วันเวลาปัจจุบัน 08 ส.ค. 2025, 18:30  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


“อภิธรรม (สันสกฤต: abhidharma) หรืออภิธัมมะ (บาลี: abhidhamma) เป็นชื่อปิฎกศาสนาพุทธฉบับหนึ่งในปิฎกทั้งสามฉบับที่รวมเรียก "พระไตรปิฎก" อภิธรรมแปลว่าธรรมอันยิ่ง ปิฎกฉบับอภิธรรมนั้นเรียก "พระอภิธรรมปิฎก" ซึ่งว่าด้วยประมวลหลักธรรมและคำอธิบายที่เป็นหลักวิชาล้วนๆ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์และบุคคลเลย”



กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ม.ค. 2025, 07:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8591


 ข้อมูลส่วนตัว




ei_1735772591594-removebg-preview.png
ei_1735772591594-removebg-preview.png [ 234.27 KiB | เปิดดู 773 ครั้ง ]
อธิบายบัญญัติอารมณ์

ในอารัมมณปัจจัยเมื่อสงเคราะห์โดยอารมณ์ ย่อมได้องค์ธรรม ๓
อย่างคือ นาม รูป บัญญัติ (บัญญัติ หมายถึง ชื่อที่ใช้สมมุติเรียกปรมัตถ์
ให้รู้ความหมายกัน)

บัญญัติมี ๒ อย่าง คือ
๑. อัตถบัญญัติ บัญญัติเพื่อให้รู้ความหมายของคำนั้น เช่นคำว่า
ดิน น้ำ ไฟ ลม พ่อ แม่ เป็นต้น หมายถึงอะไรแล้ว ก็เข้าใจตามที่บัญญัติ
นั้น บางทีเรียกว่า ปัญญาปียัตตาบัญญัติ แปลว่า สภาวะที่บัญญัติพึงทำ
ได้รู้โดยประการนั้นๆ หรือกสิณบัญญัติก็อยู่ในอัตบัญญัติเหมือนกัน
ปัญญาปียัตตาบัญญัติ คือ บัญญัติที่ให้รู้ความหมายของคำนั้นๆ
เพราะอาศัยอาการของปรมัตถ์นั่นเอง รู้ได้ทางมโนทวาร

๒. สัททบัญญัติ บัญญัติที่รู้เสียงที่กล่าวออกมา เป็นนามบัญญัติ
คือ บัญญัติให้รู้ชื่อของสภาวะนั้นๆ เพื่อให้รู้อัตถบัญญัตินั่นเอง บางที
เรียกว่า ปัญญาปนโตบัญญัติ คือ บัญญัติที่ยังให้รู้อัตถบัญบัญญัติ โดยอาศัย
รู้จากเสียง รู้ได้ทางโสตทวาร

สัททบัญญัติแจกออกได้ ๖ อย่าง คือ
๑. วิชชมานบัญญัติ บัญญัติที่มีสภาวะปรมัตถ์รับรอง เช่น จิต
เจตสิก เย็น ร้อน อ่อน แข็ง ฯลฯ
๒. อวิชชมานบัญญัติ บัญญัติที่ไม่มีสภาวะปรมัตถรับรองเช่น หมา
แมว ฯลฯ
๓. วิชชมาเนนอวิชชมานบัญญัติ บัญญัติที่มีสภาวะปรมัตถ์และ
ไม่มือภาวะปรมัตถ์ผสมกัน เช่น เสียงผู้หญิง รสเปี้ยว กลิ่นเหม็น ฯลฯ
เสียงเป็นปรมัตถ์ ผู้หญิงเป็นบัญญัติ (คำแรกมีสภาวะปรมัตถ์ คำหลังไม่มี
สภาวะปรมัตถ์)

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ม.ค. 2025, 07:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8591


 ข้อมูลส่วนตัว




ei_1735791580682-removebg-preview.png
ei_1735791580682-removebg-preview.png [ 154.47 KiB | เปิดดู 735 ครั้ง ]
๔. อวิชชมาเนนวิชชมานบัญญัติที่ไม่มีสภาวะปรมัตถ์
และมีสภาวะปรมัตถ์ผสมกัน เช่น คนโกรธ ไม้แข็ง ฯลฯ คนเป็นบัญญัติ
โกรธ เป็นปรมัตถ์ (คำแรกไม่มีสภาวะปรมัตถ์ คำหลังมีสภาวะปรมัตถ์)
๕. วิชชมาเนนวิชชมานบัญญัติ บัญญัติที่มีสภาวะปรมัตถ์ทั้ง
คำแรกและกำหลัง เช่น จักขุวิญญาณ กุศลจิต ฯลฯ (มีสภาวะปรมัตถ์รับ
รองทั้ง ๒ คำ)
๖. อวิชชมาเนนอวิชขมานบัญญัติ บัญญัติที่ไม่มีสภาวะปรมัตถ์
คำแรก และทำหลัง เช่น พระอาทิตย์ พระราชกุมาร ฯลฯ (ไม่มีสภาวะปรมัตถ์
รับรองทั้ง ๒ คำ)

แสดงวิถีจิตในอารมณ์บัญญัติ

วิถีจิตที่มีบัญญัติทั้ง ๒ คือ อัตถบัญญัติ และ สัททบัญญัติ เป็น
อารมณ์นั้น จะต้องมีวิถีเกิดทางปัญจทวาร และมโนทวารทั้ง ๒ วิถี แล่น
ผสมสลับกันไปทั้ง ๒ ทวาร จึงจะเข้าใจความหมายของบัญญัติทั้ง ๒ ได้
เช่น ได้ยินเสียงเกิดทางโลตทวาวิถีเป็นปรมัตอารมณ์ และเป็นปัจจุบัน
ทางปัญจทวาร ถ้าเสียงมีคำเดียวโสตทวารก็เกิดขึ้นรับเสียงเป็นอารมณ์ เมื่อ
เสียงนั้นดับไปแล้ว มโนทวารถีที่เรียกว่า ตทนุวัตติกมโนทวารวิถี (คือ
มโนทวารที่รับอารมณ์ต่อจากปัญจหวาร) ก็เกิดขึ้นรับเสียงที่ดับไปแล้วเป็น
อารมณ์ เรียกว่า อตีตัคคหณมโนทวารวิถี อตีตัคคหณมโนทวารวิถีดับไป
แล้ว นามัคคหณมโนทวารวิถี ที่รู้นามบัญญัติ คือรู้เสียงนั้นก็เกิดต่อ เมื่อ
นามัคคหณมโนทวารวิถีดับไปแล้ว อัตถัคคณมโนทวารวิถี ที่รู้ความหมาย
ของเสียงนั้นก็เกิดต่อ รวมแล้วถ้าเป็นเสียงคำเดียวที่ได้ยิน จะมีจิตเกิดได้
๔วิถี คือทรงปัญจทวารเกิดได้ ๑ วิถี คือ โสตทวารวิถี ทางมโนทวาวารเกิด
ได้ ๓ วิถี คือ อดีตัคคหณมโนทวารวิถี นามัคคหณมโนทวารวิถี และ
อัตถัคคหณมโมทวารวิถี ถ้าเป็นเสียง ๒ คำขึ้นไปก็จะมีวิถีจิตเกิดได้ ๗
วิถี คือทาง ปัญจทวาร ๒ วิถี ทางมโนทวาร ๕ วิถี คือ ทางปัญจทวารเกิด
โสตทวาวิถึ รับเสียงคำแรกเป็นอารมณ์ดับไปแล้ว มโนทวาร คือ อดีตัคคหณ
มโมทวารวิถี ก็เกิดรับเสียงต่อจากโสตทวารวิถี วิถี ต่อจากนั้นก็เป็น
มโนทวารอีก ๓ วิถี คือ สมูหัคคหณมโนทวารวิถี รวบรวมความห ๒
คำขึ้นไป ต่อไปก็เกิดนามัคคหณมโนทวารวิถี และอัตถัคคหณมโนทวารวิถีตาม
ลำดับ ถ้าหากว่าได้แต่เสียง เช่น"เด็กๆ"ยังไม่รู้ความหมายของเสียง
นั้น อัตลักษณ์ความ ถ้าเสียงนั้นมีหลายๆคำขึ้นไปวิถีจิตก็ต้อง
เพิ่มขึ้นไปตามลำดับ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 2 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร