วันเวลาปัจจุบัน 19 ส.ค. 2025, 05:20  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ต.ค. 2024, 17:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8591


 ข้อมูลส่วนตัว




20241021_141518.jpg
20241021_141518.jpg [ 219.15 KiB | เปิดดู 1019 ครั้ง ]
พรรณนามรรคนิทเทสกถา
อธิบาย สัมมาทิฏฐิ

(๕๖๒] คำว่าว่า ธรรม ๘ ประการ มีอธิบายว่า ธรรม ๘ ประการ มิสัมมาทิฏฐิ
เป็นต้น ที่ได้เริ่มว่า กตมํ ทุกขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสัจจํ ปฏิปทาอันให้ถึงความกับทุกข์
เป็นอริยสัจเป็นไฉน มาในนิทเทสแห่งทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาพระบาลีโดยนัยมีอาทิว่า
สมฺมาทิฏฐิ และที่ทรงนำเอาพระบาลีนั้นแหละมาตรัสไว้ในที่นี้ ด้วยอ่านาจแห่งอุทเทส
ข้าพเจ้าได้ประกาศไว้แล้วโดยเนื้อความ มิใช่ประกาศไว้ด้วยอำนาจแห่งนิทเทสแห่งมรรค
สัจ เพื่อจะเลี่ยงเสียซึ่งคำถามว่า ถ้าได้ประกาศไว้โดยเนื้อความแล้ว ก็การกล่าวในที่นี้จะ
มีประโยชน์อะไร ท่านอาจารย์จึงกล่าวคำมีอาทิว่า แต่ในที่นี้ ดังนี้.

ในบรรดาคำเหล่านั้น คำว่า ที่เป็นอยู่ในขณะเดียวกัน นี้ ท่านอาจารย์กล่าวไว้
เพราะอธิบายว่า วิรัติทั้งหลายในจิตตุปบาทที่เป็นโลกิยกุศล ย่อมเป็นธรรมชาติเป็นไปใน
ขณะต่างกันทีเดียว แต่ธรรมคือมรรคที่เหลือ แม้ในจิตตุปบาทเหล่านั้นย่อมเกิดขึ้นร่วมกัน
ทีเดียว. คำว่า เพื่อให้ทราบความต่างกัน คือเพื่อหยั่งความรู้ต่างกันแห่งอาการเป็นไป มี
การถอนธรรมอันเป็นปฏิปักษ์ได้เป็นต้น. กถาว่าด้วยมรรคโดยพิสดารจักเป็นแจ้งข้างหน้า
เพราะฉะนั้น ท่านอาจารย์จึงกล่าวว่า โดยสังเขป.

คำว่า ผู้ปฏิบัติเพื่อการแทงตลอดสัจจะทั้ง ๔ ความว่า ผู้ปฏิบัติด้วยอำนาจการ
บำเพ็ญข้อปฏิบัติอันเป็นบุพภาคโดยประการทั้งปวง โดยประการที่จะมีการตรัสรู้สัจจะทั้ง
๔ ได้. ของท่านผู้ชื่อว่า โยคี เพราะมีโยคะกล่าวคืออริยมรรค. ท่านอาจารย์กล่าวว่า ถอน
อวิชชานุสัยขึ้นได้
ดังนี้ เพื่อจะแสดงว่า ในการถอนอวิชชานุสัยขึ้น กิเลสที่ตั้งอยู่เป็นอัน
เดียวกันกับอวิชชานุสัยนั้น ก็จักไม่เหลือแม้แต่น้อยโดยแท้ ถึงกระนั้น อวิชชาก็เป็นธรรม
เป็นข้าศึกตรงต่อวิชขา. แม้ในศัพท์ว่า มิจฉาสังกัปปะ เป็นต้นข้างหน้า ก็มีนัยนี้เหมือนกัน

คำว่ามีอันประกาศความจริงแท้เป็นรส คือมีการประกาศปรมัตถ์เป็นรส อธิบาย
ว่า มีการทำสัจจะ ๔ ให้แจ่มแจ้งเป็นกิจ. อาการกำจัดปฏิปักษ์แห่งธรรมคือมรรคทั้งหลาย
ย่อมปรากฏเป็นอาการที่ขัดเจนอย่างเยี่ยม เพราะฉะนั้น ท่านอาจารย์แม้ได้กล่าวว่า สัมมา
ทิฏฐิเป็นธรรมชาติถอนอวิชชานุสัยขึ้นได้แล้ว ก็ยังกล่าวว่า สัมมาทิฏฐิ มีการทำลายความ
มืดคืออวิชชาเป็นปัจจุปัฏฐา.

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ต.ค. 2024, 06:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8591


 ข้อมูลส่วนตัว


อธิบาย สัมมาสังกัปปะ

สองบทว่า ตถา สมฺปนฺนทิฏฺฐิ อันถึงพร้อมแล้วอย่างนั้น ให่งโยคีผู้มีทิฏฐิอันถึงพร้อมแล้วอย่างนั้น มี
ความว่า แห่งโยคีผู้มีทิฏฐิอันถึงพร้อมแล้วด้วยความเห็นชอบในมรรค โดยประการที่จะมี
การถอนอวิชชานุสัยขึ้นได้. ตถา ศัพท์ ย่อมรวมความนี้ว่า ก็แห่งโยคีผู้ปฏิบัติเพื่อกาารแทง
ตลอดสัจจะทั้ง ๔ อย่าง นี้เข้ามาด้วย. ก็ความที่สัมมาสังกัปปะมีนิพพานเป็นอารมณ์ ก็รู้
ได้คำว่า ประกอบกับสัมมาทิฏฐินั้นนั่นแหละ. คำว่า กำจัดมิจฉาสังกัปปะเสียได้ คือ
ตัดมิจฉาสังกัปปะ มีความดำริในกามเป็นต้นได้เด็ดขาด. คำว่า มีอัปปปนาเป็นรส คือ มี
อัปปนาเป็นกิจ เพราะเป็นไปด้วยอำนาจการยังมรรคจิตให้เกิดขึ้นในอารมณ์คือนิพพาน.

อธิบาย สัมมาวาจา

คำว่า ของโยคีผู้เห็นและตรึกอยู่อย่างนั้น คือของโยคีผู้เห็นอยู่ด้วยสัมมาทิมาทิฏฐิมี
ประการดังกล่าวแล้ว และผู้ยกจิตขึ้นอยู่ด้วย สัมมาสังกัปปะในอารมณ์คือนืพพาน คำว่า
ถอนวจีทุจริตขึ้นเสียได้ คือ ตัดวจีทุจริตทั้ง ๔ อย่าง ได้เด็ดยาด. สัมมาวาจามีสภาวะ
กำหนดถือเอาสัมปยุตตธรรมทั้งหลายด้วยความสนิทใจ เพราะความเป็นปฏิปักษ์ต่อมิจฉา-
วาจาทั้งหลายมีมุสาวาทเป็นต้น อันเป็นความเศร้าหมอง ไม่มีการกำหนดถือเอา เพราะ
ความที่มิจฉาวาจามีการกล่าวให้คลาดเคลื่อนเป็นต้นเป็นกิจ เพราะฉะนั้น ท่านอาจารย์จึง
กล่าวว่า สัมมาวาจานั้น มีการกำหนดถือเอาเป็นลักษณะ.

อธิบาย สัมมากัมมันตะ

(๙๘) กิริยาทางกายย่อมยังกิจที่จะพึงทำบางอย่างให้ตั้งขึ้น และการตั้งขึ้นได้
เองก็ย่อมจะมีการกระทบกัน เพราะฉะนั้น แม้วิรัติกล่าวคือสัมมากัมมันตะ ท่านก็กล่าวว่า
มีสภาวะตั้งขึ้น. อีกอย่างหนึ่ง การยกสัมปยุตตธรรมทั้งหลายขึ้นก็ชื่อว่า การทำให้ตั้งขึ้งขึ้น
เหมือนยกของหนักขึ้นด้วยกิริยาทางกายเท่านั้น.

อธิบาย สัมมาอาชีวะ

บทว่า อสุส โยค โยคโน แปลว่า แห่งโยคีนั้น การเว้นจากมิจฉาชีวะ ก็จัดว่า
เป็นความบริสุทธิ์ เพราะบริสุทธิ์ในเมื่อมีสัมมากันตะนั้น ควานปริสุทธิ์ทธิ์สัตว์ที่ยังมี
ชีวิตอยู่ หรือของสัมปยุตตธรรมทั้งหลาย ชื่อว่า ความผ่องแผ้ว. อีกอย่างหนึ่ง ความ
บริสุทธิ์ของอาชีพนั่นเอง คือความเป็นไปของชีวิตินทรีย์ ชื่อว่า ความผ่องแผ้ว. สัมมา-
อาชีวะนั้น ชื่อว่า มีอันยังอาชีวะที่ชอบธรรมให้เป็นไปเป็นรส เพราะความเป็นเหตุแห่ง
ความเป็นไปแห่งสัมมาอาชีวะ คือการเลี้ยงชีพชอบ ที่มิใช่อันพระพุทธเจ้าทรงติเตียน. ก็
จำเดิมแต่สัมมาอาชีวะนี้เป็นไปอยู่ มิจฉาอาชีวะย่อมไม่เป็นไป.

อธิบาย สัมมาวายามะ

สัมมาวายามะแม้ทำลายอกุศลทั้งหมดได้ ท่านก็เรียกว่า ตัดโกสัชซะได้เด็ดขาด
ด้วยอำนาจแสดงธรรมที่เป็นปฏิปักษ์โดยตรง. การประคองจิตนั้น แม้จากธรรมอันเป็น
ฝักฝ่ายแห่งสังกิเลส ชื่อว่า การประคอง.

อธิบาย สัมมาสติ

อกุศลชันธ์ทั้งหลายที่มีสุภสัญญาเป็นต้นเป็นประธาน เป็นไปด้วยอำนาจกาจการเข้าไป
ทรงไว้ซึ่งอาการว่างามเป็นต้น ในกายเป็นต้น ชื่อว่า มิจฉาสติ. ความไม่หลงลืมซึ่งกำจัด
มิจฉาสตินั้น ชื่อว่า มิจฺฉาสติวินิทฺธุนโน แปลว่า กำจัดมิจฉาสติออกไปได้. คำว่า ความ
ไม่ลืม ได้แก่ ธรรมอันเป็นปฏิปักษ์ต่อความลืมนั้น เพราะกำจัดความหลงลืมเสียได้. การ
กำหนดสภาวะตามเป็นจริงซึ่งอารมณ์ ชื่อว่า อุปัฏฐานะ ความตั้งมั่น.

อธิบาย สัมมาสมาธิ

สติที่ตามรักษากุศลจิตโดยพิเศษ เพราะมีพระบาลีว่า อารกฺขปจฺจุปฏฺฐานา แปลว่า
สติมีการรักษาเป็นปัจจุปัฏฐาน และว่า สตารกฺเขน เจตสา แปลว่า มีใจที่สติรักษาอยู่
เพราะฉะนั้น ท่านอาจารย์จึงกล่าวว่า แห่งโยคีผู้มีจิตอันสติรักษาอยู่.
พรรณนามรรคนิทเทสกถา จบ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร