วันเวลาปัจจุบัน 17 ส.ค. 2025, 22:19  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 155 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 7, 8, 9, 10, 11  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ม.ค. 2012, 11:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
" อิทัปปัจจยตา - ปฏิจจสมุปบาท "


ไม่ใช่แค่แต่ท่องได้ จร้าาาาา

ต้องปฏิบัติให้เห็น/รู้ ถึงวงจรมันให้ได้ สักรอบเป็นอย่างน้อย จร้าาาาา

แล้วจึงจะเห็นแง่ นัยยะซ่อนเร้น

ที่พระพุทธองค์กล่าวกับพระอานนท์ ว่า ไม่ใช่ของง่าย จร้าาาาา

เราก็ยังรู้น้อยจร้าาาาา
ถ้าจะต้องฟัง ก็จะฟังจากผู้รู้จริงจร้าาาาาา


แก้ไขล่าสุดโดย eragon_joe เมื่อ 10 ม.ค. 2012, 11:24, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ม.ค. 2012, 11:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


สรรพสิ่งในโลกเป็น "สมมุติสัจจะ" เมื่อไปยึดมั่นถือมั่นก็เกิดต้นเหตุ โดยมีปัจจัยเป็นตัวส่งเสริมเหตุ ผลออกมาก็ทุกข์ เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่เที่ยง หรือเป็น ปรมัตถธรรม
"สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์สิ่งนั้นเป็นอนัตตา"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ม.ค. 2012, 11:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


เห็น กล่าว สังขาร
และ กล่าว การสร้างสังขารดับทุกข์

ก็เลย รู้สังขารเกิด-ดับ เกิด-ดับ
ทุกข์เกิด ทุกข์ดับ ทุกข์เกิด ทุกข์ดับ
บรรลุการเกิด-ดับ
และไปยึดดับ ดับ ดับ ที่เห็น ว่าใช่ที่หมาย

แต่การไม่เกิด ไม่ดับ ยังเข้าไม่ถึง
เพราะ ยังหยุดสังขารไม่ได้
หยุดสังขารไม่ได้
ก็เหมือนว่า ถ้ารถไฟไม่หยุด จะเดินเข้าประตูไปในโบกี้ได้อย่างไร

จะเปิด ประตูสู่การสภาวะที่จะสัมผัสธรรมอัน ไม่เกิด ไม่ดับ
สภาวะนั้น ไม่ใช่ถึงด้วยการคิด
แต่ ต้องเข้าถึงที่ ๆ สิ่งนั้นตั้งอยู่ และเปิดประตูเดินเข้าไป จร้าาาา

พร่ำ พร่ำ ส่งเดช จร้าาาาา

:b41: :b41: :b41:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ม.ค. 2012, 11:47 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


สังขาร คือความคิด
สังขารปรุงแต่งผิด เป็นอกุศล
สังขารปรุงแต่งถูก เป็นกุศล เห็นชอบ
แล้วจะแต่งสังขารให้ดีได้อย่างไรก็ต้องเอา ปัญญา มาตั้งให้เห็นความจริง

กระบวนการทำงานของจิตเป็นดังนี้
วิญญาณ > สัญญา (ความเชื่อ) > สังขาร > เวทนา (พอใจ ไม่พอใจ) > ตัณหา
วิญญาณ > สัญญา (ความจริง) > สังขาร > ปัญญา/สัมมาทิฐิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ม.ค. 2012, 12:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


ความคิดเป็นเลิศ

:b17: :b17: :b17:

ปัญญา เกิดร่วมกับ วิญญาณ แยกกันไม่ออกรับได้

ปัญญา เกิดร่วมกับ สัญญาแยกกันไม่ออก รับไม่ได้

พระสารีบุตรก็ กล่าวไว้แยกกันจร้า

วิญญาณ ปัญญา จร้า

วิญญาณ สัญญา เวทนา จร้า

เพราะ ติดคิด ไม่เคยหยุดได้
จึงไม่มีประสบการณ์ใหม่ ปรากฎให้ได้รู้ จร้า
จึงไม่เคยเห็น นัยข้อต้น (วิญญาณ/ปัญญา)จร้าาาาา

แต่ถ้าหยุดคิดได้เมื่อไร และรู้อยู่
จะเห็นลักษณะดังกล่าว จร้าาาา
...

เพราะยังรู้ไม่ทัน รู้ไม่ถึง จึงยังใช้มั่ว ใช้ตั้ว อยู่จร้าาาา

ผู้ที่รู้แล้ว เลิกใช้ จร้า
เพราะรู้แล้วว่า ความเชื่อเดิม ความยึดมั่นเดิม มันเป็นการบิดเบือนพระสูตร จร้าาา

:b12: :b16: :b16: :b12:

อิอิ เห็นเขามั่ว เราก็มั่วบ้าง อิอิ

:b4: :b4: :b4:


แก้ไขล่าสุดโดย eragon_joe เมื่อ 10 ม.ค. 2012, 12:20, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ม.ค. 2012, 12:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


วิญญาณ เกิดดับ
สัญญา เกิดดับ
สังขาร เกิดดับ
เวทนา เกิดดับ
ดังนั้น จิต เกิดดับ

จิต เกิดดับ
รูป เกิดดับ
ดังนั้น ขันธ์5 เกิดดับ

รูป เกิดดับ
เสียง เกิดดับ
กลิ่น เกิดดับ
รส เกิดดับ
สัมผัส เกิดดับ
ธรรมารมณ์ เกิดดับ
ดังนั้น อายตนะ 6 เกิดดับ

สรุปองค์ธรรมสั้นๆ แค่ "ไม่เที่ยง เกิดดับ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ม.ค. 2012, 12:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


จะศึกษาสั้น หรือจะศึกษายาว
ขอให้ศึกษาให้ถึงที่สุด
ขอให้ศึกษาให้เห็นแจ้ง น๊ะจ๊ะ

รู้ว่าถือให้จริง
และอย่างชะล่าใจว่า มันมีแค่นั้นให้รู้
เพราะ ธรรมที่ว่างจากการถือนั้นมีอยู่ จร้า
รู้ให้ถึงการวางการถือ-เกาะ-ยึด ให้ได้จริง ๆ น๊ะจ๊ะ

ปัญญาจากความว่าง
เป็น เขตแดนสงวน ไว้สำหรับผู้ที่เคยประสบจร้าาาา

ไม่ใช่ปัญญาที่จะมี บัญญัติ ทางโลกใด ๆ อธิบายได้จร้าาาา

:b4: :b4: :b4: :b4:

ความคิดเห็น จากน้องมั่ว หน้ามึน จร้าาาาา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ม.ค. 2012, 12:31 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


เพราะใจคิดลึกจึงเกิดการปรุงแต่ง ทำให้เกิดความพอใจ ไม่พอใจเกิดขึ้น นี่แหละตัวอย่างง่ายๆ แต่เรามองข้าม มองไม่เห็นมันเอง เพราะเรายังไม่รู้แจ้ง
ท่านเห็นไหมความพอใจ ไม่พอใจ เกิดกับเราตลอดเวลาโดยที่เราไม่รู้ตัว นี่แหละนำไปสู่ความทุกข์ใจ
onion onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ม.ค. 2012, 12:33 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


อายตนะ 6 ไม่ได้ดับที่การคิดน๊ะจ๊ะ

ก่อนมันจะดับ มันต้องรำงับเข้ามาเป็นลำดับ จร้าาาาา

ถ้าเป็นในแง่ธรรมที่ จิตเป็นวิถี รำงับ แล้วซะ
มันมีแต่ทิศทางการเคลื่อนที่ คลายออก จางออก จากอายตนะ จร้าาาา
และวิถีนั้น ถ้าไม่มีเจตนาใดเข้าไปแทรก เข้าไปซ้ำเติม
มันจะ ค่อย ๆ ไม่เข้าไปหาอายตนะนั้น ๆ จร้าาาาา

เห็นความ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ตลอดสาย
โดยไม่ต้องเอาความคิดเข้าไป กำกับจ้าาาาา

แต่ให้รู้เท่าทันสภาวะ จร้าาาาา

:b4: :b4: :b4:

อิอิ ฉลองวันคล้ายวันเกิดจร้า
เลย แจกมั่ว จร้าาาาาา

:b36: :b36: :b36:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2012, 16:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


และมันก็มีคำตอบที่พอใจจะตอบ
และมันก็มีคำตอบที่ไม่พอใจที่จะตอบ

เพราะ อะไร

:b38: :b38: :b38:


แก้ไขล่าสุดโดย eragon_joe เมื่อ 11 ม.ค. 2012, 16:59, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2012, 16:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
และมันก็มีคำตอบที่พอใจจะตอบ
และมันก็มีคำตอบที่ไม่พอใจที่จะตอบ

เพราะ

:b38: :b38: :b38:



เพราะ ความไม่เที่ยง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2012, 17:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


เพราะมันเจอสิ่งที่ไม่เที่ยง

แต่มันก็ยังมีใจที่พอใจในสิ่งที่ยึดอยู่
ก็เลยไม่พอใจที่จะเข้าไปชำแหละแนวทางที่ตนยึดนั้น
คือ เลือกปฏิบัติ ไม่เที่ยงเกิดดับ เป็นกรณี ๆ
มีการเลือกปฏิบัติ ไม่เที่ยงเกิดดับ เป็นกรณี ๆ

:b1:

สังขารมันเยอะ
บ่วงมันเยอะ
ตาข่ายที่ดักไว้ มันเยอะ

ยอมรับความจริง จริง ๆ ไม่ได้


แก้ไขล่าสุดโดย eragon_joe เมื่อ 11 ม.ค. 2012, 18:33, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2012, 17:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


ปิดหู ปิดตา ที่จะเปิดไปสู่ความจริง

ไม่แปลกใจ
เพราะแนวทางที่คุณปฏิบัติ
มันเน้นให้ท่องไม่เที่ยงเกิดดับ
ก่อนที่คนนั้นจะมีสำนึกในบาปเสียอีก

แค่ทุกข์ และอยากพ้นไปจากสภาวะนั้น
แบบง่าย ๆ

กิเลสมันถึงได้ยังปรากฎออกมา ทั้ง ๆ ที่ปากท่องไม่เที่ยงเกิดดับ

:b1:

ถ้ามีหนอนนั่นจริง ๆ
คือ มีผู้ท่องไม่เที่ยงเกิดดับ แต่ก็แสดงความประพฤติผิดในศีลออกมา
อย่างรู้ตัว ตั้งใจ และเจตนา
นั่นคุณคิดว่า เป็นเพราะเหตุใด

เพราะสินค้าได้มาตรฐานเหร๋อ

ทำไม ท่านวิจารณ์แนวทางอื่น
ท่านวิจารณ์สมาธิ
แต่กลับไม่กล้ามองย้อนกลับเข้าไปแตะแนวทางตัวเองล่ะ
แม้จะมีประเด็นก็ตาม

ทีแนวทางอื่นล่ะ ยกประเด็นแล้วยกประเด็นอีก
จะเอาให้เห็นเป็น สิ่งที่ผิดให้ได้
จะเอาให้เห็นว่าเป็นแนวทางที่ไม่ถูกให้ได้
เพื่อให้คนเลิกทำสมาธิแล้วหันมาปฏิบัติตามแนวทางที่ตนยึดถือว่าใช่
ยกเหตุผลมามากมาย

แต่ประเด็นที่วกกลับมาหาแนวทางที่ตนยึดถือปฏิบัติ
กลับตอบได้แค่ว่า "ความไม่เที่ยง"

:b10: :b10: :b10:

ถ้านั่นคือหมายความว่า
แนวทางที่ท่านปฏิบัติ "มันไม่เที่ยงที่จะใช้ในการดับทุกข์"

:b1: :b1: :b1:


แก้ไขล่าสุดโดย eragon_joe เมื่อ 11 ม.ค. 2012, 20:25, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ม.ค. 2012, 18:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


วิริยะ เขียน:
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงว่า

ธรรมของพระตถาคต เมื่อเข้าไปประดิษฐานในสันดานของปุถุชนแล้ว ย่อมกลายเป็นของปลอม (สัทธรรมปฏิรูป) ไป แต่ถ้าเข้าไปประดิษฐาน ในจิตสันดานของพระอริยเจ้าแล้วไซร้ย่อมเป็นของบริสุทธิ์แท้จริง และเป็นของไม่ลบเลือนด้วย

เพราะฉะนั้น เมื่อยังเพียรแต่เรียนพระปริยัติธรรมถ่ายเดียว จึงยังใช้การไม่ได้ดี ต่อเมื่อมาฝึกหัดปฏิบัติจิตใจ กำจัดเหล่ากะปอมก่า คือ อุปกิเลสแล้วนั่นแหละ จึงจะยังประโยชน์ให้สำเร็จเต็มที่ และทำให้พระสัทธรรมบริสุทธิ์ไม่วิปลาสคลาดเคลื่อนจากหลักเดิมด้วย

ฝึกตนดีแล้วจึงฝึกผู้อื่น ชื่อว่าทำตามพระพุทธเจ้า

ปุริสทัมมสารถิ สัตถา เทวมนุสสานํ พุทโธ ภควา สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงทรมานฝึกหัด พระองค์จนได้ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็น พุทโธ ผู้รู้ก่อนแล้วจึงเป็น ภควา ผู้ทรงจำแนกแจกธรรมสั่งสอนเวไนยสัตว์ สัตถา จึงเป็นครูของเทวดาและมนุษย์ เป็นผู้ฝึกบุรุษผู้มีอุปนิสัยบารมีควรแก่การทรมานในภายหลัง จึงทรงพระคุณปรากฏว่า

กัลยาโณ กิตติสัทโท อัพภุคคโต เสียงเกียรติศัพท์อันดีงามของพระองค์ ย่อมฟุ้งเฟื่องไปในจาตุรทิศจนตราบเท่าทุกวันนี้ แม้พระอริยสงฆ์สาวกเจ้าทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้วก็เช่นเดียวกันปรากฏว่าท่านฝึกฝนทรมานตนได้ดีแล้ว จึงช่วยพระบรมศาสดาจำแนกแจกธรรมสั่งสอนประชุมชนในภายหลัง ท่านจึงมีเกียรติคุณปรากฏเช่นเดียวกันกับพระผู้มีพระภาคเจ้า

ถ้าบุคคลไม่ทรมานตนให้ดีก่อนแล้วและทำการจำแนกแจกธรรมสั่งสอนไซร้ ก็จักเป็นผู้มีโทษปรากฏว่า ปาปโก สทโท โหติ คือเป็นผู้มีชื่อเสียงชั่วฟุ้งไปในจาตุรทิศ เพราะโทษที่ไม่ทำตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอริยสงฆ์สาวกเจ้าในกาลก่อน ทั้งหลาย ฯลฯ

ข้อมูลนี้มาจากหนังสือ มุตโตทัย แสดงโดย หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

อ่านจบแล้วขอให้ทุกท่านพิจารณ์ว่า พุทธศาสนามีทั้งคุณและโทษจริงหรือไม่?



โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ม.ค. 2012, 12:34 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2011, 15:47
โพสต์: 539


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
ปิดหู ปิดตา ที่จะเปิดไปสู่ความจริง

ไม่แปลกใจ
เพราะแนวทางที่คุณปฏิบัติ
มันเน้นให้ท่องไม่เที่ยงเกิดดับ
ก่อนที่คนนั้นจะมีสำนึกในบาปเสียอีก

แค่ทุกข์ และอยากพ้นไปจากสภาวะนั้น
แบบง่าย ๆ

กิเลสมันถึงได้ยังปรากฎออกมา ทั้ง ๆ ที่ปากท่องไม่เที่ยงเกิดดับ

:b1:

ถ้ามีหนอนนั่นจริง ๆ
คือ มีผู้ท่องไม่เที่ยงเกิดดับ แต่ก็แสดงความประพฤติผิดในศีลออกมา
อย่างรู้ตัว ตั้งใจ และเจตนา
นั่นคุณคิดว่า เป็นเพราะเหตุใด

เพราะสินค้าได้มาตรฐานเหร๋อ

ทำไม ท่านวิจารณ์แนวทางอื่น
ท่านวิจารณ์สมาธิ
แต่กลับไม่กล้ามองย้อนกลับเข้าไปแตะแนวทางตัวเองล่ะ
แม้จะมีประเด็นก็ตาม

ทีแนวทางอื่นล่ะ ยกประเด็นแล้วยกประเด็นอีก
จะเอาให้เห็นเป็น สิ่งที่ผิดให้ได้
จะเอาให้เห็นว่าเป็นแนวทางที่ไม่ถูกให้ได้
เพื่อให้คนเลิกทำสมาธิแล้วหันมาปฏิบัติตามแนวทางที่ตนยึดถือว่าใช่
ยกเหตุผลมามากมาย

แต่ประเด็นที่วกกลับมาหาแนวทางที่ตนยึดถือปฏิบัติ
กลับตอบได้แค่ว่า "ความไม่เที่ยง"

:b10: :b10: :b10:

ถ้านั่นคือหมายความว่า
แนวทางที่ท่านปฏิบัติ "มันไม่เที่ยงที่จะใช้ในการดับทุกข์"

:b1: :b1: :b1:


แค่คุณเห็นทุกอย่างไม่เที่ยง คุณก็ดับทุกข์ได้แล้ว จะดับได้มากหรือน้อยแล้วแต่ความพยายามในการปฏิบัติ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 155 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 7, 8, 9, 10, 11  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร