นักปฏิบัติท่านใดเชื่ออโศก เชิญนะขอรับ เชิญอดข้าวอดน้ำกันนะ อดให้เจียนตายเลยนะขอรับ เอาให้กิเลสฝ่อเลย ลองดูครับ เจ้าชายสิทธัตถะ (พระโพธิสัตว์) อดยังไม่ถึงขั้นก็ได้


ถามหน่อย ธาตุขันธ์ หมายถึงอะไรครับ

ช่างน่าสงสารท่านนักวิชาการ ช่างไม่รู้จักคำว่า

"กุศโลบาย".....สติ+ปัญญา

"ความแยบคาย"......โยนิโส




ธาตุ.......ดิน น้ำ ลม ไฟ.....มหาภูติรูป 4

ขันธ์....รูป - นาม กาย ใจ ประกอบด้วย 5 ขันธ์ หรือ 5 กอง คุยและลอกตำรามาสาธยายกั้นโดยละเอียดพิสดารอยู่ไม่ใช่หรือครับท่านกรัชกาย

ช่างน่าสงสารท่านนักวิชาการ ช่างไม่รู้จักคำว่า

"กุศโลบาย".....สติ+ปัญญา

"ความแยบคาย"......โยนิโส




ธาตุ.......ดิน น้ำ ลม ไฟ.....มหาภูติรูป 4

ขันธ์....รูป - นาม กาย ใจ ประกอบด้วย 5 ขันธ์ หรือ 5 กอง คุยและลอกตำรามาสาธยายกั้นโดยละเอียดพิสดารอยู่ไม่ใช่หรือครับท่านกรัชกาย

http://www.yourepeat.com/watch/?v=uCvFQ7vcR0Q

ทีนี้ของจริงเลยเอ้า

ธาตุขันธ์เขาเป็นอะไรครับน่า

ที่บอกว่าเดี๋ยวก็รู้นี่ เมื่อไรครับ....หลักฐานคาหนังคาเขา ยังทำเป็นผู้ร้ายปากแข็ง

ดันมาบอกให้เขา....อดอาหาร ทั้งๆที่พระพุทธองค์ทรงสอนให้ปัญจวัคคีย์
ละเว้นเพราะมันเป็นอัตตกิลมถนุโยค

ปากแข็งผิดไม่ยอมรับผิด ถ้าเป็นสมัยโบราณเขาเอาหวายแช่ฉี่สุนัขลงหลัง
แถมด้วยน้ำต้มเดือดๆกรอกปาก......



พาลกับอันธพาล โสกะแยกแยะไม่ออกหรือครับ
โสกะกำลังพาล ที่คนอื่นเขามาชี้จุดบกพร่อง ก็เลยโมโหโทโส

ทำเป็นสอนน้องเขา คนอื่นเขาไม่เห็นแสดงตนออกตัวแบบโสกะเลย
อะไรโพสทั้งรูป โพสทั้งที่อยู่ แถมชวนชาวบ้านเขาไปสำนักตนอีก

คนอะไรไม่ได้ดูตัวเองเลย

ที่จริงในภาษาบาลีที่ใช้ "ธาตุขันธ์" ยังไม่เคยเห็น น่าจะเป็นคำพูดกันเฉพาะกลุ่มเออๆหนอๆยอมรับกันเอง ที่เคยเห็นเยอะแยะที่ท่านใช้ต่อกับคำอื่นๆ เช่น ปฐวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตุ ในธาตุ 18 เช่น จักขุธาตุ โสตธาตุ เป็นต้น

ขันธ์ - ที่นำไปใช้กับคำอื่นๆก็เช่น ธรรมขันธ์ (กองแห่งธรรม) รูปขันธ์ กองแห่งรูป เวทนาขันธ์ กองแห่งเวทนา ฯลฯ

ธาตุแปลว่า ทรงไว้ (ซึ่งสภาพของตน)

ตำราหรือคัมภีร์ที่มาถูกต้อง สำคัญครับ ที่่พูดๆกันนั่นก็มาจากคัมภีร์มาจากตำราทั้งนั่นแหละ ไม่มีใครคิดบัญญัติขึ้นเองหรอก แต่ว่า รู้แบบคลุมๆ ไม่ใชัดเจน (เช่น ขันธ์ 5 พูดคลุม รู้คลุมๆ พอให้แยกว่า 5 มีอะไรบ้าง เล่นเอาเกือบตาย แยกออกมาแล้วเข้าใจผิดอีก)

ก็เหมือนกับคำ 2 คำ คือ รูป กับ กาย 2 ศัพท์นี้เหมือนกันโดยอรรถ ต่างกันแต่พยัญชนะ และใช้ในความหมายกว้างแคบกว่ากันเท่านั้น รูป ใช้ในความหมายกว้าง เช่น ตา เห็น รูป ที่ตาหรือจักขุมองเห็น เรียกว่ารูปทั้งหมด หู ได้ยินเสียง ฯลฯ มองแคบเข้ามา ก็ได้แก่ กาย, ร่างกายนี่แหละ (ภาษาของเขา แต่พวกเราคิดซ้ำเอาเองอีก มันจึงเลอะ)

สังเกตที่ท่านใช้

รูป รูปขันธ์ (รูป+ขันธ์) รูปารมณ์ (รูป+อารมณ์)

กาย ร่างกาย กายานุปัสสนา (กาย+อนุปัสสนา) กายกรรม (กาย+กรรม) แล้วจัดเป็นหมวด ก็เช่น จักขุ โสตะ ฆานะ ชิวหา กาย มโน ที่ภาษาเราพูดพอรู้ก็ ตา หู จมุก ลิ้น กาย ใจ


ถึงตำราจะแยกขยายเรียกออกไปๆ อย่างไร ก็รวมที่ชีวิตนี่เอง ถึงได้บอกว่า ธรรมะคือชีวิต ชีวิตคือธรรมะ เรียนบานออกไปแล้ว ต้องหุบมาที่ชีวิตเราๆท่านๆนี่ให้ได้ พระพุทธเจ้ารู้จักชีวิตนี่ แต่ที่พระองค์เน้นคือจิตใจ ที่ซับซ้อนลึกซึ้งมากกกกก



ที่ถูกต้องเขียนมหาภูตรูป 4 ไม่ใช่มหาภูติ 4 ไม่มีสระอิ ที่ติ ดูตำราครับ

มีแบบที่โสกะ นำมาเอ่ยอ้าง แบบนี้นี่เอง มิน่า พวกชอบอวดอ้าง เพื่อที่มาของอามิสบูชา จึงอวดกันให้ว่อน ไม่ก็ถูกแต่งตั้งกันให้เป็นกันเอง จากเหตุปัจจัยที่มีต่อกัน


อันนี้ ก็เป็นเรื่องจริงนะโสกะ หาอ่านไม่ได้หรอกในพระไตรปิฎก แต่ในสภาพธรรม ตามความเป็นจริง ของสภาวะ จะเกิดขึ้นเฉพาะ ขณะที่ จิต เป็นสมาธิอยู่(มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม)

และเกิดเฉพาะ ในสัมมาสมาธิเท่านั้น(ละเอียด) นี่แหละของจริง ที่ไม่ต้องใช้ภาพโป๊
หรือ การดูหนังโป๊ หรือ การนำสิ่งภายนอก มาสอบอารมณ์ เพื่อดูสภาวะของตนเอง

แต่ทั้งหมดนี้ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ที่จะมาหมายมั่นเอาเองว่า ได้อะไร เป็นอะไร
เพราะ ตราบใด ที่มีเหตุของการเกิดแห่งภพ ที่ยังมีอยู่
นั่นหมายถึงเหตุของการเกิด(เหตุแห่งทุกข์) ที่ยังมีอยู่

ผู้ที่กระทำเพื่อ ให้ถึงที่สุดแห่งทุกข์ มีแต่มุ่งดับเหตุของการเกิด
ไม่ใช่การกระทำเพื่อ ทำให้เกิดภพขึ้นใหม่(ความยึดมั่นถือมั่นว่า ได้อะไร เป็นอะไร)


โสกะ ผู้มีอุปทานเยอะ และชอบนำอุปทานที่มีอยู่ เที่ยวตีฆ้องร้องปาวๆๆ เร่ขายชาวบ้าน

ผลคือ สภาวะที่โสกะ เป็นอยู่ทุกวันนี้แหละ

ไม่ต้องแก้ ถ้ามีกรรม ก็ต้องรับกรรม แต่มีได้แค่คนเดียว ถ้ามีหลายคนจะภาวนาไม่ขึ้น