วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 06:00  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 41 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ม.ค. 2011, 18:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
เมื่อเขาหรือใครตอบคำถามไม่ถูกไม่ตรงไม่เข้าแก๊ป ท่านโฮฮับก็ตอบให้เขา หรือจขกท. สะเองเลย จะได้เคลียร์เป็นเรื่องๆเป็นตอนๆไป :b27: :b16:

ตอบข้อสงสัย จขกท. เลยครับ จะได้หายข้องใจสะที

แหม่!ท่านกรัชกายครับ ก็บอกเองว่า"จะได้เคลียร์เป็นเรื่องเป็นตอนๆไป"
ผมก็กำลังเคลียร์อยู่นี้ไง ต้องเคลียร์คนอื่นก่อน จขกทที่หลังก็ได้
กระทู้ของเขาเองคงไม่หนีหายไปไหนหรอก
ตามหลักการเราต้องแก้สิ่งที่ไม่ถูกต้องก่อนครับ แล้วรับรองได้คนอย่างผม
ถ้าแย้งใครผมต้องมีคำตอบให้เขาเสมอครับ แล้วก็ไม่โยนความรับผิดชอบแน่ๆมันน่าอายครับ

แล้วท่านกรัชกายไม่คิดจะแสดงความเห็นบ้างหรือครับ
เห็นคอยกำกับอย่างเดียวเลย
:b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ม.ค. 2011, 20:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
แล้วบอกว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรเป็นของเรา ถ้าเป็นแบบนี้แล้วอะไรคือสิ่งที่ทำให้เราปฏิบัติศีล 5 หรือ ผิดศีล 5 อะไรที่ต้องมารับกรรม เวียนว่ายตายเกิดแบบนี้ บอกว่าเราทุกข์เพราะเรามัวแต่ยึดว่านี่คือของเรา พ่อเรา แม่เรา ถ้าอย่างนั้นใครที่เราต้องทดแทนบุญคุณล่ะครับ ขอให้ผู้รู้ช่วยแนะทางสว่างกับผมด้วยครับ


จขกท. พอเข้าใจคำพูดนี้ไหมครับ

ทั้งตัวสภาวะและสมมุติ เป็นสิ่งจำเป็น ตัวสภาวะ (ปรมัตถ์) เป็นเรื่องของธรรมชาติ

ส่วนสมมุติเป็นเรื่องของประโยชน์สำหรับความเป็นอยู่ของมนุษย์

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2011, 05:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
อ้างคำพูด:
แล้วบอกว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรเป็นของเรา ถ้าเป็นแบบนี้แล้วอะไรคือสิ่งที่ทำให้เราปฏิบัติศีล 5 หรือ ผิดศีล 5 อะไรที่ต้องมารับกรรม เวียนว่ายตายเกิดแบบนี้ บอกว่าเราทุกข์เพราะเรามัวแต่ยึดว่านี่คือของเรา พ่อเรา แม่เรา ถ้าอย่างนั้นใครที่เราต้องทดแทนบุญคุณล่ะครับ ขอให้ผู้รู้ช่วยแนะทางสว่างกับผมด้วยครับ

จขกท. พอเข้าใจคำพูดนี้ไหมครับ
ทั้งตัวสภาวะและสมมุติ เป็นสิ่งจำเป็น ตัวสภาวะ (ปรมัตถ์) เป็นเรื่องของธรรมชาติ
ส่วนสมมุติเป็นเรื่องของประโยชน์สำหรับความเป็นอยู่ของมนุษย์

นี่นี้คือการแสดงความเห็น ผมว่าไอ้ลายเซ็นข้างล่างของคุณมันยังยาวกว่า คำตอบที่จะ
อธิบายความให้จขกทเข้าใจอีก
จะตอบอะไรก็กรุณาตอบให้คนอื่นรู้เรื่องด้วยซิครับ ไม่ใช่ไปยกเอาคำของครูบาอาจารย์มาทั้งดุน
แล้วมาถามว่าเข้าใจมั้ยครับ

จะไม่บอกหรือว่า ที่ตอบมามันเกี่ยวข้องกับสิ่งที่จขกทถามมาอย่างไร
จะบอกให้เพื่อเป็นแนวทางในการตอบ จขกทเขาก็บอกในตอนต้นแล้วว่า
เขาเข้าใจในเรื่องการยึดมั่นถือมั่นดีแล้ว และที่คุณแสดงความเห็นมาคุณว่าเป็น
เรื่องเดียวกับที่จขกทเข้าใจหรือเปล่า

สิ่งจขกทที่ไม่เข้าใจก็คือ ส่วนที่คุณไปยกมานั้นแหล่ะว่า
มันเกี่ยวข้องกับสภาวะที่คุณบอกหรือสิ่งสมมุติที่คุณว่าอย่างไร

สรุปคุณไม่เข้าใจคำถามของจขกทหรือครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2011, 08:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:


นี่นี้คือการแสดงความเห็น ผมว่าไอ้ลายเซ็นข้างล่างของคุณมันยังยาวกว่า คำตอบที่จะ
อธิบายความให้จขกทเข้าใจอีก
จะตอบอะไรก็กรุณาตอบให้คนอื่นรู้เรื่องด้วยซิครับ ไม่ใช่ไปยกเอาคำของครูบาอาจารย์มาทั้งดุน
แล้วมาถามว่าเข้าใจมั้ยครับ

จะไม่บอกหรือว่า ที่ตอบมามันเกี่ยวข้องกับสิ่งที่จขกทถามมาอย่างไร
จะบอกให้เพื่อเป็นแนวทางในการตอบ จขกทเขาก็บอกในตอนต้นแล้วว่า
เขาเข้าใจในเรื่องการยึดมั่นถือมั่นดีแล้ว และที่คุณแสดงความเห็นมาคุณว่าเป็น
เรื่องเดียวกับที่จขกทเข้าใจหรือเปล่า

สิ่งจขกทที่ไม่เข้าใจก็คือ ส่วนที่คุณไปยกมานั้นแหล่ะว่า
มันเกี่ยวข้องกับสภาวะที่คุณบอกหรือสิ่งสมมุติที่คุณว่าอย่างไร

สรุปคุณไม่เข้าใจคำถามของจขกทหรือครับ


ใจเย็นๆท่านโฮฮับ อย่าฟุ้งซ่านให้มากนักเลย :b12: :b16: ที่คุณพูดหรือแสดงภูมิรู้มาทั้งหมดตั้งแต่เข้ามาที่นี่นั่นน่าเรียกว่า เพ้อเจ้อ ฟุ้งซ่าน ไม่ใช่รู้ธรรมะอะไรหรอกจะบอกให้ :b32:

คุณยังแยกสมมุติกับปรมัตถ์ไม่ออกเลย :b9:

จึงไม่เข้าใจคำถามของเขา ว่าเขาเข้าใจสมมุติกับปรมัตถ์สับสนปนเปกัน เข้าใจไหมโฮฮับ :b9:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2011, 12:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:


นี่นี้คือการแสดงความเห็น ผมว่าไอ้ลายเซ็นข้างล่างของคุณมันยังยาวกว่า คำตอบที่จะ
อธิบายความให้จขกทเข้าใจอีก
จะตอบอะไรก็กรุณาตอบให้คนอื่นรู้เรื่องด้วยซิครับ ไม่ใช่ไปยกเอาคำของครูบาอาจารย์มาทั้งดุน
แล้วมาถามว่าเข้าใจมั้ยครับ

จะไม่บอกหรือว่า ที่ตอบมามันเกี่ยวข้องกับสิ่งที่จขกทถามมาอย่างไร
จะบอกให้เพื่อเป็นแนวทางในการตอบ จขกทเขาก็บอกในตอนต้นแล้วว่า
เขาเข้าใจในเรื่องการยึดมั่นถือมั่นดีแล้ว และที่คุณแสดงความเห็นมาคุณว่าเป็น
เรื่องเดียวกับที่จขกทเข้าใจหรือเปล่า

สิ่งจขกทที่ไม่เข้าใจก็คือ ส่วนที่คุณไปยกมานั้นแหล่ะว่า
มันเกี่ยวข้องกับสภาวะที่คุณบอกหรือสิ่งสมมุติที่คุณว่าอย่างไร

สรุปคุณไม่เข้าใจคำถามของจขกทหรือครับ


ใจเย็นๆท่านโฮฮับ อย่าฟุ้งซ่านให้มากนักเลย :b12: :b16: ที่คุณพูดหรือแสดงภูมิรู้มาทั้งหมดตั้งแต่เข้ามาที่นี่นั่นน่าเรียกว่า เพ้อเจ้อ ฟุ้งซ่าน ไม่ใช่รู้ธรรมะอะไรหรอกจะบอกให้ :b32:

คุณยังแยกสมมุติกับปรมัตถ์ไม่ออกเลย :b9:

จึงไม่เข้าใจคำถามของเขา ว่าเขาเข้าใจสมมุติกับปรมัตถ์สับสนปนเปกัน เข้าใจไหมโฮฮับ :b9:

ลุงว่าอะไร ก็เอาตามนั้นละกัน :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2011, 13:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


จขกท. ยังติดตามกระทู้นี้อยู่ไหมครับ :b16: :b12:

คงไม่ตกอกตกใจนะที่กรัชกายกับโฮ ถกเถียงกัน เป็นการปรับทิฐิกันและกัน เป็นการจัดระเบียบภายใน :b12:

หากยังติดตามกระทู้นี้อยู่ส่งเสียงหน่อยครับ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2011, 16:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ เขียน:
จะไม่บอกหรือว่า ที่ตอบมามันเกี่ยวข้องกับสิ่งที่จขกทถามมาอย่างไร
จะบอกให้เพื่อเป็นแนวทางในการตอบ จขกทเขาก็บอกในตอนต้นแล้วว่า
เขาเข้าใจในเรื่องการยึดมั่นถือมั่นดีแล้ว และที่คุณแสดงความเห็นมาคุณว่าเป็น
เรื่องเดียวกับที่จขกทเข้าใจหรือเปล่า

สิ่งจขกทที่ไม่เข้าใจก็คือ ส่วนที่คุณไปยกมานั้นแหล่ะว่า
มันเกี่ยวข้องกับสภาวะที่คุณบอกหรือสิ่งสมมุติที่คุณว่าอย่างไร

สรุปคุณไม่เข้าใจคำถามของจขกทหรือครับ


ใจเย็นๆท่านโฮฮับ อย่าฟุ้งซ่านให้มากนักเลย :b12: :b16: ที่คุณพูดหรือแสดงภูมิรู้มาทั้งหมดตั้งแต่เข้ามาที่นี่นั่นน่าเรียกว่า เพ้อเจ้อ ฟุ้งซ่าน ไม่ใช่รู้ธรรมะอะไรหรอกจะบอกให้ :b32:

คุณยังแยกสมมุติกับปรมัตถ์ไม่ออกเลย :b9:

จึงไม่เข้าใจคำถามของเขา ว่าเขาเข้าใจสมมุติกับปรมัตถ์สับสนปนเปกัน เข้าใจไหมโฮฮับ :b9:

ว่าจะหยุดแสดงความห็นกระทู้นี้แล้วน่ะ แต่มาเจอคนแก่หัวดื้อ แถมเจ้าคิดเจ้าแค้น เอ้าตอบเสียหน่อย

ผมว่าลุง ไม่รู้จะหาอะไรมาตอบให้จขกทเสียมากกว่า เอะอะก็อ้างปรมัติอ้างสมมุติตะพรีดตะพรือ
ผมน่ะเข้าใจ แล้วผมว่าจขกทก็คงเข้าใจ แต่จขกทเขาถามเพิ่มเติมมาว่า เมื่อรู้แล้วว่า ไม่ให้ยึด
มันเป็นสมมุติ แต่ทำไมต้องถือศีลห้า ตอบตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ ปัญหามันอยู่ตรงนี้ต่างหาก
นี่อะไรกันทั้งอ้างทั้งย้ำอยู่นั้นแหล่ะ สมมุติๆ ก็เขาถามสมมุติแล้วทำทำไม
ตลกสุดๆเลย ไอ้ความไม่รู้แล้วยังไม่ยอมรับของคนแก่นี่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2011, 16:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


บทอ้างอิงข้างล่างเป็นสิ่งที่ผมตอบข้อข้องใจของจขกทไปครับ
โฮฮับ เขียน:
phakawan15 เขียน:
คือผมนั้นยังไม่ค่อยเข้าใจในธรรมมะเท่าไหร่ครับ ที่ว่าตัวเราไม่ใช่ของเรา กายเราไม่ใช่ของเราอันนี้ผมเข้าใจครับ แล้วบอกว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรเป็นของเรา ถ้าเป็นแบบนี้แล้วอะไรคือสิ่งที่ทำให้เราปฏิบัติศีล 5 หรือ ผิดศีล 5 อะไรที่ต้องมารับกรรม เวียนว่ายตายเกิดแบบนี้ บอกว่าเราทุกข์เพราะเรามัวแต่ยึดว่านี่คือของเรา พ่อเรา แม่เรา ถ้าอย่างนั้นใครที่เราต้องทดแทนบุญคุณล่ะครับ ขอให้ผู้รู้ช่วยแนะทางสว่างกับผมด้วยครับ ขอบคุณครับ :b8:

เรื่องการการยึดมั่นเป็นทุกข์คุณเข้าใจหมดแล้ว ผมจะอธิบาย แต่สิ่งที่คุณไม่เข้าใจนะครับ
คุณต้องรู้นะครับว่าธรรมชาติของจิตเมื่อไปรับรู้อะไรแล้วชอบเข้าไปยีดมั่นถือมั่น
และการยึดมั่นถือมั่น มันเป็นตัวการทำให้เกิดภพเกิดชาติ
เรื่องกรรมการกระทำอีกครับมันส่งผลไปชาติหน้าเหมือนกัน เพราะเราทำอะไรไปจิตจะเข้าไปยึดมั่นถือมั่น
เหมือนกัน เหตุนี้เราจึงต้องเลือกทำแต่สิ่งที่ดีเป็นกุศล เพราะสิ่งนี้จะตามเราไปครับ

ที่นี้มาดูประเด็นสำคัญ ว่าทำไมเราวู้ว่าทุกอย่างไม่ใช่ตัวเราเกิดจากการยึดมั่น
ตามที่ผมเกริ่นไว้ตอนต้นครับ มันเป็นธรรมชาติของจิต การที่จะให้จิตเลิกยึดมั่น
แค่รู้อย่างเดียวไม่ได้ครับ เราต้องปฏิบัติด้วย แล้วปฏิบัติอย่างไรก็ในเรื่องมรรคมีองค์แปด
การปฏิบัติไม่ใช่เรื่องง่ายอาจไม่สำเร็จในชาติเดียว
การถือศีลหมั่นทำความดี มันเป็นเรื่องของความไม่ประมาท เพราะถ้าเรายังปฏิบัติไม่ถึง
ระดับอรหันต์ เราย่อมต้องเกิดใหม่แน่ๆ
สรุปก็คือการป้องกันไม่ชาติหน้าค้องไปเกิดในอบายภูมิครับ มันเป็นไปตามกฎแห่งกรรม
และการยึดมั่นถือมั่น

ผมตอบให้จขกทอ่านแล้ว ลุงลองดูซิว่ามันใช่การตอบที่ตรงประเด็น
ที่จขกทถามหรือเปล่า


ท่านผู้เฒ่าครับ ผมขอร้องล่ะจตอบหรือแสดงความเห็น
ขอร้องละครับ ทำให้มันสมกับวัยวุฒิหน่อย อย่ากวนมึนโฮเลยครับ
ให้พวกเด็กๆเขาทำไปเถอะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2011, 17:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ชื่อที่ตั้งขึ้นว่า นายเขียว นายขาว พ่อ แม่ กรัชกาย โฮฮับ ฯลฯ

โฮฮับช่วยชี้บอกทีว่า ส่วนเป็นโฮฮับ ส่วนไหนเป็นนายเขียว ส่วนไหนเป็นนายขาว ฯลฯ

พูดกันด้วยเหตุผลนะอย่าดันทุรังออกนอกเรื่อง :b12:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2011, 20:34 
 
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ม.ค. 2010, 20:08
โพสต์: 5


 ข้อมูลส่วนตัว


ผมขอขอบคุณทุกท่านมากจริงๆครับ ผมเข้าใจแล้วครับ ขอบคุณมากครับ :b8: (ว่าแต่มันเปลี่ยนรูปกับชื่อที่ใช้ในบอร์ดยังไงอ่ะครับ)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2011, 09:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หลานมึนโฮ ที่ถามไว้พอจะห้าวได้ไหม :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2011, 12:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
ชื่อที่ตั้งขึ้นว่า นายเขียว นายขาว พ่อ แม่ กรัชกาย โฮฮับ ฯลฯ

โฮฮับช่วยชี้บอกทีว่า ส่วนเป็นโฮฮับ ส่วนไหนเป็นนายเขียว ส่วนไหนเป็นนายขาว ฯลฯ

พูดกันด้วยเหตุผลนะอย่าดันทุรังออกนอกเรื่อง :b12:

ลุงนี่มันยังไงกันน้า เรื่องถามเรื่องที่รู้ๆกันอยู่แล้วว่ามันสมมุติ
แต่ปัญหามันไม่ได้อยู่ตรงนั้น

ผมจะบอกให้ว่าลุง มีอาการที่ยังไม่สร่างตรงไหน...
มาดูกันให้ตรงประเด็นเลย กรุณาอย่าย้ำคิดย้ำทำ
phakawan15 เขียน:
คือผมนั้นยังไม่ค่อยเข้าใจในธรรมมะเท่าไหร่ครับ ที่ว่าตัวเราไม่ใช่ของเรา กายเราไม่ใช่ของเราอันนี้ผมเข้าใจครับ แล้วบอกว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรเป็นของเรา ถ้าเป็นแบบนี้แล้วอะไรคือสิ่งที่ทำให้เราปฏิบัติศีล 5 หรือ ผิดศีล 5 อะไรที่ต้องมารับกรรม เวียนว่ายตายเกิดแบบนี้ บอกว่าเราทุกข์เพราะเรามัวแต่ยึดว่านี่คือของเรา พ่อเรา แม่เรา ถ้าอย่างนั้นใครที่เราต้องทดแทนบุญคุณล่ะครับ ขอให้ผู้รู้ช่วยแนะทางสว่างกับผมด้วยครับ ขอบคุณครับ :b8:

ลุงมาดูคำพูดของจขกทน่ะ ผมจะแยกแยะให้ดู...
phakawan15 เขียน:
ที่ว่าตัวเราไม่ใช่ของเรา กายเราไม่ใช่ของเราอันนี้ผมเข้าใจครับ แล้วบอกว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรเป็นของเรา

คำพูดของจขกท ที่กล่าวออกมาแสดงให้รู้ว่า เขาเข้าใจหรือรู้แล้วว่า
อะไรเป็นสิ่งสมมุติ และสิ่งนั้นไม่ควรยึดมั่น

phakawan15 เขียน:
ถ้าเป็นแบบนี้แล้วอะไรคือสิ่งที่ทำให้เราปฏิบัติศีล 5 หรือ ผิดศีล 5 อะไรที่ต้องมารับกรรม เวียนว่ายตายเกิดแบบนี้ บอกว่าเราทุกข์เพราะเรามัวแต่ยึดว่านี่คือของเรา พ่อเรา แม่เรา ถ้าอย่างนั้นใครที่เราต้องทดแทนบุญคุณล่ะครับ ขอให้ผู้รู้ช่วยแนะทางสว่างกับผมด้วยครับ ขอบคุณครับ :b8:

สิ่งที่ลุงจะต้องตอบจขกทมันเป็นประโยคที่ผมอ้างอิงอันนี้
ดูจากประโยคแล้ว พอจะกล่าวได้ว่า เมื่อทุกสิ่งเป็นสิ่งสมมุติ พ่อแม่ก็สมมุติ
แล้วทำไมต้องตอบแทนบุญคุณหรือต้องตอบแทนบุญคุณใคร
มันเป็นส่วนนี้ต่างหากที่ต้องตอบจขกทเขา
สรุปก็คือเขารู้แล้วว่ามันเป็นสมมุติ แต่ทำไมต้องถือศีลห้า ทดแทนบุญคุณคนอีก

แต่ดูสิ่งที่ลุงตอบจขกทซิ
"ตอบมาได้มันเป็นสมมุติ มันเป็นปรมัติ
มันใช่สิ่งที่จขกทต้องการมั้ย ถามหน่อยไม่เจ็บมือหรือทุบอยู่ได้ไอ้ดินนั้นน่ะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2011, 12:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Yodyood เขียน:
ลองเปรียบเทียบกับรถ ซึ่งเป็นองค์ประชุมของตัวถัง เครื่องยนต์กลไก ล้อ เพลาฯ
แท้จริงแล้วรถไม่มี รถเป็นเพียงแค่บัญญัติของการประกอบกันของชิ้นส่วนต่างๆเท่านั้น
ทีนี้ลองถามว่าถ้ามีรถคันอื่นมาชน หรือรถคันนี้ไปชนเสา กำแพง ฯ
เพราะการชนเป็นเหตุส่วนประกอบต่างๆย่อมบิดเบี้ยวไปบ้าง เสียไปบ้าง
การชนนั้นย่อมส่งผลต่อสิ่งที่ถูกบัญญัติว่ารถ แม้ว่าแท้จริงแล้วรถไม่ได้มีเป็นเพียงสมมุติบัญญัติเท่านั้น

เราก็เป็นเพียงบัญญัติของ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ที่มาประชุมกันในลักษณะหนึ่งๆ
ที่มีรายละเอียดแตกต่างกันตามบุคคล แท้จริงเราไม่ได้มี
การทำต่างๆ และกรรมต่างๆ ก็ไม่ได้มีความแตกต่างกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับรถในข้างต้น
การกระทำนั้นๆ ย่อมส่งผลต่อส่วนใดส่วนหนึ่งของ ขันธ์ ๕ (อาจจะเป็นบางส่วน หรือทุกส่วน แล้วแต่กรณี)
เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของขันธ์ ๕ ก็ย่อมส่งผลถึง"เรา"ซึ่งเป็นบัญญัติของการประชุมกันของธาตุขันธ์นั้นๆ
ส่วนการรักษาศีล ตอบแทนบุญคุณ การภาวนา ฯ ที่เป็นกุศลกรรมทั้งหลาย
หรือแม้แต่การอกุศลกรรม ก็ย่อมส่งผลต่อขันธ์ ๕ ซึ่งย่อมส่งผลถึง"เรา"เช่นกัน
(ยกตัวอย่างง่ายๆ คือ การกระทำที่มีสติย่อมส่งผลสัญญาที่จะบันทึกเหตุการณ์นั้นๆ)
การประกอบกุศลกรรมที่ดำเนินไปตามทางแห่งมรรค ๘ เมื่อทำอย่างสม่ำเสมอย่อมนำไปสู่การพ้นทุกข์เช่นกัน

[หาอ่าน มิลินทปัญหา หัวข้อ นามปัญหา เพิ่มเติมได้นะครับ]

ความเห็นนี้อีก ที่ผมแย้งไปมันไม่เกี่ยวกับเรื่องสมมุติ
แต่ที่แย้งเพราะ....เจ้าของความเห็น ให้ความหมายผิดในเรื่อง
มีตัวตน ไม่มีตัวตน อันที่จริงต้องไม่ใช่ตัวตน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2011, 13:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หลานมึนโฮ ข้างต้น จขกท.เขาว่าเขาเข้าใจนะ แต่ปมมันอยู่ตรงนี้

อ้างคำพูด:
ถ้าเป็นแบบนี้ แล้วอะไร คือ สิ่งที่ทำให้เราปฏิบัติศีล 5 หรือ ผิดศีล 5 อะไรที่ต้องมารับกรรม เวียนว่ายตายเกิดแบบนี้ บอกว่าเราทุกข์ เพราะเรามัวแต่ยึดว่านี่ คือ ของเรา พ่อเรา แม่เรา ถ้าอย่างนั้นใครที่เราต้องทดแทนบุญคุณล่ะครับ


ในเมื่อเป็นอย่างนั้น แล้วอไรที่ต้องรับกรรม เวียนตายเกิด ฯลฯ อย่างนั้นใครเราต้องทดแทนบุญคุณพ่อแม่ :b1:

หลานมึนโฮ เคลียร์ประเด็นนี้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ม.ค. 2011, 22:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 ส.ค. 2010, 00:17
โพสต์: 255

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b42: เหตุอย่างนี้ เกิดขึ้นเป็นประจำที่ต้องมาทุ่มเถียงกัน จากคำถามทำนองนี้ บางคนอาจถามเพราะไม่รู้และอยากรู้จริงๆ แต่ส่วนใหญ่ไปอยากรู้ในเรื่องที่ไม่ควรรู้(ไม่ใช่ทาง) หรือยังไม่ถึงเวลาที่ต้องรู้ หรือบางคนก็อาจถามแหย่ๆเข้ามาอย่างนั้นเอง ไม่ต้องการคำตอบจริงจัง แต่ต้องการวัดอะไรบางอย่างเช่นระดับสติปัญญา ระดับกิเลส หรือขนาดตัวตนของผู้ประกาศตนเป็นนักธรรมะปฏิบัติทั้งหลาย นั่งดูเราหาเหตุผลมาทุ่มเถียงกัน เพื่อความยอมรับ เพื่อปกป้องความคิดเห็นและอัตตาของตัวเอง
คำถามแรกของคนพึ่งเริ่มสนใจธรรมะ มาถามว่า อะไรคือเรา อะไรคือผู้รู้ -อะไรคือผู้ถูกรู้ มันน่าฉงน เป็นเราจะไม่ตอบ จะถามกลับไปว่า สนใจธรรมะจริงหรือ ถ้าสนใจจริง ต้องไปรู้จัก เรื่องทาน เรื่องศีลเสียก่อน ไปรู้เรื่อง อกุศลมูล กิเลส3หรือยัง ถ้ายังไม่รู้เลย อย่ามาถามปัญหาเรื่องอะไรคือเรา เรื่องตัวตน มันเป็นเรื่อง เกี่ยวกับจิต มันเป็นความรู้ขั้นสมาธิ วิปัสนา ซึ่งต้องรู้จริงมาเปิดตำราตอบกันไม่ได้ มันไม่ตรงกัน และมันก็จะเกิดอัตตาขึ้น อย่างที่เห็นกันอยู่ทุกครั้ง เมื่อมีคำถามแบบนี้
.....คำถามแบบนี้ ถ้าไปถามกับหลวงพ่อชา คำตอบของท่านคงทำให้หยุดปากพล่อย และเลิกเห็นธรรมะเป็นของเล่นไปอีกนาน.....เจโตวิมุติ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 41 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร