เดิมที ผมเคยประกอบอาชีพจำหน่ายเคมีเกษตร ซึ่งมียาฆ่าแมลง และอื่นฯ และก็เข้าข่ายจำหน่ายยาพิษ
พระท่านเคยบอกว่าให้ทำบุญมากๆ เพราะทำงานแบบนี้...(ขอความเห็นตรงนี้หน่อยครับ ?)

ถ้าอาชีพอื่นเราไม่ถนัดเลย ทำงานนี้มา 10 กว่าปีแล้ว จะให้ไปเริ่มอย่างอื่นนับ 1 ใหม่ คงเป็นเรื่องที่ลำบาก พอควร ....มีทางออกมั๊ยครับ ?

แล้วผู้ที่เป็นหมอ เป็นเภสัช บาปมั๊ยครับ ? ในเมื่อก็ฆ่าเชื้อ จุลินทรีย์ทั้งหลาย เช่นเดียวกันกับผม ?

ขอท่านผู้รู้ช่วยตอบให้ทีครับ...สงสัยมานานแล้ว ?


Frodo

ผู้รู้ท่านว่า
การพรากจิตให้หลุดออกจากร่างของสัตว์ที่มีรูปนามถือว่าผิดศีลข้อ1(ปาณาติบาต)
ส่วนจุลินทรีย์ (เชื้อรา แบคทีเรีย ไวรัส) มีแต่รูปไม่มีนาม(ไม่มีจิตวิญญาณครอง) ไม่ผิดศีลข้อนี้

กรณีนี้ควรทำบุญกิริยาวัตถุ 10 เสมอๆ และสร้างบุญใหญ่ เช่น ปฏิบัติธรรม สร้างโบสถ์ ศาลา
ทอดกฐิน ฯลฯ แล้วอุทิศบุญกุศลให้กับทุกชีวิตที่มีส่วนไปเบียดเบียนเขา

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาช่วยตอบคำถามนะครับ...
หนักอก หนักใจมานานแล้ว...กับการที่ต้องเปลี่ยนแปลงอาชีพ...(เรื่องใหญ่)...เฮ้อ !
ไม่อยากทำบาป แต่ก็ต้องทำกิน....
ท่านใด ช่วยให้แง่คิดหน่อยไ้ด้มั๊ย ?
คือว่า ยังตื้อๆอยู่ครับ...บอกไม่ถูก

ส่วนตัวเห็นว่าถ้ายังจำเป็นต้องทำอาชีพที่ไม่สบายใจนี้อยู่
ก็ควรทำบุญกุศลเยอะๆค่ะ (โดยเฉพาะการเจริญภาวนา)
คือเกลือ(บาป)ก็ยังอยู่ในแก้วเท่าเดิม แต่ถ้าเราเติมน้ำ(บุญ)ลงไปเยอะๆ
มันก็จะไม่เค็มเท่าเดิมค่ะ

ลองอธิษฐานดูมั้ยคะ
ขอให้กุศลกรรมที่เราทำมา
เป็นปัจจัยส่งผลให้เราสามารถประกอบอาชีพที่ไม่มีส่วนให้ต้องเบียดเบียนชีวิตใครได้ในวันนึง

อ้อ ไม่ควรคิดซ้ำๆเรื่องนี้บ่อยๆนะคะ
เพราะคิดครั้งนึง จิตขึ้นวิถีของอกุศลครั้งนึง เป็นมโนกรรมครั้งนึง
จิตจะบันทึกข้อมูลกรรมที่เราทำทุกอย่าง อย่างเที่ยงตรงค่ะ

เราคิดว่า ถ้าจะบาปน่ะ เราคิดว่าบาปน้อยมากๆ
แล้วอีกอย่าง อาชีพของคุณก็เป็นอาชีพที่สุจริต

เคยอ่านเจอหลวงพ่อ (จำไม่ได้ว่าชื่อหลวงพ่ออะไร)
ท่านสอนว่า วิญญาณที่ไปเกิดเป็นสัตว์เล็กๆนั้น
เป็นแค่เพียงเศษของวิญญาณ
เพราะฉนั้นเราคิดว่า ถ้าบาปก็น้อยมากๆ

ถ้าเพื่อความสบายใจ เวลาทำบุญหรือนั่งสมาธิ
คุณก็พูดคำว่า ขออุทิศผลบุญนี้ให้กับเหล่าแมลงทั้งหลาย
คุณจะได้สบายใจ ไม่ต้องมานั่งใจเป็นทุกข์

สำหรับเรา เรามีปลูกต้นไม้ เราฉีดประจำค่ะ
พออ่านเจอ ที่พระท่านบอกว่า
เป็นแค่เพียงเศษวิญญานเราก็เลยสบายใจมาหน่อย
ซึ่งตัวเราเอง ก็ยังไม่เข้าใจคำว่าเศษวิญญาณเป็นยังไงเช่นกันค่ะ
คงต้องรอฟังความคิดเห็นของท่านผู้อื่นค่ะ

จากที่ขายยาฆ่าแมลงลองเพิ่มเป็นพวกนำยาชีวภาพที่แมลงได้กลิ่นก็ไม่อยากตอมพืชไร่ดูบ้างซิคะ จากฆ่าก็เปลี่ยนเป็นไล่แทน ความรู้สึกบาปจะได้น้อยลง อนุโมทนาค่ะ

คุณสาวเหลือน้อยค่ะ ถึงจะเป็นน้ำยาชีวภาพก็ตาย
เราใช้กระเทียมปนกับน้ำไปปั่น แล้วก็กรองเอาแต่น้ำ
ไปฉีดที่ต้นไม้ของเรา ก็ตายเช่นกันค่ะ
แต่ก็ดีอย่างหนึ่งคือ
พอหมดกลิ่นกระเทียมก็พากันมาอีกค่ะ

ขอขอบคุณ ทุกๆท่านที่เข้ามาให้ความกระจ่างครับ...
ผลบุญอันใดที่ผมได้กระทำมาตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาตินี้ จงเป็นของผู้ที่มีจิตเมตตาทุกท่านที่ได้เข้ามาช่วยเหลือ.ให้ข้าพเจ้าล่วงพ้นทุกข์ในครั้งนี้ด้วย..เทอญ

คุณFrodoค่ะ เรานึกออกล่ะ
พระภาสกร ภูริวฑุฒโน ท่านมีพูดในทีวีน่ะ
คือเราดูจากคลิปน่ะ ท่านพูดว่า
การที่เราไปฆ่าสัตว์จำพวกแมลงตัวเล็กๆนั้น
กรรมที่เราจะได้รับคือ ปวดหัว-ตัวร้อน อาการเจ็บป่วยเล็กน้อย
ทำให้เราต้องเสียเงิน เท่ากับเราได้ชดใช้ไปแล้ว

คลิปของ พระภาสกร ภูริวฑุฒโน คุณลองเข้าไป หาดูในห้องคลิปวิดิโอดูสิค่ะ
เราก็จำไม่ได้วันไหน
ไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะ

ขอบคุณครับ คุณ ฺBBBY

อาชีพ ค้ายาพิษ ผิดครับ ก็คงไม่ต่างจาก บริษัท จำหน่าย เหล้าเบียร์ อาวุธ
ทุกวันนี้เราไม่ใช้ยาฆ่าแมลงก็ได้ ( ใช้น้ำยาชีวภาพ หรือหาวิธีป้องกันอย่างอื่นแทน )

หมอฆ่า เชื้อโรคไม่ผิดครับ ก็เหมือนกับน้ำอสุจิ ที่ยังไม่ได้ปฏิสนธิ ครับ

แน่ใจหรือว่าจะใช้หมด ในคราวเดียว
มันก็แปลกที่กรรมมัน ส่งผล บ้างก็ 500 ชาติ บ้างก็หลายๆชาติ