วันเวลาปัจจุบัน 07 ก.ย. 2025, 23:15  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


อ่านนิทาน จากบอร์ดเก่า
http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=5



กลับไปยังกระทู้  [ 2685 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 164, 165, 166, 167, 168, 169, 170 ... 179  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2019, 07:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
พระยานาคทอดพระเนตรเห็นพระมหาสัตว์แล้วตรัสพระคาถานี้ว่า
ท่านผู้เป็นมนุษย์มาเห็นนาคพิภพที่ตนได้เคยเห็น
แล้ว เป็นผู้ถูกภัยคือความตายคุกคามแล้ว เป็นผู้ไม่
กลัวและไม่อภิวาท อาการเช่นนี้ดูเหมือนจะไม่มีแก่ผู้
มีปัญญา.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า พฺยมฺหิโต แปลว่า ถูกความกลัวคุกคาม.
ท่านกล่าวอธิบายไว้ว่า ดูก่อนบัณฑิต ท่านเห็นนาคพิภพที่ตนไม่เคยเห็น
เป็นผู้ถูกภัยคือความตายคุกคามแล้ว จึงไม่ถวายโอวาทข้าพเจ้า เหตุเช่นนี้ไม่
ใช่อาการของบุคคลผู้มีปัญญาเลย.

เมื่อพระยานาคทรงประสงค์จะให้ถวายบังคมอย่างนั้น พระมหาสัตว์หา
ได้ทูลตรง ๆ ว่า ข้าพระองค์ไม่ควรถวายบังคมพระองค์ดังนี้ไม่ เป็นผู้ฉลาด
ในอุบายทูลด้วยปรีชาญาณของตนว่า ข้าพเจ้าไม่ถวายบังคมพระองค์ เพราะ
ข้าพเจ้าต้องโทษที่บุคคลจะพึงแทงด้วยลูกศรเสียแล้ว ดังนี้ แล้วจึงทูลด้วย ๒
คาถาว่า

ข้าแต่พระยานาคราช ข้าพระองค์เป็นผู้ไม่กลัว
และไม่เป็นผู้อันภัยคือความตายคุกคาม นักโทษประ-
หารไม่พึงกราบไหว้เพชฌฆาต หรือเพชฌฆาต ก็ไม่
พึงให้นักโทษประหารกราบไหว้ตน อย่างไรหนอ
นรชนจะกราบไหว้บุคคลผู้ปรารถนาจะฆ่าตน และผู้
ปรารถนาจะฆ่า เขาจะพึงให้บุคคลผู้ที่ตนจะฆ่า กราบ
ไหว้ตนอย่างไรเล่า กรรมนั้นย่อมไม่สำเร็จประโยชน์
เลย พระเจ้าข้า.


+ อดไว้บ้าง ลดการสร้างปัญหาชีวิตให้หนักขึ้นอีก
+ ฝึกความอดทน ย่อมจะทำชีวิตตนให้ดียิ่งขึ้น
+ ความสุขอยู่ที่ใจ แล้วมีใครบ้างที่รู้วิธีปฏิบัติและทำได้จริง
+ อยากให้คนอื่นดี อยากให้คนอื่นรู้ เรานั้นแหละควรดีควรรู้ก่อน
+ ไม่อ่านก็ไม่รู้ มัวแต่คิดว่าตัวรู้แล้วก็เลยไม่สนใจในการศึกษาเพิ่ม
+ ความอิจฉา ผลก็คือทุกข์ ความยินดี ผลก็คือสุข จะเอาอะไรก็เลือกเอง
+ อดนิดอดหน่อยค่อยๆฝึกใจ เมื่อนานไปก็ย่อมจะอดทนได้มากเอง
+ เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาให้ตนด้วย
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตา พ่อแม่บ้าง
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาคนภายในครอบครัวบ้าง
เมตตาคนอื่นนั้นดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นก็คือเมตตาให้แก่ทุกคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2019, 07:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
คำเป็นคาถานั้นมีอธิบายว่า ข้าแต่พระยานาค ข้าพเจ้ามาเห็นนาคพิภพ
ที่ตนยังไม่เคยเห็น ย่อมไม่กลัว และภัยคือความตายคุกคามไม่ได้ด้วย เพราะ
ขึ้นชื่อว่าภัยคือความตาย ย่อมไม่มีแก่บุคคลผู้เช่นข้าพเจ้า อนึ่ง นักโทษที่ต้อง
ถูกฆ่าไม่พึงกราบไหว้เพชฌฆาตผู้จะฆ่าตน หรือเพชฌฆาตไม่พึงยังนักโทษที่

จะต้องถูกฆ่าให้กราบไหว้ตน นรชนจะพึงกราบไหว้บุคคลผู้ปรารถนาจะฆ่าตน
อย่างไรหนอ หรือว่าผู้ปรารถนาจะฆ่าเขา จะพึงยังบุคคลผู้ที่ตนจะฆ่าให้กราบ-
ไหว้ตนอย่างไรเล่า เพราะกรรมคือกราบไหว้ของผู้ต้องถูกฆ่า และการให้กราบ-
ไหว้ของผู้จะฆ่านั้น ย่อมไม่สำเร็จประโยชน์แก่เขาเลย ก็ข้าพระองค์ได้ทราบ
แล้วว่า พระองค์รับสั่งจะให้ฆ่าข้าพเจ้าในที่นี้ เหตุนั้นข้าพเจ้าจะถวายบังคม
พระองค์อย่างไรได้.

พระยานาคราชทรงสดับดังนั้น ทรงพอพระทัย เมื่อจะทรงทำความ
ชมเชยพระมหาสัตว์ ได้ทรงภาษิต ๒ คาถาว่า
ดูก่อนบัณฑิต คำนั้นถูกอย่างที่ท่านพูด ท่าน
พูดจริง นักโทษประหารไม่พึงกราบไหว้เพชฌฆาต
หรือเพชฌฆาตก็ไม่พึงให้นักโทษประหารกราบไหว้ตน
อย่างไรหนอ นรชนพึงกราบไหว้บุคคลผู้ปรารถนาจะ
ฆ่าตน และผู้ปรารถนาจะฆ่าเขา จะพึงให้บุคคลผู้ที่
ตนจะฆ่ากราบไหว้ตนอย่างไรเล่า กรรมนั้นย่อมไม่
สำเร็จประโยชน์เลย.
บัดนี้ พระมหาสัตว์เมื่อทำปฏิสันถารกับพระยานาคราชจึงทูลว่า

ข้าแต่พระยานาคราช วิมานของฝ่าพระบาทนี้
เป็นของไม่เที่ยง แต่เป็นเช่นกับของเที่ยง ฤทธิ์ ความ
รุ่งเรือง พระกำลังกาย พระวิริยภาพและการเสด็จ
อุบัติในนาคพิภพ ได้มีแล้วแก่ฝ่าพระบาท ข้าพระองค์
ขอทูลถามเนื้อความนั้นกะฝ่าพระบาท วิมานนี้ทรงได้
มาอย่างไรหนอ วิมานนี้ฝ่าพระบาทได้มาเพราะอะไร
หรือเป็นของเกิดขึ้นตามฤดูกาล ฝ่าพระบาททรงกระ-


+ อดไว้บ้าง ลดการสร้างปัญหาชีวิตให้หนักขึ้นอีก
+ ฝึกความอดทน ย่อมจะทำชีวิตตนให้ดียิ่งขึ้น
+ ความสุขอยู่ที่ใจ แล้วมีใครบ้างที่รู้วิธีปฏิบัติและทำได้จริง
+ อยากให้คนอื่นดี อยากให้คนอื่นรู้ เรานั้นแหละควรดีควรรู้ก่อน
+ ไม่อ่านก็ไม่รู้ มัวแต่คิดว่าตัวรู้แล้วก็เลยไม่สนใจในการศึกษาเพิ่ม
+ ความอิจฉา ผลก็คือทุกข์ ความยินดี ผลก็คือสุข จะเอาอะไรก็เลือกเอง
+ อดนิดอดหน่อยค่อยๆฝึกใจ เมื่อนานไปก็ย่อมจะอดทนได้มากเอง
+ เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาให้ตนด้วย
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตา พ่อแม่บ้าง
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาคนภายในครอบครัวบ้าง
เมตตาคนอื่นนั้นดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นก็คือเมตตาให้แก่ทุกคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2019, 07:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
ทำเอง หรือเทวดาทั้งหลายถวายแก่พระองค์ ข้าแต่
พระยานาคราช ขอฝ่าพระบาทตรัสบอกเนื้อความนี้แก่
ข้าพระองค์ ตามที่ฝ่าพระบาทได้วิมานมาเถิด พระเจ้า
ข้า.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ตว อิทํ ความว่า วิมานอันเกิดแต่ยศ
สำหรับเป็นพระเกียรติยศของพระองค์นี้ ซึ่งเป็นของไม่เที่ยง แต่ปรากฏเสมือน
ของเที่ยง ท่านอย่ากระทำความชั่วเพราะอาศัยยศเลย เพราะฉะนั้นด้วยบทนี้
พระมหาสัตว์จึงขอชีวิตของตนไว้. บทว่า อิทฺธิ ความว่า ฤทธิ์ของนาคก็ดี
ความรุ่งเรืองแห่งนาคก็ดี กำลังกายก็ดี ความเพียรอันเป็นไปทางจิตก็ดี การ
เสด็จอุบัติในนาคพิภพก็ดี ได้มีแก่พระองค์ทุกสิ่งทุกอย่าง ข้าพระองค์ขอทูลถาม

เนื้อความนั้น ข้าแต่พระยานาค ข้าพระองค์ขอทูลถามเนื้อความนั้นกะพระองค์
วิมานนี้พระองค์ทรงได้ด้วยอาการอย่างไรหนอ พระองค์อาศัยใครจึงได้ หรือ
เป็นของเกิดขึ้นตามฤดูกาล หรือพระองค์ทรงทำด้วยมือของพระองค์เอง หรือ
ว่าเทวดาทั้งหลายถวายพระองค์ ข้าแต่พระยานาคผู้ทรงเป็นเจ้าพิภพบาดาล
วิมานนี้พระองค์ทรงได้ด้วยประการใด ขอพระองค์ตรัสบอกเนื้อความนั้นแก่
ข้าพระองค์ด้วยประการนั้น พระเจ้าข้า.
พระยานาคตรัสพระคาถาว่า

วิมานนี้ เราได้มาเพราะอาศัยอะไรก็หามิได้
เกิดขึ้นตามฤดูกาลก็หามิได้ เรามิได้ทำเอง แม้เทวดา
ทั้งหลายก็มิได้ ให้แต่วิมานนี้ เราได้มาด้วยบุญกรรม
อันไม่ลามกของตนเอง.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อปาปเกหิ แปลว่า ไม่ลามก.
พระมหาสัตว์ทูลถามว่า

ข้าแต่พระยานาค อะไรเป็นวัตรของพระองค์
และอะไรเป็นพรหมจรรย์ของพระองค์ ฤทธิ์ ความ
รุ่งเรือง พระกำลังกาย พระวิริยภาพ และการเสด็จ
อุบัติในนาคพิภพ ทั้งวิมานใหญ่ของพระองค์นี้ เป็น
ผลแห่งกรรมอะไร อันพระองค์ทรงประพฤติดีแล้ว.


+ อดไว้บ้าง ลดการสร้างปัญหาชีวิตให้หนักขึ้นอีก
+ ฝึกความอดทน ย่อมจะทำชีวิตตนให้ดียิ่งขึ้น
+ ความสุขอยู่ที่ใจ แล้วมีใครบ้างที่รู้วิธีปฏิบัติและทำได้จริง
+ อยากให้คนอื่นดี อยากให้คนอื่นรู้ เรานั้นแหละควรดีควรรู้ก่อน
+ ไม่อ่านก็ไม่รู้ มัวแต่คิดว่าตัวรู้แล้วก็เลยไม่สนใจในการศึกษาเพิ่ม
+ ความอิจฉา ผลก็คือทุกข์ ความยินดี ผลก็คือสุข จะเอาอะไรก็เลือกเอง
+ อดนิดอดหน่อยค่อยๆฝึกใจ เมื่อนานไปก็ย่อมจะอดทนได้มากเอง
+ เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาให้ตนด้วย
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตา พ่อแม่บ้าง
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาคนภายในครอบครัวบ้าง
เมตตาคนอื่นนั้นดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นก็คือเมตตาให้แก่ทุกคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2019, 07:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า กินฺเต วตฺตํ ความว่า ข้าแต่พระยานาค
ในภพก่อน อะไรเป็นวัตรของพระองค์ อนึ่ง อะไรเป็นการอยู่พรหมจรรย์
ของพระองค์ อิฏฐวิบุลผลมีความเป็นผู้มีฤทธิ์เป็นต้นนี้ เป็นวิบากสุจริตเช่นไร
พระยานาคตรัสพระคาถาว่า

เราและภรรยา เมื่อยังอยู่ในมนุษยโลกเป็นผู้มี
ศรัทธาเป็นทานบดี ในครั้งนั้นเรือนของเราเป็นดังบ่อ
น้ำของสมณะและพราหมณ์ทั้งหลาย และเราได้บำรุง
สมณะและพราหมณ์ให้อิ่มหนำสำราญ เราทั้งสองได้
ถวายทานคือ ดอกไม้ ของหอม เครื่องลูบไล้ เครื่อง

ประทีบ ที่นอนที่พักอาศัย ผ้านุ่งผ้าห่ม ผ้าปูนอน
ข้าวและน้ำโดยเคารพ ทานที่ได้ถวายแล้วโดยเคารพ
นั้น เป็นวัตรของเรา และการสมาทานวัตรนั้นเป็น
พรหมจรรย์ของเรา ดูก่อนท่านผู้เป็นปราชญ์ ฤทธิ์

ความรุ่งเรือง กำลังกาย ความเพียร การเกิดในนาค-
พิภพ และวิมานใหญ่ของเรานี้ เป็นวิบากแห่งวัตรและ
พรหมจรรย์นั้น อันเราประพฤติดีแล้ว.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า มนุสฺสโลเก ได้แก่ ในกาลจัมปาก-
นคร แคว้นอังคะ. บทว่า ตํ เม วตฺตํ ความว่า ทานที่เราให้โดยเคารพ
นั้นนั่นแล การสมาทานวัตร และพรหมจรรย์ของเรา อิฏฐวิบุลผลมีฤทธิ์
เป็นต้นนี้ เป็นวิบากแห่งสุจริตที่ข้าพเจ้าประพฤติดีแล้วนั้น.
พระมหาสัตว์ทูลเป็นคาถาว่า


+ อดไว้บ้าง ลดการสร้างปัญหาชีวิตให้หนักขึ้นอีก
+ ฝึกความอดทน ย่อมจะทำชีวิตตนให้ดียิ่งขึ้น
+ ความสุขอยู่ที่ใจ แล้วมีใครบ้างที่รู้วิธีปฏิบัติและทำได้จริง
+ อยากให้คนอื่นดี อยากให้คนอื่นรู้ เรานั้นแหละควรดีควรรู้ก่อน
+ ไม่อ่านก็ไม่รู้ มัวแต่คิดว่าตัวรู้แล้วก็เลยไม่สนใจในการศึกษาเพิ่ม
+ ความอิจฉา ผลก็คือทุกข์ ความยินดี ผลก็คือสุข จะเอาอะไรก็เลือกเอง
+ อดนิดอดหน่อยค่อยๆฝึกใจ เมื่อนานไปก็ย่อมจะอดทนได้มากเอง
+ เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาให้ตนด้วย
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตา พ่อแม่บ้าง
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาคนภายในครอบครัวบ้าง
เมตตาคนอื่นนั้นดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นก็คือเมตตาให้แก่ทุกคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2019, 07:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
ถ้าวิมานนี้ ฝ่าพระบาททรงได้ด้วยอานุภาพแห่ง
ทานอย่างนี้ ฝ่าพระบาทก็ชื่อว่าทรงทราบผลแห่งบุญ
และทรงทราบการเสด็จอุบัติในนาคพิภพ เพราะผล
แห่งบุญ เพราะเหตุนั้นแล ขอฝ่าพระบาททรงเป็นผู้
ไม่ประมาทประพฤติธรรม ตามที่จะได้ทรงครอบครอง
วิมานนี้ต่อไปฉะนั้นเถิด พระเจ้าข้า.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ชานาสิ ความว่า ถ้าว่าวิมานนั้นพระ-
องค์ทรงได้ด้วยอานุภาพแห่งทานอย่างนี้ เมื่อเป็นเช่นนี้พระองค์ชื่อว่าทรงทราบ
ผลแห่งบุญทั้งหลาย และทรงทราบการเสด็จอุบัติในวิมานอันเกิดขึ้นด้วยผล
แห่งบุญ. บทว่า ตสฺมา ความว่า เพราะเหตุที่วิมานนี้พระองค์ได้มาเพราะเหตุ
แห่งบุญ. บทว่า ปุน มาวเสสิ ความว่า ขอพระองค์จงประพฤติธรรมให้
ได้เสด็จอยู่ครองนาคพิภพนี้แม้ต่อไปอีก.
พระยานาคตรัสพระคาถาว่า

ดูก่อนบัณฑิต ในนาคพิภพนี้ ไม่มีสมณ-
พราหมณ์ที่เราจะพึงถวายข้าวและน้ำเลย เราถามแล้ว
ขอท่านจงบอกเนื้อความนั้นแก่เรา ตามที่เราจะพึงได้
ครอบครองวิมานต่อไปเถิด.
พระมหาสัตว์ทูลเป็นคาถาว่า

ข้าแต่พระยานาค ก็นาคทั้งหลายที่เป็นพระโอรส
พระธิดา พระชายา ทั้งพระญาติ พระมิตร และข้า
เฝ้าของฝ่าพระบาท ซึ่งเกิดในนาคพิภพนี้มีอยู่ ขอฝ่า
พระบาททรงเป็นผู้ไม่ประทุษร้ายในนาค มีพระโอรส
เป็นต้นเหล่านั้น ด้วยพระกายและพระวาจาเป็นนิตย์
ฝ่าพระบาททรงรักษาความไม่ประทุษร้าย ด้วยพระกาย

และพระวาจาอย่างนี้ ฝ่าพระบาททรงสถิตอยู่ในวิมาน
นี้ตลอดพระชนมายุ แล้วจักเสด็จไปสู่เทวโลกอันสูง
กว่านาคพิภพ.


+ อดไว้บ้าง ลดการสร้างปัญหาชีวิตให้หนักขึ้นอีก
+ ฝึกความอดทน ย่อมจะทำชีวิตตนให้ดียิ่งขึ้น
+ ความสุขอยู่ที่ใจ แล้วมีใครบ้างที่รู้วิธีปฏิบัติและทำได้จริง
+ อยากให้คนอื่นดี อยากให้คนอื่นรู้ เรานั้นแหละควรดีควรรู้ก่อน
+ ไม่อ่านก็ไม่รู้ มัวแต่คิดว่าตัวรู้แล้วก็เลยไม่สนใจในการศึกษาเพิ่ม
+ ความอิจฉา ผลก็คือทุกข์ ความยินดี ผลก็คือสุข จะเอาอะไรก็เลือกเอง
+ อดนิดอดหน่อยค่อยๆฝึกใจ เมื่อนานไปก็ย่อมจะอดทนได้มากเอง
+ เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาให้ตนด้วย
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตา พ่อแม่บ้าง
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาคนภายในครอบครัวบ้าง
เมตตาคนอื่นนั้นดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นก็คือเมตตาให้แก่ทุกคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2019, 07:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า โภคี ความว่า นาคผู้มีโภคสมบัติ.
บทว่า เตสุ ความว่า ขอพระองค์จงอย่าประทุษร้ายเป็นนิตย์ด้วยกายกรรม
และวจีกรรมในนาคผู้มีโภคสมบัติมีพระโอรสและพระธิดาเป็นต้นนั้น. บทว่า
อนุปาลย ความว่า จงตามรักษาความไม่ประทุษร้าย กล่าวคือความมี
เมตตาจิต ในพระโอรสและพระธิดาเป็นต้น และในสัตว์ที่เหลืออย่างนี้.

บทว่า อุทฺธํ อิโต ความว่า พระองค์จักเสด็จไปสู่เทวโลกที่สูงกว่านาคพิภพนี้
เพราะเมตตาจิตจัดว่าเป็นบุญยิ่งกว่าทาน.

พระยานาคได้ทรงสดับธรรมกถาของพระมหาสัตว์อย่างนี้แล้ว ทรง
พอพระทัยแล้ว จึงทรงดำริว่า บัณฑิตไม่อาจจะทำการเนิ่นช้าอยู่ภายนอก เรา
ควรจะแสดงเธอแก่พระนางวิมลา ให้พระนางเธอได้ฟังสุภาษิตสงบรำงับความ
ปรารถนา แล้วส่งบัณฑิตกลับไปเพื่อให้พระเจ้าธนัญชัยทรงชื่นชมโสมนัสดังนี้
จึงตรัสพระคาถาว่า

ท่านเป็นอำมาตย์ของพระราชาผู้ประเสริฐสุด
พระองค์ใด พระราชาผู้ประเสริฐสุดพระองค์นั้น พราก
จากท่านแล้ว ย่อมจะทรงเศร้าโศกแน่แท้ทีเดียว คนที่
ถูกความทุกข์ครอบงำก็ดี คนผู้ป่วยหนักก็ดี ได้สมาคม
กับท่านแล้วพึงได้ความสุข.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สชีโว แปลว่า อำมาตย์. บทว่า
สเมจฺจ ความว่า มาพร้อมกับท่าน. บทว่า อาตุโรปิ ความว่า แม้เป็น
ไข้หนัก.
พระมหาสัตว์สดับพระกระแสรับสั่งดังนั้นแล้ว เมื่อจะทรงทำความ
ชมเชยพระยานาคจึงทูลเป็นคาถาอีกว่า


+ อดไว้บ้าง ลดการสร้างปัญหาชีวิตให้หนักขึ้นอีก
+ ฝึกความอดทน ย่อมจะทำชีวิตตนให้ดียิ่งขึ้น
+ ความสุขอยู่ที่ใจ แล้วมีใครบ้างที่รู้วิธีปฏิบัติและทำได้จริง
+ อยากให้คนอื่นดี อยากให้คนอื่นรู้ เรานั้นแหละควรดีควรรู้ก่อน
+ ไม่อ่านก็ไม่รู้ มัวแต่คิดว่าตัวรู้แล้วก็เลยไม่สนใจในการศึกษาเพิ่ม
+ ความอิจฉา ผลก็คือทุกข์ ความยินดี ผลก็คือสุข จะเอาอะไรก็เลือกเอง
+ อดนิดอดหน่อยค่อยๆฝึกใจ เมื่อนานไปก็ย่อมจะอดทนได้มากเอง
+ เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาให้ตนด้วย
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตา พ่อแม่บ้าง
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาคนภายในครอบครัวบ้าง
เมตตาคนอื่นนั้นดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นก็คือเมตตาให้แก่ทุกคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2019, 07:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
ข้าแต่พระยานาคราช ฝ่าพระบาทตรัสธรรมของ
สัตบุรุษทั้งหลาย ซึ่งเป็นบทอันแสดงประโยชน์อย่าง
ล้ำเลิศ ที่นักปราชญ์ประพฤติดีแล้วโดยแท้ ก็คุณวิเศษ
ของบุคคลผู้มีปัญญาเช่นข้าพระองค์ย่อมปรากฏในเมื่อ
มีภยันตรายเช่นนี้แหละ พระเจ้าข้า.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สตํ ความว่า ท่านแสดงธรรมแก่สัตบุรุษ
คือบัณฑิตทั้งหลายแน่แท้. บทว่า อตฺถปทํ ได้แก่ ส่วนที่เป็นประโยชน์.
บทว่า เอตาทิสิยาสุ ความว่า คุณวิเศษของบุคคลผู้มีปัญญาเช่นข้าพเจ้า
ย่อมปรากฏในเมื่อได้ประสพภัยอันตรายเป็นเช่นนี้ ๆ แหละ พระเจ้าข้า.
พระยานาคทรงสดับดังนั้น ทรงยินดีร่าเริงเป็นนักหนา แล้วตรัส
พระคาถาว่า

ขอท่านจงบอกแก่เรา ปุณณกยักษ์นี้ได้ท่านมา
เปล่า ๆ หรือ ขอท่านจงบอกแก่เรา ปุณณกยักษ์นี้ชนะ
ในการเล่นสกาจึงได้ท่านมา ปุณณกยักษ์นี้กล่าวว่า
ได้มาโดยธรรม ท่านถึงเงื้อมมือของปุณณกยักษ์นี้
ได้อย่างไร.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อกฺขาหิ โน ความว่า ท่านจงบอก
แก่ข้าพเจ้า. บทว่า ตายํ ตัดเป็น ตํ อยํ. บทว่า มุธานุลทฺโธ ความ
ว่า ปุณณกยักษ์นี้ได้ท่านมาเปล่า ๆ หรือชนะด้วยเล่นสกาจึงได้ท่านมา. บทว่า
อติมายมาห ความว่า ปุณณกยักษ์นี้ พูดว่าเราได้บัณฑิตมาโดยชอบธรรม.
บทว่า กถํ ตุวํ หตฺถมิมสฺสมาคโต ความว่า ท่านมาถึงเงื้อมมือปุณณก-
ยักษ์นี้ได้อย่างไร.

ลำดับนั้น พระมหาสัตว์ทูลพระนาคนั้นด้วยคาถาว่า
ปุณณกยักษ์นี้เล่นสกาชนะพระราชาของข้าพระ-
องค์ผู้เป็นอิสราธิบดีในอินทปัตตนครนั้น พระราชา
พระองค์นั้น อันปุณณกยักษ์ชนะแล้ว ได้พระราช-
ทานข้าพระองค์แก่ปุณณกยักษ์นี้ ข้าพระองค์เป็นผู้อัน
ปุณณกยักษ์นี้ ได้มาแล้วโดยธรรม มิใช่ได้มาโดย
กรรมอันสาหัส พระเจ้าข้า.


+ อดไว้บ้าง ลดการสร้างปัญหาชีวิตให้หนักขึ้นอีก
+ ฝึกความอดทน ย่อมจะทำชีวิตตนให้ดียิ่งขึ้น
+ ความสุขอยู่ที่ใจ แล้วมีใครบ้างที่รู้วิธีปฏิบัติและทำได้จริง
+ อยากให้คนอื่นดี อยากให้คนอื่นรู้ เรานั้นแหละควรดีควรรู้ก่อน
+ ไม่อ่านก็ไม่รู้ มัวแต่คิดว่าตัวรู้แล้วก็เลยไม่สนใจในการศึกษาเพิ่ม
+ ความอิจฉา ผลก็คือทุกข์ ความยินดี ผลก็คือสุข จะเอาอะไรก็เลือกเอง
+ อดนิดอดหน่อยค่อยๆฝึกใจ เมื่อนานไปก็ย่อมจะอดทนได้มากเอง
+ เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาให้ตนด้วย
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตา พ่อแม่บ้าง
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาคนภายในครอบครัวบ้าง
เมตตาคนอื่นนั้นดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นก็คือเมตตาให้แก่ทุกคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2019, 08:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า โย มิสฺสโร ความว่า พระราชาพระ-
องค์ใดเป็นอิสราธิบดี ของข้าพระองค์. บทว่า อิมสฺสทาสิ ความว่า ได้ให้
แก่ปุณณกยักษ์นี้.

พระศาสดาเมื่อจะทรงประกาศเนื้อความนี้ จึงตรัสพระคาถานี้ว่า
ในกาลนั้น พระยานาคผู้ประเสริฐทรงสดับคำ
สุภาษิตของวิธุรบัณฑิตผู้เป็นนักปราชญ์แล้ว ทรงชื่น
ชมโสมนัส มีพระทัยเต็มตื้นด้วยปีติ ทรงจูงมือวิธุร-
บัณฑิตผู้มีปัญญาไม่ทราม เสด็จเข้าไปในที่อยู่ของ
พระชายาตรัสว่า ดูก่อนพระน้องวิมลา เพราะเหตุใด

พระน้องจึงดูผอมเหลืองไป เพราะเหตุใด พระน้อง
จึงไม่เสวยกระยาหาร ก็คุณงามความดีของวิธุรบัณฑิต
ผู้ที่พระน้องต้องประสงค์ดวงหทัย เป็นผู้บรรเทาความ
มืดของโลกทั้งปวง เช่นนี้นั้นของเราไม่มี ผู้นี้คือวิธุร-
บัณฑิต มาถึงแล้วจะทำความสว่างไสวให้แก่พระน้อง
เชิญพระน้องตั้งหทัยฟังถ้อยคำของท่าน การที่จะ
ได้เห็นท่านอีกเป็นการหาได้ยาก.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ปาเวกฺขิ แปลว่า เข้าไปแล้ว. บทว่า
เยน ความว่า ดูก่อนพระน้องวิมลา ผู้เจริญ เจ้าซูบผอมเหลืองไปเพราะเหตุไร
และเพราะเหตุไรเจ้าจึงไม่เสวยกระยาหาร. บทว่า น จ เม ตาทิโส วณฺโณ
ความว่า ก็เกียรติคุณของวิธุรบัณฑิตเช่นนี้ อย่างที่เราและใคร ๆ อื่นมิได้มี

ได้แผ่กระฉ่อนไปตลอดพื้นปฐพีและเทวโลก วิธุรบัณฑิตผู้ที่เจ้าต้องการดวง
หทัยนั้น เป็นผู้บรรเทาความมืดของชาวโลกทั้งสิ้นมาถึงแล้ว จะทำความสว่าง
ไสวในอรรถธรรมแก่เจ้า ณ บัดนี้. ด้วยบทว่า ปุน นี้ท่านกล่าวว่า ชื่อว่า
การเห็นวิธุรบัณฑิตนี้อีก หาได้ยาก.


+ อดไว้บ้าง ลดการสร้างปัญหาชีวิตให้หนักขึ้นอีก
+ ฝึกความอดทน ย่อมจะทำชีวิตตนให้ดียิ่งขึ้น
+ ความสุขอยู่ที่ใจ แล้วมีใครบ้างที่รู้วิธีปฏิบัติและทำได้จริง
+ อยากให้คนอื่นดี อยากให้คนอื่นรู้ เรานั้นแหละควรดีควรรู้ก่อน
+ ไม่อ่านก็ไม่รู้ มัวแต่คิดว่าตัวรู้แล้วก็เลยไม่สนใจในการศึกษาเพิ่ม
+ ความอิจฉา ผลก็คือทุกข์ ความยินดี ผลก็คือสุข จะเอาอะไรก็เลือกเอง
+ อดนิดอดหน่อยค่อยๆฝึกใจ เมื่อนานไปก็ย่อมจะอดทนได้มากเอง
+ เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาให้ตนด้วย
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตา พ่อแม่บ้าง
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาคนภายในครอบครัวบ้าง
เมตตาคนอื่นนั้นดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นก็คือเมตตาให้แก่ทุกคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2019, 08:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
พระนางวิมลา ทอดพระเนตรเห็นวิธุรบัณฑิต
ผู้มีปัญญากว้างขวางดังแผ่นดินนั้นแล้ว มีพระทัยยินดี
โสมนัส ทรงยกพระองคุลีทั้ง ๑๐ ขึ้นอัญชลี และตรัส
กะวิธุรบัณฑิตผู้เป็นนักปราชญ์ประเสริฐสุดของชาว
กุรุรัฐ.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า หฏฺเ€น ภาเวน แปลว่า ผู้มีจิตยินดี.
บทว่า ปตีตรูปา ได้แก่ เกิดความโสมนัส.
เบื้องหน้าแต่นี้ พระนางวิมลาเทวี จึงตรัสว่า
ดูก่อนบัณฑิต ท่านเป็นมนุษย์มาเห็นนาคพิภพที่
ตนยังไม่เคยเห็น เป็นผู้ถูกมรณภัยคุกคามแล้ว เพราะ
เหตุไรจึงไม่กลัวและไม่ถวายบังคมดิฉันเล่า อาการที่
ทำเช่นนี้ ดูเหมือนไม่ใช่อาการของผู้มีปัญญา.

วิธุรบัณฑิตกราบทูลเป็นคาถาว่า
ข้าแต่พระนางเจ้านาคี ข้าพระองค์เป็นผู้ไม่กลัว
และไม่เป็นผู้อันภัยคือความตายคุกคาม นักโทษประ-
หารไม่พึงไหว้เพชฌฆาต หรือเพชฌฆาตก็ไม่พึงให้นัก
โทษประหารกราบไหว้ตน อย่างไรหนอ นรชนจะ
กราบไหว้บุคคลผู้ที่ปรารถนาจะฆ่าตน และผู้ปรารถนา
จะฆ่าเขา จะพึงให้บุคคลผู้ที่ตนจะฆ่ากราบไหว้ตน
อย่างไรเล่า กรรมนั้นย่อมไม่สำเร็จประโยชน์ พระ-
เจ้าข้า.

พระนางวิมลาตรัสว่า
ดูก่อนบัณฑิต คำนั้นถูกอย่างที่ท่านพูด ท่านพูด
จริง นักโทษประหารไม่พึงกราบไหว้เพชฌฆาต หรือ
เพชฌฆาตก็ไม่พึงให้นักโทษประหารกราบไหว้ตน
อย่างไรหนอนรชน จึงจะกราบไหว้บุคคลผู้ปรารถนา
จะฆ่าตน และผู้ปรารถนาจะฆ่าเขา จะพึงให้บุคคลผู้
ที่ตนจะฆ่ากราบไหว้เล่า กรรมนั้น ย่อมไม่สำเร็จ
ประโยชน์เลย.


+ อดไว้บ้าง ลดการสร้างปัญหาชีวิตให้หนักขึ้นอีก
+ ฝึกความอดทน ย่อมจะทำชีวิตตนให้ดียิ่งขึ้น
+ ความสุขอยู่ที่ใจ แล้วมีใครบ้างที่รู้วิธีปฏิบัติและทำได้จริง
+ อยากให้คนอื่นดี อยากให้คนอื่นรู้ เรานั้นแหละควรดีควรรู้ก่อน
+ ไม่อ่านก็ไม่รู้ มัวแต่คิดว่าตัวรู้แล้วก็เลยไม่สนใจในการศึกษาเพิ่ม
+ ความอิจฉา ผลก็คือทุกข์ ความยินดี ผลก็คือสุข จะเอาอะไรก็เลือกเอง
+ อดนิดอดหน่อยค่อยๆฝึกใจ เมื่อนานไปก็ย่อมจะอดทนได้มากเอง
+ เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาให้ตนด้วย
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตา พ่อแม่บ้าง
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาคนภายในครอบครัวบ้าง
เมตตาคนอื่นนั้นดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นก็คือเมตตาให้แก่ทุกคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2019, 08:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
ลำดับนั้น พระมหาสัตว์ เมื่อจะทำปฏิสันถารกับพระนางวิมลาเทวี
จึงทูลเป็นคาถาว่า
ข้าแต่พระนางเจ้านาคกัญญา วิมานของพระองค์
นี้ เป็นของไม่เที่ยงแต่เป็นเช่นกับของเที่ยง ฤทธิ์ ความ
รุ่งเรือง พระกำลังกาย พระวิริยภาพ และการเสด็จ
อุบัติในนาคพิภพ ได้มีแล้วแก่ฝ่าพระบาท ข้าพระองค์
ขอทูลถามเนื้อความนั้นกะฝ่าพระบาท วิมานนี้ ฝ่า
พระบาทได้มาอย่างไรหนอ วิมานนี้ ฝ่าพระบาทได้
มาเพราะอาศัยอะไร หรือเป็นของเกิดขึ้นตามฤดูกาล

ฝ่าพระบาททรงกระทำเอง หรือเทวดาทั้งหลายถวาย
ฝ่าพระบาท ข้าแต่พระนางเจ้านาคกัญญา ขอฝ่าพระ-
บาท ตรัสบอกเนื้อความนั้นแก่ข้าพระองค์ ตามที่
ฝ่าพระบาทได้วิมานมาเถิด พระเจ้าข้า.

ลำดับนั้น พระนางวิมลาเทวี ตรัสบอกแก่พระมหาสัตว์ว่า
วิมานนี้ ดิฉันได้มาเพราะอะไรก็หามิได้ เกิดขึ้น
ตามฤดูกาลก็หามิได้ ดิฉันมิได้กระทำเอง แม้เทวดาทั้ง
หลายก็มิได้ให้ แต่วิมานนี้ ดิฉันได้มาด้วยบุญกรรม
อันไม่ลามกของตนเอง.

พระมหาสัตว์กล่าวว่า
ข้าแต่พระนางเจ้านาคี อะไรเป็นวัตรของฝ่า
พระบาท และอะไรเป็นพรหมจรรย์ของฝ่าพระบาท

ฤทธิ์ ความรุ่งเรือง พระกำลังกาย พระวิริยภาพ และ
การเสด็จอุบัติในนาคพิภพ ทั้งวิมานอันใหญ่ของฝ่า
พระบาทนี้ เป็นผลแห่งกรรมอะไร อันฝ่าพระบาท
ทรงประพฤติดีแล้ว พระเจ้าข้า.

ลำดับนั้น พระนางวิมลาเทวีตรัสบอกพระมหาสัตว์ว่า
ดูก่อนเจ้านักปราชญ์ ดิฉันและพระสวามีของ
ดิฉันเป็นผู้มีศรัทธา เป็นทานบดี ในครั้งนั้น เรือนของ
ดิฉันเป็นดังบ่อน้ำของสมณพราหมณ์ทั้งหลาย และ
ดิฉันได้บำรุงสมณพราหมณ์ให้อิ่มหนำสำราญ ดิฉัน
และพระสวามี เมื่อยังอยู่ในมนุษยโลกนั้น ได้ถวายทาน
คือ ดอกไม้ ของหอม เครื่องลูบไล้เครื่องประทีป ที่


+ อดไว้บ้าง ลดการสร้างปัญหาชีวิตให้หนักขึ้นอีก
+ ฝึกความอดทน ย่อมจะทำชีวิตตนให้ดียิ่งขึ้น
+ ความสุขอยู่ที่ใจ แล้วมีใครบ้างที่รู้วิธีปฏิบัติและทำได้จริง
+ อยากให้คนอื่นดี อยากให้คนอื่นรู้ เรานั้นแหละควรดีควรรู้ก่อน
+ ไม่อ่านก็ไม่รู้ มัวแต่คิดว่าตัวรู้แล้วก็เลยไม่สนใจในการศึกษาเพิ่ม
+ ความอิจฉา ผลก็คือทุกข์ ความยินดี ผลก็คือสุข จะเอาอะไรก็เลือกเอง
+ อดนิดอดหน่อยค่อยๆฝึกใจ เมื่อนานไปก็ย่อมจะอดทนได้มากเอง
+ เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาให้ตนด้วย
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตา พ่อแม่บ้าง
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาคนภายในครอบครัวบ้าง
เมตตาคนอื่นนั้นดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นก็คือเมตตาให้แก่ทุกคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2019, 08:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
นอน ที่พักอาศัยผ้านุ่งห่ม ผ้าปูนอน ข้าวและน้ำโดย
เคารพ ทานที่ดิฉันได้ถวายโดยเคารพนั้น เป็นวัตร
ของดิฉันและการสมาทานนั้น เป็นพราหมจรรย์ของ
ดิฉัน ดูก่อนท่านผู้เป็นนักปราชญ์ ฤทธิ์ ความรุ่งเรือง
กำลังกาย ความเพียร การเกิดในนาคพิภพ และวิมาน
ใหญ่ของเรานี้ เป็นวิบากแห่งวัตรและพรหมจรรย์นั้น
อันเราประพฤติดีแล้ว.

ลำดับนั้น พระมหาสัตว์กราบทูลพระนางวิมลาเทวีนั้นว่า
ถ้าวิมานนี้ ฝ่าพระบาททรงได้ด้วยอานุภาพแห่ง
ทานอย่างนี้ ฝ่าพระบาทก็ชื่อว่า ทรงทราบผลแห่งบุญ
และทรงทราบการเสด็จอุบัติในนาคพิภพเพราะผลแห่ง
บุญ เพราะเหตุนั้นแล ขอฝ่าพระบาท จงเป็นผู้ไม่
ประมาท ประพฤติธรรม ตามที่จะได้ ทรงครอบครอง
วิมานนี้ต่อไป ฉะนั้นเถิด พระเจ้าข้า.

พระนางวิมลาเทวีตรัสว่า
ดูก่อนบัณฑิต ในนาคพิภพนี้ไม่มีสมณพราหมณ์
ที่เราจะพึงถวายข้าวและน้ำเลย ดิฉันถามแล้ว ขอ
ท่านจงบอกเนื้อความนั้นแก่ฉัน ตามที่ดิฉันจะพึงได้
ครอบครองวิมานนี้ ต่อไปเถิด.
พระมหาสัตว์ทูลว่า

ข้าแต่พระนางเจ้านาคี ก็นาคทั้งหลายที่เป็น
พระโอรส พระธิดา พระสวามี ทั้งพระญาติ พระมิตร
และข้าเฝ้าของฝ่าพระบาท ซึ่งเกิดในนาคพิภพนี้ มี
อยู่ ขอฝ่าพระบาทจงเป็นผู้ไม่ประทุษร้าย ในนาคมี
พระโอรสเป็นต้นเหล่านั้น ด้วยพระกาย และพระวาจา

เป็นนิตย์ ฝ่าพระบาทจงทรงรักษาความไม่ประทุษร้าย
ด้วยพระกายและพระวาจาอย่างนี้ ฝ่าพระบาททรง
สถิตอยู่ในวิมานนี้ ตลอดพระชนมายุแล้ว จักเสด็จไป
สู่เทวโลก อันสูงส่งกว่านาคพิภพนี้ พระเจ้าข้า.


+ อดไว้บ้าง ลดการสร้างปัญหาชีวิตให้หนักขึ้นอีก
+ ฝึกความอดทน ย่อมจะทำชีวิตตนให้ดียิ่งขึ้น
+ ความสุขอยู่ที่ใจ แล้วมีใครบ้างที่รู้วิธีปฏิบัติและทำได้จริง
+ อยากให้คนอื่นดี อยากให้คนอื่นรู้ เรานั้นแหละควรดีควรรู้ก่อน
+ ไม่อ่านก็ไม่รู้ มัวแต่คิดว่าตัวรู้แล้วก็เลยไม่สนใจในการศึกษาเพิ่ม
+ ความอิจฉา ผลก็คือทุกข์ ความยินดี ผลก็คือสุข จะเอาอะไรก็เลือกเอง
+ อดนิดอดหน่อยค่อยๆฝึกใจ เมื่อนานไปก็ย่อมจะอดทนได้มากเอง
+ เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาให้ตนด้วย
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตา พ่อแม่บ้าง
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาคนภายในครอบครัวบ้าง
เมตตาคนอื่นนั้นดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นก็คือเมตตาให้แก่ทุกคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2019, 08:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
พระนางวิมลาเทวีตรัสว่า
ท่านเป็นอำมาตย์ของพระราชาผู้ประเสริฐสุด
พระองค์ใด พระราชาผู้ประเสริฐสุด พระองค์นั้น
พรากจากท่านแล้ว ย่อมจะทรงเศร้าโศกแน่แท้ทีเดียว
คนผู้ถูกความทุกข์ครอบงำก็ดี คนผู้ป่วยหนักก็ดี ได้
สมาคมกับท่านแล้ว พึงได้รับความสุข.

พระมหาสัตว์ทูลว่า
ข้าแต่พระนางเจ้านาคี ฝ่าพระบาทตรัสถึงธรรม
ของสัตบุรุษทั้งหลาย ซึ่งเป็นบทอันแสดงประโยชน์
ล้ำเลิศที่นักปราชญ์ ประพฤติดีแล้วโดยแท้ ก็คุณวิเศษ
ของบุคคลผู้มีปัญญาเช่นข้าพระองค์ ย่อมปรากฏใน
เมื่อมีภยันตรายเช่นนี้แหละพระเจ้าข้า.

พระนางวิมลาเทวีตรัสว่า
ขอท่านจงบอกแก่ดิฉัน ปุณณกยักษ์นี้ ได้ท่าน
มาเปล่า ๆ หรือ ขอท่านจงบอกแก่ดิฉัน ปุณณกยักษ์
นี้ชนะในการเล่นสกา จึงได้ท่านมา ปุณณกยักษ์นี้
กล่าวว่าได้มาโดยธรรม ท่านถึงเงื้อมมือของปุณณก-
ยักษ์นี้ได้อย่างไร.

ลำดับนั้น พระมหาสัตว์ทูลกะพระนางวิมลาเทวีนั้นว่า
ปุณณกยักษ์นี้ เล่นสกาชนะพระราชาของข้า-
พระองค์ผู้เป็นอิสราธิบดี ในอินทปัตตนครนั้น พระ-
ราชาพระองค์นั้น อันปุณณกยักษ์ชนะแล้ว ได้พระ-
ราชทานข้าพระองค์แก่ปุณณกยักษ์นี้ ข้าพระองค์เป็น
ผู้อันปุณณกยักษ์นี้ได้มาแล้วโดยธรรม มิใช่ได้มาด้วย
กรรมอันสาหัส พระเจ้าข้า.
บัณฑิตพึงทราบเนื้อความแห่งคาถาเหล่านี้ โดยนัยที่ข้าพเจ้ากล่าวมา
แล้วในหนหลังนั้นเถิด.


+ อดไว้บ้าง ลดการสร้างปัญหาชีวิตให้หนักขึ้นอีก
+ ฝึกความอดทน ย่อมจะทำชีวิตตนให้ดียิ่งขึ้น
+ ความสุขอยู่ที่ใจ แล้วมีใครบ้างที่รู้วิธีปฏิบัติและทำได้จริง
+ อยากให้คนอื่นดี อยากให้คนอื่นรู้ เรานั้นแหละควรดีควรรู้ก่อน
+ ไม่อ่านก็ไม่รู้ มัวแต่คิดว่าตัวรู้แล้วก็เลยไม่สนใจในการศึกษาเพิ่ม
+ ความอิจฉา ผลก็คือทุกข์ ความยินดี ผลก็คือสุข จะเอาอะไรก็เลือกเอง
+ อดนิดอดหน่อยค่อยๆฝึกใจ เมื่อนานไปก็ย่อมจะอดทนได้มากเอง
+ เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาให้ตนด้วย
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตา พ่อแม่บ้าง
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาคนภายในครอบครัวบ้าง
เมตตาคนอื่นนั้นดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นก็คือเมตตาให้แก่ทุกคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2019, 13:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
พระนางวิมลาเทวี ทรงสดับถ้อยคำของพระมหาสัตว์ทรงยินดีเป็นที่
ยิ่ง ทรงพาพระมหาสัตว์ไปให้สรงด้วยน้ำหอมเป็นจำนวนพันหม้อ ในเวลา
สรงเสร็จ ทรงประทานเครื่องประดับมีผ้าทิพย์และของหอมระเบียบทิพย์เป็นต้น
ในเวลาประดับตกแต่งเสร็จแล้ว ได้ประทานทิพยโภชน์ พระมหาสัตว์บริโภค
โภชนาหารแล้ว สั่งให้ปูอาสนะที่เขาประดับไว้แล้ว นั่งเหนือธรรมาสน์ที่เขา
ประดับแล้วแสดงธรรมด้วยพุทธลีลา.

พระศาสดา เมื่อจะทรงประกาศเนื้อความนั้น จึงตรัสพระคาถาว่า
ท้าววรุณนาคราช ตรัสถามปัญหากะวิธุรบัณฑิต
ฉันใด แม้พระนางวิมลานาคกัญญา ก็ตรัสถามปัญหา
กะวิธุรบัณฑิต ฉันนั้น วิธุรบัณฑิตผู้เป็นปราชญ์ อัน
ท้าววรุณนาคราชตรัสถามแล้ว ได้พยากรณ์ปัญหาให้
ท้าววรุณนาคราชทรงยินดี ฉันใด วิธุรบัณฑิตผู้เป็น

นักปราชญ์ แม้พระนางวิมลานาคกัญญาตรัสถามแล้ว
ก็พยากรณ์ให้พระนางวิมลานาคกัญญาทรงยินดีฉันนั้น
วิธุรบัณฑิตผู้เป็นนักปราชญ์ ทราบว่า พระยานาคราช
ผู้ประเสริฐ และพระนางนาคกัญญาทั้งสองพระองค์
นั้น ทรงมีพระทัยชื่นชมโสมนัส ไม่ครั่นคร้าม ไม่

กลัว ไม่ขนพองสยองเกล้า ได้กราบทูลท้าววรุณนาค
ราชว่า ข้าแต่พระยานาคราช ฝ่าพระบาทอย่าทรง
พระวิตกว่า ทรงกระทำกรรมของคนผู้ประทุษร้ายมิตร
และอย่าทรงพระดำริว่า จักฆ่าบัณฑิตนี้ ขอฝ่าพระ-
บาทจงกระทำกิจด้วยเนื้อหทัยของข้าพระองค์ ตามที่

ฝ่าพระบาททรงพระประสงค์เถิด ถ้าฝ่าพระบาทไม่
ทรงสามารถจะฆ่าข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะทรงทำ
ถวายตามพระอัธยาศัยของฝ่าพระบาทเอง พระเจ้าข้า.


+ อดไว้บ้าง ลดการสร้างปัญหาชีวิตให้หนักขึ้นอีก
+ ฝึกความอดทน ย่อมจะทำชีวิตตนให้ดียิ่งขึ้น
+ ความสุขอยู่ที่ใจ แล้วมีใครบ้างที่รู้วิธีปฏิบัติและทำได้จริง
+ อยากให้คนอื่นดี อยากให้คนอื่นรู้ เรานั้นแหละควรดีควรรู้ก่อน
+ ไม่อ่านก็ไม่รู้ มัวแต่คิดว่าตัวรู้แล้วก็เลยไม่สนใจในการศึกษาเพิ่ม
+ ความอิจฉา ผลก็คือทุกข์ ความยินดี ผลก็คือสุข จะเอาอะไรก็เลือกเอง
+ อดนิดอดหน่อยค่อยๆฝึกใจ เมื่อนานไปก็ย่อมจะอดทนได้มากเอง
+ เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาให้ตนด้วย
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตา พ่อแม่บ้าง
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาคนภายในครอบครัวบ้าง
เมตตาคนอื่นนั้นดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นก็คือเมตตาให้แก่ทุกคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2019, 13:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อฉมฺภี แปลว่า ไม่ครั่นคร้าม. บทว่า
อโลมหฏฺโ€ ได้แก่ ไม่หวาดเสียวเพราะความกลัวเลย. บทว่า อิจฺจพฺรวิ
ความว่า ได้กล่าวดังนั้น ด้วยอำนาจการพิจารณา. บทว่า มา เภถยิ ความว่า
พระองค์อย่ากลัวไปเลยว่า เราจะทำกรรมคือการประทุษร้ายต่อมิตร และอย่าคิด
สงสัยไปเลยว่า บัดนี้ เราจักฆ่าบัณฑิตนี้ หรืออย่างไรหนอ. วิธุรบัณฑิต

เรียกวรุณนาคราชว่า นาค. บทว่า อยาหมสฺมิ ตัดเป็น อยํ อหมสฺมิ
บาลีก็อย่างนี้เหมือนกัน. บทว่า สยํ กริสสามิ ความว่า ถ้าท่านไม่อาจจะ
ฆ่าเรา ด้วยคิดว่า เราได้ฟังธรรมในสำนักของบัณฑิตนี้ไซร้ ข้าพเจ้าจัก
กระทำถวายเองให้สมกับพระอัธยาศัยของพระองค์.
พระยานาคราชตรัสว่า

ปัญญานั่นเอง เป็นดังใจของบัณฑิตทั้งหลาย เรา
ทั้งสองนั้นยินดีด้วยปัญญาของท่านยิ่งนัก ปุณณกยักษ์
จงไปส่งท่านให้ถึงแคว้นกุรุรัฐในวันนี้ทีเดียว.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า เต ตฺยมฺห ความว่า ข้าพเจ้าทั้งสอง
คนนั้น ยินดีนักหนาด้วยปัญญาของท่าน ยักษ์เสนาบดีผู้มีชื่อไม่บกพร่อง
ซึ่งได้แก่ปุณณกยักษ์นี้. บทว่า ลภตชชทารํ ความว่า วันนี้ขอปุณณกยักษ์
เสนาบดี จงได้ภริยา เราจะให้อิรันทตีธิดาแก่ท่าน. บทว่า ปาปยาตุ ความว่า
ในวันนี้ปุณณกยักษ์ จงไปส่งท่านให้ถึงอินทปัตตนครแคว้นกุรุนั่นแล.

ก็แล พระยาวรุณนาคราช ครั้นตรัสอย่างนี้แล้วจึงได้พระราชทานนาง
อิรันทตีให้แก่ปุณณกยักษ์ ปุณณกยักษ์นั้นได้นางอิรันทตีสมปรารถนา ดังนั้น
จึงมีจิตยินดี ได้เจรจาปราศัยกับพระมหาสัตว์เจ้าแล้ว.
พระศาสดา เมื่อจะประกาศเนื้อความนั้น จึงตรัสพระคาถานี้ว่า

ปุณณกยักษ์นั้น ได้นางอิรันทตีนาคกัญญาแล้ว
มีใจชื่นชมโสมนัสปีติปราโมทย์ ได้กล่าวกะวิธุรบัณฑิต
ผู้ประเสริฐสุดของชาวกุรุรัฐว่า ข้าแต่ท่านวิธุรบัณฑิต
ท่านได้ทำให้ข้าพเจ้ามีความพร้อมเพรียงกันกับภริยา
ข้าพเจ้าจะทำกิจตอบแทนท่าน ข้าพเจ้าจะให้แก้วมณี
ดวงนี้แก่ท่าน และจะนำท่านไปส่งให้ถึงแคว้นกุรุรัฐ
ในวันนี้ทีเดียว.


+ อดไว้บ้าง ลดการสร้างปัญหาชีวิตให้หนักขึ้นอีก
+ ฝึกความอดทน ย่อมจะทำชีวิตตนให้ดียิ่งขึ้น
+ ความสุขอยู่ที่ใจ แล้วมีใครบ้างที่รู้วิธีปฏิบัติและทำได้จริง
+ อยากให้คนอื่นดี อยากให้คนอื่นรู้ เรานั้นแหละควรดีควรรู้ก่อน
+ ไม่อ่านก็ไม่รู้ มัวแต่คิดว่าตัวรู้แล้วก็เลยไม่สนใจในการศึกษาเพิ่ม
+ ความอิจฉา ผลก็คือทุกข์ ความยินดี ผลก็คือสุข จะเอาอะไรก็เลือกเอง
+ อดนิดอดหน่อยค่อยๆฝึกใจ เมื่อนานไปก็ย่อมจะอดทนได้มากเอง
+ เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาให้ตนด้วย
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตา พ่อแม่บ้าง
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาคนภายในครอบครัวบ้าง
เมตตาคนอื่นนั้นดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นก็คือเมตตาให้แก่ทุกคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 เม.ย. 2019, 13:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2007, 16:58
โพสต์: 7548

แนวปฏิบัติ: พุทธานุสติ
งานอดิเรก: ทำหลายอย่างแต่ตอนนี้ไฟฟ้า
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม และแบ่งปันต่อไป
อายุ: 0
ที่อยู่: จาก ลาว ครับ

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า มณิรตนํ ความว่า ดูก่อนบัณฑิต
เราเลื่อมใสในอุปการะคุณของท่าน เราควรจะทำกิจอันสมควรแก่ท่าน เพราะ
ฉะนั้น ข้าพเจ้าจะให้แก้วมณี อันเป็นของบริโภคแห่งพระเจ้าจักรพรรดินี้แก่
ท่าน และข้าพเจ้าจะไปส่งท่านให้ถึงอินทปัตตนครแคว้นกุรุในวันนี้ด้วย.
ลำดับนั้น พระมหาสัตว์เมื่อจะกระทำความชมเชยแก่ปุณณกยักษ์นั้น
ได้กล่าวคาถานอกนี้ว่า

ดูก่อนกัจจานะ ท่านจงมีความไมตรีสนิทสนม
กับภรรยาที่น่ารัก อันไม่มีใครทำให้แตกแยกตลอดไป
ท่านจงเป็นผู้มีจิตเบิกบาน มีปีติโสมนัส ท่านได้ให้
แก้วมณีแก่ข้าพเจ้าแล้ว ขอจงนำข้าพเจ้าไปยังอินท-
ปัตตนครด้วยเถิด.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อชฺเชยฺยเมสา ความว่า ดูก่อนท่านผู้
กัจจายนโคตร ท่านพร้อมกับภริยาเป็นที่รักของท่าน จงเป็นผู้มีความพร้อม
เพรียงปรองดองมีความรักใคร่กันตลอดไป จงเป็นผู้มีความสุขสวัสดี มีชัยชนะ
แก่ข้าศึกศัตรู. พระมหาสัตว์กล่าวความที่ปุณณกยักษ์นั้นมีความพรั่งพร้อมด้วย
ปีติ ด้วยคำมีอาทิว่า อานนฺทจิตฺโต เป็นผู้มีจิตบันเทิง ดังนี้. บทว่า
นยินฺทปตฺตํ ตัดเป็น นย อินฺทปตฺตํ แปลว่า จงนำไปสู่อินทปัตตนคร.
เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า

ปุณณยักษ์นั้น เชิญวิธุรบัณฑิตผู้ประเสริฐสุด
ของชาวกุรุรัฐ ผู้มีปัญญาไม่ทราม ให้นั่งบนอาสนะ
ข้างหน้าของตน ขึ้นม้าอาชาไนยเหาะไปในอากาศ
กลางหาว ปุณณกยักษ์นั้น ได้นำวิธุรบัณฑิตผู้ประเสริฐ
สุดของชาวกุรุรัฐ ไปถึงอินทปัตตนคร เร็วยิ่งกว่าใจ
ของมนุษย์พึงไปถึง.


+ อดไว้บ้าง ลดการสร้างปัญหาชีวิตให้หนักขึ้นอีก
+ ฝึกความอดทน ย่อมจะทำชีวิตตนให้ดียิ่งขึ้น
+ ความสุขอยู่ที่ใจ แล้วมีใครบ้างที่รู้วิธีปฏิบัติและทำได้จริง
+ อยากให้คนอื่นดี อยากให้คนอื่นรู้ เรานั้นแหละควรดีควรรู้ก่อน
+ ไม่อ่านก็ไม่รู้ มัวแต่คิดว่าตัวรู้แล้วก็เลยไม่สนใจในการศึกษาเพิ่ม
+ ความอิจฉา ผลก็คือทุกข์ ความยินดี ผลก็คือสุข จะเอาอะไรก็เลือกเอง
+ อดนิดอดหน่อยค่อยๆฝึกใจ เมื่อนานไปก็ย่อมจะอดทนได้มากเอง
+ เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาให้ตนด้วย
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตา พ่อแม่บ้าง
เมตตาคนอื่น อย่าลืมเมตตาคนภายในครอบครัวบ้าง
เมตตาคนอื่นนั้นดี แต่สิ่งที่ดีที่สุดนั้นก็คือเมตตาให้แก่ทุกคน

.....................................................
เมื่อความเห็นใดมีการหัวเราะ ผมขออนุญาตไม่ยุ่ง และตอบนะครับ

สนทนาธรรมโปรดเคารพในพระธรรม และเพื่อนสมาชิกด้วย

เจริญ สติ และปัญญา


เพื่อลดละเลิก ป้องกันสิ่งที่เป็นอกุศลทาง กาย วาจา ใจ
เพื่อเจริญและรักษาไว้ชึ่งสิ่งที่เป็นกุศลทาง กาย วาจา ใจ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2685 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 164, 165, 166, 167, 168, 169, 170 ... 179  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร