วันเวลาปัจจุบัน 16 ก.ค. 2025, 01:17  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.ค. 2022, 09:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8575


 ข้อมูลส่วนตัว




1566286350_78190_Cover_.jpg
1566286350_78190_Cover_.jpg [ 74.28 KiB | เปิดดู 644 ครั้ง ]
อาทิตตปธิยายสูตร
บุญบาปเกิดขึ้นเพราะอาศัยการได้ยิน
เมื่อบุคคลได้ยินเสียงอย่างใดอย่างหนึ่งมักรู้สึกชอบหรือไม่ชอบ
ความรู้งสึกชอบเกิดขึ้นจากอารมณ์ที่ตนปรารถนาพอใจ ไฟราคะย่อม
เกิดขึ้นเผาใจ ถ้าได้ยินเสียงที่ตนไม่ชอบก็มักเกิดความไม่พอใจหงุดหงิด
รำคาญใจ จัดว่าไฟโทสะเผาใจอยู่ในขณะนั้น เขาจึงต้องพยายามให้ตน
ได้รับสิ่งที่คิดว่าดีงามเป็นสุขด้วยการทำบุญหรือบาปอันส่งผลให้ภพใหม่
เกิดขึ้น โดยมีไฟชาติและไฟซราเป็นต้นเกิดขึ้นตามเผาเหล่าสัตว์ช้ำแล้ว
ซ้ำเล่าภพแล้วภพเล่าไม่อาจนับได้

ผู้ที่เจริญสติระลึกรู้รูปนามในปัจจุบันด้วยการรู้ชัดโสตะ คือ
โสตประสาท รู้ชัดเสียงที่ได้ยิน รู้ชัดสภาวะได้ยินคือโสตวิญญาณ รู้ขัด
การกระทบในขณะได้ยิน และรู้ชัดความรู้สึกเมื่อได้ยินแล้ว ย่อมเห็น
ประจักษ์รูปนามตามความเป็นจริง ส่งผลให้ไฟราคะ ไฟโทสะ และ
ไฟโมหะไม่อาจเผาธรรม ๕ ประการเหล่านั้น และเมื่อไม่มีไฟดังกล่าว
ไฟคือชาติเป็นต้นย่อมเกิดขึ้นไม่ได้ กล่าวคือ ไฟทั้ง ๘ กอง ตามที่
ได้กล่าวมาแล้ว ย่อมเกิดขึ้นมาเผาเหล่าสัตว์ เพราะการกระทำกรรม
ที่เป็นบุญหรือบาปอันมีสาเหตุหลักมาจากการเห็นและการได้ยิน เป็นต้น
ในภพก่อน จะส่งผลให้เราต้องมาเกิดในภพนี้และภพต่อๆ ไป

อาทิตตปริยายสูตร
ไฟกิเลสเผาในขณะมิได้กำหนดรู้สภาวะได้ยิน
ผู้ที่เจริญสติกำหนดรู้รูปนามจนกระทั่งรู้ประจักษ์ความเกิดดับ
ตามที่กล่าวมาแล้ว ย่อมจะไม่เกิดกิเลสเผาใจโดยเนื่องกับอารมณ์ที่รู้เห็น
ตามความเป็นจริง แต่ผู้ที่มิได้กำหนดรู้เช่นนี้ย่อมเกิดกิเลสโดยเนื่องกับ
การได้ยิน ส่งผลให้ไฟราคะเกิดขึ้นเผาบ้างโดยอาศัยอารมณ์ที่ตนชอบ
หรือไฟโทสะเกิดขึ้นเผาบ้างโดยเนื่องด้วยอารมณ์ที่ไม่ชอบ หรือเพราะ
ไม่ได้สิ่งที่ต้องการ นอกจากนั้น ไฟโมหะก็ยังเผาโสตะพร้อมทั้งร่างกาย
ด้วยความเข้าใจผิดว่าเที่ยง เป็นสุข เป็นสัตว์ บุคคล ไฟ ๓ กองเหล่านี้
เผาไหม้อยู่ตลอดเวลา เพราะเหล่าสัตว์มิได้กำหนดรู้เท่าทันรูปนาม
ตามความเป็นจริง จึงส่งผลให้ถูกเผาในภพก่อน ภพนี้ และ ภพหน้า
ผู้ที่ไม่รู้เห็นตามความเป็นจริงย่อมเกิดความพอใจในภพนี้ จึงพยายาม
สร้างเหตุที่ตนคิดว่าดี เพราะปรารถนาให้ตนอยู่ดีมีสุขในภพต่อไป

ความพยายามสร้างกรรมที่เป็นบุญหรือบาปที่เรียกว่ากุศลและ
อกุศล เพื่อให้ตนอยู่ดีมีสุขในภพนี้และภพต่อไปนี้ จัดว่าเป็นกรรมทำให้
เกิดไฟชาติเผาเหล่าสัตว์ในภพที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า นอกจากนี้ยังมี
ไฟชราทำให้ต้องแก่ชราอยู่เสมอ และต้องตายในภพที่ตนเกิดขึ้น แม้ใน
ภพนี้บางคนเศร้าโศกวิตกกังวลจนถึงกับร่ำไห้คร่ำครวญ เพราะสมบัติ
หรือญาติพี่น้องของตนวิบัติ นี้คือลักษณะของไฟคือความเศร้าโศกและ
ความคร่ำครวญเผาเหล่าสัตว์เพราะอาศัยโสตะ ที่กล่าวมานี้เป็นลักษณะ
ของไฟกิเลส ๓ กองที่เผาในขณะที่มิได้กำหนดรู้สภาวะได้ยิน

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร