วันเวลาปัจจุบัน 21 ก.ย. 2025, 03:58  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: เมื่อวานนี้, 14:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5372


 ข้อมูลส่วนตัว


#คำสอนหลวงปู่จื่อ

ลูกเอ๋ย ดูคน ต้องไตร่ตรอง
อย่าได้มอง แต่ภายนอก ดูเหมือนบ้า
แต่คิดให้ ไม่ใจร้าย มีเมตตา
ยังดีกว่า บางคนที่ ภายนอกดี

ดูร่ำรวย หน้าตาดี มียศศักดิ์
แต่ใจยักษ์ ใจร้าย ใจบัดสี
เห็นแก่ตัว หลงแต่ตน บ้าสิ้นดี
คนเช่นนี้ อย่าเสียเวลา ไปคบเลย

คนบ้าใจดี ดีกว่า คนดีใจบ้า
คนดีใจบ้าฆ่าพ่อตีแม่ด่าพี่ด่าน้อง
คนบ้าใจดีบ่ตีบ่ด่าผู้ใดนั่นแหละดี

#หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต





"อดีต ปัจจุบัน อนาคต มันรวมอยู่ที่ปัจจุบัน
ปัจจุบันที่เราอยู่กันนี้ ก็คือผลของอดีต
อดีตมันก็คือสิ่งนั้นมันเป็นเหตุของปัจจุบัน
เมื่อปัจจุบันเป็นผลนี้ ปัจจุบันเป็นเหตุอนาคตก็เป็นผล

ทางพระพุทธศาสนาอันนี้เรียกว่าเป็นวิบาก เกิดจากการกระทำดีกระทำชั่ว ฉะนั้นวิบากทั้งหลาย อดีตก็ดี อนาคตก็ดี มารวมที่ปัจจุบัน เรานั่งอยู่เนี่ย ทำเสีย เมื่อเรามีอยู่ มีชีวิตอยู่ในปัจจุบันนี้ รีบทำ

ท่านก็ว่าอย่าไปห่วงอนาคตเลย อย่าไปห่วงอดีตเลย
ทำไมท่านถึงพูดอย่างนั้น เพราะที่เราอยู่อยู่นี้ มันก็เป็นผลของอดีตอยู่แล้ว ที่เราอยู่อยู่นี้มันก็เป็นเหตุของอนาคตอยู่แล้ว เมื่อเราอยู่ในปัจจุบันนี้มันก็เรียกว่า อดีต อนาคต มารวมอยู่จุดเดียวกัน ฉะนั้นมาทำปัจจุบันอันนี้ ให้เป็นปัจจุบัน

ปฏิบัติศีลธรรมให้เป็นปัจจุบัน ว่าวันนี้เราทำอะไร ว่าเดี๋ยวนี้เราคิดอะไร จิตเราวันนี้ทุกข์ไหม สุขไหม เป็นอะไรไหม ก็เห็นในปัจจุบันนี้ ก็ไม่ต้องตามไปถึงอดีตแล้ว ไม่ต้องตามไปถึงอนาคตแล้ว เพราะเหตุมันอยู่ตรงนี้ ผลมันก็อยู่ตรงนี้"
------------------------------
#พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท)
วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
(พ.ศ.๒๔๖๑ - ๒๕๓๕)





“สติ” มีหน้าที่ตัดสินว่า
จะให้กิเลสชนะเหตุผล
หรือจะให้เหตุผลชนะกิเลส
ถ้าสติอ่อน ไม่ตั้งมั่นอยู่
ก็จะยอม ให้กิเลสชนะเหตุผล
คือ กิเลสจะครองใจยิ่งกว่าเหตุผล
ชื่อว่าเชื่อกิเลส ยิ่งกว่าเชื่อเหตุผล

ถ้าสติเข้มแข็งตั้งมั่นอยู่
ก็จะไม่ยอมให้กิเลสชนะเหตุผล
คือ เหตุผลจะครองใจยิ่งกว่ากิเลส
ชื่อว่า เชื่อเหตุผล ยิ่งกว่ากิเลส
เป็นผู้ใช้เหตุผล ยิ่งกว่าเป็นผู้ให้กิเลสใช้
...
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า
กรมหลวงวชิรญาณสังวร





มีโยมมาเล่าให้ท่านพ่อลี ธมฺมธโร ได้ฟังว่า...
ตอนนี้ดวงไม่ค่อยดี รู้สึกว่ากำลังมีเคราะห์
ทำอะไรก็แย่ไปหมด
ขอให้ท่านพ่อลีช่วยสะเดาะเคราะห์ให้หน่อย

*ท่านพ่อลี แนะนำและได้สอนกลับไปว่า...

. อาตมาไม่สามารถช่วยสะเดาะเคราะห์หรือแก้ดวงให้ใครได้ทั้งนั้น เพราะสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับโยมนั้น
มันเป็นเรื่องของกรรมทั้งสิ้น
โยมทำกรรมดี ทำเหตุดี ผลก็ต้องดี
ทำกรรมชั่วไว้ ทำเหตุไม่ดีไว้ ผลก็เลยไม่ดี
ซึ่งมันก็ถูกต้องแล้ว

. แต่อาตมาจะช่วยชี้แนะว่า...
โยมต้องหมั่นทำบุญกุศล ทาน ศีล ปฏิบัติภาวนา
ทำให้บ่อยๆ ทำให้เกิดขึ้น ให้มีขึ้น
ทำให้เป็นนิสัยไปเลย >>.
#. ทำเหตุให้ดี
สุดท้ายโยมจะละการทำเหตุไม่ดีไปเอง
เพราะโยมได้ทำเหตุดีจนเป็นนิสัยไปแล้ว
สุดท้ายสิ่งดีๆ. จะเข้ามาหาเอง
เพราะเลิกทำชั่ว .. ละการทำชั่วไปแล้ว.

โอวาทธรรม
ท่านพ่อลี ธมฺมธโร






"พรุ่งนี้หรือชาติหน้า ไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะมาก่อน"

ความจริงอย่างหนึ่งที่ผู้คนไม่อยากนึกถึงก็คือ ความตายสามารถเกิดกับเราได้ทุกเวลา

การเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมเผชิญความตายอยู่เสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ

แต่คนส่วนใหญ่กลับมองข้ามความจริงข้อนี้

โดยให้เหตุผลว่า...ความตายเป็นเรื่องไกลตัว แท้จริงแล้วความตายอยู่ใกล้ตัวเราอย่างยิ่ง

มีภาษิตธิเบต กล่าวว่า

“ระหว่างพรุ่งนี้กับชาติหน้า ไม่มีใครรู้หรอกว่าอะไรจะมาก่อน”

นี้คือความจริงที่ใครเล่าจะกล้าปฏิเสธ
ใครที่คิดว่าพรุ่งนี้จะมาก่อนชาติหน้า
ล้วนแต่คาดเดาด้วยความประมาททั้งนั้น เพราะเราแน่ใจได้อย่างไรว่า

วันนี้จะไม่ใช่วันสุดท้ายของเรา พ้นจากวันนี้ไปแล้วก็อาจเป็นชาติหน้าเลย หามีพรุ่งนี้ไม่

น้อมนำคำสอนพระไพศาล วิสาโล
#เห็นทุกข์เห็นธรรม







#ผ้าขาวผืนเดียวก็เป็นเจ้าภาพกฐินได้แล้ว

"..เราจะสอนญาติโยมให้นะ ผ้าขาวผืนเดียวก็เป็นเจ้าภาพกฐินได้แล้ว บุญกฐินมันคือเรื่องของผ้าขาวตามพุทธานุญาต ไม่ใช่เรื่องของเงิน ไม่อย่างนั้นก็มีแต่เศรษฐีเท่านั่นนะซี่ ที่จะเป็นเจ้าภาพกฐินได้ กฐินมันเป็นเรื่องของผ้า ส่วนปัจจัยญาติโยมที่ร่วมเป็นกองกฐินนั้น ก็เป็นน้ำใจของญาติโยม ที่จะช่วยสงเคราะห์วัดวาศาสนสถาน.."

#หลวงพ่อโสภา สมโณ

วัดแสงธรรมวังเขาเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา





#คำสอนหลวงปู่จื่อ

ลูกเอ๋ย ดูคน ต้องไตร่ตรอง
อย่าได้มอง แต่ภายนอก ดูเหมือนบ้า
แต่คิดให้ ไม่ใจร้าย มีเมตตา
ยังดีกว่า บางคนที่ ภายนอกดี

ดูร่ำรวย หน้าตาดี มียศศักดิ์
แต่ใจยักษ์ ใจร้าย ใจบัดสี
เห็นแก่ตัว หลงแต่ตน บ้าสิ้นดี
คนเช่นนี้ อย่าเสียเวลา ไปคบเลย

คนบ้าใจดี ดีกว่า คนดีใจบ้า
คนดีใจบ้าฆ่าพ่อตีแม่ด่าพี่ด่าน้อง
คนบ้าใจดีบ่ตีบ่ด่าผู้ใดนั่นแหละดี

#หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต





...ศีล สมาธิ ปัญญา...
"หากเรามีศีลที่สะอาด จะช่วยสามารถชำระกิเลสทำให้เกิดความตั้งมั่น
ใฝ่อยากปฏิบัติตนดี นำไปสู่เจริญสามธิได้ดี และเมื่อสมาธิสงบแล้ว
หากใช้ สติปัญญา เข้าพิจารณาไตร่ตรองทุกอย่างด้วยเหตุด้วยผล
จะรับรู้ได้ว่าทุกข์ที่เกิดขึ้น เกิดจากกิเลสทั้งนั้น หากเรามีปัญญาที่สว่าง
จะสามารถรู้ว่า จะขัดกิเลสได้อย่างไร"

..คติธรรมคำสอน หลวงมหาปู่ศิลา สิริจันโท..





"... เมื่อสังขารไม่มีแล้ว​ ความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตายมันก็ไม่มี​ ความทุกข์ทั้งหลายมันก็ไม่มี มันจะเอาอะไรมาทุกข์ มันไม่ได้ปรุงได้แต่ง นี้มันก็สุข..."

หลวงปู่ฝั้น อาจาโร





"พรุ่งนี้หรือชาติหน้า ไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะมาก่อน"

ความจริงอย่างหนึ่งที่ผู้คนไม่อยากนึกถึงก็คือ ความตายสามารถเกิดกับเราได้ทุกเวลา

การเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมเผชิญความตายอยู่เสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ

แต่คนส่วนใหญ่กลับมองข้ามความจริงข้อนี้

โดยให้เหตุผลว่า...ความตายเป็นเรื่องไกลตัว แท้จริงแล้วความตายอยู่ใกล้ตัวเราอย่างยิ่ง

มีภาษิตธิเบต กล่าวว่า

“ระหว่างพรุ่งนี้กับชาติหน้า ไม่มีใครรู้หรอกว่าอะไรจะมาก่อน”

นี้คือความจริงที่ใครเล่าจะกล้าปฏิเสธ
ใครที่คิดว่าพรุ่งนี้จะมาก่อนชาติหน้า
ล้วนแต่คาดเดาด้วยความประมาททั้งนั้น เพราะเราแน่ใจได้อย่างไรว่า

วันนี้จะไม่ใช่วันสุดท้ายของเรา พ้นจากวันนี้ไปแล้วก็อาจเป็นชาติหน้าเลย หามีพรุ่งนี้ไม่

น้อมนำคำสอนพระไพศาล วิสาโล






#คนผู้มีบุญน้อย_หาเท่าไรมันก็ไมได้ตามประสงค์อย่างนี้แหละ

ได้ก็ได้แต่ของไม่ดีไม่งามไม่น่าชอบใจ นั่นคนบุญน้อย คนบุญมากหาอะไรก็มักจะได้ตามประสงค์ตามความชอบใจ ดังนั้นมนุษย์เราจึงมีความเหลื่อมล้ำต่ำสูงกว่ากัน ก็ด้วยอำนาจแห่งการกระทำนี้เองตั้งแต่ชาติหนหลังนู่น ต่างทำความดีมาไม่เท่ากัน บางคนก็ทำมาก บางคนก็ทำน้อย บางคนก็ทำพิเศษก็มี

อย่างให้ทานอย่างนี้ให้พิเศษ อย่าง “พระเวสสันดร” ให้ลูกเป็นทาน ให้เมียเป็นทาน ซึ่งคนธรรมดาสามัญเขาไม่ได้ให้ทานกัน นอกจากเกลียดชังกันแล้วก็ไล่หนีออกไปจากบ้านเท่านั้นแหละ ถ้ายังรักกันอยู่นี่จะไม่ยอมให้ทานเด็ดขาด คนธรรมดาสามัญ แต่ผู้ที่ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าแล้วไม่ได้ให้ทานลูกกับเมียนี่อันเป็นชาติสุดท้ายนี้แล้วจะไม่ได้ตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณเลย อันนี้เป็นกฎธรรมดาของพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย จึงได้ให้ลูกเป็นทาน ให้เมียเป็นทาน ให้ช้างพระที่นั่ง ให้ม้าพระที่นั่ง ให้รถพระที่นั่งเป็นทาน ของ ๕ อย่างนี้น่ะเป็นของที่หาค่าไม่ได้เลย ซึ่งพระโพธิสัตว์ทั้งหลายย่อมมี ตอนวาระสุดท้ายนี้ที่บารมีจะเต็ม ทุกพระองค์ก็ต้องได้ให้ของรักของชอบใจห้าอย่างนี้เป็นทานไป พระบารมีธรรมก็จึงค่อยเต็มบริบูรณ์

ท่านกล่าวไว้แผ่นดินไหวถึงเก้าครั้งนู่น เพราะว่าบุญบารมีของพระโพธิสัตว์เจ้ามันเต็มแล้ว มันแสดงออกแล้วว่าต่อนี้ไปพระองค์จะทำโลกคือหมู่มนุษย์นี่ให้สะเทือนสะท้านหวั่นไหวด้วยธัมมจักกัปปวัตนสูตร ตลอดถึงเทวดา อินทร์ พรหม ก็ซ้องสาธุการ อันนี้ความเป็นผู้มีบุญมากนะ ท่านผู้มีบุญมากแล้วถึงไม่ได้ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าก็ตามท่านก็อิ่มท่านก็เบื่อในสมบัติพัสถาน หรือถ้าพูดรวมๆล่ะก็คือ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส อันที่โลกสมมติว่าสวยๆงามๆน่ารักน่าใคร่อะไรต่างๆ หมู่นี้ท่านผู้มีบุญมากนะท่านอิ่มแล้ว ท่านได้สัมผัสกับมันมานานแล้ว เมื่อท่านมีบุญมากแล้วท่านมองเห็นว่า ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่เป็นของไม่เที่ยงแท้แน่นอนทั้งนั้นเลย มีความเกิดขึ้นแล้วก็แปรปรวนในท่ามกลาง ก็แตกดับในที่สุด ก็มีเท่านี้ขึ้นชื่อว่าวัตถุต่างๆในโลกอันนี้น่ะ

โอวาทธรรม
#หลวงปู่เหรียญ_วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

#ที่มา : ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ “เมื่อไม่รู้มันก็พาเราหลง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron