วันเวลาปัจจุบัน 26 มิ.ย. 2025, 17:20  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 73 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2014, 12:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สองใจ เขียน:
ท่านกรัชกาย น่าสงสารจังเลย.... ยากแล้วล่ะท่าน

มีแต่ภาระ มีแต่ของหนัก


แบกอะไรครับ :b12:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2014, 12:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ม.ค. 2014, 08:17
โพสต์: 73

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณท่านกรัชกาย

ที่ทำให้เราน้ำตาไหล

เนื่องจาก ได้นึกถึง พระพุทธประวัติของพระพุทธองค์
ที่ท่านลำพึงในใจว่า ธรรมที่สมเด็จพระพุทธองค์ได้ตรัสรู้แล้วนี้
เห็นได้ยาก รู้ตามได้ยาก ประณีต สงบ คาดคะเนเอาไม่ได้
ละเอียด รู้ได้เฉพาะบัณฑิต...

เรามีน้ำตาไหลจริงๆเมื่อได้อ่านสิ่งที่ท่านกรัชกายตอบ
เพราะเราทราบซึ้งลงไปในจิตของเรานี้แล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2014, 12:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สองใจ เขียน:
ขอบคุณท่านกรัชกาย

ที่ทำให้เราน้ำตาไหล

เนื่องจาก ได้นึกถึง พระพุทธประวัติของพระพุทธองค์
ที่ท่านลำพึงในใจว่า ธรรมที่สมเด็จพระพุทธองค์ได้ตรัสรู้แล้วนี้
เห็นได้ยาก รู้ตามได้ยาก ประณีต สงบ คาดคะเนเอาไม่ได้
ละเอียด รู้ได้เฉพาะบัณฑิต...

เรามีน้ำตาไหลจริงๆเมื่อได้อ่านสิ่งที่ท่านกรัชกายตอบ
เพราะเราทราบซึ้งลงไปในจิตของเรานี้แล



สองใจได้ดวงตาเห็นธรรมแล้วล่ะครับงั้น สาธุ :b8: เล่นเอาน้ำหูน้ำตาไหลเลย

http://www.youtube.com/watch?v=JzTywF-CU20&feature=kp

เจริญธรรม :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2014, 12:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สองใจ เขียน:
ขอบคุณท่านกรัชกาย

ที่ทำให้เราน้ำตาไหล

เนื่องจาก ได้นึกถึง พระพุทธประวัติของพระพุทธองค์
ที่ท่านลำพึงในใจว่า ธรรมที่สมเด็จพระพุทธองค์ได้ตรัสรู้แล้วนี้
เห็นได้ยาก รู้ตามได้ยาก ประณีต สงบ คาดคะเนเอาไม่ได้
ละเอียด รู้ได้เฉพาะบัณฑิต...

เรามีน้ำตาไหลจริงๆเมื่อได้อ่านสิ่งที่ท่านกรัชกายตอบ
เพราะเราทราบซึ้งลงไปในจิตของเรานี้แล



ถามจริงๆนะครับ ธรรมที่ว่านั้น ได้แก่ อะไรครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2014, 13:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เชิญทั้งสองท่าน คือทั้งคุณสองใจ กับ คุณน้อง บอกวิธีการปฏิบัติของตนๆแก่กรัชกายซึ่งได้วางตำราไว้หน้าประตูแล้ว และกำลังจะขอคำแนะนำภาคปฏิบัติกับทั้งสองหญิงเก่งขอรับ :b32: เอาแบบสุดยอด :b11: นะขอรับ กรัชกายจะได้เข้าถ้ำไปปฏิบัติ แบบๆว่า เข้าไปแล้วไม่บรรลุธรรมจะไม่ออกจากถ้ำไปหากิน :b1: ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊งพี่น้อง :b32: เอ้าว่าไปครับ :b8:

อย่างกรัชกาย ต่อให้ปฏิบัติที่ไหนๆอยู่บ้านเข้าป่าเข้าวัด ก็ไม่สามารถบรรลุธรรมได้หรอก คือพูดตรงไปตรงมานะเจ้าค่ะ จากใจ อิตากรัชกายมีวิบากกรรมคือเห็นคนอื่นดีกว่าตนไม่ได้ อดรนทนไม่ไหวเที่ยวกระแนะกระแหนเขา สร้างวิบากกรรมทางวาจาอยู่ร่ำไป วันไหนไม่ได้เที่ยวกระแนะกระแหนคนอื่นก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ ตำราที่ศึกษามาก็ช่วยอะไรไม่ได้ ขาดศรัทราขาดความเลื่อมใส่ในผู้อื่น ไม่เคยสนใจที่จะศึกษาพระไตรปิฏกซึ่งเป็นคำสอนของพระพุทธองค์ แต่ชอบก๊อปพุทธรรมมาแปะ แล้วก็ยิ้มกรุ้มกริ่ม พอใครมีความคิดสวนทางกะตนก็ว่าเค้าไม่มีความรู้ไม่มีความเข้าใจในธรรม ว่าคนนั้นคนนี้ไม่เคยปฏิบัติว่ามีแต่จินตนาการ เดาสุ่มสี่สุ่มห้า เต็มไปด้วยมักขะในจิต แล้วยังบังอาจจะขอให้คุนน้องบอกวิธีการปฏิบัติ ทั้งที่เราก็เคยเอามาลงให้อ่าน อิตากรัชกายไม่ได้มีความบริสุทธิ์ใจต่อสหายธรรมผู้อื่น ปากก็บอกนั่งสมาธิเจอมาหมดแล้ว มันก็เรื่องปกติธรรมดา แต่ไม่เคยเอาสิ่งที่ตนฝึกฝนมาถ่ายทอดเป็นธรรมทานแก่ผู้อื่น ดีแต่ลองภูมิคนอื่นแล้วแขวะหัวเราะเยาะเขาในใจ ถ้าให้คุนน้องสอนภาคปฏิบัติให้เบื้องต้น ไม่มีอะไรมาก กรัชกายก็รักษาศีล5 เวลาว่างก็หมั่นไปทำบุญ ทำทาน ตักบาตร (ท่าจะให้ดีตื่นมาตักบาตรทุกวันและอธิฐานว่าขอให้ปฏิบัติธรรมแล้วเกิดปัญญาเห็นทางสว่างความมืดมนในจิตของข้าพเจ้าจงอย่าได้มี) หมั่นสวดมนต์สรรเสริญพระพุทธองค์ ขอขมาพระรัตนตรัย ทำทุกวัน จนเคยตัวเคยชินเคยจิตใจนะกรัชกาย ชาติหน้าจะได้มีปัญญาดี



ขอบคุณในคำสอนสั่งขอรับ สาธุ :b8: เกิดชาติหน้าฉันใด ขอให้ข้าพเจ้ามีปัญญาเหมือนพระสารีบุตร เป็นพหูสูตดังพระอานนท์ ขออย่าได้เป็นโจรเหมือนองคุลีมาล :b1:

เจริญธรรม :b20:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2014, 13:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
คุณสองใจ


อ้างคำพูด:
วันนี้ ได้เดินจงกรมเห็นเทพนิมิตรเป็นพระพุทธเจ้า และสักพักเป็นในหลวง เป็นเพราะอะไรค่ะ


เขาถามเป็นเพราะอะไร


ไม่มีใครให้คำแนะนำเลยนะ :b1: :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2014, 14:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คุณสองใจ


อ้างคำพูด:
วันนี้ ได้เดินจงกรมเห็นเทพนิมิตรเป็นพระพุทธเจ้า และสักพักเป็นในหลวง เป็นเพราะอะไรค่ะ


เขาถามเป็นเพราะอะไร


ไม่มีใครให้คำแนะนำเลยนะ :b1: :b13:

ไม่มีอะไรแนะนำ กรัชกายบอกให้นักภาวนาท่านนี้ อ่านนี้ซะ
http://www.dharma-gateway.com/monk/prea ... dee-03.htm
อ่านแล้วจะได้รู้วิธีปฏิบัติเมื่อเกิดสภาวะนั้นอีก ดีกว่ากรัชกายจะเที่ยวมาถามนักปฏิบัติในลานนี้ นี่เป็นคำสอนของครูบาอาจารย์เชื่อถือได้กว่ากรัชกายด้วยซ้ำ :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2014, 14:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
nongkong เขียน:
กรัชกาย เขียน:
เชิญทั้งสองท่าน คือทั้งคุณสองใจ กับ คุณน้อง บอกวิธีการปฏิบัติของตนๆแก่กรัชกายซึ่งได้วางตำราไว้หน้าประตูแล้ว และกำลังจะขอคำแนะนำภาคปฏิบัติกับทั้งสองหญิงเก่งขอรับ :b32: เอาแบบสุดยอด :b11: นะขอรับ กรัชกายจะได้เข้าถ้ำไปปฏิบัติ แบบๆว่า เข้าไปแล้วไม่บรรลุธรรมจะไม่ออกจากถ้ำไปหากิน :b1: ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊งพี่น้อง :b32: เอ้าว่าไปครับ :b8:

อย่างกรัชกาย ต่อให้ปฏิบัติที่ไหนๆอยู่บ้านเข้าป่าเข้าวัด ก็ไม่สามารถบรรลุธรรมได้หรอก คือพูดตรงไปตรงมานะเจ้าค่ะ จากใจ อิตากรัชกายมีวิบากกรรมคือเห็นคนอื่นดีกว่าตนไม่ได้ อดรนทนไม่ไหวเที่ยวกระแนะกระแหนเขา สร้างวิบากกรรมทางวาจาอยู่ร่ำไป วันไหนไม่ได้เที่ยวกระแนะกระแหนคนอื่นก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ ตำราที่ศึกษามาก็ช่วยอะไรไม่ได้ ขาดศรัทราขาดความเลื่อมใส่ในผู้อื่น ไม่เคยสนใจที่จะศึกษาพระไตรปิฏกซึ่งเป็นคำสอนของพระพุทธองค์ แต่ชอบก๊อปพุทธรรมมาแปะ แล้วก็ยิ้มกรุ้มกริ่ม พอใครมีความคิดสวนทางกะตนก็ว่าเค้าไม่มีความรู้ไม่มีความเข้าใจในธรรม ว่าคนนั้นคนนี้ไม่เคยปฏิบัติว่ามีแต่จินตนาการ เดาสุ่มสี่สุ่มห้า เต็มไปด้วยมักขะในจิต แล้วยังบังอาจจะขอให้คุนน้องบอกวิธีการปฏิบัติ ทั้งที่เราก็เคยเอามาลงให้อ่าน อิตากรัชกายไม่ได้มีความบริสุทธิ์ใจต่อสหายธรรมผู้อื่น ปากก็บอกนั่งสมาธิเจอมาหมดแล้ว มันก็เรื่องปกติธรรมดา แต่ไม่เคยเอาสิ่งที่ตนฝึกฝนมาถ่ายทอดเป็นธรรมทานแก่ผู้อื่น ดีแต่ลองภูมิคนอื่นแล้วแขวะหัวเราะเยาะเขาในใจ ถ้าให้คุนน้องสอนภาคปฏิบัติให้เบื้องต้น ไม่มีอะไรมาก กรัชกายก็รักษาศีล5 เวลาว่างก็หมั่นไปทำบุญ ทำทาน ตักบาตร (ท่าจะให้ดีตื่นมาตักบาตรทุกวันและอธิฐานว่าขอให้ปฏิบัติธรรมแล้วเกิดปัญญาเห็นทางสว่างความมืดมนในจิตของข้าพเจ้าจงอย่าได้มี) หมั่นสวดมนต์สรรเสริญพระพุทธองค์ ขอขมาพระรัตนตรัย ทำทุกวัน จนเคยตัวเคยชินเคยจิตใจนะกรัชกาย ชาติหน้าจะได้มีปัญญาดี



ขอบคุณในคำสอนสั่งขอรับ สาธุ :b8: เกิดชาติหน้าฉันใด ขอให้ข้าพเจ้ามีปัญญาเหมือนพระสารีบุตร เป็นพหูสูตดังพระอานนท์ ขออย่าได้เป็นโจรเหมือนองคุลีมาล :b1:

เจริญธรรม :b20:

ขอนั่นขอนี่เคยประพฤติปฏิบัติตนให้ได้เป็นแบบนั้นหรือเปล่า อยากมีปัญญาก็ต้องมีความเพียร ไม่ใช่นึกจินตนาการอยากปัญญาดีดั่งพระสารีบุตร อยากเป็นพหูสูตรอย่างพระอานนท์ นั่งนึกฝันเอาคงจะได้เป็นอยู่หรอก
เจริญธรรม :b20:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2014, 15:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คุณสองใจ


อ้างคำพูด:
วันนี้ ได้เดินจงกรมเห็นเทพนิมิตรเป็นพระพุทธเจ้า และสักพักเป็นในหลวง เป็นเพราะอะไรค่ะ


เขาถามเป็นเพราะอะไร


ไม่มีใครให้คำแนะนำเลยนะ :b1: :b13:

ไม่มีอะไรแนะนำ กรัชกายบอกให้นักภาวนาท่านนี้ อ่านนี้ซะ
http://www.dharma-gateway.com/monk/prea ... dee-03.htm
อ่านแล้วจะได้รู้วิธีปฏิบัติเมื่อเกิดสภาวะนั้นอีก ดีกว่ากรัชกายจะเที่ยวมาถามนักปฏิบัติในลานนี้ นี่เป็นคำสอนของครูบาอาจารย์เชื่อถือได้กว่ากรัชกายด้วยซ้ำ :b32:



วันนี้ ได้เดินจงกรมเห็นเทพนิมิตรเป็นพระพุทธเจ้า และสักพักเป็นในหลวง เป็นเพราะอะไรค่ะ

ผู้ใดใครก็ตาม เขาถามดังนี้นี้ แต่พูดดังนั้นโน้น ไม่พูดเรื่อง/สิ่งที่เขาถามเขาเป็น พึงปลีกตัวออกมาเสียจากผู้นั้น จากสำนักนั้น ก่อนที่เข้าศรีธัญญา :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2014, 17:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
nongkong เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คุณสองใจ


อ้างคำพูด:
วันนี้ ได้เดินจงกรมเห็นเทพนิมิตรเป็นพระพุทธเจ้า และสักพักเป็นในหลวง เป็นเพราะอะไรค่ะ


เขาถามเป็นเพราะอะไร


ไม่มีใครให้คำแนะนำเลยนะ :b1: :b13:

ไม่มีอะไรแนะนำ กรัชกายบอกให้นักภาวนาท่านนี้ อ่านนี้ซะ
http://www.dharma-gateway.com/monk/prea ... dee-03.htm
อ่านแล้วจะได้รู้วิธีปฏิบัติเมื่อเกิดสภาวะนั้นอีก ดีกว่ากรัชกายจะเที่ยวมาถามนักปฏิบัติในลานนี้ นี่เป็นคำสอนของครูบาอาจารย์เชื่อถือได้กว่ากรัชกายด้วยซ้ำ :b32:



วันนี้ ได้เดินจงกรมเห็นเทพนิมิตรเป็นพระพุทธเจ้า และสักพักเป็นในหลวง เป็นเพราะอะไรค่ะ

ผู้ใดใครก็ตาม เขาถามดังนี้นี้ แต่พูดดังนั้นโน้น ไม่พูดเรื่อง/สิ่งที่เขาถามเขาเป็น พึงปลีกตัวออกมาเสียจากผู้นั้น จากสำนักนั้น ก่อนที่เข้าศรีธัญญา :b32:

สงสัยกรัชกายอยากให้คุนน้องจับกรัชกาย ระเบิดร่างแยกอตอม :b32: เหมือนจีนจับชาร์ลแยกเป็นอตอม :b32:
กรัชกายทำไมไม่ให้แม่นางคนนั้น อ่านหละ
บางครั้งเกิดเห็นพระพุทธเจ้าหรือบรรดาครูบาอาจารย์มาปรากฏให้เห็น หรือเห็นพวกวัตถุเช่นโบสถ์ วิหาร หรือสิ่งต่างๆ นิมิตภายนอกนี้เรียกว่า “อุคคหนิมิต”

เรื่องของนิมิตเป็นเรื่องที่สำคัญ ในบางครั้งก็มาทำท่าแลบลิ้นปลิ้นตา ก็อย่าไปเข้าใจว่าเป็นเปรตเป็นผี ที่จริงแล้วเป็นเพราะว่าสังขารภายในมันฉายออกไปเพื่อหลอกใจของเราเอง มันฉายออกไปจากใจนี่แหละ อันนี้พูดเตือนสติไว้

การทำสมาธิภาวนานี้ ถ้าบุคคลใดเกิดนิมิตมาก ก็อย่าได้ไปเกิดความกลัวจนกระทั่งเลิกปฏิบัติ ขอให้ปฏิบัติต่อไปโดยให้สติตั้งมั่นกำหนดรู้ อย่างที่แนะนำมาแล้ว เมื่อเราทำต่อไปเรื่อยๆ ก็จะเกิดอานิสงส์ คือถ้าเป็นคนนิสัยดุร้ายก็จะเป็นคนใจดี ถ้าเป็นคนโกรธง่ายก็จะค่อยๆ เบาบางลง ถ้าเป็นคนปัญญาทึบเมื่อทำจิตสงบได้แล้วก็จะเป็นคนที่ฟังอะไรรู้เรื่องเข้าใจในเหตุผล ถ้าเป็นคนที่ฉลาดอยู่แล้วก็จะเพิ่มพูนปัญญาให้มากขึ้นไปอีก ท่านจึงว่ามีอานิสงส์มาก

ขณะที่เราเกิดเห็นนิมิตขึ้นมา ถ้าเราแก้ความกลัวในนิมิตได้ต่อไปก็จะสบาย เมื่อเราเกิดความกลัวขึ้น เราอย่าไปยึดถือสิ่งที่เราเห็นในนิมิตเป็นตัวเป็นตน เป็นเราเป็นเขา ให้กำหนดรู้ว่าเป็นมาร ซึ่งพระพุทธเจ้าเรียกว่า “ขันธมาร” หรือ “กิเลสมาร”
นี่เป็นคำเทศของพระอาจารย์ปฏิบัตินะกรัชกาย กรัชกายอย่ามาสร้างวิบากกรรมทางวาจากับคุนน้องดีกว่าอย่าให้ของขึ้นนะ ก็คุนน้องไม่เคยเห็นพระพุทธเจ้าไม่เคยเห็นในหลวง แล้วจะบอกได้ไง ถ้ากรัชกายเคยเห็นก็บอกนางคนนั้นไปดิ แล้วจะให้บอกอะไร เห็นพระพุทธเจ้าเห็นในหลวง แล้วจะให้บอกว่าโอเก่งจังดีจังเลย เรานั่งตั้งนานไม่เคยเห็นไรเลย เห้นแต่จิตสงบไม่ฟุ้งซ่าน เทอสมาธิดีกว่าเรานั่งละเห็นโน่นเห้นนี่ อีกหน่อยก็จะได้อภิญญาแล้ว ทำไปเรื่อยๆนะ เด่วก็ได้ญาณไปพระนิพพาน 555ให้บอกแบบนี้หรอกรัชกาย ก็รู้ๆกันอยู่ว่าที่เห็นน่ะเขาเห็นจริง แต่สิ่งที่เห็นไม่ใช่ของจริง เป็นแค่กำลังสมาธิที่เกิดขึ้นแล้วปรากฏที่ใจจนเห็นนิมิตพวกนั้น
ปล.กรัชกายนี่ไม่ไหวจริงๆ เที่ยวลบหลู่คุนท่าน อย่าหวังเลยว่าปฏิบัติธรรมแล้วจะเกิดปัญญาบรรลุธรรม :b32:
เพราะกรัชกายเที่ยวลบหลู่คุนพระสงฆ์อยู่เรื่อยๆเลย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2014, 17:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
กรัชกาย เขียน:
nongkong เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คุณสองใจ


อ้างคำพูด:
วันนี้ ได้เดินจงกรมเห็นเทพนิมิตรเป็นพระพุทธเจ้า และสักพักเป็นในหลวง เป็นเพราะอะไรค่ะ


เขาถามเป็นเพราะอะไร


ไม่มีใครให้คำแนะนำเลยนะ :b1: :b13:

ไม่มีอะไรแนะนำ กรัชกายบอกให้นักภาวนาท่านนี้ อ่านนี้ซะ
http://www.dharma-gateway.com/monk/prea ... dee-03.htm
อ่านแล้วจะได้รู้วิธีปฏิบัติเมื่อเกิดสภาวะนั้นอีก ดีกว่ากรัชกายจะเที่ยวมาถามนักปฏิบัติในลานนี้ นี่เป็นคำสอนของครูบาอาจารย์เชื่อถือได้กว่ากรัชกายด้วยซ้ำ :b32:



วันนี้ ได้เดินจงกรมเห็นเทพนิมิตรเป็นพระพุทธเจ้า และสักพักเป็นในหลวง เป็นเพราะอะไรค่ะ

ผู้ใดใครก็ตาม เขาถามดังนี้นี้ แต่พูดดังนั้นโน้น ไม่พูดเรื่อง/สิ่งที่เขาถามเขาเป็น พึงปลีกตัวออกมาเสียจากผู้นั้น จากสำนักนั้น ก่อนที่เข้าศรีธัญญา :b32:

สงสัยกรัชกายอยากให้คุนน้องจับกรัชกาย ระเบิดร่างแยกอตอม :b32: เหมือนจีนจับชาร์ลแยกเป็นอตอม :b32:
กรัชกายทำไมไม่ให้แม่นางคนนั้น อ่านหละ
บางครั้งเกิดเห็นพระพุทธเจ้าหรือบรรดาครูบาอาจารย์มาปรากฏให้เห็น หรือเห็นพวกวัตถุเช่นโบสถ์ วิหาร หรือสิ่งต่างๆ นิมิตภายนอกนี้เรียกว่า “อุคคหนิมิต”

เรื่องของนิมิตเป็นเรื่องที่สำคัญ ในบางครั้งก็มาทำท่าแลบลิ้นปลิ้นตา ก็อย่าไปเข้าใจว่าเป็นเปรตเป็นผี ที่จริงแล้วเป็นเพราะว่าสังขารภายในมันฉายออกไปเพื่อหลอกใจของเราเอง มันฉายออกไปจากใจนี่แหละ อันนี้พูดเตือนสติไว้

การทำสมาธิภาวนานี้ ถ้าบุคคลใดเกิดนิมิตมาก ก็อย่าได้ไปเกิดความกลัวจนกระทั่งเลิกปฏิบัติ ขอให้ปฏิบัติต่อไปโดยให้สติตั้งมั่นกำหนดรู้ อย่างที่แนะนำมาแล้ว เมื่อเราทำต่อไปเรื่อยๆ ก็จะเกิดอานิสงส์ คือถ้าเป็นคนนิสัยดุร้ายก็จะเป็นคนใจดี ถ้าเป็นคนโกรธง่ายก็จะค่อยๆ เบาบางลง ถ้าเป็นคนปัญญาทึบเมื่อทำจิตสงบได้แล้วก็จะเป็นคนที่ฟังอะไรรู้เรื่องเข้าใจในเหตุผล ถ้าเป็นคนที่ฉลาดอยู่แล้วก็จะเพิ่มพูนปัญญาให้มากขึ้นไปอีก ท่านจึงว่ามีอานิสงส์มาก

ขณะที่เราเกิดเห็นนิมิตขึ้นมา ถ้าเราแก้ความกลัวในนิมิตได้ต่อไปก็จะสบาย เมื่อเราเกิดความกลัวขึ้น เราอย่าไปยึดถือสิ่งที่เราเห็นในนิมิตเป็นตัวเป็นตน เป็นเราเป็นเขา ให้กำหนดรู้ว่าเป็นมาร ซึ่งพระพุทธเจ้าเรียกว่า “ขันธมาร” หรือ “กิเลสมาร”
นี่เป็นคำเทศของพระอาจารย์ปฏิบัตินะกรัชกาย กรัชกายอย่ามาสร้างวิบากกรรมทางวาจากับคุนน้องดีกว่าอย่าให้ของขึ้นนะ ก็คุนน้องไม่เคยเห็นพระพุทธเจ้าไม่เคยเห็นในหลวง แล้วจะบอกได้ไง ถ้ากรัชกายเคยเห็นก็บอกนางคนนั้นไปดิ แล้วจะให้บอกอะไร เห็นพระพุทธเจ้าเห็นในหลวง แล้วจะให้บอกว่าโอเก่งจังดีจังเลย เรานั่งตั้งนานไม่เคยเห็นไรเลย เห้นแต่จิตสงบไม่ฟุ้งซ่าน เทอสมาธิดีกว่าเรานั่งละเห็นโน่นเห้นนี่ อีกหน่อยก็จะได้อภิญญาแล้ว ทำไปเรื่อยๆนะ เด่วก็ได้ญาณไปพระนิพพาน 555ให้บอกแบบนี้หรอกรัชกาย ก็รู้ๆกันอยู่ว่าที่เห็นน่ะเขาเห็นจริง แต่สิ่งที่เห็นไม่ใช่ของจริง เป็นแค่กำลังสมาธิที่เกิดขึ้นแล้วปรากฏที่ใจจนเห็นนิมิตพวกนั้น
ปล.กรัชกายนี่ไม่ไหวจริงๆ เที่ยวลบหลู่คุนท่าน อย่าหวังเลยว่าปฏิบัติธรรมแล้วจะเกิดปัญญาบรรลุธรรม :b32:
เพราะกรัชกายเที่ยวลบหลู่คุนพระสงฆ์อยู่เรื่อยๆเลย


ตรงไหนอ่ะ ที่บ่งว่ากรัชกายลบหลู่ใครที่ว่านั่น ฟ้าดินเป็นพยานกรัชกายถูกใส่ร้ายป้ายสี :b1:

เราผิดท่านประหาร เราชอบ
เราบ่ผิด ท่านมาล้าง ดาบนั้นคืนสนอง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2014, 17:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
nongkong เขียน:
กรัชกาย เขียน:
nongkong เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คุณสองใจ


อ้างคำพูด:
วันนี้ ได้เดินจงกรมเห็นเทพนิมิตรเป็นพระพุทธเจ้า และสักพักเป็นในหลวง เป็นเพราะอะไรค่ะ


เขาถามเป็นเพราะอะไร


ไม่มีใครให้คำแนะนำเลยนะ :b1: :b13:

ไม่มีอะไรแนะนำ กรัชกายบอกให้นักภาวนาท่านนี้ อ่านนี้ซะ
http://www.dharma-gateway.com/monk/prea ... dee-03.htm
อ่านแล้วจะได้รู้วิธีปฏิบัติเมื่อเกิดสภาวะนั้นอีก ดีกว่ากรัชกายจะเที่ยวมาถามนักปฏิบัติในลานนี้ นี่เป็นคำสอนของครูบาอาจารย์เชื่อถือได้กว่ากรัชกายด้วยซ้ำ :b32:



วันนี้ ได้เดินจงกรมเห็นเทพนิมิตรเป็นพระพุทธเจ้า และสักพักเป็นในหลวง เป็นเพราะอะไรค่ะ

ผู้ใดใครก็ตาม เขาถามดังนี้นี้ แต่พูดดังนั้นโน้น ไม่พูดเรื่อง/สิ่งที่เขาถามเขาเป็น พึงปลีกตัวออกมาเสียจากผู้นั้น จากสำนักนั้น ก่อนที่เข้าศรีธัญญา :b32:

สงสัยกรัชกายอยากให้คุนน้องจับกรัชกาย ระเบิดร่างแยกอตอม :b32: เหมือนจีนจับชาร์ลแยกเป็นอตอม :b32:
กรัชกายทำไมไม่ให้แม่นางคนนั้น อ่านหละ
บางครั้งเกิดเห็นพระพุทธเจ้าหรือบรรดาครูบาอาจารย์มาปรากฏให้เห็น หรือเห็นพวกวัตถุเช่นโบสถ์ วิหาร หรือสิ่งต่างๆ นิมิตภายนอกนี้เรียกว่า “อุคคหนิมิต”

เรื่องของนิมิตเป็นเรื่องที่สำคัญ ในบางครั้งก็มาทำท่าแลบลิ้นปลิ้นตา ก็อย่าไปเข้าใจว่าเป็นเปรตเป็นผี ที่จริงแล้วเป็นเพราะว่าสังขารภายในมันฉายออกไปเพื่อหลอกใจของเราเอง มันฉายออกไปจากใจนี่แหละ อันนี้พูดเตือนสติไว้

การทำสมาธิภาวนานี้ ถ้าบุคคลใดเกิดนิมิตมาก ก็อย่าได้ไปเกิดความกลัวจนกระทั่งเลิกปฏิบัติ ขอให้ปฏิบัติต่อไปโดยให้สติตั้งมั่นกำหนดรู้ อย่างที่แนะนำมาแล้ว เมื่อเราทำต่อไปเรื่อยๆ ก็จะเกิดอานิสงส์ คือถ้าเป็นคนนิสัยดุร้ายก็จะเป็นคนใจดี ถ้าเป็นคนโกรธง่ายก็จะค่อยๆ เบาบางลง ถ้าเป็นคนปัญญาทึบเมื่อทำจิตสงบได้แล้วก็จะเป็นคนที่ฟังอะไรรู้เรื่องเข้าใจในเหตุผล ถ้าเป็นคนที่ฉลาดอยู่แล้วก็จะเพิ่มพูนปัญญาให้มากขึ้นไปอีก ท่านจึงว่ามีอานิสงส์มาก

ขณะที่เราเกิดเห็นนิมิตขึ้นมา ถ้าเราแก้ความกลัวในนิมิตได้ต่อไปก็จะสบาย เมื่อเราเกิดความกลัวขึ้น เราอย่าไปยึดถือสิ่งที่เราเห็นในนิมิตเป็นตัวเป็นตน เป็นเราเป็นเขา ให้กำหนดรู้ว่าเป็นมาร ซึ่งพระพุทธเจ้าเรียกว่า “ขันธมาร” หรือ “กิเลสมาร”
นี่เป็นคำเทศของพระอาจารย์ปฏิบัตินะกรัชกาย กรัชกายอย่ามาสร้างวิบากกรรมทางวาจากับคุนน้องดีกว่าอย่าให้ของขึ้นนะ ก็คุนน้องไม่เคยเห็นพระพุทธเจ้าไม่เคยเห็นในหลวง แล้วจะบอกได้ไง ถ้ากรัชกายเคยเห็นก็บอกนางคนนั้นไปดิ แล้วจะให้บอกอะไร เห็นพระพุทธเจ้าเห็นในหลวง แล้วจะให้บอกว่าโอเก่งจังดีจังเลย เรานั่งตั้งนานไม่เคยเห็นไรเลย เห้นแต่จิตสงบไม่ฟุ้งซ่าน เทอสมาธิดีกว่าเรานั่งละเห็นโน่นเห้นนี่ อีกหน่อยก็จะได้อภิญญาแล้ว ทำไปเรื่อยๆนะ เด่วก็ได้ญาณไปพระนิพพาน 555ให้บอกแบบนี้หรอกรัชกาย ก็รู้ๆกันอยู่ว่าที่เห็นน่ะเขาเห็นจริง แต่สิ่งที่เห็นไม่ใช่ของจริง เป็นแค่กำลังสมาธิที่เกิดขึ้นแล้วปรากฏที่ใจจนเห็นนิมิตพวกนั้น
ปล.กรัชกายนี่ไม่ไหวจริงๆ เที่ยวลบหลู่คุนท่าน อย่าหวังเลยว่าปฏิบัติธรรมแล้วจะเกิดปัญญาบรรลุธรรม :b32:
เพราะกรัชกายเที่ยวลบหลู่คุนพระสงฆ์อยู่เรื่อยๆเลย


ตรงไหนอ่ะ ที่บ่งว่ากรัชกายลบหลู่ใครที่ว่านั่น ฟ้าดินเป็นพยานกรัชกายถูกใส่ร้ายป้ายสี :b1:

ประโยคสีแดงนั่นแหละ ผู้ใดใครก็ตาม เขาถามดังนี้นี้ แต่พูดดังนั้นโน้น ไม่พูดเรื่อง/สิ่งที่เขาถามเขาเป็น ทั้งที่คุนน้องอุตส่าตั้งใจเสริทหาคำสอนครูบาอาจารย์ที่ท่านปฏิบัติมาให้แม่นางคนนี้ กรัชกายมาพูดแบบนี้หมายความว่าไงหาาาา แล้วมาตอบตรงอ้างอิงอีกนะช่างกล้า
ปล.กรัชกายนี่ไม่ไหวจริงๆ ปากไว เอะอะๆก็ฟ้าดินเป็นพยาน ระวังเหอะอย่าไปเดินโล่งๆเวลาฝนตกนะ เพราะเที่ยวชอบพูดฟ้าดินเป็นพยาน ระวังฟ้าจะผ่าลงเพื่อเป็นสักขีพยานในสิ่งที่พูด :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2014, 17:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:

กรัชกาย เขียน:
nongkong เขียน:
กรัชกาย เขียน:
nongkong เขียน:
กรัชกาย เขียน:
กรัชกาย เขียน:
คุณสองใจ


อ้างคำพูด:
วันนี้ ได้เดินจงกรมเห็นเทพนิมิตรเป็นพระพุทธเจ้า และสักพักเป็นในหลวง เป็นเพราะอะไรค่ะ


เขาถามเป็นเพราะอะไร


ไม่มีใครให้คำแนะนำเลยนะ :b1: :b13:

ไม่มีอะไรแนะนำ กรัชกายบอกให้นักภาวนาท่านนี้ อ่านนี้ซะ
http://www.dharma-gateway.com/monk/prea ... dee-03.htm
อ่านแล้วจะได้รู้วิธีปฏิบัติเมื่อเกิดสภาวะนั้นอีก ดีกว่ากรัชกายจะเที่ยวมาถามนักปฏิบัติในลานนี้ นี่เป็นคำสอนของครูบาอาจารย์เชื่อถือได้กว่ากรัชกายด้วยซ้ำ :b32:



วันนี้ ได้เดินจงกรมเห็นเทพนิมิตรเป็นพระพุทธเจ้า และสักพักเป็นในหลวง เป็นเพราะอะไรค่ะ

ผู้ใดใครก็ตาม เขาถามดังนี้นี้ แต่พูดดังนั้นโน้น ไม่พูดเรื่อง/สิ่งที่เขาถามเขาเป็น พึงปลีกตัวออกมาเสียจากผู้นั้น จากสำนักนั้น ก่อนที่เข้าศรีธัญญา :b32:

สงสัยกรัชกายอยากให้คุนน้องจับกรัชกาย ระเบิดร่างแยกอตอม :b32: เหมือนจีนจับชาร์ลแยกเป็นอตอม :b32:
กรัชกายทำไมไม่ให้แม่นางคนนั้น อ่านหละ
บางครั้งเกิดเห็นพระพุทธเจ้าหรือบรรดาครูบาอาจารย์มาปรากฏให้เห็น หรือเห็นพวกวัตถุเช่นโบสถ์ วิหาร หรือสิ่งต่างๆ นิมิตภายนอกนี้เรียกว่า “อุคคหนิมิต”

เรื่องของนิมิตเป็นเรื่องที่สำคัญ ในบางครั้งก็มาทำท่าแลบลิ้นปลิ้นตา ก็อย่าไปเข้าใจว่าเป็นเปรตเป็นผี ที่จริงแล้วเป็นเพราะว่าสังขารภายในมันฉายออกไปเพื่อหลอกใจของเราเอง มันฉายออกไปจากใจนี่แหละ อันนี้พูดเตือนสติไว้

การทำสมาธิภาวนานี้ ถ้าบุคคลใดเกิดนิมิตมาก ก็อย่าได้ไปเกิดความกลัวจนกระทั่งเลิกปฏิบัติ ขอให้ปฏิบัติต่อไปโดยให้สติตั้งมั่นกำหนดรู้ อย่างที่แนะนำมาแล้ว เมื่อเราทำต่อไปเรื่อยๆ ก็จะเกิดอานิสงส์ คือถ้าเป็นคนนิสัยดุร้ายก็จะเป็นคนใจดี ถ้าเป็นคนโกรธง่ายก็จะค่อยๆ เบาบางลง ถ้าเป็นคนปัญญาทึบเมื่อทำจิตสงบได้แล้วก็จะเป็นคนที่ฟังอะไรรู้เรื่องเข้าใจในเหตุผล ถ้าเป็นคนที่ฉลาดอยู่แล้วก็จะเพิ่มพูนปัญญาให้มากขึ้นไปอีก ท่านจึงว่ามีอานิสงส์มาก

ขณะที่เราเกิดเห็นนิมิตขึ้นมา ถ้าเราแก้ความกลัวในนิมิตได้ต่อไปก็จะสบาย เมื่อเราเกิดความกลัวขึ้น เราอย่าไปยึดถือสิ่งที่เราเห็นในนิมิตเป็นตัวเป็นตน เป็นเราเป็นเขา ให้กำหนดรู้ว่าเป็นมาร ซึ่งพระพุทธเจ้าเรียกว่า “ขันธมาร” หรือ “กิเลสมาร”
นี่เป็นคำเทศของพระอาจารย์ปฏิบัตินะกรัชกาย กรัชกายอย่ามาสร้างวิบากกรรมทางวาจากับคุนน้องดีกว่าอย่าให้ของขึ้นนะ ก็คุนน้องไม่เคยเห็นพระพุทธเจ้าไม่เคยเห็นในหลวง แล้วจะบอกได้ไง ถ้ากรัชกายเคยเห็นก็บอกนางคนนั้นไปดิ แล้วจะให้บอกอะไร เห็นพระพุทธเจ้าเห็นในหลวง แล้วจะให้บอกว่าโอเก่งจังดีจังเลย เรานั่งตั้งนานไม่เคยเห็นไรเลย เห้นแต่จิตสงบไม่ฟุ้งซ่าน เทอสมาธิดีกว่าเรานั่งละเห็นโน่นเห้นนี่ อีกหน่อยก็จะได้อภิญญาแล้ว ทำไปเรื่อยๆนะ เด่วก็ได้ญาณไปพระนิพพาน 555ให้บอกแบบนี้หรอกรัชกาย ก็รู้ๆกันอยู่ว่าที่เห็นน่ะเขาเห็นจริง แต่สิ่งที่เห็นไม่ใช่ของจริง เป็นแค่กำลังสมาธิที่เกิดขึ้นแล้วปรากฏที่ใจจนเห็นนิมิตพวกนั้น
ปล.กรัชกายนี่ไม่ไหวจริงๆ เที่ยวลบหลู่คุนท่าน อย่าหวังเลยว่าปฏิบัติธรรมแล้วจะเกิดปัญญาบรรลุธรรม :b32:
เพราะกรัชกายเที่ยวลบหลู่คุนพระสงฆ์อยู่เรื่อยๆเลย


ตรงไหนอ่ะ ที่บ่งว่ากรัชกายลบหลู่ใครที่ว่านั่น ฟ้าดินเป็นพยานกรัชกายถูกใส่ร้ายป้ายสี :b1:

ประโยคสีแดงนั่นแหละ ผู้ใดใครก็ตาม เขาถามดังนี้นี้ แต่พูดดังนั้นโน้น ไม่พูดเรื่อง/สิ่งที่เขาถามเขาเป็น ทั้งที่คุนน้องอุตส่าตั้งใจเสริทหาคำสอนครูบาอาจารย์ที่ท่านปฏิบัติมาให้แม่นางคนนี้ กรัชกายมาพูดแบบนี้หมายความว่าไงหาาาา แล้วมาตอบตรงอ้างอิงอีกนะช่างกล้า



คิกๆ ถ้าตรงนั้น ยืนยันตามนั้นขอรับ เต็มๆ

อ้างคำพูด:
ผู้ใดใครก็ตาม เขาถามดังนี้นี้ แต่พูดดังนั้นโน้น ไม่พูดเรื่อง/สิ่งที่เขาถามเขาเป็น พึงปลีกตัวออกมาเสียจากผู้นั้น จากสำนักนั้น ก่อนที่เข้าศรีธัญญา


ย้ำอีกทีเพื่อให้แน่นเข้า เจ้าสำนักใดหรือใครก็ตาม สอนกรรมฐานเขาแล้ว เขามีปัญหาจากการปฏิบัติ เขาบอกเขาเล่าอย่างนั้นๆๆ แต่เจ้าสำนักเอง...ไม่รู้สิ่งที่เขาประสบ แก้ปัญหาไม่ตรงกับเรื่อง แต่ไปพร่ำเพ้อนอกเรื่องนั้น ผู้ปฏิบัติท่านนั้น ควรรีบออกจากสำนักนั้น หรือจากผู้นั้นเสีย ก่อนจะเข้าศรีธัญญา ยืนยัน

http://www.youtube.com/watch?v=EOKbPDP7ak8&feature=kp

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2014, 17:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


มีตัวอย่างให้ดู


อ้างคำพูด:
คำถามมีอยู่ว่า

การขอคำปรึกษาเรื่องอาการที่เกิดจากการฝึกสมาธิในที่สาธารณะแบบนี้ถือว่าสมควรไหม ?

มีความรู้เรื่องพุทธศาสนาน้อยมาก จึงกังวลไปทั่วทุกอย่างค่ะ

ไปฝึกแล้วเป็นโรคจิต (ตามที่หมอบอกจากอาการที่เราเป็น)

นั่งอ่านตามเว็บไซต์ ก็ไม่เห็นมีคนพูดกันว่าเจออะไรบ้าง จึงไม่แน่ใจว่ามันควรพูดไหม เดี๋ยวเจอข้อหาโทษศาสนา


ตอนแรกดิฉันมีอาการผิดปกติทางกายแล้วไปถามผู้สอน
แล้วได้คำตอบที่ไม่สมเหตุผลมากเลยจึงขาดความไว้ใจในตัวผู้สอน
คราวนี้พอเกิดอย่างอื่นตามมาก็ไม่ได้ถามอีก

ต่อมาทั้งตาฝาด หูแว่ว ได้ยินอะไรแบบพิเศษจากปกติ
ก็คิดว่าตัวเองวิเศษ ไม่ไปถามผู้ฝึกสอนอีก เพราะขาดความไว้วางใจ แถมหลงในสิ่งลวงนั้นแล้วด้วย เป็นหนักจนต้องไปอยู่โรงพยาบาล และก็รักษาจนรู้ตัว และเข้าใจแล้วว่าเป็นเรื่องไม่จริง
แต่ยังมีอาการอย่างนึงที่ยังไม่หายคือใจแว่ว (ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดีค่ะเพราะมันคลายหูแว่ว แต่เสียงเหมือนมีคนอื่นพูดมาจากใจเรา)

กินยาตามหมอสั่งมาก็หลายเดือนก็ยังไม่หาย ยังงงอยู่ว่าเป็นไปได้อย่างไร
เสียงที่ได้ยินบอกว่า ไม่หายหรอกต้องเป็นคนจิตผิดปกติไปตลอดบ้างละ ต้องไปฝึกสมาธิต่อให้หายบ้างละ ฟังไปก็งงไปเรื่อยค่ะ เข้าใจว่ามันเป็นอาการจิตเภทแบบที่หมอบอก

แต่ไม่รู้ว่าต้องเดินทางไปสุดวิธีรักษาแบบคนเป็นโรคจิต หรือควรกลับมาทางทำสมาธิแทน
แต่กลัวตอนที่ร่างกายผิดปกติ กลัวเป็นอีกแล้วจะไม่หายคราวนี้

ดูเหมือนกับว่าอาการทางจิตเกิดได้จากการทำสมาธิ (ไม่ถูกวิธี?)
แล้วอาการทางกายล่ะคะ คุณเคยได้ยินว่า มีคนผิดปกติทางกายจากการฝึกสมาธิแล้วไม่หายไหมคะ
เพราะมันเป็นเหตุนึงที่ดิฉันกลัว จึงไม่กล้าทำอีก เพราะตอนที่เป็นนั้น เหมือนมีคนมาจับหน้าเราบิดแรงๆไปมาตลอดเวลา ตอนออกจากสมาธิก็ยังเป็น

ตอนนั้นค่อนข้างหวั่นใจ แต่ก็อดทนนั่งจนหายไป ใช้เวลาช่วงนั้นราวสองวันค่ะ

กลัวว่าคราวนี้ทำอีกแล้วเกิดมันเป็นอีก แล้วไม่หายจะแย่ ....

(หาก เรื่องที่เขาพูดกันว่าหมดวาสนาทางนี้เป็นเรื่องจริง เพราะมีคนพูดใส่เราแบบนั้นเช่นกัน แต่ดิฉันเองไม่อยากจะเชื่อ ผลของทุกอย่างย่อมเกิดจากเหตุ แต่ดิฉันไม่รู้ว่าเหตุใด ร่างกายเราเกิดอาการผิดปกติเช่นนั้น จากการทำสมาธิ แล้วจะไปป้องกัน หรือเลี่ยงมันได้อย่างไร )


.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2014, 18:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


เอาตรงๆเลยนะเจ้าค่ะ คนนั่งสมาธิต้องมีกำลังใจที่เข้มแข็ง ถ้านั่งไปแล้วไปปรากฏเป็นนิมิตที่ไม่อยากเห็นแต่ต้องเห็น จิตจะตกคือรู้สึกกลัว เมื่อกลัวก็ฟุ้งปรุงแต่งไปกับสิ่งเหล่านั้น ถ้าไม่มีครูบาอาจารย์ก็อย่าได้นั่งสมาธิเลย หันมาเจริญสติแบบปกติตามธรรมดาดีกว่า คือรู้เห็นไปตามความเป็นจริงของสภาพธรรมตรงหน้าไม่ต้องฝึกสมาธิแล้วต้องเผชิญความกลัวกับสิ่งเหล่านั้นสิ่งเหล่านี้ ทั้งที่ความกลัวมันก็เกิดปกติธรรมดา เกิดแม้ไม่ได้อยู่ในสมาธิ อย่างดูหนังผีนี่ลองดูชัตเตอร์ดิ :b14: การนั่งสมาธิก็เหมือนการเดินทาง ถ้าคิดจะเดินทางแล้วยังพะวงหน้าพะวงหลัง กลัวนั่นกลัวนี่ก็ไม่ต้องเดินหรอก บางคนนั่งสมาธิแล้วกำลังใจดี เห้นนิมิตเป็นพระพุทธเจ้า เป็นครูบาอาจารย์หรือเป็นเสียงคนมาสอนธรรมก็กำลังใจดี ทำให้เกิดปิติปลาบปลื้มในสิ่งนั้น เมื่อปลาบปลื้มแล้วย่อมจะทำให้เกิดความศรัทราคือเชื่อในสิ่งที่เห็น กลายเป้นวิปัสนูกิเลศ เรื่องนามธรรมนั้นมันเป็นเรื่องของสภาวะจิตใจของใครของมัน ลองนึกเล่นๆว่า ถ้าความตายอยู่ตรงหน้าเราเราจะยอมรับสภาพได้ไหม เราจะดิ้นรนเป็นทุกข์กับสภาวะนั้นหรือเราจะยอมรับความจริง มันก็เหมือนกับการนั่งสมาธิ ถ้ายอมรับได้ว่านั่งสมาธิแล้วเกิดอะไรขึ้นถึงแม้ความกลัวตายจะแว๊บเข้ามาในจิตแต่ก็จะทนสภาวะนั้นจะไม่ตกใจกับสิ่งนั้น ถ้าทำใจอย่างนี้ได้แล้ว ก็ลงมือนั่งสมาธิ แล้วอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด นี่เป็นวิธีเดียวที่ทำให้กำลังใจเข้มแข็งขึ้นมา แต่ถ้าเรามีความกลัว ใครก็ช่วยไม่ได้ต้องช่วยตนเอง แม้กระทั่งความตาย ก็ไม่มีใครช่วยใครได้ มีแต่เราเท่านั้นที่ต้องเป็นผู้เผชิญกับความจริง ถ้ายังทำใจไม่ได้ว่าการบำเพ็ญภาวนาทางจิตนั้นต้องประสบพบเจอกับอะไร ก็อย่าลงมือภาวนาเลย ไม่อยากให้ฟุ้งซ่านหรือเกิดความกลัว คนเราสะสมมาทั้งกุศลวิบากและอกุศลวิบาก แล้วถ้ามันจะปรากฏให้เห็นทางจิต เราก็เป็นแค่ผู้ดูผู้เห็น เหมือนเราส่องกระจกนั่นแหละ สิ่งสะท้อนในกระจกที่เราเห็นนั้นน่ะเราเห็นจริง แต่สิ่งที่เราเห็นในกระจกไม่ใช่เรา แต่เวลาเราส่องกระจกเราจะคิดเสมอว่าเงาในกระจกเป็นเรา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 73 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร