วันเวลาปัจจุบัน 04 ธ.ค. 2024, 23:26  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ย. 2024, 08:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8291


 ข้อมูลส่วนตัว




20180919_080738.png
20180919_080738.png [ 220.39 KiB | เปิดดู 2285 ครั้ง ]
ยุคนัทธนัย

สำหรับโยคีผู้ได้ฌานหรือที่เรียกว่าฌานลาภีบุคคลย่อมสามารถที่จะนำเอาฌาน
กำหนดพิจารณาเป็นวิปัสสนาหลังจากที่ได้เข้าปฐมฌานแล้ว จากนั้น เมื่อได้
เข้าทุติยฌานแล้วก็จะนำทุติยฌานนั้นมากำหนดวิปัสสนาอีกครั้ง ทำโดยวิธีการนี้
ตามลำดับแห่งฌาน โดยเข้าฌานขั้นหนึ่งแล้วออก จากนั้นก็เข้าวิปัสสนา
กันไปมาอย่างนี้ เป็นการเจริญควบคู่กัน ระหว่างสมถะและวิปัสสนาพร้อมๆกันไป
จนกระทั่งมรรคเกิดขึ้น ภาวนาที่โยคีผู้นี้เจริญเรียกว่า ยุคนัทธภาวนานัย "หลักการ
เจริญภาวนา ที่นำเอาสมถะและวิปัสสนามาเจริญควบคู่กันไป" จะอย่างไรก็ตาม
วิธีการนี้ เนื่องจากว่า เป็นการเอาสมถะและวิปัสสนามาเป็นบาทในครั้งแรก ดังนั้น
วิธีการนี้จึงสงเคราะห์ เข้าในสมถปุพพังคมนัย

สรุปประเด็นหลัก
สำหรับวิปัสสนายานิกบุคคลนั้นไม่ได้ทำให้อุปจารสมาธิและวิธีละวิปัสสมาธิ
เกิดขึ้นก่อน แต่มุ่งเจริญวิปัสสนาทันทีทันใด ซึ่งบุคคลเช่นนี้ยอมไม่มีอุปจารสมาธิ
ละอัปปนาสมาธิ แต่จะได้วิปัสสนาญาณเกิดเป็นลำดับแรก ครั้นเมื่อวิปัสสนา
บริบูรณ์เต็มทีแล้ว สมาธิก็จะเกิดขึ้น ซึ่งประเด็นนี้เป็นประเด็นสำคัญ เป็นประเด็น
หลักที่ควรจดจำซึ่งได้นำมาจากคัมภีร์อรรถกถาที่ท่านได้แสดงวิธีการเจริญวิปัสสนา
แบบวิปัสสนาปุพพังคมนัยไว้

สำหรับอรรถกถาที่ท่านได้แสดงวิธีการเจริญวิปัสสนา ๒ อย่างนี้
ความจริงป็นคำพูดที่ท่านกล่าวตามพระบาลีนั่นเอง เพียงแต่พระอรรถกถาจารย์ท่านได้
เพิ่มเติมบางอย่างเข้ามา เพื่อให้ความายปรากฎชัดเท่านั้น แต่โดยส่วนมากแล้ว
ความหมายเท่ากับพระบาลีเป็นหลัก ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่า ท่านลอกมาจาก
พระบาลีก็ได้ เพราะฉะนั้น คำพูดของพระอรถกถาจารย์จึงไม่ควรที่ใครๆจะมีความ
สงสัยหรือลังเลว่าตรงกับพระบาลีพุทธพจน์หรือไม่ เกี่ยวกับประเด็นนี้ หากโยคี
ทั้งหลายต้องการศึกษารายละเอียดก็จงไปดูในคัมภีร์ปฏิสัมภิทามรรค ยุคนัทธกถา
และในคัมภีร์ อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต ปฏิปทารรค ส่วนในวิปัสสนาชุนีนี้

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 2 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร