วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 11:09  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 18 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.พ. 2015, 20:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ไม่เห็นว่าถามถึงปัญหาอะไร...

จึงไม่รู้ว่า...บอกไปแล้วจะได้อะไรครับ... :b6: :b6:


อยากทราบว่า ศีล 8 นั่นช่วยให้ก้าวหน้าในการปฎิบัติ มากกว่าศีล 5 แค่ไหนครับ


มันมีได้ 2 ทางครับ...คือ...
ถือศีล 8 โดยธรรมบังคับ..กับ..ถือเพราะอยากถือ

ผมว่าแบบแรก...จะดีกว่านะครับ...คือเราถือศีล 5 นี้แหละ...แล้วปฏิบัติภาวนาไป...เมื่อผลการภาวนามันก้าวหน้าไป...จิตใจมันจะอึดอัดเอง..เมื่อจะทาของหอม...จะนอนที่นอนสูง...จะมีอะไรกับภรรยามันก็ไม่สุข..ใจมันทุกข์เอง...ทุกข์แล้วก็ไม่อยาก(ทำ)เอง...แต่ยังไม่ถึงขนาดละกามราคะได้นะ...ความเคยชินมันยังทำงานของมันอยู่..แต่เราไม่อยากทุกข์....เมื่อถึงตอนนี้..ก็จะรู้แล้วว่า..เราคงต้องมาที่ศีล 8 แล้วละ...

อย่างนี้...จะดีกว่านะ...เพราะโอกาสจะผิดศีล...แทบจะไม่มี....ดีกว่าการอยากถือศีล 8 เพราะอยากให้การปฏิบัติก้าวหน้า


คุณกบว่า เพียงศีล 5 ก็ถึงนิพพานได้ไหมครับ


มันจะหนักไปรึเปล่านะ...

:b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.พ. 2015, 04:45 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ข้อคิดจากที่อื่น

อ้างคำพูด:
อะไรทำให้คุมศีลสมบูรณ์ได้ กับการบวชเนกขัมมะบารมี

.............. ทรงมีพระเมตตาตรัสสอนเรื่องนี้ไว้ดังนี้

๑. เนกขัมมะบารมีจักสมบูรณ์ เมื่อบุคคลนั้นเข้าถึงพร้อมซึ่งศีล - สมาธิ - ปัญญา หรืออริยมรรคมีองค์ ๘ ประการนี้ เป็นต้น

๒. การบวชมิใช่อยู่ที่โกนหัวห่มผ้าเหลืองห่มผ้าขาว อย่างนั้นยังจัดไม่ได้ว่าเป็นเนกขัมมะบารมีในพุทธศาสนา เพราะสักแต่ว่าบวชกายเท่านั้น ยังไม่ได้ชื่อว่าบวชใจ

๓. การบวชขั้นต้น คือ จักต้องมีศีลพร้อมสมบูรณ์เป็นปกติ จักเป็นศีล ๕ - ๘ - ๑๐ - ๒๒๗ ก็ต้องให้สมบูรณ์ตามกำลังศีลของตน เจ้ารู้ไหมอะไรทำให้คุมศีลสมบูรณ์ได้ (ตอบว่า เมตตา - กรุณา และหิริ - โอตตัปปะ)

๔. นั่นว่าด้วยศีลเบื้องต่ำ อย่างพวกเจ้านี่ ต้องว่าด้วยศีลเบื้องสูง จักให้ศีลสมบูรณ์ แต่พรหมวิหาร ๔ จักต้องมีพร้อมครบทั้ง ๔ ตัวด้วย ศีลจึงจักสมบูรณ์ได้

๕. อนึ่ง จักต้องใช้ปัญญาบารมีเป็นที่ตั้งของการพิจารณาธรรมโดยธรรมด้วย ทุกอย่างต้องอิงกัน อาศัยซึ่งกันและกัน ศีล-สมาธิ-ปัญญา จึงจักสมบูรณ์ได้

๖. อย่าลืม เนกขัมมะบารมี บวชเพื่อความดับไม่มีเชื้อ เชื้อในที่นี้คืออารมณ์เลวของจิต ๓ ประการ คือโมหะ - โทสะ - ราคะ การบวชก็จักต้องกำหนดรู้ไว้เพื่อระงับ หรือตัดอารมณ์เหล่านี้ให้สิ้นซากไป

๗. กิเลสเหล่านี้ พระตถาคตเจ้าได้แจกแจงแบ่งออกเป็นรายละเอียดแล้ว ก็คือสังโยชน์ ๑๐ ประการนั่นเอง เพราะฉะนั้น จงอย่าทำสะเปะสะปะจักไร้ผล

๘. สมาธิ คือ ความตั้งใจ กำหนดรู้อารมณ์ให้ทรงอยู่ในความดีตลอดเวลาเป็นปกติ

๙. สำหรับปัญญา คือ รอบรู้ในความเป็นจริงของขันธ์ ๕ โดยกำหนดรู้ทุกข์ในอริยสัจเป็นหลักสำคัญ เพราะนั่นคือปัญญาในหลักของพระพุทธศาสนา

๑๐. เจ้าฟังแล้วจงนำไปคิด และพิจารณาให้ลึกซึ้งในเนกขัมมะบารมี ให้ยิ่งขึ้นกว่านี้ อย่าสักเพียงแต่ว่าฟังแล้วไม่จำปล่อยวางไป ก็ไม่เกิดผลประโยชน์อันใด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.พ. 2015, 04:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ศีล...จะ5 จะ8....ก็รักษาไป...

ภาวนาไป....ภาวนาไป...ค่อยๆเข้ามาสู่ใจ...เดียวศีลทั้งหลายก็มารวมที่ใจ....รักษาใจได้เมื่อไร..ศีลจะมีกี่ข้อก็สมบูรณ์เอง...เป็น...ศีลเป็นเอง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 18 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร