วันเวลาปัจจุบัน 26 มิ.ย. 2025, 17:04  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 25 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2011, 13:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
http://www.84000.org...p?b=25&i=35&p=7

ฌานย่อมไม่มีแก่บุคคลผู้ไม่มีปัญญา, ปัญญาย่อมไม่มีแก่
ผู้ไม่มีฌาน, ฌานและปัญญาย่อมมีในบุคคลใด, บุคคลนั้นแลตั้ง
อยู่แล้วในที่ใกล้พระนิพพาน.

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2011, 13:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
http://www.84000.org...p?b=25&i=35&p=7

ฌานย่อมไม่มีแก่บุคคลผู้ไม่มีปัญญา, ปัญญาย่อมไม่มีแก่
ผู้ไม่มีฌาน, ฌานและปัญญาย่อมมีในบุคคลใด, บุคคลนั้นแลตั้ง
อยู่แล้วในที่ใกล้พระนิพพาน.


จากพระพุทธพจน์

หากไม่มีสมาธิย่อมไม่บรรลุนิพพาน

ขิปปาภิญญานั้นคงมีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่มี

ดังนั้น

พากเราจะละทิ้งสมาธิเสียมิได้

เพราะพวกเราคงไม่มีปัญญาเท่าพุทธปัญญา


.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2011, 14:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


http://84000.org/tipitaka/dic/v_seek.ph ... &detail=on


Quote Tipitaka:
ขิปปาภิญญา รู้ฉับพลัน

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2011, 14:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5017


 ข้อมูลส่วนตัว


ฉบับเต็ม

http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=99


คัดมาบางส่วน
Quote Tipitaka:
อรรถกถา อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เอกธัมมาทิบาลี
วรรคที่ ๑

อรรถกถาวรรคที่ ๑๐

กุศลกรรมบถ ๑๐ ชื่อว่าธรรม. อกุศลกรรมบถ ๑๐ ชื่อว่าอธรรม.
อนึ่ง โพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการคือ สติปัฏฐาน ๔ สัมมัปปธาน ๔ อิทธิบาท ๔ อินทรีย์ ๕ พละ ๕ โพชฌงค์ ๗ อริยมรรคมีองค์ ๘ ชื่อว่าธรรม.
ธรรมนี้คือ สติปัฏฐาน ๓ สัมมัปปธาน ๓ อิทธิบาท ๓ อินทรีย์ ๖ พละ ๖ โพชฌงค์ ๘ มรรคมีองค์ ๙ และอุปาทาน ๔ นิวรณ์ ๕ อนุสัย ๗ มิจฉัตตะ ๘ ชื่อว่าอธรรม.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อธมฺโม ความว่า ภิกษุทั้งหลาย เมื่อถือเอาส่วนแห่งอธรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วแสดงว่า เราจักทำอธรรมนี้ให้เป็นธรรม กุศลจิตของอาจารย์ของพวกเราจักเป็นนิยยานิกธรรมเครื่องนำออก และพวกเราจักปรากฏในโลกด้วยอาการอย่างนี้ จึงกล่าวอธรรมนี้ ว่านี้เป็นธรรม ชื่อว่าแสดงธรรมว่าเป็นธรรม.
เมื่อถือเอาส่วนหนึ่ง ในส่วนแห่งธรรมเช่นนั้นเหมือนกัน แล้วแสดงว่า นี้เป็นอธรรม ชื่อว่าแสดงธรรมว่าเป็นอธรรม.
...
ก็ในคำที่ตรัสไว้ในที่สุดแห่งสูตรทั้งปวงว่า ก็ภิกษุเหล่านั้นย่อมยังธรรมนี้ให้อันตรธานไปนั้น ชื่อว่า อันตรธานมี ๕ อย่าง คือ
อธิคมอันตรธาน อันตรธานแห่งการบรรลุ ๑
ปฏิปัตติอันตรธาน อันตรธานแห่งการปฏิบัติ ๑
ปริยัตติอันตรธาน อันตรธานแห่งปริยัติ ๑
ลิงคอันตรธาน อันตรธานแห่งเพศ ๑
ธาตุอันตรธาน อันตรธานแห่งธาตุ ๑.
ใน ๕ อย่างนั้น มรรค ๔ ผล ๔ ปฏิสัมภิทา ๔ วิชชา ๓ อภิญญา ๖ ชื่อว่า อธิคม.
อธิคมนั้น เมื่อเสื่อมย่อมเสื่อมไป ตั้งแต่ปฏิสัมภิทา.
....
ภิกษุไม่สามารถจะให้ฌาน วิปัสสนา มรรคและผล บังเกิดได้ รักษาเพียงจาตุปาริสุทธิศีล ชื่อว่าอันตรธานแห่งข้อปฏิบัติ.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2011, 14:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


ผลของการปฏิบัติบำเพ็ญสมาธิปัญญาจะผุดขึ้นในจิตเอง

ปัญญาต้องไม่เกิดขึ้นจากสัญญาเช่นการจำได้จากการอ่านการฟังอย่างแม่นยำช่ำชอง


Quote Tipitaka:
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๑ มหาวิภังค์ ภาค ๑

เราได้บรรลุทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิต ณ ภายใน เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตก


จะเห็นได้ว่ามีธรรมเอกที่ผุดขึ้น

หมายถึง
ปัญญา

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2011, 14:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
พระมหากัสสปะ ทูลถามองค์สมเด็จพระสัมสัมพุทธเจ้าว่า
พระศาสนา จะสูญสิ้น ไปจากโลก ด้วยเหตุใดบ้าง

พระบรมศาสดา ทรงตรัสตอบว่า
สิ่งต่างๆ ในโลกนี้ จะทำลายศาสนา ให้สูญสิ้นไปจากโลกหามิได้ แต่ พุทธบริษัท ทั้ง 4 เท่านั้น ที่จะเป็นผู้ทำลายศาสนานี้ ด้วยเหตุ 5 ประการ
5 ประการนั้นเป็นไฉน
1.พุทธบริษัท ไม่เคารพในพระศาสดาของตน
2.พุทธบริษัท ไม่ตระหนักในธรรม
3.พุทธบริษัท ไม่คารวะต่อสงฆ์
4.พุทธบริษัท ไม่ตั้งใจศึกษาธรรม
5.พุทธบริษัท ไม่สนใจในการทำสมาธิ

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2011, 14:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๖
มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
๗. มหาจัตตารีสกสูตร

[๒๕๓] พระผู้มีพระภาคจึงได้ตรัสดังนี้ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สัมมา-
*สมาธิของพระอริยะ อันมีเหตุ มีองค์ประกอบ คือ สัมมาทิฐิ สัมมาสังกัปปะ
สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ เป็นไฉน
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความที่จิตมีอารมณ์เป็นหนึ่ง ประกอบแล้วด้วยองค์ ๗ เหล่านี้แล
เรียกว่า สัมมาสมาธิของพระอริยะ อันมีเหตุบ้าง มีองค์ประกอบ

[๒๕๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาองค์ทั้ง ๗ นั้น สัมมาทิฐิย่อมเป็น
ประธาน ก็สัมมาทิฐิย่อมเป็นประธานอย่างไร คือ ภิกษุรู้จักมิจฉาทิฐิว่ามิจฉาทิฐิ
รู้จักสัมมาทิฐิว่าสัมมาทิฐิ ความรู้ของเธอนั้น เป็นสัมมาทิฏฐิฯ
............................................................................................
สมาธิ คือ สัมมาสติ สัมมาวายามะ สัมมาสมาธิ รวมกัน

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2011, 14:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๔ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๖
อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต

มูลสูตร
[๕๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ฯลฯ.....
ถ้าพวกอัญเดียรถีย์ปริพาชก(นักบวชนอกศาสนา)ถามอย่างนี้ว่า
‘ผู้มีอายุทั้งหลาย

ธรรมทั้งปวงมีอะไรเป็นมูล
ธรรมทั้งปวงมีอะไรเป็นต้นกำเนิด
ธรรมทั้งปวงมีอะไรเป็นเหตุเกิด
ธรรมทั้งปวงมีอะไรเป็นที่ชุมนุม
ธรรมทั้งปวงมีอะไรเป็นประมุข
ธรรมทั้งปวงมีอะไรเป็นใหญ่
ธรรมทั้งปวงมีอะไรเป็นยอดยิ่ง
ธรรมทั้งปวงมีอะไรเป็นเป็นแก่น
ธรรมทั้งปวงมีอะไรเป็นที่หยั่งลง
ธรรมทั้งปวงมีอะไรเป็นที่สุด’

ฯ พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย ถ้าพวกอัญญเดียรถีย์ปริพาชกพึงถามอย่างนี้ว่า ดูกรอาวุโสทั้งหลาย
ธรรมทั้งปวงมีอะไรเป็นมูล มีอะไรเป็นแดนเกิด ... มีอะไรเป็นที่หยั่งลง มีอะไร
เป็นที่สุด เธอทั้งหลายถูกถามอย่างนี้แล้ว พึงพยากรณ์แก่อัญญเดียรถีย์ปริพาชก
เหล่านั้นอย่างนี้ว่า ดูกรอาวุโสทั้งหลาย
ธรรมทั้งปวงมีฉันทะ เป็นมูล
มีมนสิการ เป็นแดนเกิด
มีผัสสะ เป็นเหตุเกิด
มีเวทนา เป็นที่ประชุมลง
มีสมาธิ เป็นประมุข
มีสติ เป็นใหญ่

มีปัญญา เป็นยิ่ง
มีวิมุตติ เป็นแก่น
มีอมตะ เป็นที่หยั่งลง
มีนิพพาน เป็นที่สุด

ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายถูกถามอย่างนี้แล้ว พึงพยากรณ์แก่
อัญญเดียรถีย์ปริพาชกเหล่านั้นอย่างนี้แล ฯ

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2011, 14:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
สมาธิเป็นเหตุให้เกิดปัญญาญาณ หรือ พูดอีกนัยว่า วิปัสสนาญานอันเกิดขึ้นโดยอาศัยสมาธิและญาณเป็นพื้นฐาน

ฌาน ๔ คือสัมมาสมาธิ และสัมมาสมาธิเป็นองค์หนึ่งใน สมาธิ (สมาธิประกอบด้วย สัมมาสติสัมมาวายามะสัมมาสมาธิ)
ผู้ที่ได้ฌาน ๔ แล้วย่อมมีจิตน้อมไปสู่ปัญญาณ ยถาภูตญาณทัสสนะ คือ รู้เห็นตามความเป็นจริง
ดังพระพุทธพจน์
"๗.เมื่อได้ฌาน ๔ แล้ว เธอย่อมน้อมจิตไปเพื่อยถาภูตญาณทัสสนะ คือ ความรู้เห็นตามเป็นจริง ย่อมรู้ชัดว่ากายนี้มีความแตกดับเป็นธรรมดาไม่ยั่งยืน ย่อมเห็นวิญญาณว่าอาศัยอยู่ในกายนี้เหมือนคนตาดีมองเห็นเส้นด้ายสีต่างๆ ที่ร้อยอยู่ในแก้วใส"


สามัญญผลสูตร เล่ม ๙ ข้อ ๙๑ ถึง ๑๔๐

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 พ.ค. 2011, 14:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มิ.ย. 2007, 21:13
โพสต์: 2631

อายุ: 0
ที่อยู่: กทม.

 ข้อมูลส่วนตัว


http://guru.google.co.th/guru/thread?ti ... 8460136d7d


อ้างคำพูด:
สมาธิ อบรมปัญญา
สมาธิ พระพุทธเจ้าสงเคราะห์ มรรคมีองค์๘ ส่วนขององค์ สัมมาสติ สัมมาวายามะ สัมมาสมาธิรวมลงใน สมาธิขันธ์ ฯลฯ
สัมมาสติ พระพุทธเจ้าหมายถึง สติปัฏฐาน๔ อันเป็นนิมิตรของสมาธิ มีปลายทางคืออริยสัจ๔
ปัญญา(สัมมาทิฏฐิ สัมมสังกัปปะ)ที่บ่มด้วยสมาธิ แก่กล้าเป็นโลกุตรปัญญา

ดูกรภิกษุทั้งหลาย หนทางนี้เป็นที่ไปอันเอก
เพื่อความบริสุทธิ์ของเหล่าสัตว์ เพื่อล่วงความโศกและปริเทวะ
เพื่อความดับสูญแห่งทุกข์และโทมนัส
เพื่อบรรลุธรรมที่ถูกต้อง เพื่อทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน

หนทางนี้ คือ สติปัฏฐาน ๔

.....................................................
นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 25 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร