ขอขอบคุณทุกๆความเห็นอีกครั้งนะครับ

ยังต้องการฟังความเห็นของท่านอื่นๆอีกครับ "คนดี" คนดี ตามนิยามตามที่พูดๆกันเนี่ยต้องยังไง มีอะไรเป็นเครื่องกำหนดว่าบุคคลนั้น คนนั้น เป็นคนดี

คุณอเมสซิ่ง คุณอโศก ยังไม่มา

สวัสดีค่ะคุณกรัชกาย

“คนดี” ขึ้นอยู่กับการให้นิยาม ของแต่ละสังคมที่เห็นพ้องกันเป็นส่วนใหญ่ว่าคุณสมบัติเช่นไรเรียกว่าคนดี ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับ ความรู้ ประสบการณ์ ความเชื่อ วัฒนธรรม ศาสนา สภาพแวดล้อมของสังคมนั้นๆ หรือจะเรียกว่าสิ่งที่สังคมตกลงร่วมกัน ออกมาเป็นรูปธรรม ในรูปของ กฎเกณฑ์ ระเบียบแบบแผน กฎหมาย ฯลฯ ที่จะควบคุมคนให้ไปในทิศทางที่เหมาะสมดีงามของสัมคมนั้นๆ

ถ้าจะเอา “คนดี” ของแต่ละสังคม มาเปรียบเทียบกันก็คงหาข้อยุติไม่ได้ เนื่องมาจากพื้นฐานทางสัมคมที่ต่างกัน

ถ้า “คนดี” ในทัศนะของบุคคล ก็คงจะหนีไม่พ้น ความชอบ ความชัง ความเชื่อ ความรู้ ประสบการณ์ ฯลฯ ซึ่งบางคนอาจจะอิงไปตามกฏเกณฑ์ที่สังคมจัดวางไว้ บางคนก็อาจจะเอาแต่ความชอบชังของตนเป็นเกณฑ์ตัดสินอย่างเดียวก็มีออกถมไปอย่างที่เราก็เห็นๆกันอยู่

แต่ถ้า “คนดี” ในทัศนะของปลีกวิเวก ก็คงจะอิงทั้งกฏเกณฑ์สังคม และความรู้ ความเชื่อตามหลักพุทธศาสนา คือเป็นคนมี เบญจศีล เบญจธรรม กุศลกรรมบถ เป็นต้น คือประพฤติตนตามหลักพุทธศาสนา และปฏิบัติตาม กฎเกณฑ์ ระเบียบแบบแผน ข้อบังคับ กฎหมาย ฯลฯ ที่สังคมวางกรอบไว้ เป็นต้น

กรัชกายเอาดีระดับไหนล่ะครับ เอาศีลห้าเป็นหลักน่ะครับ ใครรักษาได้มากก้อดีมาก

ระยะนี้ เห็นได้ยินคนพูดเกือบทุกวันอะไรๆ ก็ "คนดี" นั่นๆนี่ๆต้องคนดี แต่เขาก็ไม่ขยายความว่าคนดีต้องยังงี้ๆ จึงดี เราก็สงสัย ว่า เอ...คนดีนี่ มีลักษณะเป็นอย่างไร ต้องประกอบด้วยอะไร มองกันตรงไหนว่า เนี่ยดี ว่าเนี่ย คนดี จึงนำมาถามในลานธรรมดู เพราะเห็นว่า เป็นเวปธรรมะ น่าจะได้คำตอบ เมื่อได้คำตอบลงตัวแล้ว น่าจะนำเสนอท่านเลขา ฯ กปปส. เพื่อเป็นแนวทางออกแบบประเทศไทย เป็นต้นแบบสังคมไทย เมื่อเป็นคนดีเหมือนกันหมดแล้ว เราน่าจะถึงศาสนาพระศรีอริยเมตไตรก็เป็นไปได้

นี่เขาก็ร่างพิมพ์เขียวนิวไทยแลนด์อยู่ ฟังดู

http://www.youtube.com/watch?v=6DYqZ_CQeS8#t=10

สรุป เมสซิ่งว่าต้องรักษาศีลห้าให้มาก จึงเป็น คนดี นะครับน่ะ


รอฟังคุณอโศกบ้าง หายไป เห็นไปวนๆเวียนๆอยู่ที่ลานธรรมเสวนา

คนดี คือ คนที่ประกอบกรรมดี ทั้ง กาย วาจา และ ใจ งดหรือละเว้น กรรมชั่ว ทั้ง กาย วาจา และใจ นอกจากนั้น ยังประกอบด้วย การประพฤติตนอยู่ในศีล ในธรรม รู้จักแบ่งปันสิ่งดีดีให้กับผู้อื่น และรู้จักเจริญสติ เพื่อให้เกิดการพัฒนาจิตใจอย่างต่อเนื่อง ที่เรียกว่า ศีล ทาน และภาวนา ที่ไม่เคยกระทำความผิด ทำความชั่ว เพียงแต่ ใครจะคิดได้และเริ่มต้นทำความดี ละความชั่ว หากเราคิดจะเริ่มต้นในการเป็นคนดี การทำความดี สร้างบุญ ละบาป เพื่อความสุขในชีวิตของเรานะค่ะ

กราบอนุโมทนาบุญ พุทธังรักษา ธัมมังรักษา สังฆังรักษา ท่านใดมีทุกข์ขอให้พ้นทุกข์ ท่านมีความสุขขอให้มีความสุขยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะเจ้าค่ะ

เคารพ นอบน้อม รู้บทบาทหน้าที่ ถือกตัญญูรู้คุณเป็นที่ตั้ง ซื่อสัตย์สุจริต รักษาสัจจะ
กตัญญูก็ไม่ได้หมายความว่าคล้อยตามทุกเรื่อง เรื่องที่ไม่ถูกเป็นโทษก็ต้องทัดทาน
กตัญญูแต่ไม่เคารพก็ใช้ไม่ได้

กระทู้นี้ผมอ่านมาหลายครั้ง เพื่อจะร่วมสนทนาด้วย
เพราะเป็นกระทู้ที่น่านำมาคิดวิเคราะห์ ค้นหาคนดี
และผมก็ได้พยายามค้นหา"คนดี"มันก็ไม่รู้ว่าใครคือ"คนดี"
เพราะไม่รู้จะเอาอะไรไปวัดกันว่าเป็นคนดี แม้กระทั้งมือถือไมล์ประกาศตนว่าเป็นคนดี
ก็ไม่ใช่อีก ปากยังด่าว่าคนโน้นคนนี้ว่าเลว แท้จริงแล้วตนกำลังเป็นคนเลวยิ่งกว่าคนถูกด่า ก็ไม่รู้ตัว

ฉะนั้นผมว่า"คนดี"ย่อมต้องตั้งตนอยู่ในสุจริต ๓ ย่อมเรียกว่าเป็นดีได้
คนดีย่อมไม่คนที่เบียดเบียนตนเอง และผู้อื่น ให้เดือดร้อน
สรุปแล้วถ้าจะหาคนดีนั้นมันจะต้องประกอบไปด้วย สุจริต ๓
คือ การคิดดี การพูดดี การทำดี หรือ ละเว้น ทุจริต ๓

ดังมีคำกล่าวเปรียบเทียบไว้ว่า

“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนในโลกนี้
เป็นคนเจ้าโทสะ มากด้วยความแค้นใจ แม้ถูกว่ากล่าวแม้เพียงเล็กน้อย
ก็ขัดใจ โกรธเคือง พยาบาท...แสดงความโกรธ ความขัดเคือง
และความโทมนัสให้ปรากฏ เปรียบเหมือนแผลเก่า
ถูกไม้หรือกระเบื้องกระทบเข้า ย่อมให้สิ่งหมักหมมกระจัดกระจายมากมาย....
เปรียบเหมือนถ่านไม้มะพลับ ถูกไม้หรือกระเบื้องกระทบเข้า ย่อมแตกเสียงดังจิจิ...
เปรียบเหมือนหลุมอุจจาระ ถูกไม้หรือกระเบื้องกระทบเข้า ย่อมส่งกลิ่นเหม็นฟุ้งขึ้น...
บุคคลเช่นนี้ ควรวางเฉย ไม่ควรคบ เพราะเหตุไร? เพราะเขาถึงด่าบ้าง บริภาษบ้าง
ทำความเสียหายให้เราบ้าง....เพราะเขาไม่คิดข่ม จึงไม่ใช่คนดี”

"คนดี คือคนที่มีความละอายและเกรงกลัวต่อบาป" (มีหิริ โอตัปปะ)

นี่คือธรรมะขั้นรากฐานที่สำคัญยิ่งสำหรับมนุษย์ทุกคน โลกจะพ้นจากความทุกข์เดือดร้อน วุ่นวาย และได้ถึงความสงบเย็น

ขอขอบคุณทุกๆความเห็นอีกครั้งนะครับ อโศกมาแล้ว และได้แสดงทัศนะ คนดี แล้ว

ออกแบบคนดีกันอีกนะครับ เชิญท่านพุทธคุณด้วยครับ คนดี ต้องยังไงครับ

นี่ก็ไม่ยอมเลิก ล่อเป้าอยู่นั้นแหล่ะ ก็รู้ๆอยู่อยากจะพูดอะไร

จะพูดก็พูดมาเลยทำเป็น นางบังเงาตามต้นมะขามสนามหลวงไปได้

เอาให้มันตรงประเด็นไปเลย เว็บบอร์ดเขาไม่ห้ามเรื่องการเมืองไม่ใช่หรือ

อั้นอยู่นั้นแหล่ะ เดี๋ยวริดสีดวงแตกก็เดือดร้อนหมออีก

อาจจะนอกเรื่องไปบ้างขออภัย
เผอิญช่วงนี้เราอ่านเรื่อง ขงจื๊อ อยู่ เพราะอยากรู้จักท่าน อยากรู้ว่าท่านคิดอย่างไร มองคนอย่างไร และสอนคนอย่างไร ก็ได้เจอ การแบ่งคนของท่านดังนี้

สามัญชน คือ คนที่ไม่ค่อยเคารพปฏิบัติตามกฏระเบียบ ไม่อาจกล่าววาจาสะท้อนความมีสติปัญญา ไม่เคยคิดจะคบนักปราชญ์ ไม่มีเป้าหมายชีวิต รู้แต่เรื่องเฉพาะหน้า ไม่มีอุดมคติลึกซึ้งกว้างไกล ชอบเปลี่ยนความคิดตามสภาพแวดล้อมที่เข้ามากระทบ และไม่ยืนหยัดหลักการ

บัณฑิต คือ บุคคลแม้ไม่เข้าใจเหตุผลลึกซึ้ง ไม่อาจบำเพ็ญคุณธรรมหมดจดไร้ที่ติ แต่ก็มีความรู้ความเชื่อบางอย่าง ทำงานและประพฤติตัวตามหลักการบางอย่าง เพราะฉะนั้นถึงระดับความรู้ความเข้าใจมีข้อจำกัด ก็เข้าใจเหตุผลที่พูดอย่างแท้จริง ถึงระดับความสามารถในการสื่อด้วยการประพฤติ มีข้อจำกัด ก็ระมัดระวังความประพฤติของตนเองเสมอ กล่าวคือ พวกเขากล้าเผชิญความจริงภายใต้ข้อจำกัดของตัวเอง ความรู้ความเข้าใจและความซื่อสัตย์สุจริต จึงไม่เปลี่ยนแปลงไปตามฐานะยากดีมีจน

วิญญูชน คือ บุคคลที่ทำงานด้วยความทุ่มเท พูดจริงทำจริง ไม่บ่นโทษนินทาพยาบาท มีคุณธรรมสูงส่งเป็นที่ยกย่องแต่ไม่เย่อหยิ่งทะนงตน มีสติปัญญาล้ำเลิศ แต่ไม่หมกมุ่นในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ประพฤติตนอยู่ในทำนองคลองธรรมอย่างเคร่งครัด ท่าทีนอบน้อมกระตือรือร้น ดูคล้ายไร้สติปัญญา แท้ที่จริง มีความสามารถลึกล้ำหาผู้ใดเสมอยาก

ปราชญ์ คือ บุคคลที่เคารพปฏิบัตตามกฎหมาย อยู่ในทำนองคลองธรรม มีวาจาเที่ยงแท้เป็นที่เชื่อถือของคนทุกระดับชั้น บำเพ็ญธรรมแน่วแน่พอเป็นแบบอย่างแก่ราษฎร กล่อมเกลาราษฎรได้โดยไม่เป็นผลร้ายกับตัวเอง ยามสมปณิธานก็แผ่พระคุณ สร้างประโยชน์แก่ราษฎรทั่วแผ่นดิน

อริยบุรุษ ข้าน้อยคงอธิบายให้ชัดเจนไม่ได้เพียงรู้ว่า พวกเขามีจิตใจสูงส่งน่าบูชาดุจฟ้าดิน แต่ปรับตัวกลมกลืนเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ มีสติปัญญาแจ่มจ้าดุจแสงแห่งสุริยันจันทรา หยั่งรู้รากเหง้าสรรพสิ่งได้ ยามดำเนินมรรคธรรม จะประหนึ่งฟ้าดินเลี้ยงหล่อเลี้ยงสรรพชีวิตโดยไม่ลำเลิก และราษฎรทั้งปวงหารู้ไม่ว่ารับบุญคุณท่านแล้ว คนทั่วไปจึงไม่ทราบว่า ท่านทำอะไรบ้างและมีคุณธรรมสูงส่งเพียงใด ดุจเดียวกับที่ไม่เข้าใจความลับฟ้าดินและฤดูกาลทั้งสี่

ลักษณะคนถ่อยที่ท่านขงจื๊อกล่าว

ชอบบิดเบือนความดีผู้อื่น เป็นความเลว ซ้ำยังหลงระเริงกับวาทศิลป์ที่ใช้ในทางที่ผิดของตน จิตใจชั่วร้ายพูดจาสับปลับ หน้าเนื้อใจเสือ ซ้ำยังคิดว่าตนเองฉลาดปราดเปรื่อง เห็นผู้อื่นทำผิดบกพร่องก็ดีใจ
และตนเองไม่นอบน้อมศึกษากลับหัวเราะเยาะผู้อื่นว่ารู้ไม่จริง ทั้งหมดนี้ คือแบบฉบับความประพฤติของคนถ่อย

ใต้ฟ้านี้มีโทษกรรม 5 ประเภทที่ร้ายแรงกว่าฆ่าคนปล้นทรัพย์เสียอีก
จิตใจชั่วร้าย อำมหิต แต่ซ่อนเร้นได้อย่างมิดชิด
ประพฤติตัวต่ำช้าเลวทราม ซ้ำยืนหยัดอย่างแน่วแน่
พูดจาโป้ปด มีอคติ ด้วยวาทศิลป์อันยอดเยี่ยม
ก่อกรรมทำเข็ญด้วยความรู้ที่ลึกซึ้งกว้างไกล
เมตตาอย่างล้นเหลือต่อคนที่ก่อกรรมทำเข็ญ


ถานไถจื๋อหวี มีรูปร่างหน้าตาและท่าทีคล้ายวิญญูชนที่มีคุณธรรม ความสามารถ แต่ความประพฤติกับมิได้เป็นเช่นนั้น
ไจ๋หว่อ มีวาทศิลป์ลื่นไหลยอดเยี่ยม กลับมีสติปัญญาเทียบกับวาทศิลป์ของตนเองไม่ได้
ขงจื๊อกล่าวว่า คำพังเพยว่า ม้าดีหรือไม่ให้ดูตอนลากรถ คนดีหรือไม่ให้ดูพฤติกรรมประจำวัน
ซึ่งไม่ผิดแม้แต่น้อย ถ้าดูแต่หน้าตาท่าที ก็จะหลงศรัทธาจื๋อหวี ถ้าฟังแต่คำพูด ก็จะถูกไจ๋หว่อหลอกลวง
ทีมา. ขงจื๊อฉบับปราชญ์ชาวบ้าน

เครียดไปมั้ยเนี้ย............

คิกๆ ใจเย็นๆ แสดงความเห็นไปแล้วนี่ พอแล้วอ่านเฉยๆพอ อยากรู้เกี่ยวกับ คนดี ความดี ว่าแต่ละคนๆคิดยังไง เห็นเขาร่ำร้อง คนดีๆ ต้องคนดีๆ เท่านั้น คนชั่วออกไปๆ ดูสิจะมีคนดีสักเท่าไรในสังคมนี้


"นางบังเงา"

http://www.youtube.com/watch?v=BYhSfCRSxBI


อ้อ เพิ่งนึกได้ เห็นว่ายังมีไทยทน ไทยเฉยอีกนะ

ไทยเฉย คงประมาณไทยอุเบกขามั้ย ไทยทน ประมาณไทยขันติมั้ย ประเ็ด็นนี้ทิ้งไว้ก่อน บอกเฉยๆ

อะไรเราก็ไม่ขำค่ะ เราขำที่พวกคนดีเค้าทำพิธีสาปแช่งคนโกงค่ะ
ไม่รู้จะบอกว่าตลกยังไงดี

อ้าว! ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ......นี่ยังเลิกนิสัยเดิมไม่ได้อีกหรือโฮฮับ นิสัย ชอบ "ชักใบให้เรือเสีย"เนี่ยะ

กระทู้ของกรัชกายกำลังมาดีๆ มีกัลยาณมิตรมาแสดงความเห็นกันอย่างสงบ ร่มเย็น เป็นสุข เป็นธรรม กันอยู่นะ
อย่ามาทำให้เขาเสียบรรยากาศล่ะ ชู่ ๆ ๆ ๆ


ลักษณะคนถ่อยที่ท่านขงจื๊อกล่าว

ชอบบิดเบือนความดีผู้อื่น เป็นความเลว ซ้ำยังหลงระเริงกับวาทศิลป์ที่ใช้ในทางที่ผิดของตน จิตใจชั่วร้ายพูดจาสับปลับ หน้าเนื้อใจเสือ ซ้ำยังคิดว่าตนเองฉลาดปราดเปรื่อง เห็นผู้อื่นทำผิดบกพร่องก็ดีใจ
และตนเองไม่นอบน้อมศึกษากลับหัวเราะเยาะผู้อื่นว่ารู้ไม่จริง ทั้งหมดนี้ คือแบบฉบับความประพฤติของคนถ่อย

ใต้ฟ้านี้มีโทษกรรม 5 ประเภทที่ร้ายแรงกว่าฆ่าคนปล้นทรัพย์เสียอีก
จิตใจชั่วร้าย อำมหิต แต่ซ่อนเร้นได้อย่างมิดชิด
ประพฤติตัวต่ำช้าเลวทราม ซ้ำยืนหยัดอย่างแน่วแน่
พูดจาโป้ปด มีอคติ ด้วยวาทศิลป์อันยอดเยี่ยม
ก่อกรรมทำเข็ญด้วยความรู้ที่ลึกซึ้งกว้างไกล
เมตตาอย่างล้นเหลือต่อคนที่ก่อกรรมทำเข็ญ

คนดีต้องรักลูกรักเมีย รักลูกน้อง ไม่ทิ้งเมีย ด่าลูกน้องด้วย