วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 05:33  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 145 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 6, 7, 8, 9, 10  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2012, 00:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2012, 21:02
โพสต์: 127


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
เพราะอะไร...รู้มั้ย?

เพราะหากตั้งใจว่า...หากเราเห็นภาพอย่างนั้นบ้าง...ก็คงสำเร็จได้อย่างหลวงตา

จิต....มันจะสร้างภาพนั้นให้เราเห็น...เป็นภาพที่เกิดจากความตั้งใจ...ซึ่งเราจะแยกไม่ออกว่า...ภาพอันไหนเกิดจากความตั้งใจ(อุปาทาน)....อันไหนเกิดตามสภาวะจริง(ธรรม)

เห็นภาพแล้ว....งัยต่อละ....

จำได้ว่าต้องปล่อย...ใช่มั้ย

อ้าว...ฉันเห็นแล้ว....ฉันจะปล่อยละ...(เพราะฉันต้องปล่อย)

นี้...มันจำกระบวนการมาทั้งนั้น...

ปล่อยแล้ว...มันก็ต้องว่าง ๆ ..ใช่มัย?

ฉันก็ว่าง..ๆ...ว่าง ๆ...

ว่าง...เพราะ..ฉันต้องว่าง ๆ ....

มันจำมาหมดเลย...

ต้นคต....ปลายตรง...มันไม่มี...

มันอุปาทานตั้งแต่ต้น....ผลมันก็ไม่ใช่สภาวะจริง(เป็นธรรม)

นี้..มันอันตราย...ตรงนี้

เส้นทางของแต่ละคนที่สะสมบารมีธรรม...มันไม่เหมือนกัน....และไม่มีทางเหมือนกัน

ภาพที่มันจะมาสอนใจเราได้นั้น...ไม่มีทางเป็นภาพเดียวกันได้หรอก

จะเห็นภาพเดียวกันเลย...นั้น...จึงเป็นไปไม่ได้...

นอกจากธรรมะ copy ...



ตะวัน เขียน:

ถ้ากลัวจะจำเทศน์จำธรรมะท่านได้ยังงี้
ก็ไม่ต้องไปอ่านไปฟังเทศน์ท่านกันเลยใช่ไหม???

แล้วที่ท่านอุตส่าห์มาเทศน์กัณฑ์นี้ให้ฟัง
ท่านเทศน์ให้...เทวดา...ฟังเหรอครับ???
ท่านเทศน์เพื่อ...โปรด...พวกเราต่างหาก
ให้พวกเราจำเอาไว้แล้วไปปฏิบัติตามท่านให้ได้
ถ้าท่านคิดเหมือนคุณกบฯ ท่านจะเทศน์ทำไมเล่า?????


สรุปแล้วก็พิจารณาเอาเถอะครับท่าน
พิจารณาถูกก็ได้มรรคได้ผล
..........แต่ถ้า............
พิจารณาผิดก็ไม่ได้มรรคได้ผลอะไร


แก้ไขล่าสุดโดย <ตะวัน> เมื่อ 14 ส.ค. 2012, 00:18, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2012, 00:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2012, 21:02
โพสต์: 127


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
อ้างคำพูด:
แม้เราจะเห็นภาพตามที่หลวงตาบรรยายมาได้....แต่ก็ยังไม่ใช่การเห็นที่ทำให้เกิดการเข้าใจ


ขณะที่อ่านธรรมะของหลวงตา....ภาพนั้น ๆ มันก็เกิดกับใจของเราทันที...(รึว่าใครอ่านแล้วแต่ไม่มีภาพในใจ)

ภาพอสุภะ.....ภาพอสุภะเคลื่อนเข้ามา...อสุภะรวมเข้ากับจิต...

อ่านไป...มันก็เห็นภาพไป..กันทั้งนั้น

แต่...ภาพเหล่านี้...ไม่ได้ทำให้เราเข้าใจธรรมที่องค์หลวงตาเข้าใจ...เลย..ไม่ใช่รึ




ตะวัน เขียน:

ถ้ากลัวจะจำเทศน์จำธรรมะท่านได้ยังงี้
ก็ไม่ต้องไปอ่านไปฟังเทศน์ท่านกันเลยใช่ไหม???

แล้วที่ท่านอุตส่าห์มาเทศน์กัณฑ์นี้ฟัง
ท่านเทศน์ให้...เทวดา...ฟังเหรอครับ???
ท่านเทศน์เพื่อ...โปรด...พวกเราต่างหาก
ให้พวกเราจำเอาไว้แล้วไปปฏิบัติตามท่านให้ได้
ถ้าท่านคิดเหมือนคุณกบฯ ท่านจะเทศน์ทำไมเล่า?????


สรุปแล้วก็พิจารณาเอาเถอะครับท่าน
พิจารณาถูกก็ได้มรรคได้ผล
..........แต่ถ้า............
พิจารณาผิดก็ไม่ได้มรรคได้ผลอะไร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2012, 00:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ท่าทาง...หมกหมุ่นอยู่แต่...ความคิด...ของตัวเองมากไป...เลยอ่านอะไรก็ไม่รู้เรื่อง...

ใจลอย...

เจริญสติให้มาก...นะ

ไม่เข้าใจก็ข้ามไป...ข้ามไปก่อน...

มาตรงนี้เป็นงั้ย....ถามไป..เพราะอยากรู้...

กบนอกกะลา เขียน:
ถ้าอยากรู้ว่า...ตอนท้าย ๆ ...เป็นการทำอะไร

ก็ไปดูวิธีทำอสุภะกรรมฐาน...ก็ได้...

หรือไม่ก็จะถามคุณตะวันว่า....อสุภะกรรมฐาน...ของคุณตะวัน...ทำยังงัย.??
:b16: :b16:

:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2012, 00:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2012, 21:02
โพสต์: 127


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
เอาให้เข้าประเด็น...นะคุณตะวัน....

คุณว่า...การกำหนดอสุภะ....เป็นการรู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง...ใช่มั้ย...

เพราะ...ตัวยังไม่แกร่งพอ...ใช่มั้ย....

แล้วอสุภะ....หลวงตาจะเอาใช้หลบกิเลส..ทำไม....หลบหลีกได้...แต่กิเลส..มันก็ยังอยู่..นี้...จริงมั้ย...

ผมถึงว่า..คุณตะวัน...มั่ว...งั้ย...ที่ว่า...หลวงตากลับมากำหนดอสุภะ...นะ

อิอิ.... :b32:


ท่านไม่ได้ใช้วิธี....รู้หลบเป็นปีก...อะไรนั้น...อย่างที่คุณตะวัน..คิด...

ท่าน...ชนกับมันเลย....ท่านเข้าไปแก้ปัญญาตรง ๆ เลย...ต่างหาก...ไม่ได้หลบไปไหน




ตะวัน เขียน:

ผมเคยเขียนตรงไหนกันหนอ???
ว่าการกำหนดอสุภะ เป็นการรู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง
ลองหามาให้ผมอ่านดูหน่อยได้ไหม?? ในโพสต์อันก่อนๆที่ผมโพสต์เอาไว้

ผมมีแต่เขียนบอกไว้ต่างหากว่า...
ธรรมะที่เปรียบเหมือนกับการรู้หลบเป็นปีกฯ...ก็คือ...สังวรธรรม(สำรวมอายตะนะ)...ต่างหาก
แล้วท่านกบฯมามั่ว ว่าผมเอาการพิจารณาอสุภะไปเป็นการรู้หลบเป็นปีกฯได้งัยครับท่าน

การพิจารณาอสุภะไม่ใช่การหลบกิเลสนะ ผมไม่เคยเขียนว่า การพิจาณาอสุภะเป็นการรู้หลบเป็นปีกฯ
แต่ท่านกบฯก็พยายามตู่ๆๆๆๆๆๆๆยัดเยียดให้ผมตลอดเลย พยายามเข้าใจเองหน่อยเน้อ....
ว่าการพิจารณาอสุภะนั้น ไม่ใช่การหลบนะครับท่าน
แต่เป็นการ...การเงื้อดาบฟันคอกิเลสฆ่ากิเลสราคะเลยครับ


จำได้หรือเปล่าท่านกบฯว่าผมพูดเกี่ยวกับเรื่อง...รู้หลบเป็นปีกฯว่าไงบ้าง...
ยังจำได้อยู่ใช่ไหม??
ที่ผมบอกว่า...ช่วงแรกที่....กำลังเรายังอ่อนอยู่...เราต้องใช้...รู้หลบเป็นปีกก่อน...
แล้วถามท่านกบฯหน่อยว่าตอนที่หลวงตาท่านกำหนดสุภะพิสูจน์นั้น ตอนนั้นพลังจิตของท่าน...อ่อนแอ...หรือว่า...แข็งกล้า....
ตอบได้ใช่ไหมว่า ตอนที่ท่านลองทดสอบจิตท่านดูด้วยสุภะนั้น ตอนนั้นกำลังจิตของท่านแข็งกล้ามาก จนถึงกับสงสัยตัวเองว่า...ไม่ใช่ราคะมันหมดไปจากใจท่านแล้วเหรอ....

แล้วตอนที่หลวงตาท่านเริ่มปฏิบัติใหม่ๆล่ะครับท่าน
ช่วงที่กำลังจิตท่านยังไม่แข็งกล้า...
ท่านกบฯยังจะว่าท่าน....ไม่ได้ใช้วิธี...รู้หลบเป็นปีก...ด้วย...สังวรธรรมสำรวมอายะตะนะ...อยู่เหรอ


ท่านกบฯคิดว่าตอนหลวงตาเริ่มปฏิบัติใหม่ๆ ท่านจะไปกำหนดดูรูปสาวๆสวยๆเหมือนตอนที่ท่านกำลังแข็งกล้าแล้วอยู่เหรอ???
ที่ผมพูดในความหมายว่า....ท่านใช้วิธีรู้หลบเป็นปีกนั้น...นั่นเป็นช่วงแรกของการปฏิบัติที่กำลังจิตของท่านยังไม่...แข็งแกร่ง...ต่างหาก เท่านี้ท่านกบฯก็พิจารณาเองไม่ได้หรือไง
ต้องได้ให้ผมเขียนอธิบายอย่างละเอียดถึงขนาดนี้เลยเหรอ???? ผมนึกว่าท่านน่าจะเข้าใจได้เองตั้งนานแล้วนะนี่
ทีนี้คง...เก็ต...แล้วนะครับ อธิบายละเอียดละออขนาดนี้ไม่เก็ตก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วล่ะ

คือการปฏิบัติช่วงแรกๆ ที่กำลังเรายังไม่แข็งกล้า
จะต้องใช้ทั้ง สังวรธรรม(สำรวมอายะตะนะ) และ ใช้ทั้ง การพิจารณาอสุภะไปด้วย ทั้งสองอย่างนั่นแหละครับ
และจะต้องมีสมาธิหนุนด้วย สรุปแล้วก็คือใช้ ศีล สมาธิ ปัญญา นั่นเอง

คือ สังวรธรรม ก็เปรียบได้กับศีล ที่ใช้ตัดกำลังกิเลสไม่ให้มันได้กำลังเพิ่มได้จากการไปสัมผัสกับรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสที่เสริมกิเลส เช่นดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ดูรูปลามก เป็นต้น
และ สมาธิเราก็จำเป็นจะต้องได้ทำอย่างขาดไม่ได้อยู่แล้ว ไม่งั้น ใจก็ไม่มีพลัง ไม่มีความสงบร่มเย็น หลวงตาท่านสอนว่า ปัญญาจะเป็นปัญญาจริงได้ไม่ใช่แค่สัญญาความจำจะต้องมีสมาธิหนุนครับ
ส่วนปัญญา ก็คือ การพิจารณาอสุภะ พิจารณากายพิจารณาขันธ์ห้าให้เห็นว่ามันเป็นไปตามหลักความจริงของไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เพื่อใช้ฆ่ากิเลส
ฆ่ากิเลสได้ก็คือ ละความติดข้องในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ธรรมารมณ์ ได้นั่นเอง ละความติดในขันธ์ห้าได้นั่นเอง มีความหมายอันเดียวกันกับว่า ฆ่ากิเลสได้


แก้ไขล่าสุดโดย <ตะวัน> เมื่อ 14 ส.ค. 2012, 02:29, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2012, 01:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2012, 21:02
โพสต์: 127


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ท่าทาง...หมกหมุ่นอยู่แต่...ความคิด...ของตัวเองมากไป...เลยอ่านอะไรก็ไม่รู้เรื่อง...

ใจลอย...

เจริญสติให้มาก...นะ

ไม่เข้าใจก็ข้ามไป...ข้ามไปก่อน...

มาตรงนี้เป็นงั้ย....ถามไป..เพราะอยากรู้...

กบนอกกะลา เขียน:
ถ้าอยากรู้ว่า...ตอนท้าย ๆ ...เป็นการทำอะไร

ก็ไปดูวิธีทำอสุภะกรรมฐาน...ก็ได้...

หรือไม่ก็จะถามคุณตะวันว่า....อสุภะกรรมฐาน...ของคุณตะวัน...ทำยังงัย.??
:b16: :b16:

:b32: :b32:




ตะวัน เขียน:

ผมไม่ได้เชื่อความคิดของตัวเองเหมือนใครบางคนเน้อ
ผมเชื่อตามองค์หลวงตาผู้หมดกิเลสท่านพาดำเนินพาปฏิบัติต่างหาก


ไม่รู้ว่าใครกันแน่หนอ???ที่มีแต่หมกมุ่นอยู่แต่ความคิดของตัวเอง จนไม่ยอมปฏิบัติตามธรรมที่ผู้หมดกิเลสแล้วท่านมาเทศน์แนะสอน ท่านบอกท่านสอนให้สำรวมอายะตะนะ ให้พิจารณาอสุภะก็อวดดีไม่ยอมทำตาม
แล้วปฏิบัติไปตามแนวสบายๆตามใจฉัน รู้ตัวบ้างเปล่าเนี่ย????


ถามคุณตะวันว่า....อสุภะกรรมฐาน...ของคุณตะวัน...ทำยังงัย.??

ก็ทำตามแบบที่ท่านกบฯได้อ่านจากเทศน์ของหลวงตาที่ผมเอามาให้อ่านนั่นแหละ
เพียงแต่ว่า ผมขี้เกียจไม่ได้กำหนดติดต่อสืบเนื่องติดกันไปตลอดนานๆเหมือนอย่างท่าน
ก็เลยยังฆ่าราคะเหมือนท่านไม่ได้ คือเทียบได้เหมือนกับว่าในวันหนึ่งๆ ท่านทำเกือบตลอด 24 ชั่วโมงยกเว้นตอนหลับเท่านั้น ส่วนผมทำได้แค่ 1-2 ชั่วโมง แถมบางวันก็ไม่ได้ทำเสียอีก แล้วอย่างนี้จะให้ได้ผลเหมือนอย่างท่านได้ยังไง ผมว่าไม่ว่าใครก็ตาม ถ้าทำได้เหมือนอย่างท่าน คือทำได้เกือบตลอด 24 ชั่วโมงในแต่ละวัน เขาก็จะสามารถทำลายกิเลสราคะให้หมดสิ้นไปจากใจได้เหมือนกันกับท่านหมดนั่นแหละ แต่นี่มีแต่อ่อนแอ ขี้เกียจกันอยู่ จะไปรู้ธรรมเห็นธรรมทำลายกิเลสได้เหมือนท่านได้ยังไง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2012, 08:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


<ตะวัน> เขียน:

ครับ ไม่ประมาท นั่นล่ะดีแล้ว
จะว่าอะไรกับเด็กหัดใหม่อย่างเรา
ขนาดองค์หลวงตาขนาดว่าตอนนั้นท่านเก่งมากแล้ว(ชำนาญในการเพ่งอสุภะ)
ท่านยังรีบตัด(คือท่านลองดูเหมือนที่คุณ Bigฯ ทำนี่แหละ
คือกำหนดรูปสาวสวยๆขึ้นในจิต พอจิตมีอาการจะกำหนัดนิดๆ

ท่านรีบตัดทิ้งทันที(ปิดเว็บโป๊ทันที ความหมายทำนองนั้น) แล้วกำหนดรูปอสุภะต่อไป

[/color][/size]


อิอิ....มีใครบางคนบอกว่าท่าน....รีบตัดทิ้งทันที...เหมือนปิดเว็ปโป๊...ทำนองนั้น

ผมก็ว่า....ท่านไม่ได้หดหัวเข้ากระดอง...อย่าที่คิด

คุณตะวัน....ก็มาใช้คำว่า...รู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง....อยู่นี้งัย

:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2012, 16:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2012, 21:02
โพสต์: 127


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
<ตะวัน> เขียน:

ครับ ไม่ประมาท นั่นล่ะดีแล้ว
จะว่าอะไรกับเด็กหัดใหม่อย่างเรา
ขนาดองค์หลวงตาขนาดว่าตอนนั้นท่านเก่งมากแล้ว(ชำนาญในการเพ่งอสุภะ)
ท่านยังรีบตัด(คือท่านลองดูเหมือนที่คุณ Bigฯ ทำนี่แหละ
คือกำหนดรูปสาวสวยๆขึ้นในจิต พอจิตมีอาการจะกำหนัดนิดๆ

ท่านรีบตัดทิ้งทันที(ปิดเว็บโป๊ทันที ความหมายทำนองนั้น) แล้วกำหนดรูปอสุภะต่อไป

[/color][/size]


กบนอกกะลา เขียน:

อิอิ....มีใครบางคนบอกว่าท่าน....รีบตัดทิ้งทันที...เหมือนปิดเว็ปโป๊...ทำนองนั้น

ผมก็ว่า....ท่านไม่ได้หดหัวเข้ากระดอง...อย่าที่คิด

คุณตะวัน....ก็มาใช้คำว่า...รู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง....อยู่นี้งัย

:b32: :b32:






<ตะวัน> เขียน:

ท่านรีบตัดทิ้งทันที(ปิดเว็บโป๊ทันที ความหมายทำนองนั้น)
ก็คือท่านใช้ธรรมะข้อ...สังวรธรรม(รู้หลบเป็นปีกฯ)...สำรวมใจระงับใจให้หยุดปรุงเรื่องสุภะทันที
ไม่ไปปรุงสุภะให้ราคะในใจมันได้อาหารเพิ่มอีก เพราะถ้ายังฝืนไปปรุงต่อจะทำให้เกิดยินดีในราคะมากขึ้นเรื่อยๆเท่ากับราคะมีกำลังมากขึ้นเรื่อยๆ


คือตัดทิ้งหยุดการคิดที่จะทำให้ราคะมีกำลังกำเริบขึ้นในทันทีด้วย...สังวรธรรม...
แล้วใช้อสุภะ(เปรียบได้กับใช้ปัญญาใช้ดาบ)หั่นคอกิเลสราคะ
เพื่อให้มันขาดกระเด็นจากใจท่านให้ได้อีกต่อไป
จนในที่สุดมันก็ขาดได้ในที่สุด...ทำให้ท่านได้...พระอนาคามี...ในระยะนี้


นี่ขนาดว่าจิตท่านแก่กล้ามากแล้วท่านก็ยังต้องใช้...สังวรธรรม(สำรวมใจไม่ให้ปรุงสุภะต่อ
เมื่อรู้ว่ามันยังไม่หมดไปจากใจท่านเพื่อไม่ให้ราคะมันได้กำลังเพิ่ม)
และต้องใช้ทั้งอสุภะซึ่งเปรียบได้กับดาบกับปัญญา
พิจารณาตัดฟันราคะให้ขาดสิ้นไปจากใจท่านให้ได้จนสำเร็จ

คือสรุปแล้วก็ใช้ทั้งสังวรธรรมใช้ทั้งอสุภะด้วยกันทั้งสองอย่างจนทำลายราคะได้ในที่สุด
ส่วนสุภะใช้แค่ทดสอบดูใจว่า...ในใจยังเหลือตัวราคะอยู่หรือเปล่า...เท่านั้นเอง
ไม่ได้เอา...สุภะ...ไปใช้ฆ่าทำลายราคะอย่างเด็ดขาด

หรือคุณกบฯคิดว่าท่านกำหนดสุภะเพื่อเอาไปใช้ทำลายราคะงั้นเหรอ???

ท่านกำหนดสุภะก็เพื่อทดสอบว่ายังเหลือราคะอยู่หรือเปล่าต่างหาก
ถ้ารู้ว่ายังมีเหลืออยู่ก็ต้องได้รีบระงับรีบหยุดด้วย...สังวรธรรม(รู้หลบเป็นปีกฯ)ทันที....
แล้วใช้ดาบทางปัญญา...พิจารณาอสุภะ...ฟันต่อไป จนมันขาดจากใจได้ในที่สุด






(กบในกะลาเขียน)อิอิ....มีใครบางคนบอกว่าท่าน....รีบตัดทิ้งทันที...เหมือนปิดเว็ปโป๊...ทำนองนั้น
แล้วท่านตัดทิ้งหยุดกำหนดสุภะทันที จริงๆ ใช่หรือเปล่าเล่า??????????
แล้วเหมือนกับปิดเว็บโป๊ทำนองนั้นใช่เหรอเปล่าล่ะ???????

(กบในกะลาเขียน)ผมก็ว่า....ท่านไม่ได้หดหัวเข้ากระดอง...อย่าที่คิด
อย่าไปใช้คำว่า...หดหัวในกระดอง...ซึ่งเป็นคำที่ใช้เปรียบดูถูกคนขี้ขลาดไม่กล้าสู้อะไรไปใช้กับท่าน
มันไม่เหมาะสม ถ้าใช้สามัญสำนึกให้มากสักหน่อย จะไม่กล้าใช้คำต่ำๆอย่างนี้กับ ผู้เป็นนักปราชญ์อย่างองค์หลวงตา
ต้องใช้ว่า...เมื่อท่านรู้ว่าในใจยังมีราคะเหลืออยู่ ท่านก็ใช้ธรรมะข้อสังวรธรรมรู้หลบเป็นปีกหยุดระงับการกำหนดสุภะทันที

(กบในกะลาเขียน)คุณตะวัน....ก็มาใช้คำว่า...รู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง....อยู่นี้งัย

แล้วจะให้ผมใช้
คำต่ำๆอย่างนั้นกับองค์หลวงตา ได้อย่างคุณกบฯหรือ

...............ผมมี
สามัญสำนึกอยู่ ผมทำไม่ได้หรอกครับท่านกบฯ...............





โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2012, 17:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


เป็น..คุณตะวันเอง...ต่างหาก....ที่ใช้คำไม่เหมาะสมกับองค์หลวงตา..หุหุ

หลวงตาไม่ได้หลบ...ไม่ได้หลีกอะไร...อะไร...อย่างที่คุณตะวัน...คิดเอาเอง

ที่ต้องหลบ...ต้องหลีก...นั้น...เขาใช้กับไอ้พวกไก่อ่อนหัดขัน...อย่างคุณตะวัน....รึ..รวมถึงผมด้วยก็ได้...มันถึงจะเหมาะสม

หุหุ.... :b32: เข้าจั้ยย...!!!


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2012, 17:45 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ท่านไม่ได้หลบ....ด้วยพิจารณาอสุภะ....ท่านใช้ภาพ..อสุภะเพื่อแก้ปัญหา..ตรง..ๆ....ไม่ได้ใช้เพื่อการสังวรระวังไม่ให้อกุศลเกิด....อย่างที่คุณตะวันเข้าใจว่า...เหมือนกับปิดเว็ปโป๊...ที่คุณตะวันทำ...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ส.ค. 2012, 19:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


ผมว่าการปฎิบัติธรรมก็มีกลยุทธ์กันไปต่างๆนาๆ แตกต่างกันบ้างไกลเคียงกันบ้าง แต่ผมชอบแบบคุณตะวันนะมันเห็นใจชัดดี เข้าไปตรงๆเลยห้ามใจได้ก็ถือว่าชนะ ไม่ต้องอ้อมตรงๆเลย มันได้ผลมากจะบอกให้เพราะพระพุทธองค์ก็ทรงสั่งสอนสาวกของท่าน ให้ปาติโมกขสังวรศิล ใครคิดว่าเป็นสาวกก็หยิบยกมาใช้ได้น่า! :b19: ไม่ต้องแบงแยกฆารวาสหรือพระหรอกใช้ได้ทั้งนั้นล่ะครับ มีแต่ไม่กล้าหรือกลัวกันน๊า!อิๆๆ! :b12: ประชดนะนี่ไม่มีใครเชื่อเดี๋ยวจะหาว่าไม่บอกกันว่ามันสุดยอดขนาดไหน :b4: :b4: :b4:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ส.ค. 2012, 04:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตลกดีครับ สร้างปัญหาตามใจตัวเอง แล้วบอกว่าต้องแก้แบบโน้นแบบนี้
อย่างนี้เขาไม่ได้เรียกว่าธรรมหรือธรรมชาติหรอกครับ มันเป็นการปรุงแต่งจินตนาการ
ตั้งแต่ต้น ปัญหาทางธรรมแต่ละอย่างมันมาโดยไม่ให้เราตั้งตัวหรอกครับ

เรื่องอสุภะนี่ก็เหมือนกัน เอาครูบาอาจารย์มาอ้าง ไม่คิดว่าจะกระเทือนถึงท่านมั้ย
ดูเรื่องที่คุยกันซิ มันเรื่องกามเรื่องอย่างว่า ดันไปเอาองค์หลวงตาซึ่งเป็นพระมาเปรียบ

แล้วไอ้เรื่องอสุภะกรรมฐานนี่น่ะ เขาเอาไว้เป็นเครื่องมือกดข่มนิวรณ์
ไม่ให้มีกำลัง จะได้ทำวิปัสสนาได้

มันไม่ใช่ธรรมเพื่อดับกิเลส การดับกิเลสต้องอาศัยสัมมาทิฐิ
มองลงไปถึงสภาพความเป็นจริงของขันธ์ห้า ไม่ใช่ไปสร้างเรื่องผีเน่า
แบบนี้เรียกว่า.. เอาการปรุงแต่งไปแทนที่การปรุงแต่ง เปลี่ยนคุณสมบัติของกิเลส

เปิดเว็บเห็นภาพโป๊ ก็ต้องดูไปที่ภาพแล้วรู้ว่านี่คือผัสสะเกิดวิญญาณ
เวทนา สัญญา และสังขาร ให้รู้ว่ามันเกิดกระบวนการขันธ์ดูไปตามความเป็นจริง
มันต้องเกิดตามกฎธรรมชาติ แบบนี้จิตจะเป็นผู้ดูไม่ใช่ผู้เป็น


ไม่ใช่เอะอะปิดเว็บโป๊หนีผัสสะ เมื่อเห็นแล้วต่อให้ปิดทวารทั้งหมด
ไม่ดู ไม่ฟัง ไม่สัมผัส ไม่ดม ไม่ลิ้มรส แต่มันยังมีอีกทวารที่ปิดไม่ได้
แม้กระทั้งพระโสดาบัน นั้นก็คือมโนทวาร เห็นภาพนั้นแล้วต่อให้ปิดตา
ภาพมันก็ยังไปปรากฎในมโนทวารครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ส.ค. 2012, 19:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.ค. 2012, 21:02
โพสต์: 127


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
ตลกดีครับ สร้างปัญหาตามใจตัวเอง แล้วบอกว่าต้องแก้แบบโน้นแบบนี้
อย่างนี้เขาไม่ได้เรียกว่าธรรมหรือธรรมชาติหรอกครับ มันเป็นการปรุงแต่งจินตนาการ
ตั้งแต่ต้น ปัญหาทางธรรมแต่ละอย่างมันมาโดยไม่ให้เราตั้งตัวหรอกครับ

เรื่องอสุภะนี่ก็เหมือนกัน เอาครูบาอาจารย์มาอ้าง ไม่คิดว่าจะกระเทือนถึงท่านมั้ย
ดูเรื่องที่คุยกันซิ มันเรื่องกามเรื่องอย่างว่า ดันไปเอาองค์หลวงตาซึ่งเป็นพระมาเปรียบ

แล้วไอ้เรื่องอสุภะกรรมฐานนี่น่ะ เขาเอาไว้เป็นเครื่องมือกดข่มนิวรณ์
ไม่ให้มีกำลัง จะได้ทำวิปัสสนาได้

มันไม่ใช่ธรรมเพื่อดับกิเลส การดับกิเลสต้องอาศัยสัมมาทิฐิ
มองลงไปถึงสภาพความเป็นจริงของขันธ์ห้า ไม่ใช่ไปสร้างเรื่องผีเน่า
แบบนี้เรียกว่า.. เอาการปรุงแต่งไปแทนที่การปรุงแต่ง เปลี่ยนคุณสมบัติของกิเลส

เปิดเว็บเห็นภาพโป๊ ก็ต้องดูไปที่ภาพแล้วรู้ว่านี่คือผัสสะเกิดวิญญาณ
เวทนา สัญญา และสังขาร ให้รู้ว่ามันเกิดกระบวนการขันธ์ดูไปตามความเป็นจริง
มันต้องเกิดตามกฎธรรมชาติ แบบนี้จิตจะเป็นผู้ดูไม่ใช่ผู้เป็น


ไม่ใช่เอะอะปิดเว็บโป๊หนีผัสสะ เมื่อเห็นแล้วต่อให้ปิดทวารทั้งหมด
ไม่ดู ไม่ฟัง ไม่สัมผัส ไม่ดม ไม่ลิ้มรส แต่มันยังมีอีกทวารที่ปิดไม่ได้
แม้กระทั้งพระโสดาบัน นั้นก็คือมโนทวาร เห็นภาพนั้นแล้วต่อให้ปิดตา
ภาพมันก็ยังไปปรากฎในมโนทวารครับ



ตะวัน เขียน:

ล็อคเป้าเอาไว้ก่อนแล้วกัน...เดี๋ยวเกิดกลัวแล้วเผ่นหนีขึ้นมา
จะอดเชือดหมูน้อยตัวอ้วนๆน่ากินน่าหม่ำอย่างนี้กันพอดี
มาเข้าถ้ำเสือตะวันแล้วอย่าหวังว่าจะรอดไปได้ง่ายๆนะจ๊ะ

ท่านbigtoo...รีบมาปูเสื่อจองที่นั่งชั้นริงไซน์ ไวๆนะครับ
วันนี้มีทีเด็ด...ไว้แก้เผ็ด...หมูน้อยอวดดีอวดเก่ง...อย่างท่านโฮฯซะบ้าง
รับรองวันนี้ ท่านbigtoo ได้ก๊ากกกกกก เต็มที่แน่ๆ
เรียนเชิญ...ท่านกรัชกาย...ด้วยนะครับ มาดูหมูน้อยถูกเชือดวันนี้กัน
พอเชือดแล้วก็เชิญ...ท่านกรัชกาย...มากินลาบหมูน้อยกันด้วยนะครับ
รับรองว่าผมเอาหมูน้อยตัวนี้มาทำลาบได้อร่อยแน่นอน



ขอเตือนสาวๆไว้ก่อนว่าอย่าเข้ามาเน้อ
เพราะออกแนว
เรตเอ็กซ์XXXเต็มที่นะงั๊บ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ส.ค. 2012, 20:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 14:54
โพสต์: 2805


 ข้อมูลส่วนตัว


<ตะวัน> เขียน:
โฮฮับ เขียน:
ตลกดีครับ สร้างปัญหาตามใจตัวเอง แล้วบอกว่าต้องแก้แบบโน้นแบบนี้
อย่างนี้เขาไม่ได้เรียกว่าธรรมหรือธรรมชาติหรอกครับ มันเป็นการปรุงแต่งจินตนาการ
ตั้งแต่ต้น ปัญหาทางธรรมแต่ละอย่างมันมาโดยไม่ให้เราตั้งตัวหรอกครับ

เรื่องอสุภะนี่ก็เหมือนกัน เอาครูบาอาจารย์มาอ้าง ไม่คิดว่าจะกระเทือนถึงท่านมั้ย
ดูเรื่องที่คุยกันซิ มันเรื่องกามเรื่องอย่างว่า ดันไปเอาองค์หลวงตาซึ่งเป็นพระมาเปรียบ

แล้วไอ้เรื่องอสุภะกรรมฐานนี่น่ะ เขาเอาไว้เป็นเครื่องมือกดข่มนิวรณ์
ไม่ให้มีกำลัง จะได้ทำวิปัสสนาได้

มันไม่ใช่ธรรมเพื่อดับกิเลส การดับกิเลสต้องอาศัยสัมมาทิฐิ
มองลงไปถึงสภาพความเป็นจริงของขันธ์ห้า ไม่ใช่ไปสร้างเรื่องผีเน่า
แบบนี้เรียกว่า.. เอาการปรุงแต่งไปแทนที่การปรุงแต่ง เปลี่ยนคุณสมบัติของกิเลส

เปิดเว็บเห็นภาพโป๊ ก็ต้องดูไปที่ภาพแล้วรู้ว่านี่คือผัสสะเกิดวิญญาณ
เวทนา สัญญา และสังขาร ให้รู้ว่ามันเกิดกระบวนการขันธ์ดูไปตามความเป็นจริง
มันต้องเกิดตามกฎธรรมชาติ แบบนี้จิตจะเป็นผู้ดูไม่ใช่ผู้เป็น


ไม่ใช่เอะอะปิดเว็บโป๊หนีผัสสะ เมื่อเห็นแล้วต่อให้ปิดทวารทั้งหมด
ไม่ดู ไม่ฟัง ไม่สัมผัส ไม่ดม ไม่ลิ้มรส แต่มันยังมีอีกทวารที่ปิดไม่ได้
แม้กระทั้งพระโสดาบัน นั้นก็คือมโนทวาร เห็นภาพนั้นแล้วต่อให้ปิดตา
ภาพมันก็ยังไปปรากฎในมโนทวารครับ



ตะวัน เขียน:

ล็อคเป้าเอาไว้ก่อนแล้วกัน...เดี๋ยวเกิดกลัวแล้วเผ่นหนีขึ้นมา
จะอดเชือดหมูน้อยตัวอ้วนๆน่ากินน่าหม่ำอย่างนี้กันพอดี
มาเข้าถ้ำเสือตะวันแล้วอย่าหวังว่าจะรอดไปได้ง่ายๆนะจ๊ะ

ท่านbigtoo...รีบมาปูเสื่อจองที่นั่งชั้นริงไซน์ ไวๆนะครับ
วันนี้มีทีเด็ด...ไว้แก้เผ็ด...หมูน้อยอวดดีอวดเก่ง...อย่างท่านโฮฯซะบ้าง
รับรองวันนี้ ท่านbigtoo ได้ก๊ากกกกกก เต็มที่แน่ๆ
เรียนเชิญ...ท่านกรัชกาย...ด้วยนะครับ มาดูหมูน้อยถูกเชือดวันนี้กัน
พอเชือดแล้วก็เชิญ...ท่านกรัชกาย...มากินลาบหมูน้อยกันด้วยนะครับ
รับรองว่าผมเอาหมูน้อยตัวนี้มาทำลาบได้อร่อยแน่นอน



ขอเตือนสาวๆไว้ก่อนว่าอย่าเข้ามาเน้อ
เพราะออกแนว
เรตเอ็กซ์XXXเต็มที่นะงั๊บ
ผมขอจองริงไซน์นะ :b12: ขอเป็นลาบหมูทางภาคเหนือนะอร่อยดี :b12:

.....................................................
อย่าลืมทำกิจในอริยสัจ
เราจะเดินให้สุดทาง http://www.thaidhamma.net


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ส.ค. 2012, 20:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ข้าวเหนียวส้มตำมารอแล้ว :b22: .. ได้ยังละเนียะลาบหมู :b22: :b22:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ส.ค. 2012, 20:52 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


<ตะวัน> เขียน:

ตะวัน เขียน:

ล็อคเป้าเอาไว้ก่อนแล้วกัน...เดี๋ยวเกิดกลัวแล้วเผ่นหนีขึ้นมา
จะอดเชือดหมูน้อยตัวอ้วนๆน่ากินน่าหม่ำอย่างนี้กันพอดี
มาเข้าถ้ำเสือตะวันแล้วอย่าหวังว่าจะรอดไปได้ง่ายๆนะจ๊ะ

ท่านbigtoo...รีบมาปูเสื่อจองที่นั่งชั้นริงไซน์ ไวๆนะครับ
วันนี้มีทีเด็ด...ไว้แก้เผ็ด...หมูน้อยอวดดีอวดเก่ง...อย่างท่านโฮฯซะบ้าง
รับรองวันนี้ ท่านbigtoo ได้ก๊ากกกกกก เต็มที่แน่ๆ
เรียนเชิญ...ท่านกรัชกาย...ด้วยนะครับ มาดูหมูน้อยถูกเชือดวันนี้กัน
พอเชือดแล้วก็เชิญ...ท่านกรัชกาย...มากินลาบหมูน้อยกันด้วยนะครับ
รับรองว่าผมเอาหมูน้อยตัวนี้มาทำลาบได้อร่อยแน่นอน


ขอเตือนสาวๆไว้ก่อนว่าอย่าเข้ามาเน้อ
เพราะออกแนว
เรตเอ็กซ์XXXเต็มที่นะงั๊บ


นี้นะ.....คนถือศีล 8...

ถุยย...


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กระทู้นี้ถูกล็อก คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความ หรือ ตอบกลับในกระทู้นี้  [ 145 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 6, 7, 8, 9, 10  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร


cron