วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 13:08  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 มิ.ย. 2021, 11:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8583


 ข้อมูลส่วนตัว




air-atmosphere-background-beautiful.jpg
air-atmosphere-background-beautiful.jpg [ 101.75 KiB | เปิดดู 640 ครั้ง ]
บันทึกพิเศษท้ายบท
เพื่อความเข้าใจลึกลงไปจำเพาะเรื่อง

บันทึกที่ ๑: เรื่อง สอุปาทิเสส และ อนุปาทิเสส

บางท่าน ถือเอาความหมายตามพุทธพจน์ใน อังคุตตรนิกาย (องฺ.สตฺตก. ๒๓/๕๓/๗๕; องฺ.นวก.
๒๓/๒๑๖/๓๙๔) ซึ่งจำแนกประเภทบุคคลผู้บรรลุนิพพานเป็น ๒ อย่าง คือ สอุปาทิเสสบุคคล (บุค
คลผู้ยังมีอุปาทานเหลือ หรือยังมีกิเลสเหลืออยู่บ้าง กล่าวคือพระเสขะ ได้แก่ พระโสดาบัน พระสกา
ทาคามี และพระอนาคามี) กับ อนุปาทิเสสบุคคล (บุคคลผู้ไม่มีอุปาทานเหลือ หรือไม่มีเชื้อกิเลส
เหลืออยู่เลย ได้แก่ พระอเสขะ คือ พระอรหันต์) จึงแปลคำว่า “อุปาทิ” เป็น อุปาทาน คือตัวความยึด
มั่น แล้วจำกัดความหมายของนิพพาน ๒ อย่างนั้นว่า

๑) สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ นิพพานที่ยังมีอุปาทานเหลืออยู่ หรือนิพพานของผู้ยังมีกิเลสเหลืออยู่บ้าง
ได้แก่นิพพานของพระเสขะ คือ พระโสดาบัน พระสกทาคามี และพระอนาคามี

๒) อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ นิพพานที่ไม่มีอุปาทานเหลืออยู่เลย หรือนิพพานของผู้ไม่มีกิเลสเหลืออยู่
เลย ได้แก่ นิพพานของพระอเสขะ คือพระอรหันต์

การแปลความหมายอย่างนี้ เกิดจากความสับสนระหว่าง ภาวะ ( สอุปาทิเสสนิพพาน และอนุปาทิเสส
นิพพาน) กับ บุคคล (สอุปาทิเสสบุคคล และอนุปาทิเสสบุคคล) กล่าวคือ นิพพาน ๒ นั้น เป็นการแสดง
ภาวะของนิพพานเท่าที่บุคคลเข้าไปเกี่ยวข้อง ส่วนบุคคล ๒ เป็นการแสดงถึงบุคคลผู้เกี่ยวข้อง
กับนิพพาน

ดังนั้น เพื่อป้องกันความสับสน พึงแยก สอุปาทิเสสนิพพาน และ อนุปาทิเสสนิพพาน ไว้พวกหนึ่ง สอุ
ปาทิเสสบุคคล และ อนุปาทิเสสบุคคล (ซึ่งได้กล่าวต่อไปในตอนว่าด้วยบุคคลผู้บรรลุนิพพาน) ไว้อีก
พวกหนึ่ง ไม่ให้ปะปนกัน และศัพท์สำคัญที่จะช่วยแยกความหมายในกรณีนี้ ก็คือ “อุปาทิ” ในสอุ
ปาทิเสสนิพพาน และอนุปาทิเสสนิพพาน ซึ่งแตกต่างจาก “อุปาทิ” ใน สอุปาทิเสสบุคคล และอนุปา
ทิเสสบุคคล (พึงสังเกตว่า ในอรรถกถาที่อธิบายเรื่องนิพพาน ๒ นั้นเอง ก็ยังมีคำอธิบายบางตอนชวน
ให้สับสนว่า สอุปาทิเสสนิพพาน คือนิพพานของสอุปาทิเสสบุคคล - ดู อิติ.อ.๒๑๗)

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร