วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 08:29  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 21 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2010, 02:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.พ. 2009, 01:02
โพสต์: 337


 ข้อมูลส่วนตัว




x2943.jpg
x2943.jpg [ 10.63 KiB | เปิดดู 1846 ครั้ง ]
:b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41:

ธรรมคืออะไรครับ รู้ธรรมด้วยปัญญาคืออะไรครับ แล้วลักษณะของบัณทิตนี่ คงไม่ใช่เปรียญ9นะครับ

อิอิ...สวัสดีครับ ท่านหลับอยู่

บางคนบอกว่าธรรมะคือความยุติธรรม บางคนบอกว่าธรรมะคือคุณากร บางคนบอกว่าธรรมะคือธรรมชาติ บ้างก็บอกว่าธรรมะคือความจริง ย่อมมีเหตุผลถ้าสิ่งใดไม่มีเหตุผลสิ่งนั้นไม่ใช่ธรรมะ บ้างก็บอกว่าธรรมะคือหน้าที่ บ้างก็บอกว่าธรรมะคือสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ (อริยสัจสี่) ฯลฯ

พระท่านว่า สัพเพ ธัมมา...กุสลา ธัมมา อกุสลา ธัมมา อัพยากตา ธัมมา / ...อุปฺปาทา วา ภิกฺขเว ตถาคตานํ อนุปฺปาทา วา ตถาคตานํ ฐิต ว สา ธาตุ...(ตถาคตคือพระพุทธเจ้า จะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ตาม ความจริงก็คงอยู่เป็นกฎธรรมดา เป็นความแน่นอนของธรรมชาติ ว่าดังนี้๐๐๐) พุทธพจน์ตอนนี้บอกฐานะของพระศาสดาว่า ฐานะของพระพุทธเจ้า คือผู้ค้นพบความจริง แล้วนำความจริงนั้นมาเปิดเผยแสดงให้ปรากฏ พระองค์ไม่ใช่ผู้บัญญัติหรือผู้สร้าง ผู้บันดาล พระองค์เพียงแต่แสดงความจริงที่มีอยู่ตามธรรมดานี่เอง เช่นไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เป็นความจริงที่มีอยู่ เมื่อบุคคลไม่รู้ทันความจริงของธรรม ก็นำทุกข์ในธรรมมาเป็นของตน อาจสัมพันธ์กับธรรมด้วยอวิชชา ตัณหา อุปาทาน ธรรมชาติของมนุษย์สามารถมีปัญญา ที่จะมีชีวิตโดยไม่ต้องพึ่งพาอวิชชา ตัณหา อุปาทาน ได้หรือไม่ ?
ปัญญาของมนุษย์อยู่ที่การศึกษา การฝึกตน มีคาถาว่า “มนุสฺสภูตํ อตฺตทนฺตํ สมาหิตํ เทวาปิ นํ นมสฺสนฺติ ....... ....” (พระพุทธเจ้า ทั้งที่เป็นมนุษย์นี่แหละ แต่ทรงฝึกพระองค์แล้ว มีพระหฤทัยที่อบรมมาอย่างดี แม้เทพทั้งหลายก็น้อมนมัสการ) พระท่านว่า สุดยอดของมนุษย์คือพุทธะ แก่นแท้ของธรรมชาติคือธรรมะ อุดมคติของสังคมคือสังฆะ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) บอกหลัก ๔ ประการของพุทธศาสนาว่า
๑. ทำการให้สำเร็จด้วยความเพียร
๒. เรียนรู้ใฝ่ฝึกตนด้วยการศึกษา
๓. ตระหนักอนิจจตา ไม่ประมาท
๔. รักษาอิสรภาพ พึ่งตนได้

ขอร่วมสนทนาแต่พอสังเขป อิอิท่าน WAKE UP อืมมม..ท่านหลับอยู่ คนจะเป็นบัณฑิต ความรู้น้อยแต่ฝึกตน ก็เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบได้แล้วครับ ไม่ต้องมีดีกรีขนาดนั้น :b12: :b12: :b12:

ยินดีที่ได้ร่วมสนทนาครับ เจริญในธรรมครับ :b8: :b8: :b8:


:b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: smiley

.....................................................
ราตรีของผู้ตื่นอยู่นาน...โยชน์ของผู้ล้าแล้วไกล
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2010, 04:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มี.ค. 2010, 14:54
โพสต์: 126

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


" ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต " เป็นการที่พระพุทธองค์ทรงกล่าวให้ผู้ศึกษาปฏิบัติธรรมได้เข้าใจในความหมาย ในการเจริญในธรรมที่เป็นจริงตามคำสอน ถ้าผู้ใดปฏิบัติตามที่ท่านสอนก็จะได้ละซึ่งอุปทานได้ ไม่ยึดติดกับบัณญัตนามและนามบัณญัติ เห็นปรมัตธรรมตามความเป็นจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 มิ.ย. 2010, 08:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ningnong เขียน:
:b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41:



ขอร่วมสนทนาแต่พอสังเขป อิอิท่าน WAKE UP อืมมม..ท่านหลับอยู่ คนจะเป็นบัณฑิต ความรู้น้อยแต่ฝึกตน ก็เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบได้แล้วครับ ไม่ต้องมีดีกรีขนาดนั้น :b12: :b12: :b12:

ยินดีที่ได้ร่วมสนทนาครับ เจริญในธรรมครับ :b8: :b8: :b8:


:b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41: smiley


smileyคุณ ningnong ครับผมวางไว้.... :b21: หวังว่าคงเข้าใจ :b8:


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 13 มิ.ย. 2010, 08:20, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มิ.ย. 2010, 09:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ningnong เขียน:
:b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41:

cool


จากพระไตรปิฏกที่ยกมา คุณเสียงธรรมคิดว่าตถาคตคือใคร คืออะไรครับ :b16: :b16:

:b43: :b43: :b43: :b43: :b43: :b43: :b43: :b43: :b43:

เจริญในธรรมครับ :b8: :b8: :b8: smiley

:b41: :b41: :b41: :b41: :b41: :b42: :b42: :b42: :b41: :b41: :b41: :b41: :b41:


ใช้อะไรเห็นครับ เพราะคำว่าเห็นต้องเกี่ยวกับอายตนะ.ใดในการับเห็นนะ ครับ
เกี่ยวข้องอย่างไรกับ อนัตตาสูตร นิพพานสูตร มหาวรรคอาณาปานกถา ๆลๆ
smiley
เจริญธรรมครับ
และธรรมนิยามสูตรอย่างไร


โดยตถาคตทั้งหลายจะอุบัติขึ้น
หรือมิอุบัติขึ้นก็ตาม ธาตุนั้นได้ตั้งอยู่แล้วเทียว ฯลฯ


แก้ไขล่าสุดโดย หลับอยุ่ เมื่อ 14 มิ.ย. 2010, 09:43, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 มิ.ย. 2010, 10:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
tongue
อ้างคำพูด:
หลับอยุ่ / เขียน
และพระพุทธเจ้าก็ไม่ได้มีพระองค์เดียว

:b16:
...พระธรรมเทศนาของหลวงตามหาบัวมีว่าถ้านับน้ำ1หยดเท่ากับพระพุทธเจ้า 1 พระองค์...
...พระพุทธเจ้ามีเท่าน้ำในมหาสมุทรคิดดูสิว่าพระพุทธเจ้าที่อุบัติผ่านมาแล้วมีน้อยเมื่อไหร่...
:b20:
...ก็เวลามีพระพุทธเจ้ามาอุบัติแต่ละครั้งมีได้เพียงครั้งละ 1 พระองค์ไม่ได้มาทีละหลายพระองค์อ่ะค่ะ...
:b8:
และเฉพาะพระพุทธเจ้าสมณโคดมพระองค์เดียวก่อนจะมาตรัสรู้ พบพระพุทธเจ้ามา 512,027 พระองค์...

อ้างคำพูด:
จากกระทู้ 26751 …สรุปแล้วการตั้งปณิธานเพื่อเป็นพระพุทธเจ้าโคดมนั้น...
...สิ้นเวลาถึง 20 อสงไขย 100,000 กัป...โดยแบ่งเป็นช่วงมโนปณิธาน 7 อสงไขย ...
...ช่วงวจีปณิธาน 9 อสงไขย และช่วงกายวจีปณิธาน 4 อสงไขย กับ 100,000 กัป…
…และได้พบพระพุทธเจ้ามากถึง 512,027 พระองค์...

http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=26&t=26751

:b4: :b4:
:b44: :b44: :b44: :b44: :b44:




สวัสดีครับ คุณ รสริน cool
หลายคนถือตัวว่า ข้ามีการศึกษาสูงจะนับถือพระต้องนับถือพระปฏิบัติเช่นหลวงปู่มั่น
หากอ่านข้าต้องอ่านพระไตรปิฏก ต้องอิงปร๊าาาาดชญา แต่พอเรื่องหลวงปู่มั่นเจอพระพุทธเจ้า(หลายๆพระองค์สนทนากับพระพุทธองค์ด้วย) ตนกลับอ้อมแอ้มเก้อเขิน กลัว นักปรา๙ญ์ลวงโลกทั้งหลายจะติเตียนว่า เพ้อเจ้อ แต่ดันเขินกลัว พวกที่ปฐมฌาณยังไม่มีเลย จับความอักษรก็ยังได้บ้างไม่ได้บ้าง
แล้วยังมีหน้ามาเอาคำสอนหลวงปู่มั่น มาโพสอีก ลึกๆในใจคนพวกนี้ ไม่หัดสำนึกละอายใจตน ถือตัวว่ามีภูมิสูงกว่าองค์หลวงปู่มั่น
:b7:
:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มิ.ย. 2010, 12:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ธ.ค. 2009, 15:33
โพสต์: 98

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


คำว่า ตถาคต มีความหมาย ๘ อย่าง

บทว่า ตถาคตสฺส ความว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า

ตถาคต ด้วยเหตุ ๘ ประการ คือ

๑. เพราะเสด็จมาอย่างนั้น

๒. เพราะเสด็จไปอย่างนั้น

๓. เพราะเสด็จมาสู่ลักษณะที่แท้

๔. เพราะตรัสรู้ธรรมที่แท้จริง ตามที่เป็นจริง

๕. เพราะทรงเห็นอารมณ์ที่แท้จริง

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 172

๖. เพราะมีพระวาจาที่แท้จริง

๗. เพราะทรงกระทำเองและให้ผู้อื่นกระทำ

๘. เพราะทรงครอบงำ

นี้คือความหมายของ พระตถาคต(สมเด็จพระบรมพระศาสดา)ที่ได้ทรงพระนามนี้เพราะเหตุนี้ :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 21 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร