วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 06:50  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 114 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2012, 11:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ไปเรียนเสียให้ถูกต้องแล้วมาพูดเตอะโฮเอ้ย เห็นแล้วบอกตรงๆอนาถใจนะ :b12:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2012, 11:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


govit2552 เขียน:
คำถามท่านโฮฮับ
อ้างคำพูด:
แล้วรู้มั้ยว่าทำไมต้องแยก มโนวิญญาณออกต่างหากจาก ปัญจวิญญาณ


ตอบ รู้ครับ เพื่อให้อธิบาย เรื่อง วิถีจิต และ ภวังคจิต ให้ง่ายขึ้น

มันไม่ใช่หรอกครับ มันน่าจะเป็นว่า ปัญจวิญญาณเป็นได้แค่วิญญาณขันธ์ครับ
แต่มโนวิญญาณ นั้นเป็นในส่วนของวิญญาณขันธ์และไม่ได้เป็นวิญญาณขันธ์
นั้นก็คือ สังขารขันธ์ครับ

ไม่เชื่อลองไล่หาเหตุปัจจัยของกระบวนการขันธ์ห้าดูซิครับ
ทำโดยการใช้ปัญจวิญญาณตัวใดตัวหนึ่งเป็นเหตุนำ จนเกิดสังขารขันธ์
ไอ้ตัวสังขารขันธ์นั้น จะเป็นเหตุสืบเนื่องให้เกิดวิญญาณขันธ์ตัวใหม่เรียกว่า..
มโนวิญญาณครับ :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2012, 13:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เอาเรื่องศีล ๕ เรือ่งทอดกฐิน ทอดผ้าป่าเป็นต้นสะก่อน เอาให้ชัด แล้วค่อยไปคุยเรื่องจิตหรือวิญญาณเป็นต้น :b12:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ส.ค. 2012, 09:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 09:07
โพสต์: 761

แนวปฏิบัติ: อานาปาฯ
งานอดิเรก: ศึกษาพุทธธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: ปลีกวิเวก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณท่านโฮฮับและท่านเอกอนอีกครั้ง สำหรับคำแนะนำ

...ไม่ว่าจะเป็นผู้รู้..หรือสิ่งที่ถูกรู้ก็ย่อมต้องปรวนแปรและเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุปัจจัย
ตกอยู่ภายใต้กฏไตรลักษณ์เช่นกัน...

.....................................................
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุสเส
ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้คู่ความดี คือผู้ที่ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
วรรคทอง วรรคธรรม โดยท่าน ว.วชิรเมธี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ส.ค. 2012, 22:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


มันจะจริงอย่างที่คุณปลีกวิเวกว่า...ผู้รู้..ยังแปรปรวน....ก็เฉพาะแต่ผู้รู้ยังมีอวิชชา....

คือ...อวิชชา...มันยังมีโอกาส....สูญไปได้....เมื่อมีเหตุมีปัจจัย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ส.ค. 2012, 09:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8580


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
มันจะจริงอย่างที่คุณปลีกวิเวกว่า...ผู้รู้..ยังแปรปรวน....ก็เฉพาะแต่ผู้รู้ยังมีอวิชชา....

คือ...อวิชชา...มันยังมีโอกาส....สูญไปได้....เมื่อมีเหตุมีปัจจัย


...ไม่ว่าจะเป็นผู้รู้..หรือสิ่งที่ถูกรู้ก็ย่อมต้องปรวนแปรและเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุปัจจัย
ตกอยู่ภายใต้กฏไตรลักษณ์เช่นกัน...

คุณปลีกวิเวก ท่านหมายความว่าอย่างนี้ครับ
ผู้รู้หมายถึง จิต
ผู้ถูกรู้หมายถึง อารมณ์
ทั้งสองอยู่ใต้กฏไตรลักษณ์ที่ต้องแปรปรวนตามเหตุปัจจัย

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ส.ค. 2012, 09:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ตอนรู้แจ้งในอริยะสัจ...กับ...ตอนไม่รู้แจ้ง...นี้...ผู้รู้มีคุณสมบัติเหมือนกันหมดเลย..มั้ย?


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ส.ค. 2012, 12:34 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ตอนรู้แจ้งในอริยะสัจ...กับ...ตอนไม่รู้แจ้ง...นี้...ผู้รู้มีคุณสมบัติเหมือนกันหมดเลย..มั้ย?


ผมว่านะ คงไม่ต่างอะไรกับสอนลิง
ปรับVolume มรรค ค่อย เพิ่มขึ้น Volume สมุทัย ค่อยๆลดลง Volume ทุกข์ ก็ค่อยๆลดลงตาม Volume นิโรธ ก็ค่อยชัดขึ้น เอง


พอได้มั้ยครับ

:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ส.ค. 2012, 14:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8580


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ตอนรู้แจ้งในอริยะสัจ...กับ...ตอนไม่รู้แจ้ง...นี้...ผู้รู้มีคุณสมบัติเหมือนกันหมดเลย..มั้ย?

ตอนรู้แจ้งในอริยะสัจจ์ ๔ ตอนไม่รู้แจ้ง นี้

ผู้รู้แจ้งอริยะสัจจ์คือพระอรหันต์ กับ ไม่รู้แจ้งได้แก่พระอริยะเบื้องต่ำ ๓

รู้แต่ยังไม่ชัดแจ้ง จึงต่างกัน

ตอนรู้แจ้งในอริยะสัจจ์ ๔ คือ

ต้องรู้ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เป็นกิจในอริยสัจ

และกิจที่ควรทำในอริยสัจ ๔

๑. ทุกขอริยสัจ จัดเป็นปริญญาตัพพกิจ กิจที่ควรกำหนดรู้

๒. สมุทัยอริยสัจ จัดเป็นปหาตัพพกิจ กิจที่ควรประหาณ

๓. นิโรธอริยสัจ จัดเป็นสัจฉิกาตัพพกิจ กิจที่ควรทำให้แจ้ง

๔. มรรคอริยสัจ จัดเป็นภาเวตัพพกิจ กิจที่ควรเจริญ

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 114 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 4, 5, 6, 7, 8

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron