วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 13:32  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 110 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 8  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2012, 10:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 เม.ย. 2012, 17:37
โพสต์: 37

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ลูกพระป่า เขียน:
"อย่าส่งจิตออกนอก" แล้วแตกออกมาอธิบายแก่ใจผมว่า "การส่งจิตออกนอกนั้น จิตที่ส่งออกไปคือจิตสังขาร จิตสังขารนี้เป็นทุกข์อยู่ใต้กฏแห่งไตรลักษณ์ จิตที่ส่งออกยิ่งปรุงแต่งมากทุกข์ก็ยิ่งแสดงอาการออกมามากตามไปด้วย พึงกำหนดรู้จิตเฉพาะภายในตนแม้จะมีสิ่งภายนอกเข้ามากระทบ เพราะนี่คือหนทางแห่งการดับทุกข์ให้สั้นลง"


กรณีถ้าเราส่งจิตออกนอกหรือเคลื่อนออกนอกแล้ว เรารู้หรือดูตามความเป็นจริงได้มั้ยครับ ว่าจิตมันทำงานของมันเองมันบังคับไม่ได้ แล้วมันก็เป็นไตรลักษณ์ เพราะผมเคยรักษาตัวรู้หรือจิตไม่ให้ออกนอกแล้วรู้สึกหนักไม่เป็นธรรมชาติ เลยพิจารณาว่าตัวรู้หรือจิตก็ไม่ใช่เพราะเป็นไตรลักษณ์ เลยดูจิตเคลื่อนและทำงานตามความเป็นจริงว่าบังคับไม่ได้สุขและทุกข์ตามเหตุและผล และตกอยู่ใต้กฎไตรลักษณ์เลยรู้สึกเบาขึ้น ( ผมทำงานเอกชนจิตออกนอกบ่อยครับ )
:b8: :b8: :b8:
ด้วยความเคารพอย่างสูง
-----------------
plekaran


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2012, 12:08 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


จิต ไม่ได้ทำความรู้สึกอยู่ที่ใจ

มั๊ง .. ?

แล้วจางบางล่ะ เห็นว่าไง ..?

cool


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2012, 21:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


plekaran เขียน:
กรณีถ้าเราส่งจิตออกนอกหรือเคลื่อนออกนอกแล้ว เรารู้หรือดูตามความเป็นจริงได้มั้ยครับ ว่าจิตมันทำงานของมันเองมันบังคับไม่ได้ แล้วมันก็เป็นไตรลักษณ์ เพราะผมเคยรักษาตัวรู้หรือจิตไม่ให้ออกนอกแล้วรู้สึกหนักไม่เป็นธรรมชาติ เลยพิจารณาว่าตัวรู้หรือจิตก็ไม่ใช่เพราะเป็นไตรลักษณ์ เลยดูจิตเคลื่อนและทำงานตามความเป็นจริงว่าบังคับไม่ได้สุขและทุกข์ตามเหตุและผล และตกอยู่ใต้กฎไตรลักษณ์เลยรู้สึกเบาขึ้น ( ผมทำงานเอกชนจิตออกนอกบ่อยครับ )
:b8: :b8: :b8:
ด้วยความเคารพอย่างสูง
-----------------
plekaran


ตอนแรก...มันก็ต้องบังคับกันหน่อยแหละครับ...เพราะมันเอาแต่ใจของมันมานานแล้ว

บางคนดื้อน้อยหน่อย..บังคับนิดเดียวก็เข้าที่...เคยแล้วต่อไปมันก็ง่าย...ไม่ต้องออกแรง

แต่บางคนดื้อมากไปนิด...มีแรงมาก...บังคับไปก็เหนื่อย..หนัก..ครูบาอาจารย์ท่านก็แนะนำว่า...ก็ปล่อยให้มันวิ่งไปให้เหนื่อย..คอยประคองเชือกคือรู้ใว้..อย่าให้ขาด...มันเหนื่อยเมื่อไร..จึงกระตุกให้เข้าที่...ทีนี้มันก็เข้าง่าย

หากเอาแต่รู้อย่างเดียว...ไม่เล่นบท..กระตุก..ซะบ้างเลย...แล้วเมื่อไรมันจะเข้าที่เข้าทาง..ฝึกให้มันมาทำประโยชน์....เดียวมันก็อ่อละเห่ยลอยชายไม่ได้งานได้การกันพอดี :b13:

จิตออกนอก..มันเป็นเรื่องปกติ...ก็เราไม่ใช่อรหันต์นี้นา...แต่พอคิดได้..ก็ดึงมันกลับ...เรากำลังฝึกอยู่....อย่าไปซีเรียสว่าท่าของเรามันจะไม่เหมือนกับท่าของอรหันต์ท่าน..

พระอรหันต์ท่านก็คิดได้..แต่ไม่เรียกว่าจิตส่งออกนอกเพราะ...ผลมันไม่ได้เกิดทุกข์..นะ

หากเราไปซีเรียส..จะกลายเป็นทุกข์ซ้อนธรรม..ธรรมซ่อนทุกข์..ไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 มิ.ย. 2012, 23:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 เม.ย. 2012, 17:37
โพสต์: 37

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
แต่บางคนดื้อมากไปนิด...มีแรงมาก...บังคับไปก็เหนื่อย..หนัก..ครูบาอาจารย์ท่านก็แนะนำว่า...ก็ปล่อยให้มันวิ่งไปให้เหนื่อย..คอยประคองเชือกคือรู้ใว้..อย่าให้ขาด...มันเหนื่อยเมื่อไร..จึงกระตุกให้เข้าที่...ทีนี้มันก็เข้าง่ายหากเอาแต่รู้อย่างเดียว...ไม่เล่นบท..กระตุก..ซะบ้างเลย...แล้วเมื่อไรมันจะเข้าที่เข้าทาง..ฝึกให้มันมาทำประโยชน์....เดียวมันก็อ่อละเห่ยลอยชายไม่ได้งานได้การกันพอดี

ขอบคุณมากครับพี่กบนอกกะลา มีประโยชน์สำหรับตัวผมมากครับ
:b8: :b8: :b8:
ด้วยความเคารพอย่างสูง
---------------------
plekaran


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2012, 03:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2011, 16:32
โพสต์: 324


 ข้อมูลส่วนตัว


plekaran เขียน:
ลูกพระป่า เขียน:
"อย่าส่งจิตออกนอก" แล้วแตกออกมาอธิบายแก่ใจผมว่า "การส่งจิตออกนอกนั้น จิตที่ส่งออกไปคือจิตสังขาร จิตสังขารนี้เป็นทุกข์อยู่ใต้กฏแห่งไตรลักษณ์ จิตที่ส่งออกยิ่งปรุงแต่งมากทุกข์ก็ยิ่งแสดงอาการออกมามากตามไปด้วย พึงกำหนดรู้จิตเฉพาะภายในตนแม้จะมีสิ่งภายนอกเข้ามากระทบ เพราะนี่คือหนทางแห่งการดับทุกข์ให้สั้นลง"


กรณีถ้าเราส่งจิตออกนอกหรือเคลื่อนออกนอกแล้ว เรารู้หรือดูตามความเป็นจริงได้มั้ยครับ ว่าจิตมันทำงานของมันเองมันบังคับไม่ได้ แล้วมันก็เป็นไตรลักษณ์ เพราะผมเคยรักษาตัวรู้หรือจิตไม่ให้ออกนอกแล้วรู้สึกหนักไม่เป็นธรรมชาติ เลยพิจารณาว่าตัวรู้หรือจิตก็ไม่ใช่เพราะเป็นไตรลักษณ์ เลยดูจิตเคลื่อนและทำงานตามความเป็นจริงว่าบังคับไม่ได้สุขและทุกข์ตามเหตุและผล และตกอยู่ใต้กฎไตรลักษณ์เลยรู้สึกเบาขึ้น ( ผมทำงานเอกชนจิตออกนอกบ่อยครับ )
:b8: :b8: :b8:
ด้วยความเคารพอย่างสูง
-----------------
plekaran

สวัสดีครับพี่plekaran :b8:
ส่งจิตออกนอกคือ การที่จิตมีภาวะหรือปล่อยให้เกิดภาวะปรุงแต่ง(สังขาร)ไปตามอารมณ์ที่จิตเข้าไปจับแล้วเกิดเป็นเวทนา ตัณหา อุปาทานขึ้นมาครับ...แต่ถ้าเป็นอารมณ์ที่จิตเข้าไปจับแล้วน้อมเองหรือเราน้อมเข้ามาพิจารณาให้เห็นตามความเป็นจริงของสิ่งนั้นๆ ครูบาอาจารย์ท่านไม่เรียกว่า ส่งจิตออกนอกครับ แต่เป็นการกำหนดรู้พิจารณาธรรมครับ

ดังนั้นในกรณีของพี่จึงไม่เรียกว่าเป็นการส่งจิตออกนอกครับ...ขอให้พิจารณาธรรมโดยธรรมนะครับ

ขอบคุณครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2012, 11:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


cool
ถ้าอยู่ในสภาวะฌาณ จิตที่ส่งออกนอก จะไม่เห็นตัวเอง... ความเป็นนอกเป็นในจะเห็นได้ชัด จิตที่อยู่กับตนจะไม่เห็นภายนอก จิตที่ส่งออกนอกจะไม่เห็นตนเอง คนที่ฝึกสมาธิจนถึงระดับฌาณ จะเข้าใจความหมายนี้ แต่อาจจะไม่ยอมทำ เพราะ อยาก เห็นเรื่องภายนอก

สำหรับผู้ฝึกสมาธิ จิตที่ไม่ ส่ง ออกนอก ก็คือจิตที่ไม่เที่ยวสอดส่ายคิดถึงแต่เรื่องผู้อื่น สิ่งอื่น ที่ไม่ใช่ตนเอง...
เป็นคนละเรื่องกับความฟุ้งซ่าน ความครุ่นคิด ความรู้สึกที่เกิดเมื่อมีสิ่งอื่นมากระทบ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2012, 11:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2011, 16:32
โพสต์: 324


 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีครับพี่murano :b8:
อ้างคำพูด:
ถ้าอยู่ในสภาวะฌาณ จิตที่ส่งออกนอก จะไม่เห็นตัวเอง... ความเป็นนอกเป็นในจะเห็นได้ชัด จิตที่อยู่กับตนจะไม่เห็นภายนอก จิตที่ส่งออกนอกจะไม่เห็นตนเอง คนที่ฝึกสมาธิจนถึงระดับฌาณ จะเข้าใจความหมายนี้ แต่อาจจะไม่ยอมทำ เพราะ อยาก เห็นเรื่องภายนอก

ขออนุโมทนาด้วยครับ และขอเสริมอีกสักนิดว่าในระดับฌานนั้นจิตที่ส่งออกนอกโดยไม่มีสติตามรู้ย่อมมีโทษแก่ผู้ปฏิบัติได้ แต่ถ้ามีสติตามรู้อยู่เมื่อนำมาน้อมเข้าพิจารณาธรรมย่อมให้คุณไม่มีประมาณแก่ผู้ปฏิบัติ ครูบาอาจารย์ที่ท่านสำเร็จด้วยชอบแล้วจึงย้ำเตือนให้พึงระวังถึงโทษแห่งการติดในฌานทั้งหลาย ให้ปฏิบัติด้วยความมีสติกำกับอยู่เสมอครับ
อ้างคำพูด:
สำหรับผู้ฝึกสมาธิ จิตที่ไม่ ส่ง ออกนอก ก็คือจิตที่ไม่เที่ยวสอดส่ายคิดถึงแต่เรื่องผู้อื่น สิ่งอื่น ที่ไม่ใช่ตนเอง...
เป็นคนละเรื่องกับความฟุ้งซ่าน ความครุ่นคิด ความรู้สึกที่เกิดเมื่อมีสิ่งอื่นมากระทบ

ตรงนี้ผมขอพูดว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่ององผู้อื่นหรือตนเองหรือในใจตนเอง ถ้าส่งออกไปแล้วเกิดเป็นเวทนา ตัณหา อุปาทาน อย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นมาหรือทั้งหมด อันนี้คือการส่งจิตออกนอกเช่นกันครับ
ขอให้พิจารณาธรรมโดยธรรมนะครับ
ขอบคุณครับ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2012, 22:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b46:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2012, 22:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ดอกเดียว..เองหรอ..!!

ขอเป็นสวนเลย..ได้ป้ะ..

:b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มิ.ย. 2012, 23:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ดอกเดียว..เองหรอ..!!

ขอเป็นสวนเลย..ได้ป้ะ..

:b12:



:b9: ออกมาเยอะเดี๋ยวทุกข์เยอะ :b46:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มิ.ย. 2012, 01:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มิ.ย. 2012, 14:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


plekaran เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
แต่บางคนดื้อมากไปนิด...มีแรงมาก...บังคับไปก็เหนื่อย..หนัก..ครูบาอาจารย์ท่านก็แนะนำว่า...ก็ปล่อยให้มันวิ่งไปให้เหนื่อย..คอยประคองเชือกคือรู้ใว้..อย่าให้ขาด...มันเหนื่อยเมื่อไร..จึงกระตุกให้เข้าที่...ทีนี้มันก็เข้าง่ายหากเอาแต่รู้อย่างเดียว...ไม่เล่นบท..กระตุก..ซะบ้างเลย...แล้วเมื่อไรมันจะเข้าที่เข้าทาง..ฝึกให้มันมาทำประโยชน์....เดียวมันก็อ่อละเห่ยลอยชายไม่ได้งานได้การกันพอดี

ขอบคุณมากครับพี่กบนอกกะลา มีประโยชน์สำหรับตัวผมมากครับ
:b8: :b8: :b8:
ด้วยความเคารพอย่างสูง
---------------------
plekaran


ไม่เข้าใจครับว่าทำอะไร กำลังพูดเรื่องสังขาร หรือกำลังพูดเรื่องอายตนะภายใน

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มิ.ย. 2012, 17:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 เม.ย. 2012, 17:37
โพสต์: 37

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:แต่บางคนดื้อมากไปนิด...มีแรงมาก...บังคับไปก็เหนื่อย..หนัก..ครูบาอาจารย์ท่านก็แนะนำว่า...ก็ปล่อยให้มันวิ่งไปให้เหนื่อย..คอยประคองเชือกคือรู้ใว้..อย่าให้ขาด...มันเหนื่อยเมื่อไร..จึงกระตุกให้เข้าที่...ทีนี้มันก็เข้าง่ายหากเอาแต่รู้อย่างเดียว...ไม่เล่นบท..กระตุก..ซะบ้างเลย...แล้วเมื่อไรมันจะเข้าที่เข้าทาง..ฝึกให้มันมาทำประโยชน์....เดียวมันก็อ่อละเห่ยลอยชายไม่ได้งานได้การกันพอดี ขอบคุณมากครับพี่กบนอกกะลา มีประโยชน์สำหรับตัวผมมากครับ ด้วยความเคารพอย่างสูง---------------------plekaranไม่เข้าใจครับว่าทำอะไร กำลังพูดเรื่องสังขาร หรือกำลังพูดเรื่องอายตนะภายใน


ขอตอบตามความเข้าใจที่พี่กบแนะนำผมนะครับ
คุยเรื่องการเจริญสติปัฏฐาน4 วิธีปฏิบัติธรรมเพื่อให้เกิด สติ สมาธิ และปัญญา มี 4 อย่าง
กายานุปัสสนา สติปัฏฐาน คือดูรู้เท่าทันกาย และเรื่องทางกาย
เวทนานุปัสสนา สติปัฏฐาน คือการมีสติกำำักับ ดูรู้เท่าทันเวทนา
จิตตานุปัสสนา สติปัฐาน คือการมีสติกำกับ ดูรู้เท่าทันจิตหรือสภาพและอาการของจิต
ธัมมานุปัสสนา สติปัฏฐาน คือการมีสติกำกับ ดูรู้เท่าทันธรรม

จิตมันดื้อมากบังคับก็เหนื่อย(หนัก) ปล่อยมันวิ่งไปตามเหตุมันบาง แต่ต้องมีจิตผู้รู้ดูพิจารณาไว้ เมื่อจิตมันเกิดเวทนา ก็ดึงเข้ามาทำสมถะบ้าง ถึงจะได้งานไม่ประมาณเกินไป (จิตานุปัสสนา สติปัฐาน)

ผมเคยอ่านคำสอนของพ่อแม่ครูอาจารย์หลวงปู่ดูลย์ กล่าวไว้ว่า "ถ้าวันใดเราเห็นจิตกับธรรมชาติที่เเวดล้อมอยู่เป็นสิ่งเดียวกัน วันนั้นจะพ้นทุกข์"

:b8: :b8: :b8:
ด้วยความเคารพอย่างสูง
---------------
plekaran


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มิ.ย. 2012, 18:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
plekaran เขียน:
กรณีถ้าเราส่งจิตออกนอกหรือเคลื่อนออกนอกแล้ว เรารู้หรือดูตามความเป็นจริงได้มั้ยครับ ว่าจิตมันทำงานของมันเองมันบังคับไม่ได้ แล้วมันก็เป็นไตรลักษณ์ เพราะผมเคยรักษาตัวรู้หรือจิตไม่ให้ออกนอกแล้วรู้สึกหนักไม่เป็นธรรมชาติ เลยพิจารณาว่าตัวรู้หรือจิตก็ไม่ใช่เพราะเป็นไตรลักษณ์ เลยดูจิตเคลื่อนและทำงานตามความเป็นจริงว่าบังคับไม่ได้สุขและทุกข์ตามเหตุและผล และตกอยู่ใต้กฎไตรลักษณ์เลยรู้สึกเบาขึ้น ( ผมทำงานเอกชนจิตออกนอกบ่อยครับ )
:b8: :b8: :b8:
ด้วยความเคารพอย่างสูง
-----------------
plekaran


ตอนแรก...มันก็ต้องบังคับกันหน่อยแหละครับ...เพราะมันเอาแต่ใจของมันมานานแล้ว

บางคนดื้อน้อยหน่อย..บังคับนิดเดียวก็เข้าที่...เคยแล้วต่อไปมันก็ง่าย...ไม่ต้องออกแรง

แต่บางคนดื้อมากไปนิด...มีแรงมาก...บังคับไปก็เหนื่อย..หนัก..ครูบาอาจารย์ท่านก็แนะนำว่า...ก็ปล่อยให้มันวิ่งไปให้เหนื่อย..คอยประคองเชือกคือรู้ใว้..อย่าให้ขาด...มันเหนื่อยเมื่อไร..จึงกระตุกให้เข้าที่...ทีนี้มันก็เข้าง่ายหากเอาแต่รู้อย่างเดียว...ไม่เล่นบท..กระตุก..ซะบ้างเลย...แล้วเมื่อไรมันจะเข้าที่เข้าทาง..ฝึกให้มันมาทำประโยชน์....เดียวมันก็อ่อละเห่ยลอยชายไม่ได้งานได้การกันพอดี :b13:จิตออกนอก..มันเป็นเรื่องปกติ...ก็เราไม่ใช่อรหันต์นี้นา...แต่พอคิดได้..ก็ดึงมันกลับ...เรากำลังฝึกอยู่....อย่าไปซีเรียสว่าท่าของเรามันจะไม่เหมือนกับท่าของอรหันต์ท่าน..

พระอรหันต์ท่านก็คิดได้..แต่ไม่เรียกว่าจิตส่งออกนอกเพราะ...ผลมันไม่ได้เกิดทุกข์..นะ

หากเราไปซีเรียส..จะกลายเป็นทุกข์ซ้อนธรรม..ธรรมซ่อนทุกข์..ไป

วาทะถูกใจ :b32: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 มิ.ย. 2012, 19:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


plekaran เขียน:
ผมเคยอ่านคำสอนของพ่อแม่ครูอาจารย์หลวงปู่ดูลย์ กล่าวไว้ว่า "ถ้าวันใดเราเห็นจิตกับธรรมชาติที่เเวดล้อมอยู่เป็นสิ่งเดียวกัน วันนั้นจะพ้นทุกข์"

:b8: :b8: :b8:
ด้วยความเคารพอย่างสูง
---------------
plekaran


วิมุตติ

:b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 110 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5 ... 8  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร