วันเวลาปัจจุบัน 24 ก.ค. 2025, 02:13  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2010, 23:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ก.ย. 2010, 23:17
โพสต์: 257

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: อ่านหนังสือ
สิ่งที่ชื่นชอบ: ประเภทธรรมะ
ชื่อเล่น: หยุย
อายุ: 0
ที่อยู่: ห้วยขวาง

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นคำถามที่สั้นๆแต่ตอบยาก อธิบายไม่ถูกครับ เอาเป็นว่า เมื่อเรามีศีลที่บริสุทธิ์
ก็จะทำให้เราเกิดสมาธิ และเมื่อเกิดสมาธิแล้วก็จะทำให้เกิดปัญญา
จนเห็นสภาวะธรรมตามมาครับ
:b1:

.....................................................
สัตว์โลกล้วนเป็นไปตามกรรม
ทุกอย่างไม่ควรยึดถือ
อกุศลน้อยนิด อย่าคิดทำ
กุศลน้อยนิด ให้คิดทำ
ทำกุศลวันละนิด ดีกว่าคิดที่จะทำ

พระพุทธองค์ยังถูกนินทา
ประชาชนธรรมดามีหรือจะหนีพ้น

ไม่อยากทุกข์แต่ก็เป็นทุกข์ ถ้าไม่เรียนรู้ทุกข์ จะพ้นทุกข์ได้อย่างไร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 08:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ก.ค. 2010, 15:02
โพสต์: 146

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบพระคุณทุกท่านค่ะ :b20: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2010, 20:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


ที่สุด ๆ ๆ ก้เพื่อละ กับ เพื่อปล่อยวาง อุปาทาน(ความยึดมั่นถือมั่น)และตัณหา(ความอยากทั้งหลาย)
เท่านั้น สุดท้ายแม้ธรรมทั้งหลายก้ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น :b40: :b40:

แม้แต่จุดมุ่งหมายของภาวนา ก้คือเพียรเพื่อละ ละซึ่งความอยากในใจ ไม่ได้เพียรเพื่อยึดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ในโลกนี้ไว้ คนที่ละและปล่อยวางได้มากเท่าไร ผู้นั้นถึงจะพบกับความสงบสุข หรือความสุขอันเกิดจาก
ความสงบภายใน :b41:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ต.ค. 2010, 18:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 มิ.ย. 2010, 21:01
โพสต์: 54

แนวปฏิบัติ: สติปัฏฐาน4
งานอดิเรก: ร้อยลูกปัด
ชื่อเล่น: พลอย
อายุ: 22
ที่อยู่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

 ข้อมูลส่วนตัว


เท่าที่เข้าใจและได้ศึกษานะคะ

ที่สุดของศีล คือ เจตนาวิรัติ

ศีลคือการรักษากายของเราไม่ให้สร้างความทุกข์ให้แก่ทั้งตนเองและผู้อื่น นั่นคือ เป็นการระวังรักษา" 1 หัว 2 แขน 2 ขา" ในร่างกายตัวเราไม่ให้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเองและผู้อื่น เช่น
-พูดแต่ในสิ่งที่ดี เป็นประโยชน์ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น
-เห็นใครถือของหนักก็เข้าไปช่วยเหลือ ทำแขนและขาของเราให้เป็นประโยชน์



ที่สุดของสมาธิ คือ อัปปนาสมาธิ

อัปปนาสมาธิ เรียกว่า ฌาน คือกำจัดนิวรณ์สงบและสามารถรักษาจิตให้แน่วแน่ได้ตลอด

อัปปนาสมาธิจะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยทั้งสมถกรรมฐานและวิปัสนากรรมฐาน
เสมือนการว่ายน้ำข้ามมหาสมุทร เราจะว่ายให้ถึงฝั่งที่ยาวไกลได้ก็ต้องอาศัยทั้งความเพียรในการว่ายข้ามและ อาศัยเกาะเป็นที่พักเวลาหมดแรงบ้าง
การว่ายข้ามห้วงสงสารวัฏก็เช่นกัน ต้องอาศัยวิปัสนากรรมฐานคือ รู้เท่าทันปรมัตถธรรม ต้านแรงของกิเลส และ สมถกรรมฐานคือ ทำจิตให้นิ่ง มีกำลังเพียงพอ จิตจะได้มีกำลังว่ายทวนกิเลสต่อไป


ที่สุดของปัญญา คือ พระไตรลักษณ์

พระไตรลักษณ์คือ อนิจจัง(เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป) ทุกขัง(ความเปลี่ยนแปลงตลอดไม่คงทน) และอนัตตา(ไม่มีตัวตน ไม่อยู่ในอำนาจการบังคับของใคร)

เป็นความจริงที่สุด เนื่องจากพบได้ในทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งรูปธรรมและนามธรรม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ต.ค. 2010, 19:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ก.ค. 2010, 15:02
โพสต์: 146

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบคุณ ทุกท่านนะค่ะ :b20: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ธ.ค. 2010, 01:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2008, 18:29
โพสต์: 200

แนวปฏิบัติ: ธรรมะเพื่อพระนิพพาน
งานอดิเรก: สนธนาธรรม
อายุ: 0
ที่อยู่: ราชบุรี

 ข้อมูลส่วนตัว


พระนิพพาน คือ สิ้นสุดของ ศีล สมาธิ ปัญญา
พบนิพพานเร็วไวที่ www.sangthipnipparn.com

.....................................................
มโนมยิทธิ=เราคิดถึงพระฯ , แสงทิพย์นิพพาน=พระฯคิดถึงเรา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ธ.ค. 2010, 13:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ธ.ค. 2010, 14:56
โพสต์: 122

โฮมเพจ: chanachai20102553@gmail.com
แนวปฏิบัติ: ค้นหาธรรมของพุทธเจ้า
งานอดิเรก: มองธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ทุกเล่ม
ชื่อเล่น: แค่นามสมมุติ
อายุ: 32

 ข้อมูลส่วนตัว


:b42: ดูก่อนท่านทั้งหลาย...........................

ที่สุดของ ศีล สมาธิ ปัญญา นั้นคือ มรรค 8 เท่านั้นเอง ธรรมะของพระพุทธเจ้าทรงตรัสเป็นแก่นแท้ของธรรม

ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรม....................

.....................................................
เราจักขออำนาจบุญกุศลที่ตัวเราได้กระทำไว้ในอดีต ปัจจุบัน และ อนาคต
จงแผ่อำนาจแห่งบุญกุศลทั้งหลายไปสู่ทั่วทั้งสากลโลก ทั้ง16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน วิญญาณที่มีรูป และ ไม่มีรูป ทั่วทั้งทุกอณูใน 3 โลกจงได้รับแห่งบุญกุศลที่เราได้จักกระทำไว้ด้วยเทอญ สาธุ.................................


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ธ.ค. 2010, 15:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ค. 2008, 18:29
โพสต์: 200

แนวปฏิบัติ: ธรรมะเพื่อพระนิพพาน
งานอดิเรก: สนธนาธรรม
อายุ: 0
ที่อยู่: ราชบุรี

 ข้อมูลส่วนตัว


มรรค8 ย่อลงมาเหลือ ศีล สมาธิ ปัญญา = สะพานสู่พระนิพพาน :b39:

.....................................................
มโนมยิทธิ=เราคิดถึงพระฯ , แสงทิพย์นิพพาน=พระฯคิดถึงเรา


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 23 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร