สวัสดีค่ะ มือใหม่หัดโพสต์ลานธรรมจักรค่ะ ขออนุญาตฝากตัวด้วย

รู้สึกว่าช่วงนี้อากาศร้อนมากเลยค่ะ... แต่ก็อย่าทำให้ใจเราให้ร้อนไปตามด้วยก็แล้วกันนะคะ กระทู้นี้น้อมฯจะพาคุณขับรถขึ้นเขาไปทำบุญ และ รับลมเย็นๆ ที่วัดเขาดีสลัก จังหวัดสุพรรณบุรีกันค่ะ เจียดเวลาแวะตลาด สามชุก ๑๐๐ ปีที่กำลังโด่งดังสักครู่ หา postcardถึงตัวเองที่บ้าน

ยู้ฮู..ถ้าพร้อมแล้ว ตามมาเลยค่ะ : )

วัดเขาดีสลัก เป็นวัดที่อยู่ในอำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรีค่ะ สิ่งที่น่าสนใจในวัดนี้ก็คือ รอยสลักพระพุทธบาทเดี่ยว บนแผ่นหินทรายสีแดงที่มีการจัดลำดับภูมิสูงต่ำของรูปมงคล 108 ประการตามคติไตรภูมิ สันนิษฐานว่าสร้างสมัยทวารวดีตอนปลาย อายุพุทธศควรรษที่ 16-17

ที่วัดนี้สามารถนำรถขับขึ้นเขาไปจอดหน้ามณฑปพระพุทธบาทได้เลยค่ะ ถนนดีมากเพราะได้รับงบประมาณถึง 33 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ไม่นานมานี้ค่ะ ตอนนี้อากาศแห้งต้นไม้เลยกลายเป็นสีทองกันไปหมด : )

ข้างบนจะมีลานกว้างไว้จอดรถอย่างสะดวกสบายหลายคันค่ะ ความสูงไม่มากนัก เอารถเก๋งขึ้นได้สบายๆ

มองไปข้างหน้าตรงหน้าผาก็จะเห็นมณฑปงามครอบรอยพระบาท รอบๆมณฑปมีสระสีมรกต ดอกบัวพากันชูช่อบานเต็มสะพรั่ง ถ้าได้เห็นที่นี่ช่วงเช้า คิดว่าตัวเองคงจะต้องละเมอคิดว่าเป็นสวรรค์ที่ไหนสักแห่งอย่างแน่นอน : )

บริเวณด้านหน้าเป็นที่ สักการะ จุดธูปเทียนนมัสการรอยพระบาท และปิดทองรอยพระบาทจำลอง ส่วนมณฑปด้านหลังมี อนุญาตให้ถ่ายภาพ และเดินประทักษิณน้อมฯ ถวายเท่านั้นเอง

ภาพนี้เป็นรอยสลักพระพุทธบาทในมณฑปค่ะ

ออกมาสำรวจบริเวณด้านนอกและเก็บภาพประทับใจกันดีกว่า นี่..ดูโปร่งสบายดีค่ะ

พูดถึงต้นไม้ ใครๆก็บอกว่า ต้นไม้ฤดูฝนสิสวย และดูชุ่มชื่น เพราะในฤดูฝนจะมีใบไม้มากและเขียวชอุ่มมากที่สุด แต่น้อมฯว่า ฤดูกาลและสิ่งต่างๆในโลกก็มีความสวยงามตามธรรมชาติของมันเอง ขึ้นอยู่กับว่า เราจะเปิดใจมองหรือเปล่า..

อย่างเช่นฤดูแล้ง ต้นไม้ทั้งหลายก็จะเปลี่ยนตนเองเป็นสีทองอร่าม เหมือนหนุ่มสาวที่สวมผ้าสีทองผืนใหม่ ต้อนรับฤดูกาลใหม่ บ้างก็พาผลัดใบล่อนจ้อนเหลืออยู่เพียงแต่กิ่งก้านไร้ซึ่งการปรุงแต่ง อวดโฉมสรีระอันไร้การซ่อนเร้น ทำให้สัมผัสได้ถึง “ความพยายามอย่างยิ่งยวดของธรรมชาติ ที่จะเอาตัวเองรอด”

ขึ้นชื่อว่า เป็น “ป่า”ไม่ว่า จะเป็นป่าฤดูไหน ก็เป็นที่พักพึ่งพิงแก่สัตว์น้อยใหญ่อยู่เสมอ

ที่วัดเขาดีสลัก ใช่ว่า จะมีจุดสนใจแต่เพียงรอยสลักพระพุทธบาทเท่านั้น แต่บนยอดเขายังประดิษฐานพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่เก่าแก่อีกด้วย ซึ่งการจะไปสักการะนั้น ต้องเดินเท้าขึ้นไปจากจุดตรงลานจอดรถเท่านั้นค่ะ

เดินขึ้นไปยังไม่ทันไร ก็จะถึงจุดนี้ค่ะ แวะกราบนมัสการท่านและเดินอ้อมไปทางด้านหลังเพื่อไปยังจุดหมายต่อไป

เดินขึ้นบันไดขั้นแล้วขั้นเล่า เมื่อหันกลับทางด้านหลังจะพบว่าตนเองได้เดินมาสูงขึ้นเรื่อยๆ เท้าทั้งสองสัมผัสถึงพรมตามธรรมชาติสีทองอันอ่อนนุ่ม ซึ่งก็ได้แก่ใบไผ่ชราที่หมดอายุขัย นอนทิ้งร่างอยู่บนพื้นดิน และทิวทัศน์อีกเล่า ก็เป็นสีทองอร่ามเห็นไปทั่วภูเขา

เดินแบบเพลินๆ เงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็เห็นอดีตพระเจดีย์ซึ่งเคยรุ่งเรือง และเป็นที่เคารพรักของพุทธศาสนิกชนอยู่เบื้องหน้า