เรื่องราวของพระโพธิสัตว์กวนอิม มีอยู่หลายสำนักบ้างก็ว่ามีธรรมกายเป็นบุรุษ บ้างก็ว่าเป็นสตรี มีการวิจารณ์ไปต่างๆกัน ก็เพราะคนทั่วไปยังไม่ได้ศึกษาอย่างลึกซึ้ง ในสัทธรรมปุณฑริกสูตร (ฝ่าฮัวจิง) สรรพสัตว์ที่ทุกข์ยาก มีจิตศรัทธาสวดพระนาม พระโพธิสัตว์จะสดับฟังเสียงนั้น ล้วนจะได้รับการหลุดพ้นนั่นคือพระนามกวนอิม พระธรรมจารย์อิ้นกวงกล่าวว่า พระโพธิสัตว์กวนอิมประสูติมาท่ามกลางกัลป์ สำเร็จเป็นพุทธะนานแล้ว ทรงพระนามว่า "พระสัทธัมปรัชญพุทธเจ้า (เจิ้นฝาหมิงฝ่อ)" ด้วยใจที่เมตตากรุณาอย่างยิ่ง แม้จะประทับอย่างสงบ ณ ดินแดนที่สว่างไสวก็ตาม ก็อดที่จเสด็จลงมาโปรด ณ ไตรภูมิโลกธาตุไม่ได้ ถึงแม้พระองค์จะเป็นพุทธกาย หากแต่เสด็จลงมาเป็นพระโพธิสัตว์เพื่อสดับฟังเสียงกับผู้มีบุญสัมพันธ์ พระโพธิสัตว์แม้จะเฝ้าพระอมิตาภะพุทธเจ้าเสมอ หากแต่จะทรงโปรดทั่วทศทิศโดยอวตารมาในรูปบุคคลซึ่งเหมาะสมต่อการช่วยเหลือตามแต่โอกาสและสถานการณ์ เกี่ยวกับจุดนี้พระโพธิสัตว์จะอวตารลงมาโดยไม่กำหนดเวลา และอยู่ในรูปลักษณ์ที่เหมาะสมแตกต่างกันไป เกี่ยวกับหลักฐานและเรื่องราวตลอดจนปรากฎการณ์ของพระโพธิสัตว์ มีบันทึกตามประวัติศาสตร์ อาทิเช่น หนังสือรวบรวมบทสรรเสริญความเมตตาของกวนอิม เขียนโดย เหอเค่อโหลว หนังสือบันทึกประสบการณ์กวนอิม ของนาย โหยวสีอิน หนังสือเหล่านี้มีหลักฐานรายละเอียดที่เป็นความจริง ซึ่งน่าเชื่อถือและสามารถตรวจสอบหลักฐานได้ ผู้ที่ศรัทธาในพระโพธิสัตว์ควรจะศึกษาให้ละเอียดและเรียนรู้ ก็จะรู้ถึงความมีอยู่ของมหาธรรม แล้วตั้งใจบำเพ็ญเพื่อคืนสู่ความเห็นที่ถูกต้อง หนังสือที่กล่าวถึงนี้เป็นหนังสือที่เก่าแก่และมีภาษาที่ยาก ถ้าไม่ใช่นักภาษาศาสตร์ก็ยากที่จะเข้าใจ ซึ่งยากแก่การเผยแผ่สู่ชาวโลก ดังนั้ มันตาลอสิตจึงเอาเรื่องราวของพระโพธิสัตว์มาเขียนแบบนวนิยาย และใช้ภาษาที่ง่ายทำให้คนทั่วไปเข้าใจได้ง่าย จึงเป็นที่รู้จักกันทั่วไป ทำให้ผู้ที่นับถือพระโพธิสัตว์ไม่เพียงแต่รู้เรื่องราวต่างๆเท่านั้น ยังสามารถเตือนสติคนให้หันสู่ความดีละทิ้งความชั่วได้อีกด้วย หากใครได้อ่านเหมือนกายได้อยู่เบื้องปทุมอาสน์ ดุจฟังธรรมจากพระองค์โดยตรง ผู้ที่ดีอยู่แล้วก็เป็นการเพิ่มุญ ผู้ที่บาปก็รู้แก้ไขสิ่งที่ผิด ร่วมใจกันแก้ไข ก็จะทำให้สถานที่ใดที่มีการแก่งแย่งผลประโยชน์และชื่อเสียงกัน กลับกลายเป็นสถานที่สะอาดปราศจากการมุ่งหวัง ทะเลทุกข์จะไร้คลื่นลม เมฆที่เมตตาจะให้ความร่มรื่นยาวนาน มิใช่เจริญพรหรอกหรือ คงไม่เห็นหนังสือเล่มนี้เป็นนวนิยายไป

[b][size=200][color=#4000FF] ข้อพิสูจน์ [/b]
พระภควัทธรรมผู้แปลมหากรุณาธารณีสูตร กล่าวว่า มหิทธานุภาพของพระโพธิสัตว์กวนอิมไม่อาจคำนึงถึงได้ ทั้งนี้เพราะพระองค์ได้เป็นพระพุทธเจ้า เมื่อหลายมหากัปป์มาแล้วทรงพระนามว่า " พระสัทธัมปรัชญพุทธเจ้า" เนื่องจากพระองค์มีพระมหากรุณาธิคุณ ได้ตั้งปณิธานว่าจะนำพาให้สรรพสัตว์มีความสุข จึงได้อวตารมาในรูปของพระโพธิสัตว์
วิสุทธิภูมิของพระโพธิสัตว์กวนอิมอยู่ที่เขาโปตละโลกา หรือเขาโปตะลา เขานี้อยู่แถวชายฝั่งมหาสมุทรอินเดียใต้ ดั่งปรากฎในพระสูตรมหากรุณาธารณีว่า ครั้งหนึ่ง พระศากยมุนี้พุทธเจ้าประทับอยู่ ณ บังลังก์รัตนชาติอันประกอบด้วย อัญมรีทั้งเจ็ดในตำหนักกวนอิมแห่งเขาโปตะลา นพระสูตรฮัวเหยียนจิงแปดสิบ หน้าที่หกสิบแปดกล่าวว่า ณ ดินแดนทิศใต้มีภูเขาชื่อว่า โปตะโลกา ที่นั่นมีพระโพธิสัตว์นามว่า กวนจื่อไจ้ นอกจากนี้ยังอ้างอิงในบันทึกของหนังสือ ซี่ฮั้วจี่ ณ เขตแดนอินเดียใต้ มีภูเขาโปตะโลกา ทางขึ้นเขาอันตราย หุบเขาสูงชัน บนยอดเขามีสระน้ำ น้ำใสสะอาดดุจแผ่นกระจก มีธารน้ำไหลสู่แม่น้ำใหญ่ซึ่งจะไหลโอบรอบภูเขานี้ถึงยี่สิบรอบ ไหลสู่ทะเลใต้ ที่นั่นมีตำหนักที่สร้างด้วยศิลา พระโพธิสัตว์กวนจื่อไจ้จะเสด็จไปๆมาๆที่นี่คือภูเขาโปตะลา แม้จะออกเสียงเพี้ยงไปบ้างแต่ก็ใกล้เคียงกัน แต่ที่ภูเขาฝูถังโลเจีย คือเป็นชื่อแปลตามเสียง ปัจจุบันอยู่ในมณฑลเจ๋อเจียง ประเทศจีน มักเรียกสั้นๆว่าภูเขาฝูถัวซั ชาวบ้านมักไม่เข้าใจ คิดว่าสถานที่นี้คือ วิสุทธิภูมิของพระโพธิสัตว์กวนอิม ซึ่งถ่ายทอดกันมาผิดๆ ปัจจุบันนี้ที่ฝูถัวซันนี้มีพระโพธิสัตว์กวนอิมประดิษฐานอยู่ และได้แสดงอภินิหารที่นี่ด้วย โดยทรงเสกสระบัวไว้ที่นี่ จึงเป็นปัจจัยให้เข้าใจผิดพลาด ผู้ที่จะมานมัสการพระโพธิสัตว์มักพากันมาที่นี่ [/color][/size]