วันเวลาปัจจุบัน 22 มิ.ย. 2025, 03:30  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 911 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11 ... 61  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ก.ค. 2015, 14:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


rolleyes
:b16: :b16: :b16:
...ถ้าบิกทู่สับสนในการศึกษาพระธรรมปนระหว่าความเป็นจริงที่เข้าถึงแล้วกับรู้แค่ความจำ...หุหุ...
:b32: :b32: :b32:
...ก็ลองพิจารณาสิทำไมรายการบ้านธ้มมะก็ยังเอาสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์มาแสดงล่ะ...
:b11: :b11: :b11:
https://www.youtube.com/watch?v=CWh40gyGk-w
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ก.ค. 2015, 15:05 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
rolleyes
:b16: :b16: :b16:
...ถ้าบิกทู่สับสนในการศึกษาพระธรรมปนระหว่าความเป็นจริงที่เข้าถึงแล้วกับรู้แค่ความจำ...หุหุ...
:b32: :b32: :b32:
...ก็ลองพิจารณาสิทำไมรายการบ้านธ้มมะก็ยังเอาสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์มาแสดงล่ะ...
:b11: :b11: :b11:
https://www.youtube.com/watch?v=CWh40gyGk-w
onion onion onion
ผมไม่สงสัยอะไรแล้วทั้งนั้นในเรื่องคำสอนจะถูกจะผิดเพราะคนสอนก็สอนได้ตามความเข้าใจของตนเอง ที่จริงท่านเองก็ไม่ต้องยกสาวกรูปใดคนใดมาเลย เพราะท่านเองก็ไม่รู้เลยว่าท่านใดเป็นอริยะบ้างนอกจากคิดเอาเอง ธรรมะบรรยายตามหนังสือใครก็พอทำความเจ้าใจได้ หรือใครจะกล่าวอย่างไรก็ทำได้แม้แต่ผมเองจะกล่าวอย่างไรก็ทำได้. เรื่องการปฎิบัติของผมการเข้าถึงของผมก็คือสูญญตา ไม่มีการมาการไปติตรึกนึกคิดใดๆ จะตรงตามที่มีตำราว่าไว้เท่านั้น. ส่วนท่านใดจะถึงไหนไม่รู้. แต่ถ้ายังมีการมาการไปพิจารณาแล้วย่อมไม่ใช่นิพพาน เพราะนิพพานบรรยายได้ในรูปฎิเสธเท่านั้น
เพราะอะไรบนโลกมี. ในนิพพานย่อมไม่มี

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ก.ค. 2015, 15:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
rolleyes
:b16: :b16: :b16:
...ถ้าบิกทู่สับสนในการศึกษาพระธรรมปนระหว่าความเป็นจริงที่เข้าถึงแล้วกับรู้แค่ความจำ...หุหุ...
:b32: :b32: :b32:
...ก็ลองพิจารณาสิทำไมรายการบ้านธ้มมะก็ยังเอาสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์มาแสดงล่ะ...
:b11: :b11: :b11:
https://www.youtube.com/watch?v=CWh40gyGk-w
onion onion onion
ผมไม่สงสัยอะไรแล้วทั้งนั้นในเรื่องคำสอนจะถูกจะผิดเพราะคนสอนก็สอนได้ตามความเข้าใจของตนเอง ที่จริงท่านเองก็ไม่ต้องยกสาวกรูปใดคนใดมาเลย เพราะท่านเองก็ไม่รู้เลยว่าท่านใดเป็นอริยะบ้างนอกจากคิดเอาเอง ธรรมะบรรยายตามหนังสือใครก็พอทำความเจ้าใจได้ หรือใครจะกล่าวอย่างไรก็ทำได้แม้แต่ผมเองจะกล่าวอย่างไรก็ทำได้. เรื่องการปฎิบัติของผมการเข้าถึงของผมก็คือสูญญตา ไม่มีการมาการไปติตรึกนึกคิดใดๆ จะตรงตามที่มีตำราว่าไว้เท่านั้น. ส่วนท่านใดจะถึงไหนไม่รู้. แต่ถ้ายังมีการมาการไปพิจารณาแล้วย่อมไม่ใช่นิพพาน เพราะนิพพานบรรยายได้ในรูปฎิเสธเท่านั้น
เพราะอะไรบนโลกมี. ในนิพพานย่อมไม่มี

:b12:
...ตัวบิ๊ทู่สนทนาธรรม...เขียนอะไรก็วกวนแล้วขัดแข้งขัดขาตัวเองไปมาเอง...
:b23:
...แล้วที่หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโณท่านถึงอรหัตตผลท่านเทศนาธรรมว่า นิพพานว่างไปหมด...
...นิพพานัง ปรมัง สุขัง นิพานัง ปรมัง สูญญัง...ท่านรู้ความจริงแล้ว แต่พูดแบบในตำราเปี๊ยบเลยค่ะ...
...ไม่เพี้ยนไปจากคำพระพุทธเจ้าเลยน๊า ถ้าแปลตามตำรา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง นิพพานไม่สูญ...
...ท่านบิกทู่ลืมอะไรไปไหม...สูญญตาใช้กับอะไรเหรอ...สภาพธัมมะที่เป็นสูญญตาใช้กับใครคะ...
:b8:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ก.ค. 2015, 16:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
rolleyes
:b16: :b16: :b16:
...ถ้าบิกทู่สับสนในการศึกษาพระธรรมปนระหว่าความเป็นจริงที่เข้าถึงแล้วกับรู้แค่ความจำ...หุหุ...
:b32: :b32: :b32:
...ก็ลองพิจารณาสิทำไมรายการบ้านธ้มมะก็ยังเอาสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์มาแสดงล่ะ...
:b11: :b11: :b11:
https://www.youtube.com/watch?v=CWh40gyGk-w
onion onion onion
ผมไม่สงสัยอะไรแล้วทั้งนั้นในเรื่องคำสอนจะถูกจะผิดเพราะคนสอนก็สอนได้ตามความเข้าใจของตนเอง ที่จริงท่านเองก็ไม่ต้องยกสาวกรูปใดคนใดมาเลย เพราะท่านเองก็ไม่รู้เลยว่าท่านใดเป็นอริยะบ้างนอกจากคิดเอาเอง ธรรมะบรรยายตามหนังสือใครก็พอทำความเจ้าใจได้ หรือใครจะกล่าวอย่างไรก็ทำได้แม้แต่ผมเองจะกล่าวอย่างไรก็ทำได้. เรื่องการปฎิบัติของผมการเข้าถึงของผมก็คือสูญญตา ไม่มีการมาการไปติตรึกนึกคิดใดๆ จะตรงตามที่มีตำราว่าไว้เท่านั้น. ส่วนท่านใดจะถึงไหนไม่รู้. แต่ถ้ายังมีการมาการไปพิจารณาแล้วย่อมไม่ใช่นิพพาน เพราะนิพพานบรรยายได้ในรูปฎิเสธเท่านั้น
เพราะอะไรบนโลกมี. ในนิพพานย่อมไม่มี

:b12:
...ตัวบิ๊ทู่สนทนาธรรม...เขียนอะไรก็วกวนแล้วขัดแข้งขัดขาตัวเองไปมาเอง...
:b23:
...แล้วที่หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโณท่านถึงอรหัตตผลท่านเทศนาธรรมว่า นิพพานว่างไปหมด...
...นิพพานัง ปรมัง สุขัง นิพานัง ปรมัง สูญญัง...ท่านรู้ความจริงแล้ว แต่พูดแบบในตำราเปี๊ยบเลยค่ะ...
...ไม่เพี้ยนไปจากคำพระพุทธเจ้าเลยน๊า ถ้าแปลตามตำรา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง นิพพานไม่สูญ...
...ท่านบิกทู่ลืมอะไรไปไหม...สูญญตาใช้กับอะไรเหรอ...สภาพธัมมะที่เป็นสูญญตาใช้กับใครคะ.บ..
:b8:
:b4: :b4:
ผมถามหลายครั้งแล้วรู้ได้อย่างไรว่าท่านใดถึงความเป็นอรหันต์ หรือคุณแค่คิดเอง ถ้าผมบอกว่านิพพานปรมังสุขขัง นิพพานปรมังสูญญังผมก็เป็นอรหันต์ได้ซิ มีแต่พระตถาคตและผู้เสมอท่านเท่านั้น. คุณโรสรินรู้ได้อย่างไรว่าหลวงตาถึงความเป็นอรหันต์. พระศาสดากล่าวว่าเรื่องราวทั้งหมดของท่านว่าด้วยเฉพาะสูญญตา ผู้ที่จะสัมผัสนี้ได้อย่างน้อยก็โสดาบันถึงจะเข้าใจได้ตรงถูก.

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ก.ค. 2015, 17:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


wink
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
rolleyes
:b16: :b16: :b16:
...ถ้าบิกทู่สับสนในการศึกษาพระธรรมปนระหว่าความเป็นจริงที่เข้าถึงแล้วกับรู้แค่ความจำ...หุหุ...
:b32: :b32: :b32:
...ก็ลองพิจารณาสิทำไมรายการบ้านธ้มมะก็ยังเอาสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์มาแสดงล่ะ...
:b11: :b11: :b11:
https://www.youtube.com/watch?v=CWh40gyGk-w
onion onion onion
ผมไม่สงสัยอะไรแล้วทั้งนั้นในเรื่องคำสอนจะถูกจะผิดเพราะคนสอนก็สอนได้ตามความเข้าใจของตนเอง ที่จริงท่านเองก็ไม่ต้องยกสาวกรูปใดคนใดมาเลย เพราะท่านเองก็ไม่รู้เลยว่าท่านใดเป็นอริยะบ้างนอกจากคิดเอาเอง ธรรมะบรรยายตามหนังสือใครก็พอทำความเจ้าใจได้ หรือใครจะกล่าวอย่างไรก็ทำได้แม้แต่ผมเองจะกล่าวอย่างไรก็ทำได้. เรื่องการปฎิบัติของผมการเข้าถึงของผมก็คือสูญญตา ไม่มีการมาการไปติตรึกนึกคิดใดๆ จะตรงตามที่มีตำราว่าไว้เท่านั้น. ส่วนท่านใดจะถึงไหนไม่รู้. แต่ถ้ายังมีการมาการไปพิจารณาแล้วย่อมไม่ใช่นิพพาน เพราะนิพพานบรรยายได้ในรูปฎิเสธเท่านั้น
เพราะอะไรบนโลกมี. ในนิพพานย่อมไม่มี

:b12:
...ตัวบิ๊ทู่สนทนาธรรม...เขียนอะไรก็วกวนแล้วขัดแข้งขัดขาตัวเองไปมาเอง...
:b23:
...แล้วที่หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโณท่านถึงอรหัตตผลท่านเทศนาธรรมว่า นิพพานว่างไปหมด...
...นิพพานัง ปรมัง สุขัง นิพานัง ปรมัง สูญญัง...ท่านรู้ความจริงแล้ว แต่พูดแบบในตำราเปี๊ยบเลยค่ะ...
...ไม่เพี้ยนไปจากคำพระพุทธเจ้าเลยน๊า ถ้าแปลตามตำรา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง นิพพานไม่สูญ...
...ท่านบิกทู่ลืมอะไรไปไหม...สูญญตาใช้กับอะไรเหรอ...สภาพธัมมะที่เป็นสูญญตาใช้กับใครคะ.บ..
:b8:
:b4: :b4:
ผมถามหลายครั้งแล้วรู้ได้อย่างไรว่าท่านใดถึงความเป็นอรหันต์ หรือคุณแค่คิดเอง ถ้าผมบอกว่านิพพานปรมังสุขขัง นิพพานปรมังสูญญังผมก็เป็นอรหันต์ได้ซิ มีแต่พระตถาคตและผู้เสมอท่านเท่านั้น. คุณโรสรินรู้ได้อย่างไรว่าหลวงตาถึงความเป็นอรหันต์. พระศาสดากล่าวว่าเรื่องราวทั้งหมดของท่านว่าด้วยเฉพาะสูญญตา ผู้ที่จะสัมผัสนี้ได้อย่างน้อยก็โสดาบันถึงจะเข้าใจได้ตรงถูก.

:b12:
...เอ้าก็ต้องเป็นพระอรหันต์สิคะบอก...หลวงตามหาบัวท่านว่าเราก็อะ-ระ-หัน...
...แล้วท่านก็พูดไปทำไปแบบว่า หันซ้าย หันขวา ก็ได้ยินกะหู เห็นกะ2ตาตัวเองไง...
:b32:
ท่านกบก็โพสต์ไว้ที่นี่นะ
viewtopic.php?f=1&t=50550&start=15
กบนอกกะลา เขียน:
https://th-th.facebook.com/notes/196418457049887/

พุทธดำรัส

“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ย่อมพยากรณ์อรหัตตผลว่า ข้าพเจ้ารู้ชัดว่าชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้สำเร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธออย่าพึ่งยินดี อย่าพึ่งคัดค้าน คำกล่าวของภิกษุรูปนั้น พึงถามปัญหาเธอว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุ โวหารอันพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ตรัสไว้ชอบนี้มี 4 ประการ คือคำกล่าวว่าเห็นอารมณ์ที่ตนเห็นแล้ว ได้ยินในอารมณ์ที่ตนฟังแล้ว ทราบในอารมณ์ที่ตนทราบแล้ว รู้ชัดในอารมณ์ที่ตนรู้ชัดแล้ว ก็จิตของท่านผู้มีอายุ ผู้รู้อยู่เห็นอยู่อย่างไรเล่า จึงหลุดพ้นจากอาสวะ ไม่ยึดมั่นในโวหาร 4 นี้

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้สิ้นอาสวะแล้ว พ้นวิเศษแล้วเพราะรู้ชอบตอบถูก จึงนับว่ามีธรรมอันสมควร จะพยากรณ์ได้ดังนี้ว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุ ข้าพเจ้าไม่ยินดี ไม่ยินร้าย อันกิเลศไม่อาศัย ไม่พัวพัน พ้นวิเศษแล้ว พรากได้แล้วในธรรมที่ข้าพเจ้าได้เห็น มีใจอันกระทำให้ปราศจากเขตแดนได้แล้วอยู่ พรากได้แล้วในธรรมที่ข้าพเจ้าได้ยิน พรากได้แล้วในธรรมที่ข้าพเจ้าได้ทราบ พรากได้แล้วในธรรมที่ข้าพเจ้ารู้ชัด จิตของข้าพเจ้าผู้รู้อยู่ เห็นอยู่อย่างนี้แล จึงได้หลุดพ้นจากอาสวะ ไม่ยึดมั่นในโวหาร 4 นี้

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คำกล่าวของภิกษุรูปนั้น พวกเธอควรชื่นชม อนุโมทนาสาธุ”

.................

หลวงตามหาบัว ท่านตอบว่า

ธรรมแท้ต้องตรงไปตรงมา เหมือนเรามีเงินอยู่ 2 บาท ถ้าเราบอกว่ามี 1 บาท นั่นก็เป็นคำโกหก ถ้าเราบอกว่ามี 3 บาท นั่นก็เป็นคำโกหก ถ้าเราบอกว่ามี 2 บาท นั้นก็เป็นคำจริง “รู้” ต้องบอกว่า “รู้” “เห็น” ต้องบอกว่า “เห็น”

ความจริงเอามาพูดจะเป็นการอวดที่ตรงไหน

พระพุทธเจ้าเอาความจริงมาพูดอวดที่ตรงไหน

พระสาวกอรหันต์เอาความจริงมาพูด อวดที่ตรงไหน ผิดที่ตรงไหน

จิตของเรานี้ครอบโลกธาตุ อย่าเอาฝ่ามือมากั้น ไม่งั้นขาดสะบั้นไปหมดนะ

พระพุทธเจ้าตรัสรู้วันเพ็ญเดือนหกไม่บอกใครจะรู้

ย่นลงมาพระอานนท์ตรัสรู้ธรรมในอิริยาบถ 4 หลังพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ท่านไม่บอกใครจะรู้ นั่นท่านอวดไหม

พูดให้สัตว์โลกมีแก่จิตแก่ใจในการประพฤติปฏิบัติต่างหาก การประกาศศาสนธรรมขั้นสุดยอดเหล่านี้เป็นการอวดอุตตริมนุสธรรม แล้วจะเอาอะไรไปประกาศ

...กล้า...เราก็ไม่เคยมี

...กลัว...เราก้ไม่เคยมี

กับสามแดนโลกธาตุนี้ เราเรียกว่า “ถังขยะ”

คุณธรรมความดีอะไรต่างๆ ก็เหมือนกัน ถ้าพูดตามความเป็นจริงและมีอยู่จริง ปราชญ์มีพระพุทธเจ้าเป็นต้น ท่านไม่ตำหนิ มีแต่ท่านจะอนุโมทนา ของที่มีอยู่จริง พูดพองามท่านไม่เรียกว่าอวด


ถ้าอวดอุตริก็คืออวดในสิ่งที่ไม่มีในตน

อ้างอิง : พระมหาธรนาถ อัคคธีโร, “หนังสือหลวงตามหาบัว มหัสจรรย์มหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่.” – กรุงเทพฯ : ศิลป์สยามบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์, 2546. 156 หน้า

...........

รูปภาพ

.................
:b8: :b8: :b8:


คิดเองได้ที่ไหนล่ะ...ถ้าท่านไม่พูดบอกออกมา...ไม่บอกบิกทู่รู้ไหมล่ะ
ใครๆเขาก็บอกกันต่อๆทั้งนั้นแหละ บอกแล้วยังคิดไม่เชื่อตาตัวเองที่อ่านอีกเหรอ
แม้พระพุทธเจ้าก็ทรงแสดงว่า ตถาคตเป็นแต่เพียงผู้บอก
:b32: :b32:
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ก.ค. 2015, 18:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
wink
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
rolleyes
:b16: :b16: :b16:
...ถ้าบิกทู่สับสนในการศึกษาพระธรรมปนระหว่าความเป็นจริงที่เข้าถึงแล้วกับรู้แค่ความจำ...หุหุ...
:b32: :b32: :b32:
...ก็ลองพิจารณาสิทำไมรายการบ้านธ้มมะก็ยังเอาสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์มาแสดงล่ะ...
:b11: :b11: :b11:
https://www.youtube.com/watch?v=CWh40gyGk-w
onion onion onion
ผมไม่สงสัยอะไรแล้วทั้งนั้นในเรื่องคำสอนจะถูกจะผิดเพราะคนสอนก็สอนได้ตามความเข้าใจของตนเอง ที่จริงท่านเองก็ไม่ต้องยกสาวกรูปใดคนใดมาเลย เพราะท่านเองก็ไม่รู้เลยว่าท่านใดเป็นอริยะบ้างนอกจากคิดเอาเอง ธรรมะบรรยายตามหนังสือใครก็พอทำความเจ้าใจได้ หรือใครจะกล่าวอย่างไรก็ทำได้แม้แต่ผมเองจะกล่าวอย่างไรก็ทำได้. เรื่องการปฎิบัติของผมการเข้าถึงของผมก็คือสูญญตา ไม่มีการมาการไปติตรึกนึกคิดใดๆ จะตรงตามที่มีตำราว่าไว้เท่านั้น. ส่วนท่านใดจะถึงไหนไม่รู้. แต่ถ้ายังมีการมาการไปพิจารณาแล้วย่อมไม่ใช่นิพพาน เพราะนิพพานบรรยายได้ในรูปฎิเสธเท่านั้น
เพราะอะไรบนโลกมี. ในนิพพานย่อมไม่มี

:b12:
...ตัวบิ๊ทู่สนทนาธรรม...เขียนอะไรก็วกวนแล้วขัดแข้งขัดขาตัวเองไปมาเอง...
:b23:
...แล้วที่หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโณท่านถึงอรหัตตผลท่านเทศนาธรรมว่า นิพพานว่างไปหมด...
...นิพพานัง ปรมัง สุขัง นิพานัง ปรมัง สูญญัง...ท่านรู้ความจริงแล้ว แต่พูดแบบในตำราเปี๊ยบเลยค่ะ...
...ไม่เพี้ยนไปจากคำพระพุทธเจ้าเลยน๊า ถ้าแปลตามตำรา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง นิพพานไม่สูญ...
...ท่านบิกทู่ลืมอะไรไปไหม...สูญญตาใช้กับอะไรเหรอ...สภาพธัมมะที่เป็นสูญญตาใช้กับใครคะ.บ..
:b8:
:b4: :b4:
ผมถามหลายครั้งแล้วรู้ได้อย่างไรว่าท่านใดถึงความเป็นอรหันต์ หรือคุณแค่คิดเอง ถ้าผมบอกว่านิพพานปรมังสุขขัง นิพพานปรมังสูญญังผมก็เป็นอรหันต์ได้ซิ มีแต่พระตถาคตและผู้เสมอท่านเท่านั้น. คุณโรสรินรู้ได้อย่างไรว่าหลวงตาถึงความเป็นอรหันต์. พระศาสดากล่าวว่าเรื่องราวทั้งหมดของท่านว่าด้วยเฉพาะสูญญตา ผู้ที่จะสัมผัสนี้ได้อย่างน้อยก็โสดาบันถึงจะเข้าใจได้ตรงถูก.

:b12:
...เอ้าก็ต้องเป็นพระอรหันต์สิคะบอก...หลวงตามหาบัวท่านว่าเราก็อะ-ระ-หัน...
...แล้วท่านก็พูดไปทำไปแบบว่า หันซ้าย หันขวา ก็ได้ยินกะหู เห็นกะ2ตาตัวเองไง...
:b32:
ท่านกบก็โพสต์ไว้ที่นี่นะ
viewtopic.php?f=1&t=50550&start=15
กบนอกกะลา เขียน:
https://th-th.facebook.com/notes/196418457049887/

พุทธดำรัส

“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ย่อมพยากรณ์อรหัตตผลว่า ข้าพเจ้ารู้ชัดว่าชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้สำเร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธออย่าพึ่งยินดี อย่าพึ่งคัดค้าน คำกล่าวของภิกษุรูปนั้น พึงถามปัญหาเธอว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุ โวหารอันพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ตรัสไว้ชอบนี้มี 4 ประการ คือคำกล่าวว่าเห็นอารมณ์ที่ตนเห็นแล้ว ได้ยินในอารมณ์ที่ตนฟังแล้ว ทราบในอารมณ์ที่ตนทราบแล้ว รู้ชัดในอารมณ์ที่ตนรู้ชัดแล้ว ก็จิตของท่านผู้มีอายุ ผู้รู้อยู่เห็นอยู่อย่างไรเล่า จึงหลุดพ้นจากอาสวะ ไม่ยึดมั่นในโวหาร 4 นี้

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้สิ้นอาสวะแล้ว พ้นวิเศษแล้วเพราะรู้ชอบตอบถูก จึงนับว่ามีธรรมอันสมควร จะพยากรณ์ได้ดังนี้ว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุ ข้าพเจ้าไม่ยินดี ไม่ยินร้าย อันกิเลศไม่อาศัย ไม่พัวพัน พ้นวิเศษแล้ว พรากได้แล้วในธรรมที่ข้าพเจ้าได้เห็น มีใจอันกระทำให้ปราศจากเขตแดนได้แล้วอยู่ พรากได้แล้วในธรรมที่ข้าพเจ้าได้ยิน พรากได้แล้วในธรรมที่ข้าพเจ้าได้ทราบ พรากได้แล้วในธรรมที่ข้าพเจ้ารู้ชัด จิตของข้าพเจ้าผู้รู้อยู่ เห็นอยู่อย่างนี้แล จึงได้หลุดพ้นจากอาสวะ ไม่ยึดมั่นในโวหาร 4 นี้

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คำกล่าวของภิกษุรูปนั้น พวกเธอควรชื่นชม อนุโมทนาสาธุ”

.................

หลวงตามหาบัว ท่านตอบว่า

ธรรมแท้ต้องตรงไปตรงมา เหมือนเรามีเงินอยู่ 2 บาท ถ้าเราบอกว่ามี 1 บาท นั่นก็เป็นคำโกหก ถ้าเราบอกว่ามี 3 บาท นั่นก็เป็นคำโกหก ถ้าเราบอกว่ามี 2 บาท นั้นก็เป็นคำจริง “รู้” ต้องบอกว่า “รู้” “เห็น” ต้องบอกว่า “เห็น”

ความจริงเอามาพูดจะเป็นการอวดที่ตรงไหน

พระพุทธเจ้าเอาความจริงมาพูดอวดที่ตรงไหน

พระสาวกอรหันต์เอาความจริงมาพูด อวดที่ตรงไหน ผิดที่ตรงไหน

จิตของเรานี้ครอบโลกธาตุ อย่าเอาฝ่ามือมากั้น ไม่งั้นขาดสะบั้นไปหมดนะ

พระพุทธเจ้าตรัสรู้วันเพ็ญเดือนหกไม่บอกใครจะรู้

ย่นลงมาพระอานนท์ตรัสรู้ธรรมในอิริยาบถ 4 หลังพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ท่านไม่บอกใครจะรู้ นั่นท่านอวดไหม

พูดให้สัตว์โลกมีแก่จิตแก่ใจในการประพฤติปฏิบัติต่างหาก การประกาศศาสนธรรมขั้นสุดยอดเหล่านี้เป็นการอวดอุตตริมนุสธรรม แล้วจะเอาอะไรไปประกาศ

...กล้า...เราก็ไม่เคยมี

...กลัว...เราก้ไม่เคยมี

กับสามแดนโลกธาตุนี้ เราเรียกว่า “ถังขยะ”

คุณธรรมความดีอะไรต่างๆ ก็เหมือนกัน ถ้าพูดตามความเป็นจริงและมีอยู่จริง ปราชญ์มีพระพุทธเจ้าเป็นต้น ท่านไม่ตำหนิ มีแต่ท่านจะอนุโมทนา ของที่มีอยู่จริง พูดพองามท่านไม่เรียกว่าอวด


ถ้าอวดอุตริก็คืออวดในสิ่งที่ไม่มีในตน

อ้างอิง : พระมหาธรนาถ อัคคธีโร, “หนังสือหลวงตามหาบัว มหัสจรรย์มหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่.” – กรุงเทพฯ : ศิลป์สยามบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์, 2546. 156 หน้า

...........

รูปภาพ

.................
:b8: :b8: :b8:


คิดเองได้ที่ไหนล่ะ...ถ้าท่านไม่พูดบอกออกมา...ไม่บอกบิกทู่รู้ไหมล่ะ
ใครๆเขาก็บอกกันต่อๆทั้งนั้นแหละ บอกแล้วยังคิดไม่เชื่อตาตัวเองที่อ่านอีกเหรอ
แม้พระพุทธเจ้าก็ทรงแสดงว่า ตถาคตเป็นแต่เพียงผู้บอก
:b32: :b32:
:b8:
หุหุ พอเข้าใจตรรกท่านแล้วล่ะ

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ส.ค. 2015, 20:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


smiley
อนุโมทนากับคุณRossarin & Bigto ที่ช่วยกันขยายธรรมนำคำสอนหลวงตามหาบัวมาอภิปรายกัน
tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2015, 08:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
smiley
อนุโมทนากับคุณRossarin & Bigto ที่ช่วยกันขยายธรรมนำคำสอนหลวงตามหาบัวมาอภิปรายกัน
tongue

ต้องขออกตัวท่านอโศกก่อนนะครับ ผมไม่ได้นำคำสอนของหลวงตามาอภิปรายนะครับ ผมกล่าวถึงเรื่องราวของการพิจารณาเหตุปัจจัยที่สมเหตุสมผลต่อบุคคลที่ตรงธรรม ไม่ฉะนั้นแลัวทิฎฐิจะโอนเอียงอย่างไม่ตรงความจริง ทำให้การเขัาถึงอริยสัจก็เป็นได้ยาก เพราะเป็นการยึดติดตัวบุคคล

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2015, 09:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
wink
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
rolleyes
:b16: :b16: :b16:
...ถ้าบิกทู่สับสนในการศึกษาพระธรรมปนระหว่าความเป็นจริงที่เข้าถึงแล้วกับรู้แค่ความจำ...หุหุ...
:b32: :b32: :b32:
...ก็ลองพิจารณาสิทำไมรายการบ้านธ้มมะก็ยังเอาสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์มาแสดงล่ะ...
:b11: :b11: :b11:
https://www.youtube.com/watch?v=CWh40gyGk-w
onion onion onion
ผมไม่สงสัยอะไรแล้วทั้งนั้นในเรื่องคำสอนจะถูกจะผิดเพราะคนสอนก็สอนได้ตามความเข้าใจของตนเอง ที่จริงท่านเองก็ไม่ต้องยกสาวกรูปใดคนใดมาเลย เพราะท่านเองก็ไม่รู้เลยว่าท่านใดเป็นอริยะบ้างนอกจากคิดเอาเอง ธรรมะบรรยายตามหนังสือใครก็พอทำความเจ้าใจได้ หรือใครจะกล่าวอย่างไรก็ทำได้แม้แต่ผมเองจะกล่าวอย่างไรก็ทำได้. เรื่องการปฎิบัติของผมการเข้าถึงของผมก็คือสูญญตา ไม่มีการมาการไปติตรึกนึกคิดใดๆ จะตรงตามที่มีตำราว่าไว้เท่านั้น. ส่วนท่านใดจะถึงไหนไม่รู้. แต่ถ้ายังมีการมาการไปพิจารณาแล้วย่อมไม่ใช่นิพพาน เพราะนิพพานบรรยายได้ในรูปฎิเสธเท่านั้น
เพราะอะไรบนโลกมี. ในนิพพานย่อมไม่มี

:b12:
...ตัวบิ๊ทู่สนทนาธรรม...เขียนอะไรก็วกวนแล้วขัดแข้งขัดขาตัวเองไปมาเอง...
:b23:
...แล้วที่หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโณท่านถึงอรหัตตผลท่านเทศนาธรรมว่า นิพพานว่างไปหมด...
...นิพพานัง ปรมัง สุขัง นิพานัง ปรมัง สูญญัง...ท่านรู้ความจริงแล้ว แต่พูดแบบในตำราเปี๊ยบเลยค่ะ...
...ไม่เพี้ยนไปจากคำพระพุทธเจ้าเลยน๊า ถ้าแปลตามตำรา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง นิพพานไม่สูญ...
...ท่านบิกทู่ลืมอะไรไปไหม...สูญญตาใช้กับอะไรเหรอ...สภาพธัมมะที่เป็นสูญญตาใช้กับใครคะ.บ..
:b8:
:b4: :b4:
ผมถามหลายครั้งแล้วรู้ได้อย่างไรว่าท่านใดถึงความเป็นอรหันต์ หรือคุณแค่คิดเอง ถ้าผมบอกว่านิพพานปรมังสุขขัง นิพพานปรมังสูญญังผมก็เป็นอรหันต์ได้ซิ มีแต่พระตถาคตและผู้เสมอท่านเท่านั้น. คุณโรสรินรู้ได้อย่างไรว่าหลวงตาถึงความเป็นอรหันต์. พระศาสดากล่าวว่าเรื่องราวทั้งหมดของท่านว่าด้วยเฉพาะสูญญตา ผู้ที่จะสัมผัสนี้ได้อย่างน้อยก็โสดาบันถึงจะเข้าใจได้ตรงถูก.

:b12:
...เอ้าก็ต้องเป็นพระอรหันต์สิคะบอก...หลวงตามหาบัวท่านว่าเราก็อะ-ระ-หัน...
...แล้วท่านก็พูดไปทำไปแบบว่า หันซ้าย หันขวา ก็ได้ยินกะหู เห็นกะ2ตาตัวเองไง...
:b32:
ท่านกบก็โพสต์ไว้ที่นี่นะ
viewtopic.php?f=1&t=50550&start=15
กบนอกกะลา เขียน:
https://th-th.facebook.com/notes/196418457049887/

พุทธดำรัส

“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ย่อมพยากรณ์อรหัตตผลว่า ข้าพเจ้ารู้ชัดว่าชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้สำเร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธออย่าพึ่งยินดี อย่าพึ่งคัดค้าน คำกล่าวของภิกษุรูปนั้น พึงถามปัญหาเธอว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุ โวหารอันพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ตรัสไว้ชอบนี้มี 4 ประการ คือคำกล่าวว่าเห็นอารมณ์ที่ตนเห็นแล้ว ได้ยินในอารมณ์ที่ตนฟังแล้ว ทราบในอารมณ์ที่ตนทราบแล้ว รู้ชัดในอารมณ์ที่ตนรู้ชัดแล้ว ก็จิตของท่านผู้มีอายุ ผู้รู้อยู่เห็นอยู่อย่างไรเล่า จึงหลุดพ้นจากอาสวะ ไม่ยึดมั่นในโวหาร 4 นี้

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้สิ้นอาสวะแล้ว พ้นวิเศษแล้วเพราะรู้ชอบตอบถูก จึงนับว่ามีธรรมอันสมควร จะพยากรณ์ได้ดังนี้ว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุ ข้าพเจ้าไม่ยินดี ไม่ยินร้าย อันกิเลศไม่อาศัย ไม่พัวพัน พ้นวิเศษแล้ว พรากได้แล้วในธรรมที่ข้าพเจ้าได้เห็น มีใจอันกระทำให้ปราศจากเขตแดนได้แล้วอยู่ พรากได้แล้วในธรรมที่ข้าพเจ้าได้ยิน พรากได้แล้วในธรรมที่ข้าพเจ้าได้ทราบ พรากได้แล้วในธรรมที่ข้าพเจ้ารู้ชัด จิตของข้าพเจ้าผู้รู้อยู่ เห็นอยู่อย่างนี้แล จึงได้หลุดพ้นจากอาสวะ ไม่ยึดมั่นในโวหาร 4 นี้

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คำกล่าวของภิกษุรูปนั้น พวกเธอควรชื่นชม อนุโมทนาสาธุ”

.................

หลวงตามหาบัว ท่านตอบว่า

ธรรมแท้ต้องตรงไปตรงมา เหมือนเรามีเงินอยู่ 2 บาท ถ้าเราบอกว่ามี 1 บาท นั่นก็เป็นคำโกหก ถ้าเราบอกว่ามี 3 บาท นั่นก็เป็นคำโกหก ถ้าเราบอกว่ามี 2 บาท นั้นก็เป็นคำจริง “รู้” ต้องบอกว่า “รู้” “เห็น” ต้องบอกว่า “เห็น”

ความจริงเอามาพูดจะเป็นการอวดที่ตรงไหน

พระพุทธเจ้าเอาความจริงมาพูดอวดที่ตรงไหน

พระสาวกอรหันต์เอาความจริงมาพูด อวดที่ตรงไหน ผิดที่ตรงไหน

จิตของเรานี้ครอบโลกธาตุ อย่าเอาฝ่ามือมากั้น ไม่งั้นขาดสะบั้นไปหมดนะ

พระพุทธเจ้าตรัสรู้วันเพ็ญเดือนหกไม่บอกใครจะรู้

ย่นลงมาพระอานนท์ตรัสรู้ธรรมในอิริยาบถ 4 หลังพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ท่านไม่บอกใครจะรู้ นั่นท่านอวดไหม

พูดให้สัตว์โลกมีแก่จิตแก่ใจในการประพฤติปฏิบัติต่างหาก การประกาศศาสนธรรมขั้นสุดยอดเหล่านี้เป็นการอวดอุตตริมนุสธรรม แล้วจะเอาอะไรไปประกาศ

...กล้า...เราก็ไม่เคยมี

...กลัว...เราก้ไม่เคยมี

กับสามแดนโลกธาตุนี้ เราเรียกว่า “ถังขยะ”

คุณธรรมความดีอะไรต่างๆ ก็เหมือนกัน ถ้าพูดตามความเป็นจริงและมีอยู่จริง ปราชญ์มีพระพุทธเจ้าเป็นต้น ท่านไม่ตำหนิ มีแต่ท่านจะอนุโมทนา ของที่มีอยู่จริง พูดพองามท่านไม่เรียกว่าอวด


ถ้าอวดอุตริก็คืออวดในสิ่งที่ไม่มีในตน

อ้างอิง : พระมหาธรนาถ อัคคธีโร, “หนังสือหลวงตามหาบัว มหัสจรรย์มหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่.” – กรุงเทพฯ : ศิลป์สยามบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์, 2546. 156 หน้า

...........

รูปภาพ

.................
:b8: :b8: :b8:


คิดเองได้ที่ไหนล่ะ...ถ้าท่านไม่พูดบอกออกมา...ไม่บอกบิกทู่รู้ไหมล่ะ
ใครๆเขาก็บอกกันต่อๆทั้งนั้นแหละ บอกแล้วยังคิดไม่เชื่อตาตัวเองที่อ่านอีกเหรอ
แม้พระพุทธเจ้าก็ทรงแสดงว่า ตถาคตเป็นแต่เพียงผู้บอก
:b32: :b32:
:b8:
หุหุ พอเข้าใจตรรกท่านแล้วล่ะ

:b32:
...หุหุ...แค่นี้ก็รู้แล้วหมดภูมิเพราะไม่มีปัญญาเข้าใจสิ่งที่ข้าพเจ้าเขียน...
...สิ่งที่ข้าพเจ้าเขียนก็คือสิ่งที่ข้าพเจ้าทำเป็นปัจุบันไว้ในใจเพื่อสะสมเป็นอุปนิสัย...
...และอุปนิสัยที่ขยันคิดไตร่ตรองโดยไม่วอกแวกคือการระวังจิตที่เผลอออกไปคิดเรื่องอื่นๆอ่ะนะ :b32: ...
...อุปนิสัยหรือสันดานอันนี้ก็จะคอยกำหนดชะตาชีวิตของผู้ที่ระลึกตามได้พิจารณาเป็นปัจจุบันขณะ...
:b1:
...ตรรกของท่านคือหมดภูมิที่จะหาข้ออรรถข้อธรรมมาคิดโต้แย้งเลยตอบเลียบเคียงข้่างๆคูๆถูๆไถๆ...
...สาระอะไรในชีวิตล่ะที่เห็นว่าสำคัญที่สุดในการเกิดเป็นมนุษย์...ถ้าไม่คิดตามคำจริงของพระพุทธเจ้า...
...ก็จะจดจำคำบาลีแล้วก็ท่องคำได้ว่ามีเท่าไหร่ยังไงเยอะไปหมดตั้ง84000พระธรรมขันธ์เลือกเอาสักอันมาใช้...
...เลือกคำหรือข้าพเจ้ากำหนดแค่แสง-สี แข็ง-อ่อน เย็น-ร้อน ตึง-ไหว ซึมซาบ-เกาะกลุ่ม สุข-ทุก-เฉยรู้ได้ไม่มีตัวตนนะ...
...แต่ต้องตรงความจริงเช่นเห็นแข็งไม่ได้ ต้องกำหนดแข็งเช่นแขนวางพนักเก้าอี้ก็สมผัสแข็งรู้ได้ไม่มีแขนมีแต่แข็ง คำสั้นๆ...
...กำหนดให้ได้ทุกทางทั้ง6ทางทีละ1...ก็จะรู้ได้ว่าแต่ละคำจริงทีละ1จริงๆ กำหนดพร้อมกันมากกว่า1ทางไม่ได้ ...
:b32:
...ธัมมะทั้งหลายเป็นอนัตตา...มัวแต่เลือกคำบาลีมากำหนดอยู่นั่นแหละ...คำจริงที่สัมผัสได้เช่นมองเห็นสีหายไปแล้ว...
...ยังคิดเป็นตัวเราเห็นคน สัตว์ สิ่งของ และคนชื่อนั้น จำทุกอย่างเป็นชื่อ ตายแล้วเกิดแน่นอนรู้ได้ว่าจิตไม่สูญ...
:b13:
...ถ้าไม่เพียรพยายามกำหนดถี่ยิบในสิ่งที่กำลังมี ก็มีตัวตนไปรู้คำที่เป็นชื่อเรียกสิ่งต่างๆ จริงอะป่าวล่ะ...
...เกิดแล้วเพราะผลมันดับตั้งแต่ลืมคิดที่จะกำหนดคำจริงของสิ่งที่มีจริงๆแล้วน๊า...ที่ยังเหลือว่ามี...
...คือการจำสิ่งที่ลวงให้คิดและจดจำเรื่องคน สัตว์ สิ่งของ จากตาของเรา และเพราะคิดๆๆแล้วก็จำๆๆๆ
...เลือกเอาก็แล้วกันนะว่า...จะจำความจริงตามคำของพระพุทธเจ้า...หรือจะจำความจำที่คิดเอาเอง...
:b32: :b32: :b32:
:b44:


แก้ไขล่าสุดโดย Rosarin เมื่อ 02 ส.ค. 2015, 10:13, แก้ไขแล้ว 6 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2015, 09:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
bigtoo เขียน:
asoka เขียน:
smiley
อนุโมทนากับคุณRossarin & Bigto ที่ช่วยกันขยายธรรมนำคำสอนหลวงตามหาบัวมาอภิปรายกัน
tongue

ต้องขออกตัวท่านอโศกก่อนนะครับ ผมไม่ได้นำคำสอนของหลวงตามาอภิปรายนะครับ ผมกล่าวถึงเรื่องราวของการพิจารณาเหตุปัจจัยที่สมเหตุสมผลต่อบุคคลที่ตรงธรรม ไม่ฉะนั้นแลัวทิฎฐิจะโอนเอียงอย่างไม่ตรงความจริง ทำให้การเขัาถึงอริยสัจก็เป็นได้ยาก เพราะเป็นการยึดติดตัวบุคคล

onion onion onion
...อโศกต้องเข้าใจ...การหมิ่นประมาทในพระอริยสงฆ์ผู้สิ้นกิเลสก็เป็นมลทินทำให้ไม่สามารถบรรลุธรรมนะ...
...ข้าพเจ้าไม่ได้อภิปรายธัมมะขององค์หลวงตามหาบัวน๊า...เพราะคำที่ท่านสอนก็เป็นคำสอนของผู้สิ้นกิเลส...
...องค์ท่านเมตตาให้ข้าพเจ้านำคำที่เหมาะสมมาแสดงแก่สายตาเหล่ามนุษย์ที่เป็นเหล่าเวไนยสัตว์ตาดำๆแถวนี้...
...ที่ไม่เคยได้รู้จัก คุ้นเคย สนิทสนม ต่อการรู้จักกัลยาณมิตรที่แท้จริงในปัจจุบันยังไงล่ะ...ขอขมาหลวงตาซะ...
:b32: :b32: :b32:
:b39:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2015, 20:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
bigtoo เขียน:
asoka เขียน:
smiley
อนุโมทนากับคุณRossarin & Bigto ที่ช่วยกันขยายธรรมนำคำสอนหลวงตามหาบัวมาอภิปรายกัน
tongue

ต้องขออกตัวท่านอโศกก่อนนะครับ ผมไม่ได้นำคำสอนของหลวงตามาอภิปรายนะครับ ผมกล่าวถึงเรื่องราวของการพิจารณาเหตุปัจจัยที่สมเหตุสมผลต่อบุคคลที่ตรงธรรม ไม่ฉะนั้นแลัวทิฎฐิจะโอนเอียงอย่างไม่ตรงความจริง ทำให้การเขัาถึงอริยสัจก็เป็นได้ยาก เพราะเป็นการยึดติดตัวบุคคล

onion onion onion
...อโศกต้องเข้าใจ...การหมิ่นประมาทในพระอริยสงฆ์ผู้สิ้นกิเลสก็เป็นมลทินทำให้ไม่สามารถบรรลุธรรมนะ...
...ข้าพเจ้าไม่ได้อภิปรายธัมมะขององค์หลวงตามหาบัวน๊า...เพราะคำที่ท่านสอนก็เป็นคำสอนของผู้สิ้นกิเลส...
...องค์ท่านเมตตาให้ข้าพเจ้านำคำที่เหมาะสมมาแสดงแก่สายตาเหล่ามนุษย์ที่เป็นเหล่าเวไนยสัตว์ตาดำๆแถวนี้...
...ที่ไม่เคยได้รู้จัก คุ้นเคย สนิทสนม ต่อการรู้จักกัลยาณมิตรที่แท้จริงในปัจจุบันยังไงล่ะ...ขอขมาหลวงตาซะ...
:b32: :b32: :b32:
:b39:

smiley
ขอบคุณคุณ Rossarin ที่เตือนเรื่องอริยุวาตันตราย เรื่องนี้ผมทราบดีและระวังอยู่มากเพราะเคยได้อยู่รับใช้ใกล้ชิดครูบาอาจารย์ที่สังคมและตัวผมเองคาดเดาว่าเป็นพระอริยบุคคล มาหลายท่านหลายองค์โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลวงตามหาบัวซึ่งมีจริตนิสัยพิเศษเป็นผู้เกิดมาเพื่อกำหราบคนด้วยความตรงไปตรงมาแบบขวานผ่าซาก ผมขอขมาท่านมาหลายครั้งหลายรอบแล้วทุกครั้งที่จิตแว้ปไปทางปมาทะ

ประเด็นลึกๆคงจะคล้ายคุณ bigto ที่มีประสงค์จะมาสะกิดเตือนเรื่องการติดยึดบุคคลหรือครูบาอาจารย์มากเกินไป
จนไม่เห็นใครอื่นจะเหนือกว่า

แต่พระอรหันตเจ้ามีหลายท่านหลายองค์จริตนิสัยก็แตกต่างกันญาติโยมก็มีหลากหลายรูปแบบหลายจริตนิสัย อาจชอบเคารพศรัทธาครูบาอาจารย์ต่างองค์กันตามจริตนิสัยที่ลงกันได้ และอาจไม่ชอบบางองค์บางจริตนิสัย

การยกครูบาอาจารย์อยู่เพียงองค์เดียวทุกที่ทุกหนทุกแห่งจึงดูเหมือนการติดยึดบุคคลจึงอาจขัดใจใครเข้าบ้างก็เป็นได้
s004


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ส.ค. 2015, 23:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
asokaเหมือนจะฉลาดนะก็ทำไมไม่คิดล่ะว่า
สถานีวิทยุวัดป่าบ้านตาดเปิดธัมมะ24ชั่วโมง
มีคำเทศนาธรรมของครูบาอาจารย์หลายองค์
ล้วนแต่พระอรหันต์สายกรรมฐานที่หลวงตาลงใจ
:b12:
ก็เคารพท่านเป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์องค์แรก
ในชาตินี้ที่ทำให้ข้าพเจ้ามีดวงตาเห็นธรรมนะ
ไม่ยกย่องเทิดทูนท่านจะให้เทิดทูลองค์ไหนล่ะ
ในเมื่อไม่ได้ไปเข้าใกล้ครูอาจารย์องค์อื่นเท่านี้
:b16:
แม้แต่หลวงปู่ผางอฺมัญจาคีรีจ.ขอนแก่นยังส่งพระ
ลูกวัดมาศึกษาธรรมที่วัดป่าบ้านตาดแล้วก็ส่งเทป
เทศน์ขององค์หลวงตากลับไปให้หลวงปู่ผางตลอด
ภายหลังมรณภาพจึงทราบว่าท่านฟังเทศน์บรรลุธรรม
:b12:
หลวงตามหาบัวท่านบอกว่าท่านเป็นหลวงตาป.3เปรียญ3
ข้าพเจ้าก็ลูกศิษย์ป.3ไม่เคยนั่งสมาธิเริ่มฝึกที่วัดบ้านตาด
นั่งเฉพาะตอนฟังหลวงตาเทศน์ที่วัดเท่านั้นก็ตักบาตรเช้า
วันเสาร์-อาทิตย์้เสร็จก็จะเข้าไปศาลาฟังท่านเทศน์หลังฉัน
ตั้งแต่ปี2547มาถึงปีที่นั่งแล้งได้ดวงคาเห็นธรรมปี2549 :b8:
:b16:
ครบ3ปีแน่นอนไหมล่ะอาจารย์ข้าพเจ้าจึงตั้งฉายาตัวเองว่า
ลูกศิษย์ป.3ไงล่ะ
:b32:
จะบอกให้เอาบุญจ้ะว่าท่านชำนาญที่สุด
รู้ไว้ในด้านการย่นภพชาติให้ลูกศิษย์น๊า
onion onion onion
:b53: :b44:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2015, 00:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
wink
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
bigtoo เขียน:
Rosarin เขียน:
rolleyes
:b16: :b16: :b16:
...ถ้าบิกทู่สับสนในการศึกษาพระธรรมปนระหว่าความเป็นจริงที่เข้าถึงแล้วกับรู้แค่ความจำ...หุหุ...
:b32: :b32: :b32:
...ก็ลองพิจารณาสิทำไมรายการบ้านธ้มมะก็ยังเอาสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์มาแสดงล่ะ...
:b11: :b11: :b11:
https://www.youtube.com/watch?v=CWh40gyGk-w
onion onion onion
ผมไม่สงสัยอะไรแล้วทั้งนั้นในเรื่องคำสอนจะถูกจะผิดเพราะคนสอนก็สอนได้ตามความเข้าใจของตนเอง ที่จริงท่านเองก็ไม่ต้องยกสาวกรูปใดคนใดมาเลย เพราะท่านเองก็ไม่รู้เลยว่าท่านใดเป็นอริยะบ้างนอกจากคิดเอาเอง ธรรมะบรรยายตามหนังสือใครก็พอทำความเจ้าใจได้ หรือใครจะกล่าวอย่างไรก็ทำได้แม้แต่ผมเองจะกล่าวอย่างไรก็ทำได้. เรื่องการปฎิบัติของผมการเข้าถึงของผมก็คือสูญญตา ไม่มีการมาการไปติตรึกนึกคิดใดๆ จะตรงตามที่มีตำราว่าไว้เท่านั้น. ส่วนท่านใดจะถึงไหนไม่รู้. แต่ถ้ายังมีการมาการไปพิจารณาแล้วย่อมไม่ใช่นิพพาน เพราะนิพพานบรรยายได้ในรูปฎิเสธเท่านั้น
เพราะอะไรบนโลกมี. ในนิพพานย่อมไม่มี

:b12:
...ตัวบิ๊ทู่สนทนาธรรม...เขียนอะไรก็วกวนแล้วขัดแข้งขัดขาตัวเองไปมาเอง...
:b23:
...แล้วที่หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโณท่านถึงอรหัตตผลท่านเทศนาธรรมว่า นิพพานว่างไปหมด...
...นิพพานัง ปรมัง สุขัง นิพานัง ปรมัง สูญญัง...ท่านรู้ความจริงแล้ว แต่พูดแบบในตำราเปี๊ยบเลยค่ะ...
...ไม่เพี้ยนไปจากคำพระพุทธเจ้าเลยน๊า ถ้าแปลตามตำรา นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง นิพพานไม่สูญ...
...ท่านบิกทู่ลืมอะไรไปไหม...สูญญตาใช้กับอะไรเหรอ...สภาพธัมมะที่เป็นสูญญตาใช้กับใครคะ.บ..
:b8:
:b4: :b4:
ผมถามหลายครั้งแล้วรู้ได้อย่างไรว่าท่านใดถึงความเป็นอรหันต์ หรือคุณแค่คิดเอง ถ้าผมบอกว่านิพพานปรมังสุขขัง นิพพานปรมังสูญญังผมก็เป็นอรหันต์ได้ซิ มีแต่พระตถาคตและผู้เสมอท่านเท่านั้น. คุณโรสรินรู้ได้อย่างไรว่าหลวงตาถึงความเป็นอรหันต์. พระศาสดากล่าวว่าเรื่องราวทั้งหมดของท่านว่าด้วยเฉพาะสูญญตา ผู้ที่จะสัมผัสนี้ได้อย่างน้อยก็โสดาบันถึงจะเข้าใจได้ตรงถูก.

:b12:
...เอ้าก็ต้องเป็นพระอรหันต์สิคะบอก...หลวงตามหาบัวท่านว่าเราก็อะ-ระ-หัน...
...แล้วท่านก็พูดไปทำไปแบบว่า หันซ้าย หันขวา ก็ได้ยินกะหู เห็นกะ2ตาตัวเองไง...
:b32:
ท่านกบก็โพสต์ไว้ที่นี่นะ
viewtopic.php?f=1&t=50550&start=15
กบนอกกะลา เขียน:
https://th-th.facebook.com/notes/196418457049887/

พุทธดำรัส

“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ย่อมพยากรณ์อรหัตตผลว่า ข้าพเจ้ารู้ชัดว่าชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้สำเร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธออย่าพึ่งยินดี อย่าพึ่งคัดค้าน คำกล่าวของภิกษุรูปนั้น พึงถามปัญหาเธอว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุ โวหารอันพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ตรัสไว้ชอบนี้มี 4 ประการ คือคำกล่าวว่าเห็นอารมณ์ที่ตนเห็นแล้ว ได้ยินในอารมณ์ที่ตนฟังแล้ว ทราบในอารมณ์ที่ตนทราบแล้ว รู้ชัดในอารมณ์ที่ตนรู้ชัดแล้ว ก็จิตของท่านผู้มีอายุ ผู้รู้อยู่เห็นอยู่อย่างไรเล่า จึงหลุดพ้นจากอาสวะ ไม่ยึดมั่นในโวหาร 4 นี้

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้สิ้นอาสวะแล้ว พ้นวิเศษแล้วเพราะรู้ชอบตอบถูก จึงนับว่ามีธรรมอันสมควร จะพยากรณ์ได้ดังนี้ว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุ ข้าพเจ้าไม่ยินดี ไม่ยินร้าย อันกิเลศไม่อาศัย ไม่พัวพัน พ้นวิเศษแล้ว พรากได้แล้วในธรรมที่ข้าพเจ้าได้เห็น มีใจอันกระทำให้ปราศจากเขตแดนได้แล้วอยู่ พรากได้แล้วในธรรมที่ข้าพเจ้าได้ยิน พรากได้แล้วในธรรมที่ข้าพเจ้าได้ทราบ พรากได้แล้วในธรรมที่ข้าพเจ้ารู้ชัด จิตของข้าพเจ้าผู้รู้อยู่ เห็นอยู่อย่างนี้แล จึงได้หลุดพ้นจากอาสวะ ไม่ยึดมั่นในโวหาร 4 นี้

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คำกล่าวของภิกษุรูปนั้น พวกเธอควรชื่นชม อนุโมทนาสาธุ”

.................

หลวงตามหาบัว ท่านตอบว่า

ธรรมแท้ต้องตรงไปตรงมา เหมือนเรามีเงินอยู่ 2 บาท ถ้าเราบอกว่ามี 1 บาท นั่นก็เป็นคำโกหก ถ้าเราบอกว่ามี 3 บาท นั่นก็เป็นคำโกหก ถ้าเราบอกว่ามี 2 บาท นั้นก็เป็นคำจริง “รู้” ต้องบอกว่า “รู้” “เห็น” ต้องบอกว่า “เห็น”

ความจริงเอามาพูดจะเป็นการอวดที่ตรงไหน

พระพุทธเจ้าเอาความจริงมาพูดอวดที่ตรงไหน

พระสาวกอรหันต์เอาความจริงมาพูด อวดที่ตรงไหน ผิดที่ตรงไหน

จิตของเรานี้ครอบโลกธาตุ อย่าเอาฝ่ามือมากั้น ไม่งั้นขาดสะบั้นไปหมดนะ

พระพุทธเจ้าตรัสรู้วันเพ็ญเดือนหกไม่บอกใครจะรู้

ย่นลงมาพระอานนท์ตรัสรู้ธรรมในอิริยาบถ 4 หลังพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ท่านไม่บอกใครจะรู้ นั่นท่านอวดไหม

พูดให้สัตว์โลกมีแก่จิตแก่ใจในการประพฤติปฏิบัติต่างหาก การประกาศศาสนธรรมขั้นสุดยอดเหล่านี้เป็นการอวดอุตตริมนุสธรรม แล้วจะเอาอะไรไปประกาศ

...กล้า...เราก็ไม่เคยมี

...กลัว...เราก้ไม่เคยมี

กับสามแดนโลกธาตุนี้ เราเรียกว่า “ถังขยะ”

คุณธรรมความดีอะไรต่างๆ ก็เหมือนกัน ถ้าพูดตามความเป็นจริงและมีอยู่จริง ปราชญ์มีพระพุทธเจ้าเป็นต้น ท่านไม่ตำหนิ มีแต่ท่านจะอนุโมทนา ของที่มีอยู่จริง พูดพองามท่านไม่เรียกว่าอวด


ถ้าอวดอุตริก็คืออวดในสิ่งที่ไม่มีในตน

อ้างอิง : พระมหาธรนาถ อัคคธีโร, “หนังสือหลวงตามหาบัว มหัสจรรย์มหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่.” – กรุงเทพฯ : ศิลป์สยามบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์, 2546. 156 หน้า

...........

รูปภาพ

.................
:b8: :b8: :b8:


คิดเองได้ที่ไหนล่ะ...ถ้าท่านไม่พูดบอกออกมา...ไม่บอกบิกทู่รู้ไหมล่ะ
ใครๆเขาก็บอกกันต่อๆทั้งนั้นแหละ บอกแล้วยังคิดไม่เชื่อตาตัวเองที่อ่านอีกเหรอ
แม้พระพุทธเจ้าก็ทรงแสดงว่า ตถาคตเป็นแต่เพียงผู้บอก
:b32: :b32:
:b8:
หุหุ พอเข้าใจตรรกท่านแล้วล่ะ

:b32:
...หุหุ...แค่นี้ก็รู้แล้วหมดภูมิเพราะไม่มีปัญญาเข้าใจสิ่งที่ข้าพเจ้าเขียน...
...สิ่งที่ข้าพเจ้าเขียนก็คือสิ่งที่ข้าพเจ้าทำเป็นปัจุบันไว้ในใจเพื่อสะสมเป็นอุปนิสัย...
...และอุปนิสัยที่ขยันคิดไตร่ตรองโดยไม่วอกแวกคือการระวังจิตที่เผลอออกไปคิดเรื่องอื่นๆอ่ะนะ :b32: ...
...อุปนิสัยหรือสันดานอันนี้ก็จะคอยกำหนดชะตาชีวิตของผู้ที่ระลึกตามได้พิจารณาเป็นปัจจุบันขณะ...
:b1:
...ตรรกของท่านคือหมดภูมิที่จะหาข้ออรรถข้อธรรมมาคิดโต้แย้งเลยตอบเลียบเคียงข้่างๆคูๆถูๆไถๆ...
...สาระอะไรในชีวิตล่ะที่เห็นว่าสำคัญที่สุดในการเกิดเป็นมนุษย์...ถ้าไม่คิดตามคำจริงของพระพุทธเจ้า...
...ก็จะจดจำคำบาลีแล้วก็ท่องคำได้ว่ามีเท่าไหร่ยังไงเยอะไปหมดตั้ง84000พระธรรมขันธ์เลือกเอาสักอันมาใช้...
...เลือกคำหรือข้าพเจ้ากำหนดแค่แสง-สี แข็ง-อ่อน เย็น-ร้อน ตึง-ไหว ซึมซาบ-เกาะกลุ่ม สุข-ทุก-เฉยรู้ได้ไม่มีตัวตนนะ...
...แต่ต้องตรงความจริงเช่นเห็นแข็งไม่ได้ ต้องกำหนดแข็งเช่นแขนวางพนักเก้าอี้ก็สมผัสแข็งรู้ได้ไม่มีแขนมีแต่แข็ง คำสั้นๆ...
...กำหนดให้ได้ทุกทางทั้ง6ทางทีละ1...ก็จะรู้ได้ว่าแต่ละคำจริงทีละ1จริงๆ กำหนดพร้อมกันมากกว่า1ทางไม่ได้ ...
:b32:
...ธัมมะทั้งหลายเป็นอนัตตา...มัวแต่เลือกคำบาลีมากำหนดอยู่นั่นแหละ...คำจริงที่สัมผัสได้เช่นมองเห็นสีหายไปแล้ว...
...ยังคิดเป็นตัวเราเห็นคน สัตว์ สิ่งของ และคนชื่อนั้น จำทุกอย่างเป็นชื่อ ตายแล้วเกิดแน่นอนรู้ได้ว่าจิตไม่สูญ...
:b13:
...ถ้าไม่เพียรพยายามกำหนดถี่ยิบในสิ่งที่กำลังมี ก็มีตัวตนไปรู้คำที่เป็นชื่อเรียกสิ่งต่างๆ จริงอะป่าวล่ะ...
...เกิดแล้วเพราะผลมันดับตั้งแต่ลืมคิดที่จะกำหนดคำจริงของสิ่งที่มีจริงๆแล้วน๊า...ที่ยังเหลือว่ามี...
...คือการจำสิ่งที่ลวงให้คิดและจดจำเรื่องคน สัตว์ สิ่งของ จากตาของเรา และเพราะคิดๆๆแล้วก็จำๆๆๆ
...เลือกเอาก็แล้วกันนะว่า...จะจำความจริงตามคำของพระพุทธเจ้า...หรือจะจำความจำที่คิดเอาเอง...
:b32: :b32: :b32:
:b44:
ก็ยังคิดว่าไม่มีใครรู้เรื่องอาการเย็นร้อนอ่อนแข็งตรึงไหว หรือสีสรรอะไรๆนั้นเป็นเพียงสภาวะที่ปรากฎ ไม่ได้มีอะไรมากเลยก็แค่เพียงรูปนามปรากฎขึ้นแล้วก็ดับไป สภาวะเหล่านั้นไม่ใช่ตัวตนเราเขาก็เข้าใจกันได้ทุกคนก็เท่านั้น แต่ที่ผมกล่าวว่ารู้แค่นี้ไม่พอหรอกนะครับที่จะเป็นอริยะบุคคล จะต้องประจักษ์นิพพานธาตุในมโนทวาร ถ้าไม่เข้าใจก็ลองสอบถามท่าน อจ สุจินต์ดู

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2015, 01:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
asokaเหมือนจะฉลาดนะก็ทำไมไม่คิดล่ะว่า
สถานีวิทยุวัดป่าบ้านตาดเปิดธัมมะ24ชั่วโมง
มีคำเทศนาธรรมของครูบาอาจารย์หลายองค์
ล้วนแต่พระอรหันต์สายกรรมฐานที่หลวงตาลงใจ
:b12:
ก็เคารพท่านเป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์องค์แรก
ในชาตินี้ที่ทำให้ข้าพเจ้ามีดวงตาเห็นธรรมนะ
ไม่ยกย่องเทิดทูนท่านจะให้เทิดทูลองค์ไหนล่ะ
ในเมื่อไม่ได้ไปเข้าใกล้ครูอาจารย์องค์อื่นเท่านี้
:b16:
แม้แต่หลวงปู่ผางอฺมัญจาคีรีจ.ขอนแก่นยังส่งพระ
ลูกวัดมาศึกษาธรรมที่วัดป่าบ้านตาดแล้วก็ส่งเทป
เทศน์ขององค์หลวงตากลับไปให้หลวงปู่ผางตลอด
ภายหลังมรณภาพจึงทราบว่าท่านฟังเทศน์บรรลุธรรม
:b12:
หลวงตามหาบัวท่านบอกว่าท่านเป็นหลวงตาป.3เปรียญ3
ข้าพเจ้าก็ลูกศิษย์ป.3ไม่เคยนั่งสมาธิเริ่มฝึกที่วัดบ้านตาด
นั่งเฉพาะตอนฟังหลวงตาเทศน์ที่วัดเท่านั้นก็ตักบาตรเช้า
วันเสาร์-อาทิตย์้เสร็จก็จะเข้าไปศาลาฟังท่านเทศน์หลังฉัน
ตั้งแต่ปี2547มาถึงปีที่นั่งแล้งได้ดวงคาเห็นธรรมปี2549 :b8:
:b16:
ครบ3ปีแน่นอนไหมล่ะอาจารย์ข้าพเจ้าจึงตั้งฉายาตัวเองว่า
ลูกศิษย์ป.3ไงล่ะ
:b32:
จะบอกให้เอาบุญจ้ะว่าท่านชำนาญที่สุด
รู้ไว้ในด้านการย่นภพชาติให้ลูกศิษย์น๊า
onion onion onion
:b53: :b44:

ใครจะนับถือใครอย่างไรใครจะห้ามได้ ข้าพเจ้าก็มีครูอาจารย์ แต่มันคนละเรื่องเลยจริงๆในหลักการที่จะมากล่าวว่าท่านใดเป็นอรหันต์ ผมถามว่ารู้ได้อย่างไรว่าท่านใดเป็นอรหันต์. คุณตอบมาไม่ใช่ตรรกะที่ตรงเลยแม้แต่น้อยเป็นความคิดที่ท่านคิดขึ้นมาเองล้วนๆ ความคิดท่านไม่สามารถสร้างอรหันต์หรือทำลายอรหันต์ในฐานะของใครได้เลย ความจริงก็คือความจริงคือไม่มีใครรู้ได้จริง ผู้ที่รู้ได้จริงคือพระพุทธเจ้ากับผู้เสมอพระองค์เท่านั้นนี่คือสิ่งที่ถูกต้องตรงคำพระศาสดากล่าวไว้. และถ้าถามผมในคำถามเดียวกัน ผมจะตอบว่า ผมไม่รู้หรอกว่าท่านใดเป็นอรหันต์. แต่ที่ผมเคารพเพราะได้ยินได้ฟังได้เห็นการปฎิบัติท่านนั้นตรงต่อคำสอนของพระพุทธองค์และท่านเองทำให้ข้าพเจ้าได้เกิดศรัทธา ได้บอกได้สอนธรรมะแก่ข้าพเจ้าจนข้าพเจ้านำมาปฎิบัติแล้วเกิดผลดีแก่ตนเองและผู้อื่น. นี่ต่างหากคือหลักการที่เราจะมีพระสงฆ์เป็นสรณะที่ถูกต้อง. ไม่งั้นแล้วท่านเองจะมีสรณะที่โอนเอียงไม่ตรงธรรม. จะวิ่งหาความเป็นอรหันต์ด้วยความคิดว่าท่านนั้นท่านนี้ทั้งๆที่ท่านเองก็ไม่รู้จริง

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


แก้ไขล่าสุดโดย bigtoo เมื่อ 03 ส.ค. 2015, 13:56, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 03 ส.ค. 2015, 13:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
asokaเหมือนจะฉลาดนะก็ทำไมไม่คิดล่ะว่า
สถานีวิทยุวัดป่าบ้านตาดเปิดธัมมะ24ชั่วโมง
มีคำเทศนาธรรมของครูบาอาจารย์หลายองค์
ล้วนแต่พระอรหันต์สายกรรมฐานที่หลวงตาลงใจ
:b12:
ก็เคารพท่านเป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์องค์แรก
ในชาตินี้ที่ทำให้ข้าพเจ้ามีดวงตาเห็นธรรมนะ
ไม่ยกย่องเทิดทูนท่านจะให้เทิดทูลองค์ไหนล่ะ
ในเมื่อไม่ได้ไปเข้าใกล้ครูอาจารย์องค์อื่นเท่านี้
:b16:
แม้แต่หลวงปู่ผางอฺมัญจาคีรีจ.ขอนแก่นยังส่งพระ
ลูกวัดมาศึกษาธรรมที่วัดป่าบ้านตาดแล้วก็ส่งเทป
เทศน์ขององค์หลวงตากลับไปให้หลวงปู่ผางตลอด
ภายหลังมรณภาพจึงทราบว่าท่านฟังเทศน์บรรลุธรรม
:b12:
หลวงตามหาบัวท่านบอกว่าท่านเป็นหลวงตาป.3เปรียญ3
ข้าพเจ้าก็ลูกศิษย์ป.3ไม่เคยนั่งสมาธิเริ่มฝึกที่วัดบ้านตาด
นั่งเฉพาะตอนฟังหลวงตาเทศน์ที่วัดเท่านั้นก็ตักบาตรเช้า
วันเสาร์-อาทิตย์้เสร็จก็จะเข้าไปศาลาฟังท่านเทศน์หลังฉัน
ตั้งแต่ปี2547มาถึงปีที่นั่งแล้งได้ดวงคาเห็นธรรมปี2549 :b8:
:b16:
ครบ3ปีแน่นอนไหมล่ะอาจารย์ข้าพเจ้าจึงตั้งฉายาตัวเองว่า
ลูกศิษย์ป.3ไงล่ะ
:b32:
จะบอกให้เอาบุญจ้ะว่าท่านชำนาญที่สุด
รู้ไว้ในด้านการย่นภพชาติให้ลูกศิษย์น๊า
onion onion onion
:b53: :b44:

s004
อืม!!!!!!!!

น่าอนุโมทนาและน่าสนใจที่คุณ Rossarin ปฏิบัติตามคำสอนหลวงตามหาบัว จนได้ดวงตาเห็นธรรม

อยากเรียนขอความกรุณาช่วยเล่าสภาวะตอนได้ดวงตาเห็นธรรมมาให้ฟังสักหน่อยว่าเป็นอย่างไร ถึงอาจหาญรับรองตนเองได้ว่าเห็นธรรมแล้วและเพื่อเป็นวิทยาทานให้เกิดศรัทธาปสาทะยิ่งๆขึ้นต่อไปครับ
:b27:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 911 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11 ... 61  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร