วันเวลาปัจจุบัน 06 ส.ค. 2025, 02:43  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ธ.ค. 2024, 09:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8591


 ข้อมูลส่วนตัว




Photoroom-20241104_062057.png
Photoroom-20241104_062057.png [ 695.17 KiB | เปิดดู 865 ครั้ง ]
๑๘. มัคคปัจจัย

มัคค คือ ธรรมที่เป็นประดุจหนทางที่นำไปสู่ ทุคติ สุคติ และ นิพพาน จัดเป็น
สัมปาปกเหตุคือเหตุที่ทำให้ถึง เปรียบเหมือนยวดยานพาหนะที่สามารถพาผู้โดยสารให้ไป
ถึงจะอย่างไร ได้ตามสมควรแก่ฐานะของยานนั้นๆ
ธรรมที่อุปมาดังหนทางที่นำไปสู่หรือเป็นเหตุให้ถึง ทุคติ สุคติ และ นิพพาน
ที่เรียกว่า มัคค นี้มี ๑๒ ประการ แต่ว่ามีองค์ธรรมเพียง ๙ จึงเรียกว่า องค์มรรค ๙
ได้แก่ เจตสิก ๙ ดวง คือ ปัญญา วิตก สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ
วิริยะ สติ เอกัคคตา และ ทิฏฐิ มัคค ๑๒ มีองค์มัดค ๙ นี้ได้กล่าวโดยละเอียดพอ
ประมาณ ในปริจเฉทที่ ๗ ตอนมิสสกสังคหะ เพื่อเป็นการทบทวนขอให้กลับไปดูที่นั่น
อีกด้วย
องค์มัคค ๙ นี่แหละเป็นปัจจัย จึงเรียกมัคคปัจจัย มีอำนาจช่วยอุปการะสห
ชาตธรรมที่เกิดพร้อมกับตนนั้น ๒ ประการ คือ
ก. ช่วยอุปการะนำสหชาตธรรรมที่เกิดพร้อมกับตน ให้ไปสู่อารมณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับ
ตน ให้ทำกิจไปตามหน้าที่ของตน ๆ อย่างนี้เรียกว่า กิจธรรมดา
ข. ช่วยอุปการะนำสหชาตธรรมที่เกิดพร้อมกับตน ให้ไปสู่ ทุคติ สุคติ และ นิพพาน
ได้ อย่างนี้เรียกว่าเป็น กิจพิเศษ เพราะเป็นกิจที่เกี่ยวข้องกับการปฏิสนธิเท่านั้น
อนึ่ง องค์มัคค ๙ นี้ ต่างก็ทำหน้าที่เป็นปัจจัยและปัจจยุบบัน ซึ่งกันและกันอง ก็
ได้เหมือนกัน
สรุปความว่า มัคคปัจจัยนี้ คือองค์มัคค ๙ เป็นปัจจัยช่วยอุปการะแก่จิตและเจต-
สิกที่เกิดพร้อมกับตน พร้อมด้วยจิตตชรูปและปฏิสนธิกัมมชรูป ให้เกิดขึ้นและให้ตั้งอยู่ได้
ด้วยอำนาจของมัคคปัจจัยที่ทำหน้าที่ในกิจพิเศษอย่างหนึ่ง และทำหน้าที่ในกิจธรรมดา
อย่างหนึ่ง
๑. มัคค หมายถึง องค์มัคค ๙
๒. ประเภท นามเป็นปัจจัย นามรูปเป็นปัจยุบบัน
๓. ชาติ เป็นสหชาตชาติ
(ปัจจัยธรรมเกิดพร้อมกับปัจจยุบ บันนธรรม และช่วยอุดหนุนปัจจยุบบันนธรรมนั้นด้วย)
๔. กาล เป็นปัจจุบันกาล
(ปัจจัยธรรมนั้นยังอยู่ในระหว่าง อุปาทะ ฐีติ ภังคะ คือยังไม่ทันดับไป)
๕. สัตติ มีทั้ง ชนกสัตติ และ อุปถัมภกสัตติ
(ชนกสัตติ มีอำนาจช่วยอุปการะให้ปัจจยุบบันนธรรมเกิดขึ้นได้
อุปถัมภกสัตติ มีอำนาจช่วยอุปการะให้ปัจจยุบบันนธรรมตั้งอยู่ได้
)
๖. องค์ธรรมของปัจจัย ได้แก่ องค์มัคค ๙ ที่ในสเหตุกจิต ๑๗
องค์ธรรมของปัจยุบบัน ได้แก่ สเหตุกจิต ๗๑ เจคสิก ๕๒ สเหตุกจิจตตชรูป
สเหตุกปฏิสนธิกัมมชรูป
องค์ธรรมของปัจจนิก ได้แก่ อเหตุกจิต ๑๘, อัญญสนาเจตตสิก ๑๒ (เว้นฉันทะ)

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ธ.ค. 2024, 10:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8591


 ข้อมูลส่วนตัว


อเหตุกจิตตชรูป อเหตุกปฏิสนธิกัมมชรูป พาหิรรูป อาหารชรูป อุตุชรูป อสัญญสัตตกัมมช
กัมมชรูป ปวัตติกัมมชรูป
๗. ความหมายโดยย่อ มัคคปัจจับนี้ มี ๗ วาระ
(๑) กุสลเป็นปัจจัยแก่กุสล องค์มัคคที่เป็นกุสล ๘ (เว้นทิฏฐิ) เป็นมัคคปัจจัย
กุสลสัมปยุตตขันธ์ ๔ อันได้แก่กุสลจิต ๒๑ เป็นมัคคปัจจยุบบัน
(๒) กุสลเป็นปัจจัยแก่อพยากตะ องค์มัคคที่เป็นกุสล ผ๘ (เว้นทิฏฐิ) เป็นมัคค
ปัจจัย กุสลจิตตชรูป เป็นมัคคปัจจยุบบัน
(๓) กุสลเป็นปัจจัยแก่กุสลด้วยแก่อยพยากตะด้วย องค์มรรคที่เป็นกุสล ๘ (เว้นทิฏฐิ)
เป็นมัคคปัจจัย กุสลจิต ๒๑ ด้วย กุสลจิตตชรูปด้วย เป็นมัคคปัจจยุบบัน
(๔) อกุสลเป็นปัจจัยแก่อกุสล องค์มัคคที่เป็นอกุสล ๔ คือ วิตก วิริยะ เอกัค-
คตา และทิฏฐิ เป็นมัคคปัจจัย อกุสลสัมยุตตขันธ์ ๔ อันได้แก่ อกุสลจิต ๑๒ เป็น
มัคคปัจจยุบบัน
(๕) อกุสลเป็นปัจจัยแก่อพยากตะ องค์มัคคที่เป็นอกุสล ๔ เป็นมัคคปัจจัย อกุสล
จิตดชรูป เป็นมัคคปัจจยุบบัน
(๖) อกุสลเป็นปัจจับแก่อกุสลด้วยแก่อพยากตะด้วย องค์มัคคที่เป็นอกุสล ๔ นั้น
มัคคปัจจัย อกุสลจิต ๑๒ ด้วย อกุสลจิตตชรูปด้วย เป็นมัคดปัจยุบบัน
(๗) อพยากตะเป็นปัจจัยแก่อพยากตะ องค์มัคค ๙ ที่เป็นอพยากตะในสเหตุก
วิปากจิต ๒๑, สเหตุกิริยาจิต ๑๗ ในปวัตติกาลและในปฏิสนธิกาล เป็นมัคคปัจจัย สเหตุก
วิปากจิต ๒๑ สเหตุกิริยาจิต ๑๗ สเหตุกวิปากจิตดชรูป สเหตุกิริยาจิตตชรูป ปฏิสนธิกัมม
ชรูป เป็นมัคคปัจจยุบบัน

๘. ปัจจัยที่เกิดร่วมด้วยกันได้ รวม ๑๓ ปัจจัย คือ
๑. มัคคปัจจัย ๒. เหตุปัจจัย ๓. สหชาตธิปติปัจจัย
๔.สหชาตปัจจัย ๕. อัญญมัญญปัจจัย ๖. สชาตนิสสยปัจจัย
๗. วิปากปัจจัย. ๘. สหชาตินทริยปัจจัย ๙. ฌานปัจจัย
๑๐. สัมปยุตตปัจจัย. ๑๑. สหชาตวิปปยุตตปัจจัย ๑๒ สหชาตัตถิปัจจัย
๑๓. สหชาตอวิคตปัจจัย

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร