด้วยการให้ ผู้ใจด้วยความดี อยากมีดีก็ต้องสร้างสมกันเอง
+ คิดว่าตนดีแล้วจึงมิคิดจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขตนเอง
คิดว่าตนยังไม่ดีจึงคิดเปลี่ยนแปลงแก้ไขและปรับปรุงตนเอง
+ รักลูกมากเลี้ยงลูกดีเกินไป ระวังจะเสียใจภายหลัง
+ ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งใช้ยิ่งมาก
เพราะความมักมากจึงทำจิตให้ตกต่ำ
+ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร
เวรย่อมระงับด้วยการให้อภัย
เวรย่อมระงับด้วยจิตที่เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสต์ เมื่อ: 05 มี.ค. 2019, 21:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
กินทุกอย่างไม่เลือกฉันนั้น. คำว่า ย่อมคลุกคลี อธิบายว่า กระเสือกกระสน
เคล้าคลึงพัวพัน. คำว่า เหมือนเถาวัลย์ อธิบายว่า เถาวัลย์ย่อมพันต้นไม้
ฉันใด แม้หญิงเหล่านั้นถึงจะเกาะชาย ชื่อว่าย่อมเกาะทรัพย์. คำว่า เป็นคน
เลี้ยงช้าง อธิบายว่า บรรดาคนเลี้ยงช้างเป็นต้น คนเลี้ยงโคเรียกกันว่าโค
บุรุษ. คำว่า สัปเหร่อ หมายถึงคนเผาศพ อธิบายว่า คนเฝ้าป่าช้า. คำว่า
เทหยากเยื่อ ได้แก่บุคคลที่ทำความสะอาดในสถานที่อันสกปรก. คำว่า มีทรัพย์

อธิบายว่า บรรดาบุคคลเหล่านี้ทั้งหมด หญิงย่อมติดตามชายที่มีทรัพย์. คำว่า
ไม่มีอะไร หมายถึงไม่มีทรัพย์ คำว่า เช่นว่า คือเช่นกับคนจัณฑาลที่กิน
เนื้อหมา หญิงทั้งหลายย่อมถึง คือย่อมคบบุรุษแม้ไม่มีคุณวิเศษด้วยทรัพย์นั้น
เพราะฉะนั้น หญิงทั้งหลายจึงโดดติดตามชาย เพราะเหตุแห่งทรัพย์.

พญาแร้ง ชื่อว่าอานนท์ ดำรงอยู่ในความรู้ของตนกล่าวโทษ แห่ง
หญิงทั้งหลายอย่างนี้แล้วก็นิ่งอยู่ นารทฤษีได้ฟังคำของพญาแร้งอานนท์นั้น
แล้ว ก็ดำรงอยู่ในญาณของตน กล่าวโทษแห่งหญิงเหล่านั้นบ้าง.

พระศาสดาเมื่อจะทรงแสดงถึงเรื่องนารทฤษี กล่าวโทษแห่งหญิงจึง
ตรัสว่า ได้ยินว่า ครั้งนั้นพราหมณ์ฤษีชื่อว่านารทะ รู้แจ้งชัดซึ่งเบื้องต้น ท่าม
กลางและเบื้องปลายแห่งคาถาของพญาแร้งชื่อว่าอานนท์แล้ว จึงกล่าวคาถา
เหล่านี้ในเวลานั้นว่า

ดูก่อนพญานกทิชัมบดี ท่านทั้งหลายจงฟังข้าพเจ้า
กล่าว มหาสมุทร ๑ พราหมณ์ ๑ พระราชา ๑ หญิง ๑ ทั้ง
๔ อย่างนี้ย่อมไม่เต็ม แม่น้ำสายใดสายหนึ่ง อาศัยแผ่นดิน
ไหลไปสู่มหาสมุทร แม่น้ำเหล่านั้นก็ยังมหาสมุทรให้

เต็มไม่ได้ เพราะฉะนั้น มหาสมุทรชื่อว่าไม่เต็ม เพราะ
ยังพร่อง ส่วนพราหมณ์เรียนเวทอันมีการบอกเป็นที่ ๕
ได้แล้ว ยังปรารถนาการเรียนยิ่งขึ้นไปอีก เพราะ
ฉะนั้น พราหมณ์จึงชื่อว่าไม่เต็ม เพราะยังพร่อง


+ ผูกมิตรด้วยการให้ ผู้ใจด้วยความดี อยากมีดีก็ต้องสร้างสมกันเอง
+ คิดว่าตนดีแล้วจึงมิคิดจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขตนเอง
คิดว่าตนยังไม่ดีจึงคิดเปลี่ยนแปลงแก้ไขและปรับปรุงตนเอง
+ รักลูกมากเลี้ยงลูกดีเกินไป ระวังจะเสียใจภายหลัง
+ ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งใช้ยิ่งมาก
เพราะความมักมากจึงทำจิตให้ตกต่ำ
+ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร
เวรย่อมระงับด้วยการให้อภัย
เวรย่อมระงับด้วยจิตที่เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสต์ เมื่อ: 05 มี.ค. 2019, 21:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
พระราชาทรงชนะแผ่นดินทั้งหมด อันบริบูรณ์ด้วย
รัตนะนับไม่ถ้วน พร้อมทั้งมหาสมุทรและภูเขา ครอบ
ครองอยู่ ก็ยังปรารถนามหาสมุทรฝั่งโน้นอีก เพราะ
ฉะนั้น พระราชาจึงชื่อว่าไม่เต็ม เพราะยังพร่อง หญิง
คนหนึ่ง ๆ มีสามีคนละ ๘ คน สามีล้วนเป็นคนแกล้ว-

กล้า มีกำลังสามารถนำมาซึ่งกามรสทุกอย่าง หญิงยัง
กระทำความพอใจในชายคนที่ ๙ อีก เพราะฉะนั้น
หญิงจึงชื่อว่าไม่เต็ม เพราะยังพร่อง.

หญิงทุกคนกินทุกอย่างเหมือนเปลวไฟ พาไปได้
ทุกอย่างเหมือนแม่น้ำ เหมือนกิ่งไม้มีหนาม ย่อมละชาย
ไปเพราะเหตุแห่งทรัพย์ ชายใดพึงวางความรักทั้งหมด
ในหญิง ชายนั้นเหมือนดักลมด้วยตาข่าย เหมือนตัก
น้ำใส่มหาสมุทรด้วยมือข้างเดียว จะพึงได้ยินแต่เสียง
มือของตน.

ภาวะของหญิงที่เป็นโจร รู้มาก หาความจริงได้
ยาก เป็นอาการที่ใคร ๆ รู้ได้ยาก เหมือนรอยทางปลา
ในน้ำ ฉะนั้น หญิงไม่มีความพอ อ่อนโยน พูดเพราะ
เต็มได้ยากเสมอแม่น้ำ ทำให้ล่มจม บุคคลรู้ดังนี้แล้ว
พึงเว้นเสียให้ห่างไกล หญิงเป็นเหมือนน้ำวน มีมายา

มาก ทำพรหมจรรย์ให้กำเริบ ทำให้ล่มจม บุคคลรู้
ดังนี้แล้ว พึงเว้นเสียให้ห่างไกล เมื่อหญิงคบบุรุษใด
เพราะความพอใจ หรือเพราะเหตุแห่งทรัพย์ ย่อมเผา
บุรุษนั้นโดยพลัน เหมือนไฟป่าเผาสถานที่เกิดของตน
ฉะนั้น.


+ ผูกมิตรด้วยการให้ ผู้ใจด้วยความดี อยากมีดีก็ต้องสร้างสมกันเอง
+ คิดว่าตนดีแล้วจึงมิคิดจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขตนเอง
คิดว่าตนยังไม่ดีจึงคิดเปลี่ยนแปลงแก้ไขและปรับปรุงตนเอง
+ รักลูกมากเลี้ยงลูกดีเกินไป ระวังจะเสียใจภายหลัง
+ ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งใช้ยิ่งมาก
เพราะความมักมากจึงทำจิตให้ตกต่ำ
+ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร
เวรย่อมระงับด้วยการให้อภัย
เวรย่อมระงับด้วยจิตที่เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสต์ เมื่อ: 05 มี.ค. 2019, 21:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
ในคาถาเหล่านั้นมีอรรถาธิบายว่า นารทฤษีเรียกพญานกกุณาละตัว
ประเสริฐกว่าพวกนกว่า ทิชัมบดี. คำว่า ไหลซ่านเป็นต้น ท่านกล่าวไว้แล้ว
เพื่อแสดงถึงภาชนะแห่งเหมืองที่ตั้งอยู่แล้ว. คำว่า เพราะยังพร่องอยู่ คือยัง
พร่องอยู่ทีเดียว เพราะสมุทรนั้นเป็นที่ขังน้ำไว้มากมาย. คำว่า เรียนเวท หมาย
ถึง ท่องพระเวทแล้ว. คำว่ามีการบอกเป็นคำรบที่ ๕ หมายถึงพระเวททั้ง ๔

หมวด มีอิติหาสเป็นที่ ๕. คำว่า พร่อง อธิบายว่า ด้วยว่าพราหมณ์นั้น
ชื่อว่าย่อมไม่เต็มเปี่ยมด้วยพระเวทที่คนพึงศึกษา เพราะตนมีอัธยาศัยอันกว้าง
ขวาง. คำว่า ประกอบด้วยรัตนะ คือประกอบบริบูรณ์ด้วยรัตนะต่าง ๆ.
คำว่า พร่อง อธิบายว่า เพราะพระราชานั้นย่อมไม่เต็ม เพราะตนมีความ
อยากมาก. คำว่า มี หมายความว่า มีผัว อีกอย่างหนึ่ง บาลีเป็นสิยาดังนี้ก็มี

คำว่า นำมาซึ่งรสในกามทั้งปวง คือ นำรสแห่งกามมาครบทุกอย่าง. คำว่า
คนที่ ๙ นี้ ท่านกล่าวไว้เพื่อจะแสดงภาวะที่ล่วงมาแล้วถึง ๘ คน แม้หญิง
คนนั้น ก็ย่อมกระทำความพอใจแม้ในชายคนที่ ๑๐ คนที่ ๒๐ หรือในคนที่ยิ่ง
ไปกว่านั้นได้. คำว่า พร่อง อธิบายว่า แม้หญิงคนนั้นก็ย่อมไม่เต็มเพราะ

มีกามตัณหามาก. คำว่า เหมือนกิ่งไม้ที่มีหนาม คือเช่นกับด้วยกิ่งไม้ที่มี
หนามในหนทางอันคับแคบ จริงอยู่ หนามนั้นย่อมคล้องเกี่ยวมาได้ฉันใด แม้
หญิงเหล่านี้ก็ย่อมคล้องเกี่ยวเอาชายมาด้วยรูปเป็นต้นฉันนั้น อนึ่ง กิ่งไม้คำที่

อวัยวะมีมือเป็นต้น ย่อมทำให้เกิดความทุกข์ฉันใด แม้หญิงเหล่านี้ก็ฉันนั้น
เหมือนกัน แต่พอถูกตัวเท่านั้น ก็เกี่ยวเอาด้วยสัมผัสแห่งสรีระ ย่อมให้ถึง
ความพินาศอย่างใหญ่หลวง คำว่า ไป คือไปตามติดตามชายอื่น. คำว่า ดัก
ได้แก่ จับ. คำว่า ตักน้ำ อธิบายว่า บุคคลลงสู่แม่น้ำเพื่อจะอาบน้ำแล้ว


+ ผูกมิตรด้วยการให้ ผู้ใจด้วยความดี อยากมีดีก็ต้องสร้างสมกันเอง
+ คิดว่าตนดีแล้วจึงมิคิดจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขตนเอง
คิดว่าตนยังไม่ดีจึงคิดเปลี่ยนแปลงแก้ไขและปรับปรุงตนเอง
+ รักลูกมากเลี้ยงลูกดีเกินไป ระวังจะเสียใจภายหลัง
+ ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งใช้ยิ่งมาก
เพราะความมักมากจึงทำจิตให้ตกต่ำ
+ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร
เวรย่อมระงับด้วยการให้อภัย
เวรย่อมระงับด้วยจิตที่เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสต์ เมื่อ: 05 มี.ค. 2019, 21:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
ตักน้ำในสมุทรทั้งสิ้นด้วยมือข้างเดียววักเอา ๆ แล้วก็ทิ้งไป. คำว่า ของตน
อธิบายว่า บุคคลเอามือข้างเดียวของตนประหารมือนั้น ก็ย่อมทำให้เกิดเสียง.
คำว่า ความรักทั้งปวง อธิบายว่า บุรุษผู้ใดเมื่อหญิงบอกว่า ท่านคนเดียว
เป็นที่น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพึงพอใจดังนี้ เชื่อมั่นอยู่ว่า คำนี้เป็นความจริง
อย่างนี้แล้ว พึงวางอัธยาศัยของตนทั้งหมดไว้ในหญิงทั้งหลาย บุรุษผู้นั้นชื่อว่า

กระทำการดักลมเป็นต้นด้วยตาข่ายเป็นต้น. คำว่า ไป หมายถึงการว่ายไป
ของพวกปลา. คำว่า ไม่มีพอ คือเว้นขาดจากคำว่าเพียงพอด้วยคำของคฤหัสถ์.
คำว่า เต็มได้ยาก อธิบายว่า แม่น้ำใหญ่เต็มได้ยากด้วยน้ำฉันใด แม้หญิง
ก็เต็มได้ยากด้วยความยินดีในกิเลสฉันนั้นเหมือนกัน. คำว่า นํ ในข้อความ

ที่ว่า สีทนฺติ นํ วิทิตฺวาน นี้ เป็นเพียงนิบาต. อธิบายว่า บุคคลรู้แล้วว่า
หญิงทั้งหลายย่อมทำให้ล่มจมลงไปในอบายทั้ง ๔ ด้วยการแนะนำพูดจา. คำว่า
เหมือนน้ำวน อธิบายว่า น้ำวนก็ดี มายาก็ดี ย่อมทำหัวใจของคนให้หลงใหล
ให้เป็นไปในอำนาจของตนได้ฉันใด แม้หญิงเหล่านี้ก็ฉันนั้นเหมือนกัน. คำว่า

ให้กำเริบ อธิบายว่า ทำพรหมจรรย์ให้กำเริบ ด้วยอรรถว่า ให้พินาศและ
ด้วยอรรถว่าถือเอา. คำว่า ด้วยความพอใจ คือด้วยการอยู่ร่วมกันด้วยความ
รักใคร่. คำว่า หรือเพราะอยากได้ทรัพย์ คือหรือเพราะเหตุแห่งทรัพย์.
คำว่า ที่เกิดของตน อธิบายว่า ไฟป่าไหม้ไปยังประเทศใด ๆ ก็เผาประเทศ

นั้น ๆ ซึ่งเป็นที่เกิดของตนฉันใด แม้หญิงเหล่านี้ก็ฉันนั้น คบกับบุรุษใด ๆ
ด้วยอำนาจกิเลส ก็ตามเผาบุรุษนั้น ๆ คือไปถึงความพินาศอย่างใหญ่หลวง.

เมื่อนารทฤษีประกาศโทษของหญิงทั้งหลายอย่างนี้แล้ว พระมหา-
สัตว์ก็ประกาศโทษของหญิงเหล่านั้นให้วิเศษขึ้นไปอีก.

พระศาสดาเมื่อจะทรงแสดงการที่พญานกกุณาละประกาศโทษของหญิง
โดยพิเศษนั้น จึงตรัสว่า ได้ยินว่า ครั้งนั้นพญานกกุณาละรู้แจ้งแล้วซึ่งเบื้องต้น
ท่ามกลางและที่สุดแห่งคาถาของนารทพราหมณ์ จึงภาษิตคาถาทั้งหลายนี้
ในเวลานั้นว่า


+ ผูกมิตรด้วยการให้ ผู้ใจด้วยความดี อยากมีดีก็ต้องสร้างสมกันเอง
+ คิดว่าตนดีแล้วจึงมิคิดจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขตนเอง
คิดว่าตนยังไม่ดีจึงคิดเปลี่ยนแปลงแก้ไขและปรับปรุงตนเอง
+ รักลูกมากเลี้ยงลูกดีเกินไป ระวังจะเสียใจภายหลัง
+ ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งใช้ยิ่งมาก
เพราะความมักมากจึงทำจิตให้ตกต่ำ
+ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร
เวรย่อมระงับด้วยการให้อภัย
เวรย่อมระงับด้วยจิตที่เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสต์ เมื่อ: 05 มี.ค. 2019, 21:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
บัณฑิตพึงเจรจากับบุรุษผู้ถือดาบอย่างคมกล้า
พึงเจรจากับปีศาจผู้ดุร้าย แม้จะพึงเข้าไปนั่งใกล้งู-
พิษร้าย แต่ไม่ควรเจรจากับหญิงตัวต่อตัว เพราะว่า
หญิงเป็นผู้ย่ำยีจิตของโลก ถืออาวุธ คือ การฟ้อนรำ
ขับร้องและการเจรจา ย่อมเบียดเบียนบุรุษผู้ไม่ตั้งสติ
ไว้ เหมือนหมู่รากษสที่เกาะเบียดเบียนพวกพ่อค้า

ฉะนั้น หญิงไม่มีวินัย ไม่มีสังวร ยินดีในน้ำเมา
และเนื้อสัตว์ ไม่สำรวม ผลาญทรัพย์ที่บุรุษหามาได้
โดยยากฉิบหาย เหมือนปลาติมิงคละกลืนกินมังกร
ในทะเลฉะนั้น หญิงมีกามคุณ ๕ อันน่ายินดีเป็นทำเล

หากิน เป็นคนหยิ่ง จิตไม่เที่ยงตรง ไม่สำรวม ย่อม
เข้าไปหาชายผู้ประมาทเหมือนแม่น้ำทั้งหลาย อันไหล
ไปสู่มหาสมุทร ฉะนั้น หญิงได้ชื่อว่าฆ่าชายด้วยราคะ
และโทสะ เข้าไปหาชายคนใด เพราะความพอใจ

เพราะความกำหนัด หรือเพราะต้องการทรัพย์ ย่อม
เผาชายเช่นนั้นเสีย เช่นดังเปลวไฟ หญิงรู้ว่าชายมั่งคั่ง
มีทรัพย์มาก ย่อมเข้าไปหาชาย ยอมให้ทั้งทรัพย์และ
ตนเอง ย่อมเกาะชายที่มีจิตถูกราคะย้อม เหมือนเถา
ย่านทรายเกาะไม้สาละในป่า ฉะนั้น หญิงประดับ
ร่างกายหน้าตาให้สวย เข้าไปหาชายด้วยความพอใจ

มีประการต่าง ๆ ทำยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ใช้มารยาตั้งร้อย
เหมือนดังคนเล่นกลและอสุรินทราหู หญิงประดับ
ประดาด้วยทอง แก้วมณี และมุกดาถึงจะมีคนสักการะ
และรักษาไว้ในตระกูลสามี ก็ยังประพฤตินอกใจสามี
ดังหญิงที่อยู่ในทรวงอกประพฤตินอกใจทานพ ฉะนั้น


+ ผูกมิตรด้วยการให้ ผู้ใจด้วยความดี อยากมีดีก็ต้องสร้างสมกันเอง
+ คิดว่าตนดีแล้วจึงมิคิดจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขตนเอง
คิดว่าตนยังไม่ดีจึงคิดเปลี่ยนแปลงแก้ไขและปรับปรุงตนเอง
+ รักลูกมากเลี้ยงลูกดีเกินไป ระวังจะเสียใจภายหลัง
+ ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งใช้ยิ่งมาก
เพราะความมักมากจึงทำจิตให้ตกต่ำ
+ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร
เวรย่อมระงับด้วยการให้อภัย
เวรย่อมระงับด้วยจิตที่เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสต์ เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 14:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
จริงอยู่ นรชนผู้มีปัญญาเป็นเครื่องพิจารณา แม้จะ
มีเดช มีมหาชนสักการะบูชา ถ้าตกอยู่ในอำนาจของ
หญิงแล้ว ย่อมไม่รุ่งเรือง เหมือนพระจันทร์ถูกราหูจับ
ฉะนั้น โจรผู้มีจิตโกรธคิดประทุษร้าย พึงกระทำแก่
โจรอื่น ซึ่งเป็นข้าศึกที่มาประจัญหน้า ส่วนผู้ตกอยู่
ในอำนาจของหญิง ไม่มีอุเบกขา ย่อมเข้าถึงความ

พินาศยิ่งกว่านั้นอีก หญิงถึงจะถูกชายฉุดกระชาก
ลากผม และหยิกข่วนด้วยเล็บ คุกคามทุบตีด้วยเท้า
ด้วยมือ และท่อนไม้ ก็กลับวิ่งเข้ามาหา เหมือนหมู่
แมลงวันที่ซากศพฉะนั้น บุรุษผู้มีจักษุคือปัญญา
ปรารถนาความสุขแก่ตน พึงเว้นหญิงเสีย เหมือนกับ
บ่วงและข่ายที่ดักไว้ในสกุล ในถนนสายหนึ่ง ใน

ราชธานี หรือในนิคม ผู้ใดสละเสียแล้วซึ่งตบะคุณ
อันเป็นกุศล ประพฤติจริตอันมิใช่ของพระอริยะ ผู้นั้น
ต้องกลับจากเทวโลกไปคลุกเคล้าอยู่กับนรก เหมือน
พ่อค้าซื้อหม้อแตก ฉะนั้น บุรุษผู้ตกอยู่ในอำนาจของ
หญิง ย่อมถูกติเตียนทั้งในโลกนี้และโลกหน้า กรรม

ของตนกระทบแล้ว เป็นคนโง่เขลา ย่อมไปพลั้ง ๆ
พลาด ๆ โดยไม่แน่นอน เหมือนรถที่เทียมด้วยลาโกง
ย่อมไปผิดทาง ฉะนั้น ผู้ตกอยู่ในอำนาจของหญิง
ย่อมเข้าถึงนรกเป็นที่เผาสัตว์ให้รุ่มร้อน และนรกอัน

มีป่าไม้งิ้ว มีหนามแหลมดังหอกเหล็ก แล้วมาใน
กำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ย่อมไม่พ้นจากวิสัยเปรต และ
อสุรกาย หญิงย่อมทำลายความเล่นหัว ความยินดี
ความเพลิดเพลินอันเป็นทิพย์ และจักรพรรดิสมบัติ
ในมนุษย์ของชายผู้ประมาทให้พินาศ และยังทำชาย

นั้นให้ถึงทุคติอีกด้วย ชายเหล่าใดไม่ต้องการหญิง
ประพฤติพรหมจรรย์ ชายเหล่านั้นพึงได้การเล่นหัว
ความยินดีอันเป็นทิพย์ จักรพรรดิสมบัติในมนุษย์
และนางเทพอัปสรอันอยู่ในวิมานทอง โดยไม่ยากเลย
ชายเหล่าใดไม่ต้องการหญิง ประพฤติพรหมจรรย์ ชาย

เหล่านั้นพึงได้คติที่ก้าวล่วงเสียซึ่งกามธาตุ รูปธาตุ
สมภพ และคติที่เข้าถึงวิสัยความปราศจากราคะโดย
ไม่ยากเลย ชายเหล่าใดไม่ต้องการหญิง ประพฤติ


+ ผูกมิตรด้วยการให้ ผู้ใจด้วยความดี อยากมีดีก็ต้องสร้างสมกันเอง
+ คิดว่าตนดีแล้วจึงมิคิดจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขตนเอง
คิดว่าตนยังไม่ดีจึงคิดเปลี่ยนแปลงแก้ไขและปรับปรุงตนเอง
+ รักลูกมากเลี้ยงลูกดีเกินไป ระวังจะเสียใจภายหลัง
+ ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งใช้ยิ่งมาก
เพราะความมักมากจึงทำจิตให้ตกต่ำ
+ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร
เวรย่อมระงับด้วยการให้อภัย
เวรย่อมระงับด้วยจิตที่เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสต์ เมื่อ: 06 มี.ค. 2019, 14:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
พรหมจรรย์ ชายเหล่านั้นเป็นผู้ดับแล้ว สะอาดพึงได้
นิพพานอันเกษม อันก้าวล่วงเสียซึ่งทุกข์ทั้งปวง ล่วง
ส่วน ไม่หวั่นไหว ไม่มีอะไรปรุงแต่ง โดยไม่ยากเลย.

ในคาถาเหล่านั้นมีอรรถาธิบายว่า คำว่า พึงเจรจา อธิบายว่า บัณฑิต
พึงเจรจาแม้กับบุรุษผู้ยืนถือดาบกล่าวว่า ถ้าท่านเจรจากับเรา เราจักตัดศีรษะ
ท่านเสียดังนี้ อนึ่ง บัณฑิตพึงเจรจากับปีศาจที่กำลังโกรธจัดยืนกล่าวอยู่ว่า เรา
จักกินท่านเสียในขณะที่ท่านพูดทีเดียว จักทำให้ท่านถึงความพินาศแห่งชีวิต
อนึ่ง พึงเข้าไปนั่งใกล้งูที่มีเดชสูงซึ่งกล่าวว่า เราจักกัดท่านผู้เข้ามาใกล้แล้วทำ

ให้พินาศ แต่เมื่ออยู่คนเดียวแล้ว อย่าได้เจรจากับหญิงในที่ลับสองต่อสอง
เป็นอันขาด. คำว่า เป็นผู้ย่ำยีจิตของสัตวโลก อธิบายว่า หญิงทั้งหลาย
เป็นผู้เหยียบย่ำจิตของสัตวโลก คือบีบคั้นจิตของชาวโลก. คำว่า เหมือน
หมู่นางรากษส อธิบายว่า หมู่นางรากษสอาศัยอยู่ที่เกาะกลางสมุทรนิมิตเพศ
เป็นหญิงมนุษย์ มาล่อลวงพวกพ่อค้าพาไปไว้ในอำนาจของตนแล้วเคี้ยวกินเสีย

ฉันใด แม้หญิงเหล่านี้ก็ฉันนั้น กระทำสัตวโลกไว้ในอำนาจของตนด้วยกามคุณ
ทั้ง ๕ มีรูปเป็นต้น แล้วให้ถึงความพินาศอย่างใหญ่หลวง คำว่า วินัย
หมายถึงความประพฤติ. คำว่า สังวร หมายถึงมรรยาท. คำว่า หามาได้
อธิบายว่า หญิงทั้งหลายย่อมกลืนกิน คือ ย่อมทำทรัพย์ที่สามีหามาได้ด้วย

ความเหนื่อยยากให้พินาศไป. คำว่า ไม่เที่ยงตรง คือมีจิตไม่แน่นอน. คำว่า
ไหลไปสู่สมุทร คือไหลไปสู่น้ำเค็มได้แก่สมุทรนั่นเอง. คำว่า แม่น้ำ
หมายถึงแม่น้ำทุกสาย อีกอย่างหนึ่ง พระบาลีเป็น นทิโย เลยดังนี้ก็มี อธิบาย
ว่า แม่น้ำทั้งหลาย ย่อมไหลลงสู่สมุทรฉันใด หญิงทั้งหลายย่อมซ่านไปหาชาย
ผู้ประมาท ด้วยความประมาทฉันนั้นเหมือนกัน คำว่า ความพอใจ หมายถึง
ความรัก. คำว่า ความกำหนัด หมายถึงความยินดีในกามคุณทั้ง ๕. คำว่า


+ ผูกมิตรด้วยการให้ ผู้ใจด้วยความดี อยากมีดีก็ต้องสร้างสมกันเอง
+ คิดว่าตนดีแล้วจึงมิคิดจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขตนเอง
คิดว่าตนยังไม่ดีจึงคิดเปลี่ยนแปลงแก้ไขและปรับปรุงตนเอง
+ รักลูกมากเลี้ยงลูกดีเกินไป ระวังจะเสียใจภายหลัง
+ ยิ่งให้ยิ่งได้ ยิ่งใช้ยิ่งมาก
เพราะความมักมากจึงทำจิตให้ตกต่ำ
+ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร
เวรย่อมระงับด้วยการให้อภัย
เวรย่อมระงับด้วยจิตที่เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2685 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 108, 109, 110, 111, 112, 113, 114 ... 179  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร