วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 05:04  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 164 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 7, 8, 9, 10, 11  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2012, 10:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


ให้ทาง เขียน:
ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
ขอประทานโทษเสริมนะครับ
มรรค 8 ไม่ใช่แนวทางให้นำเอามาปฏิบัติ แต่เป็น ผลที่ได้ จากการ
เห็นความจริงของธรรมชาติ ตามกฎไตรลักษณ์ ไม่ว่าพระสงฆ์ คนธรรมดา ถ้าปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าถูกต้องก็จะได้ผลออกมาเป็น มรรค 8 (มรรคผล ไม่ใช่ มรรคเหตุ) เหตุมาจาก
การวิปัสสนาภาวนา พิจารณาขันธ์ 5 และ อายตนะทั้ง 6

อริยะสัจจ ๔ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค แบ่งได้สองอย่างตือ เหตุและผล

สมุทัย เป็นเหตุ ทุกข์ เป็นผล
มรรค เป็นเหตุ นิโรธ เป็นผล


การอธิบายธรรมต้องมีจุดจบคือผล คุณไม่เที่ยงฯ วนเวียนอยู่แต่กับ "มรรค"และ"ปัญญา ศีล สมาธิ"
วน Loop หาจุดจบไม่ได้ ระวัง "ความเห็นผิด" ด้วยนะ :b1:





อริยะสัจ 4

1. ทุกข์ คือ สภาพที่ทนได้ยาก ความลำบาก

2. สมุทัย สาเหตุแห่งทุกข์ ก็คือความไม่เที่ยงตามกฎไตรลักษณ์ สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ นำพาให้เราเกิดความโลภ โกรธ หลง สุดท้ายทุกข์ตามมา

3. นิโรธ คือ ความดับทุกข์ ก็เอาความจริงตามกฎไตรลักษณ์ (ปัญญา) สรรพสิ่งเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป มาดับเหตุแห่งทุกข์

4. มรรค คือ ผลที่ได้จากการดับเหตุแห่งทุกข์ มรรคมีองค์ 8 เกิดขึ้นครบถ้วน

ปัญญา ศีล สมาธิ คือมรรคมีองค์ 8 คือผลที่ได้จาการดับเหตุแห่งทุกข์ แต่ปัจจุบันคนไม่รู้ นำผลที่ได้คือ มรรค เอามาเป็นแนวทางในการปฏิบัติ


พระพุทธเจ้าทรงเห็นความจริงของธรรมชาติตามกฎไตรลักษณ์ เห็นทุกข์ เอามาวิเคราะห์หาทางดับเหตุแห่งทุกข์ ได้ผลออกมาเป็นมรรคมีองค์ 8 (มรรค) เราต้องศึกษาหาว่าท่านเอาอะไรมาดับสาเหตุแห่งทุกข์ได้ นั้นก็คือ ปัญญา หรือสัมมาทิฐิ แล้วปัญญาของท่านที่เอามาดับทุกข์ได้นั้นมาจากไหน นั้นก็คือการวิปัสสนาภาวนา พิจารณาขันธ์ 5 และอายตนะภายในทั้ง 6 นั้นเอง

มรรค คือ ผล
เคยได้ยินคำว่า มรรคผลนิพพานไหมครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2012, 10:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 14:17
โพสต์: 260

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณ ไม่เที่ยง เกิดดับ คร้าบบบบ ผมเห็นการกระทำของคุณแล้วผมขอบอกว่ารำคาญกระทู้ของคุณมากๆ เพราแต่ละกระทู้นี่ไร้สาระทั้งนั้น เป็นกระทู้ขยะทั้งนั้นเลย ผมรู้ครับว่าการที่คุณตั้งกระทู้ลักษณะนี้ก็เพราะว่าคุณต้องการสิ่งนี้

รูปภาพ


รูปภาพ


รูปภาพ


เพราะสิ่งเหล่านี้ทำให้คุณภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก แต่กระทู้ของคุณไม่ได้มีเนื้อหาสาระอะไรเลย หากคุณต้องการสิ่งเหล่านั้นมากจริงๆ จนทนไม่ได้ ก็ขอให้เอาอะไรที่มันมีสาระกว่านี้มาโพสต์หน่อยนะครับ ไม่ใช่โพสสะเปะสะปะ โพสต์มั่วๆ

ฮ๊าฮาอ่ะ ฮากลิ้งตะลุ๊บตุ๊บป่อง นะข่ะ ๆๆ

.....................................................
สิ่งใดในโลกล้วน อนิจจัง คงแต่บาปบุญยัง เที่ยงแท้
คือเงาติดตัวตรัง ตรึงแน่ อยู่นา ตามแต่บุญบาปแล้ ก่อเกื้อ รักษา

รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2012, 14:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ธ.ค. 2010, 11:11
โพสต์: 94


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:

มรรค คือ ผล
เคยได้ยินคำว่า มรรคผลนิพพานไหมครับ

คุณ ไม่เที่ยงฯ เข้าใจว่ายังไงครับ? :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2012, 14:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 22:55
โพสต์: 213

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ผมกำลังนึกว่าอ่านบอร์ดการเมืองอยู่นะนี่ในหลายๆ แง่ :b12:

ง่ายๆ สั้นๆ ก่อนที่มันจะยาว ไม่ว่าฝ่ายใดก็ตามเอาใจตนเองเป็นพยาน ท่านจิตรวมกี่ครั้งแล้ว หากว่าหลายครั้งแล้ว ก็เชิญสนทนากันต่อ ส่วนผมยังไม่ได้ จึงแวะมาทักทาย :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2012, 15:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


ให้ทาง เขียน:
ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:

มรรค คือ ผล
เคยได้ยินคำว่า มรรคผลนิพพานไหมครับ

คุณ ไม่เที่ยงฯ เข้าใจว่ายังไงครับ? :b1:


มรรค หรือ มรรคมีองค์ 8 คือผลการตรัสรู้เห็นความจริงของธรรมชาติตามกฎไตรลักษณ์ ผลจากการเห็นทำให้เกิด ปัญญา หรือ สัมมาทิฐิ (ความเห็นชอบ เห็นถูกต้อง) เมื่อเห็นชอบย่อมคิดชอบ พูดชอบ กระทำชอบ อาชีพชอบ พยายามชอบ สติชอบ สมาธิชอบ มรรคมีองค์ 8 เกิดขึ้นครบ ชาวพุทธไม่เข้าใจนำเอาโอวาทปาฏิโมกข์ ซึ่งเป็นโอวาท ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงกับพระสงฆ์อริยบุคคล (พระอรหันต์ 1,250 รูป)คือผู้มีปัญญาแล้ว ซึ่งรู้อันไหนเป็นเหตุ อันไหนเป็นผล ที่ว่า
1. ละชั่ว
2. ทำดี
3. ทำจิตใจให้บริสุทธิ์
ไม่เข้าใจ ตีความไม่แตก ก็ไปละการทำชั่ว ก็คือถือศีล
ทำความดี และไปนั่งทำสมาธิเพื่อให้จิตใจบริสุทธิ์ ทั้งหมดนี้เป็นส่วนของผลที่ได้จากการดับเหตุแห่งทุกข์ของผู้มีปัญญาแล้ว ไม่ใช่แนวทางในการปฏิับัติ การปฏิบัติต้องวิปัสสนาภาวนา หรือเจริญปัญญาเท่านั้น 1. ละชั่ว (ปัญญา) 2. ทำดี (ศีล) 3.ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ (สมาธิ)
สรุปแล้ว โอวาทปาฏิโมกข์ก็คือ มรรคมีองค์ 8


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2012, 15:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


มรรค หรือ มรรคมีองค์ 8 คือผลการตรัสรู้เห็นความจริงของธรรมชาติตามกฎไตรลักษณ์

ถ้าไม่มี มรรค จะ ตรัสรู้ ได้มั๊ย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2012, 15:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
มรรค หรือ มรรคมีองค์ 8 คือผลการตรัสรู้เห็นความจริงของธรรมชาติตามกฎไตรลักษณ์

ถ้าไม่มี มรรค จะ ตรัสรู้ ได้มั๊ย

โพธิปักขิยธรรมเป็นมรรคขององค์แปด
องค์แปดเป็นมรรคขององค์สิบ

ฮาโล! นิพพาน :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2012, 16:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ธ.ค. 2010, 11:11
โพสต์: 94


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณไม่เที่ยงฯ ครับ คุณเอา มรรคแปด ไปปนกับ โลกุตรธธรม ๙ ได้ยังไง
มรรคมีแปดข้อ หมายถึงแนวทางที่เป็นไปเพื่อหลุดพ้นขึ้นต้นด้วย สัมมาทิฏฐิ ฯลฯ

มรรคผลนิพพาน นั้นหมายถึง โลกุตรธรรม ๙ อันได้แก่ มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑
ซึ่งหมายถึง ท่านผู้เพียรพยายามละสังโยชญ์ ๑๐ เพื่อบรรลุธรรมเป็นพระริยะเจ้า

มรรค ๔ คือ โสดาปัตติมรรค สกิทาคามีมรรค อนาคามีมรรค อรหันตมรรค
ผล ๔ คือ โสดาปัตติผล สกิทาคามีผล อนาคามีผล อรหันตผล
นิพพาน ๑ คือ นิพพาน

ไม่ว่ามรรคแปด ในอริยะสัจจ ๔ หรือมรรคในโลกุตรธรรม ๙ เป็นแนวทางหรือปฏิปทาที่ควรเจริญ
เพื่อทำให้แจ้งซึ่ง นิโรธ (ผลของการดับทุกข์โดยการปฏิบัติตามมรรค) ทั้งสิ้น

นิโรธจึงเป็นผล จากการดำเนินการตามรรควิธีอันมี สัมมาทิฏฐิเป็นเบื้องต้น :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2012, 16:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
มรรค หรือ มรรคมีองค์ 8 คือผลการตรัสรู้เห็นความจริงของธรรมชาติตามกฎไตรลักษณ์

ถ้าไม่มี มรรค จะ ตรัสรู้ ได้มั๊ย



ใช่ครับไม่มีมรรค ก็ตรัสรู้ไม่ได้ครับ มรรค คือผลจาการวิปัสสนาภาวนา (ถูกวิธี)
ไม่มีมรรคก็ไม่เกิดสัมมาทิฐิ (เห็นผิด) ก็ไม่มีปัญญา ก็ดับกิเลสไม่ได้ จิตก็ไม่บริสุทธิ์ไปสู่มรรคผลนิพพานไม่ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2012, 16:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


ให้ทาง เขียน:
มรรคผลนิพพาน นั้นหมายถึง โลกุตรธรรม ๙ อันได้แก่ มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑
ซึ่งหมายถึง ท่านผู้เพียรพยายามละสังโยชญ์ ๑๐ เพื่อบรรลุธรรมเป็นพระริยะเจ้า
อริยะสัจ ๔ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค แบ่งได้สองอย่างตือ เหตุและผล

สมุทัย เป็นเหตุ ทุกข์ เป็นผล
มรรค เป็นเหตุ นิโรธ เป็นผล
ผมก็ฟังและรู้มาแบบนี้เหมือนกัน ครับ
ส่วนมรรค มีองค์ 8 นั้น คือข้อปฎิบัติ สำหรับให้ได้นิโรธ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2012, 23:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


din เขียน:
........
ง่ายๆ สั้นๆ ก่อนที่มันจะยาว ไม่ว่าฝ่ายใดก็ตามเอาใจตนเองเป็นพยาน ท่านจิตรวมกี่ครั้งแล้ว หากว่าหลายครั้งแล้ว ก็เชิญสนทนากันต่อ ส่วนผมยังไม่ได้ จึงแวะมาทักทาย :b9:

:b32: :b32:
บางคนเขาไม่เอาฌาณเอาญาณ....
รวมใหญ่รวมเล็ก..อะไรนี้นะ...ก็คงไม่เอาด้วย..มั้ง :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2012, 23:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
........
มรรค คือ ผล
เคยได้ยินคำว่า มรรคผลนิพพานไหมครับ

:b12: :b12:
เห็นท่านอื่น...แสดงไปแล้ว

ขอส่งคลื่นรบกวนหน่อยหนึ่ง... :b9: :b9:

ถ้ามรรคคือผล...อยู่แล้ว

ก็เขียนว่า....ผลผลนิพพาน...ไปเลยซิเน๊าะ

s002 s002


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ม.ค. 2012, 11:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


อริยะสัจ 4

1. ทุกข์ คือ สภาพที่ทนได้ยาก ความลำบาก

2. สมุทัย สาเหตุแห่งทุกข์ ก็คือความไม่เที่ยงตามกฎไตรลักษณ์ สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ นำพาให้เราเกิดความโลภ โกรธ หลง สุดท้ายทุกข์ตามมา

3. นิโรธ คือ ความดับทุกข์ /การดับทุกข์ ก็เอาความจริงตามกฎไตรลักษณ์มาดับความเชื่อ หรือ อวิชชา

4. มรรค คือ ผลที่ได้จากการดับเหตุแห่งทุกข์ มรรคมีองค์ 8 เกิดขึ้นครบถ้วน
ทุกข์ เป็น ผล (ยังไม่ได้ดับเหตุแห่งทุกข์)
สมุทัย เป็น เหตุแห่งทุกข์
นิโรธ เป็น วิธีการดับทุกข์
มรรค เป็น ผลจากการดับทุกข์


แก้ไขล่าสุดโดย ไม่เที่ยง เกิดดับ เมื่อ 09 ม.ค. 2012, 11:44, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ม.ค. 2012, 11:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณไม่เที่ยงจะบัญญัติธรรมใหม่เองแล้วใช่มั้ย
กล่าวค้านพระสัทธรรมโดยแท้


แก้ไขล่าสุดโดย ปฤษฎี เมื่อ 09 ม.ค. 2012, 11:46, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ม.ค. 2012, 11:45 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
อริยะสัจ 4

1. ทุกข์ คือ สภาพที่ทนได้ยาก ความลำบาก

2. สมุทัย สาเหตุแห่งทุกข์ ก็คือความไม่เที่ยงตามกฎไตรลักษณ์ สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ นำพาให้เราเกิดความโลภ โกรธ หลง สุดท้ายทุกข์ตามมา

3. นิโรธ คือ ความดับทุกข์ /การดับทุกข์ ก็เอาความจริงตามกฎไตรลักษณ์มาดับความเชื่อ หรือ อวิชชา

4. มรรค คือ ผลที่ได้จากการดับเหตุแห่งทุกข์ มรรคมีองค์ 8 เกิดขึ้นครบถ้วน

ทุกข์ เป็น ผล (ยังไม่ได้ดับเหตุแห่งทุกข์)
สมุทัย เป็น เหตุแห่งทุกข์
นิโรธ เป็น วิธีการดับทุกข์
มรรค เป็น ผลจากการดับทุกข์


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 164 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 7, 8, 9, 10, 11  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร