วันเวลาปัจจุบัน 09 ส.ค. 2025, 17:24  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 63 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มี.ค. 2012, 17:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ต.ค. 2011, 14:22
โพสต์: 21


 ข้อมูลส่วนตัว


เจตสิกคืออะไรครับ อธิบายให้คนเพิ่งศึกษาธรรมะแบบเข้าใจง่ายๆให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มี.ค. 2012, 18:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ว่ากันโดยเนื้อแท้ (ปรมัตถสัจจะ) แล้ว เราแบ่งสรรพสิ่งได้ออกเป็น 2 ประเภทเท่านั้น

คือ นามธรรม และรูปธรรม

รูปธรรม คือ สิ่งที่ไม่รู้อะไรทั้งสิ้น
นามธรรม เป็นธาตุรู้

มีเพียงนิพพาน ซึ่งเป็นนามธรรมประเภทหนึ่งที่ไม่ใช่ธาตุรู้

ถ้าสิ่งใดไม่ใช่นามธรรม สิ่งนั้น ก็ต้องเป็น รูปธรรม
ถ้าสิ่งใดไม่ใช่รูปธรรม สิ่งนั้น ก็ต้องเป็น นามธรรม

รูปธรรม ก็คือ รูป28
นามธรรม ก็คือ จิต89 และ เจตสิก52 นับนิพพานด้วยก็ นิพพาน1

จะเห็นว่า ปรมัตถธรรม ถ้าจัดแบ่งเป็นสอง ก็คือ นาม และ รูป
ถ้าจัดแบ่งเป็นสี่ ก็คือ จิต เจตสิก รูป นิพพาน

ถ้าเราไม่พูดถึงนิพพาน ........ นามธรรม ก็มีแค่ จิต และ เจตสิก

จิต และเจตสิก มีลักษณะ คือ เกิดพร้อมกัน ดับพร้อมกัน รู้อารมณ์เดียวกัน อาศัยวัตถุเดียวกันในการเกิดและดับ

จึงมีคนเปรียบเหมือนศิษย์กับอาจารย์ ถ้ามีศิษย์ก็และแสดงว่าต้องมีอาจารย์
ถ้ามีอาจารย์ก็แสดงว่าต้องมีศิษย์

ที่ใดมีจิต ที่นั่นต้องมีเจตสิก
ที่ใดมีเจตสิก ที่นั่นต้องมีจิต

ลักษณะมันเป็นอย่างนั้น

แต่จิตได้ชื่อว่าเป็นใหญ่เป็นประธาน

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มี.ค. 2012, 22:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: จิต และเจตสิก มีลักษณะ คือ เกิดพร้อมกัน ดับพร้อมกัน รู้อารมณ์เดียวกัน อาศัยวัตถุเดียวกันในการเกิดและดับสาธุอนุโมทนากับคุณโกวิท2552
:b12:
เจตสิกที่สำคัญและเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติภาวนาของเราอยู่ตลอดเวลาคือ
1.สตินทรีย์เจตสิก สติ ความรู้ทันปัจจุบันอารมณ์ ระลึกได้ ไม่ลืม
2.ปัญญินทรีย์เจตสิก มีปัญญา 2 คือปัญญาสัมมาทิฐิ ทำหน้าที่ ดู เห็น รู้
กับ ปัญาสัมมาสังกัปปะ ทำหน้าที่ สังเกต พิจารณา
3.สมาธินทรีย์เจตสิก ทำหน้าที่ตั้งมั่นอยู่กับงานเจริญสติปัญญาหรือการเจริญมรรค 8 หรือที่เรียกว่าวิปัสสนาภาวนา
4.วิริยินทรีย์เจตสิก ความเพียรภาวนาตามสัมมาวายามะหรือสัมมัปธาน 4

onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 มี.ค. 2012, 22:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 ก.ย. 2011, 10:31
โพสต์: 36


 ข้อมูลส่วนตัว


เอา ง่าย ๆ เจตสิก คือ ธรรม ฝ่ายนาม หรือ นามธรรม มี

3 คือ เวทนา สัญญา สังขาร

เป็นกริยา ของจิต

ถ้าต้องการรูปอย่าง ละเอียด ต้องขอให้ผู้ที่ศึกษา พระอภิธรรม มาตอบ เพื่อความชัดเจนในธรรมให้มากขึ้นครับ

ขออนุโมทนาล่วงหน้า

:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2012, 01:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนบนเขา เขียน:
เจตสิกคืออะไรครับ อธิบายให้คนเพิ่งศึกษาธรรมะแบบเข้าใจง่ายๆให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ

สมมุติให้จิตเป็นร่างกาย เจตสิกก็เหมือนสุขภาพของกายนั้นๆครับ
ร่างกายที่แข็งแรงก็เหมือนจิตที่มีอาการหรือเจตสิกที่เป็น กุศล
ร่างกายที่อ่อนแอก็เหมือนจิตที่มีเชื้อโรคมีอาการหรือเจตสิกที่เป็น อกุศล

จิตจะมีอาการใดๆขึ้นอยู่กับขึ้นอยู่กับ การปรุงแต่งของจิตเอง
แล้วจิตไปปรุงแต่งอะไรก็ปรุงแต่งสัญญาโดยมี กิเลสเป็นองค์ประกอบ
กิเลสเป็นได้ทั้งกุศลและอกุศล มันขึ้นอยู่กับจิตของบุคคลนั้นๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2012, 05:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ภาคศึกษา (ปริยัติ) เพื่อให้ จขกท. เห็นภาพ เขียนชื่อเจตสิกพร้อมคำแปลด้วยดิ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2012, 05:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แต่ถ้าภาคปฏิบัติ (ภาวนา) ไม่ต้องเรียนมากก็ได้ ลงมือปฏิบัติเลย จิต เจตสิก รูป ก็คือชีวิตของแต่ละคนๆที่สุขบ้าง ทุกข์บ้าง ร้องไห้บ้าง หัวเราะบ้าง โต้เถียงกันบ้าง ฆ่ากันตาย เป็นต้น บ้าง เห็นๆอยู่ทุกเมื่อเชือวันนี่เอง :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2012, 06:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ปรมัตถธรรม
ถ้าแบ่งเป็นสองคือ นาม และ รูป
ถ้าแบ่งเป็นสี่คือ จิต เจตสิก รูป นิพพาน
ถ้าแบ่งเป็นหกคือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ นิพพาน

หรือแบ่งเป็นสองคือ ขันธ์5 กับ ขันธวิมุต
หรือแบ่งเป็นสองคือ สังขารธรรม กับ วิสังขารธรรม (หมายเหตุ สังขารธรรมในที่นี้คือ ขันธ์5)
หรือแบ่งเป็นสองคือ สังขตธรรม กับ อสังขตธรรม

หรือแบ่งเป็น สองคือ พวกที่เป็นขันธ์ กับ ไม่เป็นขันธ์ (หมายเหตุ นิพพาน ไม่เป็นขันธ์)

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2012, 12:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ภาคศึกษา (ปริยัติ) เพื่อให้ จขกท. เห็นภาพ เขียนชื่อเจตสิกพร้อมคำแปลด้วยดิ :b1:

พูดกับผมหรา! :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2012, 12:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


govit2552 เขียน:
ปรมัตถธรรม
ถ้าแบ่งเป็นสองคือ นาม และ รูป
ถ้าแบ่งเป็นสี่คือ จิต เจตสิก รูป นิพพาน
ถ้าแบ่งเป็นหกคือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ นิพพาน

หรือแบ่งเป็นสองคือ ขันธ์5 กับ ขันธวิมุต
หรือแบ่งเป็นสองคือ สังขารธรรม กับ วิสังขารธรรม (หมายเหตุ สังขารธรรมในที่นี้คือ ขันธ์5)
หรือแบ่งเป็นสองคือ สังขตธรรม กับ อสังขตธรรม

หรือแบ่งเป็น สองคือ พวกที่เป็นขันธ์ กับ ไม่เป็นขันธ์ (หมายเหตุ นิพพาน ไม่เป็นขันธ์)

อะไรของเขาหว่า! สนุกดีมั้ยครับคุณโกวิท
เลอะเทอะใหญ่แล้ว ปรมัตถ์ธรรมมันมีแค่สี่ จิต เจตสิก รูป นิพพาน

ไอ้ที่คุณแบ่งย่อยออกมามันก็อยู่ในสี่ตัวนี้แหล่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2012, 13:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กรัชกาย เขียน:
ภาคศึกษา (ปริยัติ) เพื่อให้ จขกท. เห็นภาพ เขียนชื่อเจตสิกพร้อมคำแปลด้วยดิ :b1:


พูดกับผมหรา!


ใครก็ได้ที่พอจะหามาวางแล้วอธิบายได้ โฮฮับด้วยก็ได้นิ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2012, 15:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คนบนเขา เขียน:
เจตสิกคืออะไรครับ อธิบายให้คนเพิ่งศึกษาธรรมะแบบเข้าใจง่ายๆให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ

สวัสดี คนบนเขา
เจตสิก เป็นชื่อเรียกรวม ของอาการจิต ที่นอกจากอาการรู้
อาการจิตที่ รับสุข รับทุกข์ เฉยๆ ก็เป็นเวทนาขันธ์
อาการจิตที่ จำ ก็เป็นสัญญาขันธ์
อาการจิตที่ ปรุงคิด คิดปรุง เป็นความฉลาด ความไม่ฉลาด เป็นทางออกจากทุกข์ ก็เรียกว่าสังขารขันธ์
v
อาการจิตที่ไปรู้ทั้งหมดตามตำแหน่งต่างๆที่ปรากฏ อันจิตไปตั้งอยู่ ก็เป็นวิญญาณขันธ์ซึ่งไม่ใช่เจตสิก

คุณภาพของจิต จะดีจะเลว จะฉลาด จะไม่ฉลาด จึงขึ้นอยู่กับคุณภาพของ อาการจิต ที่เป็นเจตสิกธรรม

เปรียบเทียบ จิตก็คล้ายหม้อต้มยำที่มีเครื่องปรุงต่างๆ อยู่ในหม้อนั่นล่ะครับ

เจริญธรรม

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 มี.ค. 2012, 19:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


คนบนเขา เขียน:
เจตสิกคืออะไรครับ อธิบายให้คนเพิ่งศึกษาธรรมะแบบเข้าใจง่ายๆให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ


เจตสิก หมายถึง ธรรมที่ประกอบอยู่ในจิต ถ้าจะขยายความให้เกิดความเข้าใจง่ายขึ้น ก็คือ ความรู้ต่างๆที่สถิตหรือฝังอยุ่ในจิต

ในทางพุทธศาสนา คำว่า จิต นั้น มีความหมายกว้างมาก เนื่องด้วยในครั้งพุทธกาลนั้น ยังไม่มีศัพท์ภาษาทางการแพทย์หรือทางวิทยาศาสตร์ดังเช่นปัจจุบัน ในทางพุทธศาสนาจึงใช้คำว่า "จิต"เรียก ส่วนประกอบของอวัยวะต่างๆของร่างกายว่า จิต ขอรับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มี.ค. 2012, 00:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


sriariya เขียน:
คนบนเขา เขียน:
เจตสิกคืออะไรครับ อธิบายให้คนเพิ่งศึกษาธรรมะแบบเข้าใจง่ายๆให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ


เจตสิก หมายถึง ธรรมที่ประกอบอยู่ในจิต ถ้าจะขยายความให้เกิดความเข้าใจง่ายขึ้น ก็คือ ความรู้ต่างๆที่สถิตหรือฝังอยุ่ในจิต

ในทางพุทธศาสนา คำว่า จิต นั้น มีความหมายกว้างมาก เนื่องด้วยในครั้งพุทธกาลนั้น ยังไม่มีศัพท์ภาษาทางการแพทย์หรือทางวิทยาศาสตร์ดังเช่นปัจจุบัน ในทางพุทธศาสนาจึงใช้คำว่า "จิต"เรียก ส่วนประกอบของอวัยวะต่างๆของร่างกายว่า จิต ขอรับ

ท่านจ่าดิฉันว่าเลิกสอนธรรมมะดีกว่าเจ้าค่ะ คนแก่นี่ยิ่งพูดยิ่งเลอะเทอะเพ้อเจ้อ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มี.ค. 2012, 02:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เช่นนั้น เขียน:
สวัสดี คนบนเขา
เจตสิก เป็นชื่อเรียกรวม ของอาการจิต ที่นอกจากอาการรู้

รู้ไม่ใช่อาการของจิต รู้ก็คือธาตุรู้เป็นตัวจิตแท้ๆ อาการเป็นเจตสิก
เช่นนั้น เขียน:
อาการจิตที่ รับสุข รับทุกข์ เฉยๆ ก็เป็นเวทนาขันธ์

อาการจิตที่รับสุข รับทุข์ไม่มี มีแต่จิดเป็นสุขเป็นทุกข์ เพราะจิตเป็นสุขเป็นทุกข์
ไอ้สุขทุกข์นั้นก็คืออาการของจิตที่เป็นสุขทุกข์ หรือเวทนาขันธ์
เช่นนั้น เขียน:
อาการจิตที่ จำ ก็เป็นสัญญาขันธ์

อาการของจิต ที่เรียกว่าจำ มันไม่มี ความจำได้มันต้องอาศัยสติ
ถ้าสติไประลึกได้ก็คือจำได้ ถ้าสติไประลึกไม่ได้ก็จำไม่ได้
ดังนั้นอาการจำมันไม่มี และสติก็ไม่ใช่สัญญาขันธ์แต่เป็นสังขารขันธ์

จิตไปรู้อะไรแล้ว ส่วนที่รู้ก็จะกลายเป็นสัญญาขันธ์
เช่นนั้น เขียน:
อาการจิตที่ ปรุงคิด คิดปรุง เป็นความฉลาด ความไม่ฉลาด เป็นทางออกจากทุกข์ ก็เรียกว่าสังขารขันธ์

นอกจากเจตสิก เวทนาขันธ์และเจตสิกสัญญาขันธ์ นอกนั้นเป็นเจตสิกสังขารขันธ์ทั้งหมด
เช่นนั้น เขียน:
อาการจิตที่ไปรู้ทั้งหมดตามตำแหน่งต่างๆที่ปรากฏ อันจิตไปตั้งอยู่ ก็เป็นวิญญาณขันธ์ซึ่งไม่ใช่เจตสิก

การจะรู้อาการของจิตได้ ต้องอาศัยสติและสัญญาขันธ์ วิญญานขันธ์เกิดหลังจากได้รับผัสสะ
และดับไปแล้ว การจะเกิดวิญญานขันธ์ต้องได้รับผัสสะใหม่เท่านั้น
เช่นนั้น เขียน:
คุณภาพของจิต จะดีจะเลว จะฉลาด จะไม่ฉลาด จึงขึ้นอยู่กับคุณภาพของ อาการจิต ที่เป็นเจตสิกธรรม
เปรียบเทียบ จิตก็คล้ายหม้อต้มยำที่มีเครื่องปรุงต่างๆ อยู่ในหม้อนั่นล่ะครับ

พูดจาวกวนสับสน คุณภาพของจิตจะดีจะเลว มันก็ขึ้นอยู่กับจิต
มันไปเกี่ยวอะไรกับอาการของจิตหรือเจตสิก อาการของจิตมันเป็นเพียงเหตุปัจจัย
มีเหตุให้เกิดมันก็เกิด อาการของจิตเป็นตัวบอกให้รู้ว่าจิตมีคุณภาพอย่างไร
จิตดีอาการของจิตก็ดี จิตไม่ดีอาการของจิตก็ไม่ดี


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 63 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร