วันเวลาปัจจุบัน 29 ก.ค. 2025, 12:16  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


กฎการใช้บอร์ด


รวมกระทู้จากบอร์ดเก่า http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=7



กลับไปยังกระทู้  [ 54 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ค. 2010, 17:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:

ผู้ให้การอนุโมทนาสาธุ คุณ กรัชกาย สำหรับตอบข้อความนี้:
Rosarin


เมื่อคุณ Rosarin รับรองแล้ววา ธรรมะแยกเป็นสองคือโลกียธรรม กับ โลกุตรธรรม

กรัชกายขอความรู้จากคุณ Rosarin หน่อยครับว่า โลกียธรรมว่าได้แก่อะไรบ้างครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ค. 2010, 17:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
:b6:
...โลกียธรรมยังไม่ถึงความหลุดพ้นการเกิด...ตั้งแต่พระอริยะที่บรรลุธรรมขั้นพระอนาคามีลงมา...
...ขั้นพระสกิทาคามีจนถึงขั้นพระโสดาบัน...และผู้บำเพ็ญบารมีที่จะเป็นพระโพธิสัตว์...ยังเกิดอยู่...
:b20:
...ธรรมเหนือโลก...โลกุตรธรรมเกิดกับพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นเมื่อ2500กว่าปี...
...และทรงมีพระมหาการุณิโกนาโถคือมีพระมหากรุณาธิคุณในการทรงแสดงธรรมเหล่านั้นเพื่อ...
...โปรดเวไนยสัตว์...แม้จะทรงท้อพระทัยในครั้งแรกที่ทรงตรัสรู้ความจริงด้วยว่าเห็นได้โดยยาก...
...เพราะพระธรรมที่ทรงแสดงละเอียดอย่างยิ่ง...แม้ขณะนี้ปัญญาขณะเห็นด้วยตามนุษย์ก็ไม่รู้แจ้ง...
...ว่าเป็นสภาพธรรมะทุกขณะจิต...กรพพริบตาภาพที่เกิดขึ้นก็ดับไปแล้ว...ไม่เหลืออะไรเลย...
...แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วนั้นก็เป็นปัจจัยให้ขณะจิตต่อไปเกิดสืบต่ออย่างรวดเร็วยากที่ปัญญาจะตามทัน...
:b8:
:b55: :b55:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 02 ก.ค. 2010, 17:38, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ค. 2010, 17:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระพุทธเจ้าสอนโลกียธรรมหรือไม่ครับ หรือ สอนแต่โลกุตรธรรมเท่านั้น

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ค. 2010, 17:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
:b12:
...เพราะพระธรรมที่ทรงแสดงยังประโยชน์ให้มนุษย์ที่สั่งสมบารมีมาพร้อมเพื่อเห็นแจ้งสภาพธรรม...
...ยังไม่มีตำราหรือพระไตรปิฎก...ทุกดวงจิตในยุคนั้นได้ปัญญาจากการสดับตรับฟังจากพระโอษฐ์...
...ของพระผู้มีพระภาคเจ้าหรือได้ยินคำสอนของพระองค์จากพระสาวกก็ยังจิตให้เลื่อมใสในพระธรรมนั้น...
...เพราะเป็นความอัศจรรย์เหนือคำสอนของใดๆในโลกนี้...แล้วยังเมตตาให้ศาสนาเจริญอีกห้าพันปี...
...และยังทรงแสดงว่าถ้ายังมีผู้ปฏิบัติตามธรรมและพระวินัยที่ทรงแสดง...พระอรหันต์จะไม่สูญจากโลก...
...สัจจธรรมที่ทรงแสดงเป็นอกาลิโก...แม้จะฟังในยุคนี้ถ้ามีผู้ที่แสดงถูกต้อง...ก็จริงเปลี่ยนแปลงไม่ได้...
...คำว่าเป็นอนัตตาที่ทรงแสดงหมายถึงเป็นความจริงจริงๆ...เกิดเวลาใดก็ไม่เปลี่ยนแปลงความจริงนั้น...
...และเป็นธรรมะที่ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร...ไม่มีใครเป็นเจ้าของเกิด-ดับตลอดเวลา...
...เมื่อเข้าใจว่าไม่มีตัวตน บุคคลใดๆ ยังจะคิดโกรธไหม ยังคิดอยากได้อะไรไหม...ถามใจตัวเองดู...
:b16:
:b40: :b40:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 02 ก.ค. 2010, 17:30, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ค. 2010, 17:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
:b8:
...ธรรมะที่ทรงแสดงงดงามในเบื้องต้น...ในท่ามกลาง...และในที่สุด...
...อนุปุพพิกถาทั้งหลายคือพระธรรมที่ทรงแสดงแก่ฆราวาสเพื่อให้เห็นโทษของกาม...
...ความติดข้องทั้งหลายมาจากจิตที่มีโลภะ โทสะ โมหะ จากความไม่รู้ความจริงที่ทรงแสดงนั้น...
...เมื่อจิตผู้ฟังน้อมจนบางท่านได้บรรลุความเป็นพระโสดาบัน...ก็แสดงอริยสัจธรรมจนบรรลุอรหันต์...
...ที่อธิบายได้ก็ได้มาจากการฟังนะเจ้าคะ...เพราะไปอ่านตำราก็คงแปลเองไม่ได้...จากบ้านธัมมะค่ะ...
:b20:
:b44: :b44:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 02 ก.ค. 2010, 17:37, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ค. 2010, 17:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
พระพุทธเจ้าสอนโลกียธรรมหรือไม่ครับ หรือ สอนแต่โลกุตรธรรมเท่านั้น


กรัชกายเรียนถามคุณว่า พระพุทธเจ้าสอนโลกียธรรมไหมครับ หรือว่าสอนแต่โลกุตรธรรมอย่างเดียว

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ค. 2010, 17:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
:b16:
...ก็ตอบแล้วข้างบนว่าอนุปุพพิกถาเป็นพระธรรมที่ทรงแสดงแก่ฆราวาสเพื่อให้เห็นโทษทางโลก...
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ค. 2010, 17:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
:b12:
...โลกุตรธรรมที่ทรงแสดงก็คืออริยสัจจ์4และอริยมรรค8...จึงต้องขยันฟัง...
...ถ้าแค่คำว่าธรรมะเป็นอนัตตาก็ยังไม่รู้แจ้งก็จะไม่เข้าใจอื่นใดได้เลยเจ้าค่ะ...
...เพราะการฟังยังประโยชน์ให้คิดไตร่ตรองจนเข้าใจเป็นปัญญาของจิตแต่ละดวง...
:b27:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ค. 2010, 17:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระพุทธศาสนามีคำสอนมากมายหลายแง่มุม พระองค์ตรัสในที่หลายแห่งหลายบุคคลหลายจริต

อุปนิสัยของเวไนยสัตว์ ซึ่งแตกต่างกัน อย่างพุทธพจน์นี้น่าคลุมความได้ เช่นที่ตรัสว่า



คนตาบอด คนตาเดียว คนสองตา เป็นไฉน ?


“ภิกษุทั้งหลาย บุคคล 3 จำพวกเหล่านี้ มีปรากฏอยู่ในโลก สามจำพวกไหน ? คือ คนตาบอด

คนตาเดียว คนสองตา

“คนตาบอดเป็นไฉน ? บุคคลบางคนในโลกนี้ ไม่มีดวงตาชนิดที่จะช่วยให้ได้โภคทรัพย์ที่ยังไม่ได้

หรือ ทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้เพิ่มพูน กับทั้งไม่มีดวงตาชนิดที่จะช่วยให้รู้จักธรรมที่เป็นกุศล

เป็นอกุศล...ธรรมที่มีโทษไม่มีโทษ...ธรรมทรามธรรมประณีต...ธรรมที่เปรียบได้กับของดำ

หรือของขาว นี้เรียกว่า บุคคลคนตาบอด


“คนตาเดียวเป็นไฉน ? บุคคลบางคนในโลกนี้ มีดวงตาชนิดที่จะช่วยให้ได้โภคทรัพย์ที่ยังไม่ได้

หรือ ทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้เพิ่มพูน แต่ไม่มีดวงตาชนิดที่จะช่วยให้รู้จักธรรมที่เป็นกุศล เป็นอกุศล...

ธรรมที่มีโทษไม่มีโทษ...ธรรมทรามธรรมประณีต...ธรรมที่เปรียบได้กับของดำหรือของขาว นี้เรียกว่า

บุคคลคนตาเดียว


“บุคคลคนสองตาเป็นไฉน ? บุคคลบางคนในโลกนี้ มีดวงตาชนิดที่จะช่วยให้ได้โภคทรัพย์ที่ยังไม่ได้

หรือ ทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้เพิ่มพูน อีกทั้งมีดวงตาชนิดที่จะช่วยให้รู้จักธรรมที่เป็นกุศล เป็นอกุศล...

ธรรมที่มีโทษไม่มีโทษ...ธรรมทรามธรรมประณีต...ธรรมที่เปรียบได้กับของดำหรือของขาว นี้เรียกว่า

บุคคลคนสองตา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 02 ก.ค. 2010, 18:13, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ค. 2010, 17:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


“คนตาบอด ตาเสีย มีแต่กาลีเคราะห์ร้ายทั้งสองทาง คือ โภคทรัพย์อย่างที่ว่าก็ไม่มี

คุณความดีก็ไม่กระทำ

อีกคนหนึ่ง ที่เรียกว่าตาเดียว เที่ยวแสวงหาทรัพย์ ถูกธรรมก็เอาผิดธรรมก็เอา ไม่ว่าจะเป็นการขโมย

คดโกง หรือโกหกหลอกลวงก็ได้ เขาเป็นคนเสวยกามที่ฉลาดสะสมทรัพย์ แต่จากนี้ ไปนรก

คนตาเดียวย่อมเดือดร้อน

ส่วนคนที่เรียกว่าสองตา เป็นคนประเสริฐ ย่อมปันทรัพย์ซึ่งได้มาด้วยความขยัน จากกองโภคะ

ที่ได้มาโดยชอบธรรม ออกเผื่อแผ่ มีความคิดสูงประเสริฐ มีจิตใจแน่วแน่ ย่อมเข้าถึงสถานดีงาม

ไปแล้วไม่เศร้าโศก พึงหลีกเว้นคนตาบอดและคนตาเดียวเสียให้ไกล ควรคบหาแต่คนสองตา

ผู้ประเสริฐ”

(องฺ.ติก.20/468/162)

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ค. 2010, 17:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
:b1:
...คุณกรัชกายมีสิ่งที่ต้องการถามมากมาย...
...น่าจะเข้าไปสนทนาธรรมที่บ้านธัมมะ...
...มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา...
...สอบถามเบอร์โทร 02-4680239...
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ค. 2010, 17:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ในบาลีเมื่อกล่าวถึงภิกษุคิดจะลาสิกขามักกล่าวว่า จะสึกไปกินใช้โภคทรัพย์และทำบุญทั้งหลาย และ

ชีวิตชาวบ้านที่ดีก็ถือกันว่าได้แก่ชีวิตเช่นนั้น คำว่า บุญ ในกรณีเช่นนี้ ก็หมายถึงการทำความดีต่างๆ

เช่น เผื่อแผ่แบ่งปัน ให้ทาน ประพฤติดี มีศีล เป็นต้น


ดังนั้น คำว่าบุญในกรณีนี้ก็คือการช่วยเหลือเผื่อแผ่แบ่งปัน ให้ทาน ประพฤติดี มีศีลธรรมเป็นต้น

นี่คือาการสอนในแนวโลกียธรรม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ค. 2010, 18:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
tongue
:b1:
...คุณกรัชกายมีสิ่งที่ต้องการถามมากมาย...
...น่าจะเข้าไปสนทนาธรรมที่บ้านธัมมะ...
...มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา...
:b4: :b4:


มีเว็บไซต์ไหมครับ ขอหน่อย จะได้เข้าไปสนทนาธรรมที่บอร์ดนั้นด้วย :b8:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ค. 2010, 18:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




chiang_saen_giant_buddha%2520%25282%2529.jpg
chiang_saen_giant_buddha%2520%25282%2529.jpg [ 127.49 KiB | เปิดดู 3000 ครั้ง ]
หลักการหรือคำสอนใดก็ตาม ที่เป็นเพียงการคิดค้นหาเหตุผลในเรื่องความจริงเพื่อสนองความต้องการ

ทางปัญญาโดยมิได้มุ่งหมายและมิได้แสดงแนวทางสำหรับประพฤติปฏิบัติในชีวิตจริง อันนั้น ให้ถือว่า

ไม่ใช่พระพุทธศาสนา โดยเฉพาะอย่างที่ถือว่า เป็นคำสอนเดิมแท้ของพระพุทธเจ้า

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ค. 2010, 18:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7520

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


tongue
อ้างคำพูด:
คนตาบอด คนตาเดียว คนสองตา เป็นไฉน ?

...ขอตอบ...ถ้าตอบผิดก็ขออภัย...ไม่รู้ว่าจะละเอียดพอไหม...
:b48:
...คนตาบอด...เกิดมาทำแต่อกุศล...เพลิดเพลินทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ...
...มองเห็นทุกสิ่งแบบนก แมว หมู ที่มีตาแต่กินแล้วนอนคิดไตร่ตรองแบบคนไม่ได้...
:b48: :b48:
...คนตาเดียว...เกิดมาศึกษาธรรมะรู้ว่าต้องทำบุญแต่ไม่เข้าใจว่าประโยชน์อะไร...
...เพราะทำบุญด้วยจิตอกุศล...ทำบุญหวังผลอันไพบูลย์แล้วไม่ละอกุศล...
:b48: :b48: :b48:
...คนสองตา...เห็นประโยชน์ของการได้เกิดเป็นมนุษย์ที่ได้ลาภอันประเสริฐ...
...คือได้พบพระพุทธศาสนาแล้วสั่งสมปัญญาด้วยการทาน ศีล ภาวนาที่เป็นกุศล...
...และละอกุศลที่เกิดขึ้น...ด้วยการศึกษาพระธรรมคำสอนให้ค่อยๆเข้าใจขึ้นทุกชาติที่เกิด...
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=32289
:b55: :b55: :b55: :b55:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 54 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร