วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 05:43  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 38 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ธ.ค. 2019, 10:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
คำสอนของพระพุทธเจ้า
ส่องถึงความจริงที่กำลังมี
เดี๋ยวนี้ทุกขณะในชีวิตประจำวัน
ตามปกติตั้งแต่ลืมตาตื่นจนหลับไป
ไม่มีใครรู้ความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏ
จนกว่าจะได้ฟังความจริงตรงตามคำสอนแล้วรู้สึกตัว
เดี๋ยวนี้พระพุทธเจ้าบอกว่าจิตเกิดดับนับไม่ถ้วนถึงแสนโกฏิขณะ
และเกิดดับทีละ1ขณะตั้งมั่นเป็นสมาธิตรงทางเพราะจิตรู้ได้ทีละ1ลักษณะ
ไม่มีจิตทางไหนเลยที่เกิดพร้อมกันแต่จิตเกิดดับสลับกันเป็นแต่ละ1ไม่ปนทางกันด้วย
จิตแต่ละ1ทางมีอายุ1ขณะจิตส่วนรูปมีอายุยืนมากกว่าจิต17ขณะถึงจะดับใครคิดว่าตัวเองเห็นถูกบ้างคะ
:b12:
:b4: :b4:
ฟังเพื่อเข้าใจถูกตามได้ดับคิดเห็นผิดทันทีที่เข้าใจถูกตามได้
https://youtu.be/Jr65QKV2DqQ
onion onion onion


เลอะเทอะ :b13:

:b12:
ว่าตัวเองล่ะสินะ
ก็อปมาแปะ
เลอะเทอะ
:b32:
พระพุทธเจ้าตรัสรู้สิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้
เป็นสิ่งที่กำลังมีจริงๆที่ไม่มีใครรู้และคิดเองได้
ความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ละเอียดทีละ1ขณะจิตไม่ปนกัน
แต่ละ1ขณะจิตมีครบขันธ์ทั้ง5ธาตุทั้ง4อายตนะทั้ง6มีแล้วกำลังเกิดดับ
ไม่มีใครทำสิ่งที่กำลังเกิดดับเพราะทุกอย่างเป็นจิตแต่ละ1หลากหลายที่เกิดดับตามเหตุตามปัจจัยไม่ได้ทำ
https://youtu.be/0Eqats1bwW0
:b12: :b12: :b12:


นี่ก็ก๊อปมาแปะ

อ้างคำพูด:
Rosarin
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ด้วยประการดังนี้ การไม่คบสัปบุรุษที่บริบูรณ์ ย่อมยังการไม่ฟังสัทธรรมให้บริบูรณ์
การไม่ฟังสัทธรรมที่บริบูรณ์ ย่อมยังความไม่มีศรัทธาให้บริบูรณ์
ความไม่มีศรัทธาที่บริบูรณ์ ย่อมยังการทำไว้ในใจโดยไม่แยบคายให้บริบูรณ์
การทำไว้ในใจโดยไม่แยบคายที่บริบูรณ์ ย่อมยังความไม่มีสติสัมปชัญญะให้บริบูรณ์
ความไม่มีสติสัมปชัญญะที่บริบูรณ์ ย่อมยังการไม่สำรวมอินทรีย์ให้บริบูรณ์
การไม่สำรวมอินทรีย์ที่บริบูรณ์ ย่อมยังทุจริต ๓ ให้บริบูรณ์
ทุจริต ๓ ที่บริบูรณ์ ย่อมยังนิวรณ์ ๕ ให้บริบูรณ์
นิวรณ์ ๕ ที่บริบูรณ์ ย่อมยังอวิชชาให้บริบูรณ์
อวิชชานี้มีอาหารอย่างนี้ และบริบูรณ์อย่างนี้ ฯ


ไปเอามาจากตรงนี้เอง :b1: ถึงว่าทำไมนะ ถึงได้นั่งยันนอนยัน เรื่อง "ฟัง" "ไม่ฟัง" นักหนา ว่ากันตามตัวหนังสือเด๊ะๆๆ :b35: แล้วก็ว่าต่อไปอีกว่า นิวรณ์จะหมดไปเพราะฟังฟังนี่ล่ะ ถ้าไม่ฟังก็มีกิเลส มีอวิชชา :b32: แล้วก็ต้องฟังเฉพาะคลิปแม่สุจินด้วยนะ

จบข่าวภาคตะวันรอนๆ แดดร่มลมตก :b13:

อินทรีย์คือความเป็นใหญ่
ปัญญินทรีย์มีปัญญานำเห็น
และปัญญาแรกเกิดตอนฟัง
ทำอะไรต้องตามลำดับและตรงปัจจุบัน
เดี๋ยวนี้ไม่ฟังแปลว่าไม่มีปัญญาขาดสติอยู่
คือระลึกตามคำสอนไม่ได้แล้วก็ไม่คิดตามอยู่งัยลืมคำสอนแล้ว
https://youtu.be/eqlZvmvuVCk
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2019, 03:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


rolleyes
ทุกคนไม่มีใครเห็นตาของตัวเองได้
เพราะเห็นเพียงสิ่งที่กระทบตาเท่านั้น
ธัมมะทั้งหลายเกิดแต่เหตุเกิดเองไม่ได้
ไม่มีใครเลือกเกิดได้เพราะทุกอย่างเกิดแล้ว
ตามเหตุตามปัจจัยโดยความเป็นอนัตตาและ
ไม่มีใครเป็นเจ้าของสิ่งหนึ่งสิ่งใดโดยแท้จริง
https://youtu.be/BQvBAagrdC4
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2019, 18:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
rolleyes
ทุกคนไม่มีใครเห็นตาของตัวเองได้
เพราะเห็นเพียงสิ่งที่กระทบตาเท่านั้น
ธัมมะทั้งหลายเกิดแต่เหตุเกิดเองไม่ได้
ไม่มีใครเลือกเกิดได้เพราะทุกอย่างเกิดแล้ว
ตามเหตุตามปัจจัยโดยความเป็นอนัตตาและ
ไม่มีใครเป็นเจ้าของสิ่งหนึ่งสิ่งใดโดยแท้จริง
https://youtu.be/BQvBAagrdC4
onion onion onion



เลอะเทอะ ทำไปทำมาคลิปที่ให้ดูเท่ากับบอกว่า แม่เองก็เป็นมิจฉาทิฏฐิ เหมือนผิดไม่เบา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2019, 05:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
rolleyes
ทุกคนไม่มีใครเห็นตาของตัวเองได้
เพราะเห็นเพียงสิ่งที่กระทบตาเท่านั้น
ธัมมะทั้งหลายเกิดแต่เหตุเกิดเองไม่ได้
ไม่มีใครเลือกเกิดได้เพราะทุกอย่างเกิดแล้ว
ตามเหตุตามปัจจัยโดยความเป็นอนัตตาและ
ไม่มีใครเป็นเจ้าของสิ่งหนึ่งสิ่งใดโดยแท้จริง
https://youtu.be/BQvBAagrdC4
onion onion onion



เลอะเทอะ ทำไปทำมาคลิปที่ให้ดูเท่ากับบอกว่า แม่เองก็เป็นมิจฉาทิฏฐิ เหมือนผิดไม่เบา

onion
อ่านแล้วคิดให้ตรงทีละคำตรงความหมายของเสียง
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงตรงปัจจุบันขณะ
ทรงกล่าวความจริงทุกคำเป็นวาจาสัจจะ
จริงทุกกาลเวลาทุกๆสถานที่ไม่เปลี่ยน
พระองค์เห็นและแสดงความจริงตรงๆ
คิดว่าพระพุทธเจ้าบอกเล่นๆงั้นหรือ
พระองค์กล่าวให้รู้สึกตัวว่าไม่รู้ค่ะ
ไม่รู้อะไรล่ะก็ไม่รู้ว่าตัวเองเห็นอะไร
ที่มหาภูตรูปมีธาตุดินน้ำไฟลมเป็นประธาน
ทุกๆที่ที่มีมหาภูตรูปต้องมีรูปประกอบคือสีกลิ่นรสโอชา
ไม่งั้นตายแล้วศพจะอืดจะเน่าไหมหนอนไต่ยั๊วะเยี๊ยะ
บอกให้ฟังแล้วคิดตามให้ตรงกับที่ตัวเองกำลังดู
กำลังดูเดี๋ยวนี้แหละกำลังมีกิเลสมีอวิชชาค่ะ
จิตเห็นสีคือความจริงที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้
เมื่อตรัสรู้แล้วพระองค์เทศนาธรรม45ปี
พูดทุกวันตั้งแต่ตื่นจนหลับคนที่ไปเฝ้า
เขาไปฟังว่าพระองค์บอกอะไรบ้าง
ละเอียดตรงตามที่บันทึกเอาไว้
ทุกคำในพระไตรปิฏกคือสัจจะ
ตรงความจริงเป็นปัจจุบันด้วย
ไม่มีใครรู้ความจริงได้เอง
นอกจากฟังเพื่อรู้ถูกตัว
ทุกคำในพระไตรปิฏก
คือความจริงเดี๋ยวนี้
มีอวิชชาก็มีเดี๋ยวนี้
มีตาก็มีแล้วเดี๋ยวนี้
ไม่รู้สึกตัวว่ามีกิเลส
มีแล้วไม่รู้ตัวว่าไม่รู้
แปลว่าไม่รู้ว่ามีกิเลส
คือไม่รู้ว่าเราน่ะมีไม่รู้
ได้ยินเสียงก็ได้ยินแล้ว
ไม่มีใครทำเห็นทำได้ยินอีกที
ทุกคำในพระไตรปิฏกมีเดี๋ยวนี้เลย
รู้ตรงสัจจะได้เท่าที่คิดได้ตรงความจริง
ที่กำลังมีกำลังปรากฏตรงตามที่ตรัสรู้ทุกคำ
ตัวเองต้องรู้ว่ากำลังสะสมอะไรรู้ตรง1ของตัวเอง
1ที่รู้สึกตัวนั้นเป็นธัมมะประเภทอะไรเป็นจิเจรุนิเด่วนี้
เป็นจิตหรือเจตสิกหรือรูปที่กำลังเกิดดับหรือรู้นิพพานอยู่
ไม่รู้สึกตัวตรงประเภทแปลว่าอวิชชาตัวเองไหลไปตลอดเวลา
ไม่ศึกษาคำสอนให้เข้าใจความจริงที่กำลังปรากฏแล้วจะรู้อะไรได้
ไม่รู้มากแค่ไหนน่ะต้องรู้ถ้าไม่รู้ว่ากิเลสมากแค่ไหนจะรู้ไหมว่าอะไรจริงเดี๋ยวนี้เลย
รู้แล้วคือรู้ความจริงทั้งหมดในพระไตรปิฏกคือกล่าวทุกคำตรงจริงคือพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์
https://youtu.be/F0IJ7kEi9Fw
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2019, 10:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
rolleyes
ทุกคนไม่มีใครเห็นตาของตัวเองได้
เพราะเห็นเพียงสิ่งที่กระทบตาเท่านั้น
ธัมมะทั้งหลายเกิดแต่เหตุเกิดเองไม่ได้
ไม่มีใครเลือกเกิดได้เพราะทุกอย่างเกิดแล้ว
ตามเหตุตามปัจจัยโดยความเป็นอนัตตาและ
ไม่มีใครเป็นเจ้าของสิ่งหนึ่งสิ่งใดโดยแท้จริง
https://youtu.be/BQvBAagrdC4
onion onion onion



เลอะเทอะ ทำไปทำมาคลิปที่ให้ดูเท่ากับบอกว่า แม่เองก็เป็นมิจฉาทิฏฐิ เหมือนผิดไม่เบา

onion
อ่านแล้วคิดให้ตรงทีละคำตรงความหมายของเสียง
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงตรงปัจจุบันขณะ
ทรงกล่าวความจริงทุกคำเป็นวาจาสัจจะ
จริงทุกกาลเวลาทุกๆสถานที่ไม่เปลี่ยน
พระองค์เห็นและแสดงความจริงตรงๆ
คิดว่าพระพุทธเจ้าบอกเล่นๆงั้นหรือ
พระองค์กล่าวให้รู้สึกตัวว่าไม่รู้ค่ะ
ไม่รู้อะไรล่ะก็ไม่รู้ว่าตัวเองเห็นอะไร
ที่มหาภูตรูปมีธาตุดินน้ำไฟลมเป็นประธาน
ทุกๆที่ที่มีมหาภูตรูปต้องมีรูปประกอบคือสีกลิ่นรสโอชา
ไม่งั้นตายแล้วศพจะอืดจะเน่าไหมหนอนไต่ยั๊วะเยี๊ยะ
บอกให้ฟังแล้วคิดตามให้ตรงกับที่ตัวเองกำลังดู
กำลังดูเดี๋ยวนี้แหละกำลังมีกิเลสมีอวิชชาค่ะ
จิตเห็นสีคือความจริงที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้
เมื่อตรัสรู้แล้วพระองค์เทศนาธรรม45ปี
พูดทุกวันตั้งแต่ตื่นจนหลับคนที่ไปเฝ้า
เขาไปฟังว่าพระองค์บอกอะไรบ้าง
ละเอียดตรงตามที่บันทึกเอาไว้
ทุกคำในพระไตรปิฏกคือสัจจะ
ตรงความจริงเป็นปัจจุบันด้วย
ไม่มีใครรู้ความจริงได้เอง
นอกจากฟังเพื่อรู้ถูกตัว
ทุกคำในพระไตรปิฏก
คือความจริงเดี๋ยวนี้
มีอวิชชาก็มีเดี๋ยวนี้
มีตาก็มีแล้วเดี๋ยวนี้
ไม่รู้สึกตัวว่ามีกิเลส
มีแล้วไม่รู้ตัวว่าไม่รู้
แปลว่าไม่รู้ว่ามีกิเลส
คือไม่รู้ว่าเราน่ะมีไม่รู้
ได้ยินเสียงก็ได้ยินแล้ว
ไม่มีใครทำเห็นทำได้ยินอีกที
ทุกคำในพระไตรปิฏกมีเดี๋ยวนี้เลย
รู้ตรงสัจจะได้เท่าที่คิดได้ตรงความจริง
ที่กำลังมีกำลังปรากฏตรงตามที่ตรัสรู้ทุกคำ
ตัวเองต้องรู้ว่ากำลังสะสมอะไรรู้ตรง1ของตัวเอง
1ที่รู้สึกตัวนั้นเป็นธัมมะประเภทอะไรเป็นจิเจรุนิเด่วนี้
เป็นจิตหรือเจตสิกหรือรูปที่กำลังเกิดดับหรือรู้นิพพานอยู่
ไม่รู้สึกตัวตรงประเภทแปลว่าอวิชชาตัวเองไหลไปตลอดเวลา
ไม่ศึกษาคำสอนให้เข้าใจความจริงที่กำลังปรากฏแล้วจะรู้อะไรได้
ไม่รู้มากแค่ไหนน่ะต้องรู้ถ้าไม่รู้ว่ากิเลสมากแค่ไหนจะรู้ไหมว่าอะไรจริงเดี๋ยวนี้เลย
รู้แล้วคือรู้ความจริงทั้งหมดในพระไตรปิฏกคือกล่าวทุกคำตรงจริงคือพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์
https://youtu.be/F0IJ7kEi9Fw
onion onion onion


ไม่เบาๆๆ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2019, 17:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
คำสอนของพระพุทธเจ้า
ลุ่มลึกและลึกซื้งตรงเดี๋ยวนี้
เข้าใจคำนี้ตรงปัจจุบันขณะมั๊ยคะ
อย่า เห็น แก่ ตัว เพราะไม่รู้ว่าไม่มีตัว
ไม่ละอายชั่วไม่เกรงกลัวบาปกลัวไม่อิ่มท้อง555
:b34:
ใครก็ไม่สามารถทำลายความจริงตามคำสอนได้มีแต่กิเลสทำร้ายจิต
ถึงเห็นแก่ปากแก่ท้องจนลืมคิดตามคำจริงของตถาคตที่ห้ามรับเงินทอง
เห็น แก่ ตัว รัก ตัว ไม่ เกรง กลัว บาป ที่ ทำ ที ละ น้อย ทำ บ่อย จน เคย ชิน
ยังงัยก็ขอเห็นแก่ปากแก่ท้องก่อนมี1บาตรไม่พอใจแล้วจะบวชทำไมล่ะค๊ะะะะ
:b12:
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2019, 19:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
คำสอนของพระพุทธเจ้า
ลุ่มลึกและลึกซื้งตรงเดี๋ยวนี้
เข้าใจคำนี้ตรงปัจจุบันขณะมั๊ยคะ

อย่า เห็น แก่ ตัว เพราะไม่รู้ว่าไม่มีตัว
ไม่ละอายชั่วไม่เกรงกลัวบาปกลัวไม่อิ่มท้อง555
:b34:
ใครก็ไม่สามารถทำลายความจริงตามคำสอนได้มีแต่กิเลสทำร้ายจิต
ถึงเห็นแก่ปากแก่ท้องจนลืมคิดตามคำจริงของตถาคตที่ห้ามรับเงินทอง
เห็น แก่ ตัว รัก ตัว ไม่ เกรง กลัว บาป ที่ ทำ ที ละ น้อย ทำ บ่อย จน เคย ชิน
ยังงัยก็ขอเห็นแก่ปากแก่ท้องก่อนมี1บาตรไม่พอใจแล้วจะบวชทำไมล่ะค๊ะะะะ
:b12:
:b32: :b32:


ที่ว่าลุ่มลึกอะไรไหนลองว่ามาซิ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ธ.ค. 2019, 23:10 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
คำสอนของพระพุทธเจ้า
ลุ่มลึกและลึกซื้งตรงเดี๋ยวนี้
เข้าใจคำนี้ตรงปัจจุบันขณะมั๊ยคะ

อย่า เห็น แก่ ตัว เพราะไม่รู้ว่าไม่มีตัว
ไม่ละอายชั่วไม่เกรงกลัวบาปกลัวไม่อิ่มท้อง555
:b34:
ใครก็ไม่สามารถทำลายความจริงตามคำสอนได้มีแต่กิเลสทำร้ายจิต
ถึงเห็นแก่ปากแก่ท้องจนลืมคิดตามคำจริงของตถาคตที่ห้ามรับเงินทอง
เห็น แก่ ตัว รัก ตัว ไม่ เกรง กลัว บาป ที่ ทำ ที ละ น้อย ทำ บ่อย จน เคย ชิน
ยังงัยก็ขอเห็นแก่ปากแก่ท้องก่อนมี1บาตรไม่พอใจแล้วจะบวชทำไมล่ะค๊ะะะะ
:b12:
:b32: :b32:


ที่ว่าลุ่มลึกอะไรไหนลองว่ามาซิ

คำตอบอยู่ในนั้นแล้วไม่มีปัญญาแท้ๆเลย
อ่านให้มันตรงคำแปลภาษาไทยให้ตรงคำ
อย่า เห็น แก่ ได้ เพราะ ตัวตนไม่มี ลึกมั๊ยขุดกิเลสคนไม่รู้เนี่ย
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2019, 09:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
คำสอนของพระพุทธเจ้า
ลุ่มลึกและลึกซื้งตรงเดี๋ยวนี้
เข้าใจคำนี้ตรงปัจจุบันขณะมั๊ยคะ

อย่า เห็น แก่ ตัว เพราะไม่รู้ว่าไม่มีตัว
ไม่ละอายชั่วไม่เกรงกลัวบาปกลัวไม่อิ่มท้อง555
:b34:
ใครก็ไม่สามารถทำลายความจริงตามคำสอนได้มีแต่กิเลสทำร้ายจิต
ถึงเห็นแก่ปากแก่ท้องจนลืมคิดตามคำจริงของตถาคตที่ห้ามรับเงินทอง
เห็น แก่ ตัว รัก ตัว ไม่ เกรง กลัว บาป ที่ ทำ ที ละ น้อย ทำ บ่อย จน เคย ชิน
ยังงัยก็ขอเห็นแก่ปากแก่ท้องก่อนมี1บาตรไม่พอใจแล้วจะบวชทำไมล่ะค๊ะะะะ
:b12:
:b32: :b32:


ที่ว่าลุ่มลึกอะไรไหนลองว่ามาซิ

คำตอบอยู่ในนั้นแล้วไม่มีปัญญาแท้ๆเลย
อ่านให้มันตรงคำแปลภาษาไทยให้ตรงคำ
อย่า เห็น แก่ ได้ เพราะ ตัวตนไม่มี ลึกมั๊ยขุดกิเลสคนไม่รู้เนี่ย
:b32: :b32:


อายศาสนิกอื่นแทนจริงๆ ไม่มีอะไรที่จะยันเขาได้เลย

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2019, 10:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
คำสอนของพระพุทธเจ้า
ลุ่มลึกและลึกซื้งตรงเดี๋ยวนี้
เข้าใจคำนี้ตรงปัจจุบันขณะมั๊ยคะ

อย่า เห็น แก่ ตัว เพราะไม่รู้ว่าไม่มีตัว
ไม่ละอายชั่วไม่เกรงกลัวบาปกลัวไม่อิ่มท้อง555
:b34:
ใครก็ไม่สามารถทำลายความจริงตามคำสอนได้มีแต่กิเลสทำร้ายจิต
ถึงเห็นแก่ปากแก่ท้องจนลืมคิดตามคำจริงของตถาคตที่ห้ามรับเงินทอง
เห็น แก่ ตัว รัก ตัว ไม่ เกรง กลัว บาป ที่ ทำ ที ละ น้อย ทำ บ่อย จน เคย ชิน
ยังงัยก็ขอเห็นแก่ปากแก่ท้องก่อนมี1บาตรไม่พอใจแล้วจะบวชทำไมล่ะค๊ะะะะ
:b12:
:b32: :b32:


ที่ว่าลุ่มลึกอะไรไหนลองว่ามาซิ

คำตอบอยู่ในนั้นแล้วไม่มีปัญญาแท้ๆเลย
อ่านให้มันตรงคำแปลภาษาไทยให้ตรงคำ
อย่า เห็น แก่ ได้ เพราะ ตัวตนไม่มี ลึกมั๊ยขุดกิเลสคนไม่รู้เนี่ย
:b32: :b32:


อายศาสนิกอื่นแทนจริงๆ ไม่มีอะไรที่จะยันเขาได้เลย


อ้าวแล้วทำไมไม่ละอายแก่ใจตัวเองที่ทำตามที่ขอบวชไม่ได้ตถาคตประกาศคำสอนให้คนที่ฟังเข้าใจถูกค่ะ
รู้จักคำว่าบวชไหมสละอาคารบ้านเรือนสมบัติเงินทองลูกเมียไม่มีญาติแล้วอายชาวบ้านที่รู้จักคำสอนมั๊ย
มาจำวัดที่เขาถวายพระพุทธเจ้าได้ฟรีบวชแล้วทำไมตอนรับเงินไม่รู้จักคิดว่าตนเองสถานภาพไหนล่ะ
ปัจจัยสี่มีจีวร3ผืนที่หลับที่นอนก็ฟรีสังฆทานยาก็ใช้ได้ฟรีอาหารก็เดินอุ้มบาตรไปขออาหารได้
มีครบหมดแล้วเนี่ยพระพุทธเจ้าไม่ให้ทำงานหาเงินยังรับเงินไม่เห็นโทษไม่ละอายแก่ใจที่ทำผิด
ประกาศๆๆๆทุกศาสนาให้มาดูว่าชาวพุทธและพระภิกษุทำลายคำสอนด้วยการรับเงินให้เงินกัน
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ธ.ค. 2019, 22:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
เวลาคิดตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
ต้องทำความรู้สึกตัวตรงตามไปด้วยนะคะ
กำลังคิดถึงการเห็นสีที่มหาภูตรูปตามคำสอน
สีที่ปรากฏมีระยะห่างจากตาต้องลืมตาดูมีแสงสะท้อนสีมาเข้าตา
การเอามือปิดตา1ข้างเป็นมหาภูตรูปที่ชื่อมือกระทบกับมหาภูตรูปชื่อเปลือกตา
ที่เปลือกตาและมือจึงมีความรู้สึกแข็งๆอุ่นๆเย็นๆตึงๆไหวๆมือที่ปิดตาเป็นกายปสาทะรูปไม่ใช่จักขุปสาทะรูป
:b12:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2019, 05:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:

อ้าวแล้วทำไมไม่ละอายแก่ใจตัวเองที่ทำตามที่ขอบวชไม่ได้ตถาคตประกาศคำสอนให้คนที่ฟังเข้าใจถูกค่ะ
รู้จักคำว่า บวชไหมสละอาคารบ้านเรือนสมบัติเงินทองลูกเมียไม่มีญาติแล้วอายชาวบ้านที่รู้จักคำสอนมั๊ย
มาจำวัดที่เขาถวายพระพุทธเจ้าได้ฟรีบวชแล้วทำไมตอนรับเงินไม่รู้จักคิดว่าตนเองสถานภาพไหนล่ะ
ปัจจัยสี่มีจีวร3ผืนที่หลับที่นอนก็ฟรีสังฆทานยาก็ใช้ได้ฟรีอาหารก็เดินอุ้มบาตรไปขออาหารได้
มีครบหมดแล้วเนี่ยพระพุทธเจ้าไม่ให้ทำงานหาเงินยังรับเงินไม่เห็นโทษไม่ละอายแก่ใจที่ทำผิด
ประกาศๆๆๆทุกศาสนาให้มาดูว่าชาวพุทธและพระภิกษุทำลายคำสอนด้วยการรับเงินให้เงินกัน
:b32: :b32:



อ้างคำพูด:
รู้จักคำว่าบวชไหมสละอาคาร บ้านเรือน สมบัติ เงินทอง ลูกเมีย ไม่มีญาติ

เคยถามแล้ว แต่ไม่ตอบสักที ถามอีก เขาบวช ๗ วัน ๑๕ วัน ให้เขาสละอาคารชุด คอนโด บ้านเรือนให้เกลี้ยงเลยไหม ตอบ ชัดๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2019, 08:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7517

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

อ้าวแล้วทำไมไม่ละอายแก่ใจตัวเองที่ทำตามที่ขอบวชไม่ได้ตถาคตประกาศคำสอนให้คนที่ฟังเข้าใจถูกค่ะ
รู้จักคำว่า บวชไหมสละอาคารบ้านเรือนสมบัติเงินทองลูกเมียไม่มีญาติแล้วอายชาวบ้านที่รู้จักคำสอนมั๊ย
มาจำวัดที่เขาถวายพระพุทธเจ้าได้ฟรีบวชแล้วทำไมตอนรับเงินไม่รู้จักคิดว่าตนเองสถานภาพไหนล่ะ
ปัจจัยสี่มีจีวร3ผืนที่หลับที่นอนก็ฟรีสังฆทานยาก็ใช้ได้ฟรีอาหารก็เดินอุ้มบาตรไปขออาหารได้
มีครบหมดแล้วเนี่ยพระพุทธเจ้าไม่ให้ทำงานหาเงินยังรับเงินไม่เห็นโทษไม่ละอายแก่ใจที่ทำผิด
ประกาศๆๆๆทุกศาสนาให้มาดูว่าชาวพุทธและพระภิกษุทำลายคำสอนด้วยการรับเงินให้เงินกัน
:b32: :b32:



อ้างคำพูด:
รู้จักคำว่าบวชไหมสละอาคาร บ้านเรือน สมบัติ เงินทอง ลูกเมีย ไม่มีญาติ

เคยถามแล้ว แต่ไม่ตอบสักที ถามอีก เขาบวช ๗ วัน ๑๕ วัน ให้เขาสละอาคารชุด คอนโด บ้านเรือนให้เกลี้ยงเลยไหม ตอบ ชัดๆ

:b12:
ทำไมถึงไม่รู้จักคิด
เห็นเขาทำอะไร
ก็ทำตามเลย
ไม่มีปัญญา
:b32:
เข้าใจใช่ไหมว่า
พระพุทธเจ้า
สละหมด
:b32:
ครั้งพุทธกาลเขาทำตามพระพุทธเจ้า
ใครเป็นต้นแบบเป็นตัวอย่าง
แล้วมีใครหยิบเงินไปด้วย
จะทำตามพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้ามีบัญชีเงินมั๊ย
มีสติใช่ไหมรู้ตัวว่าสละหมดแล้ว
ไม่มีห่วงในหนี้สินบ้านเรือนลูกเมีย
ไม่มีที่ดินทรัพย์สินใดๆต้องแบกภาระ
รู้สึกตัวแล้วใช่ไหมว่าเบื้องต้นก่อนบวชสละได้หมดแล้ว555
:b12:
อันที่ทำตามประเพณีด้วยความอยากได้บุญ
มันไม่ได้บุญเพราะบุญตามคำสอนคือสละได้
:b32:
ปกติเนี่ยฆ่าสัตว์ใช่ไหมตกนรกแต่บวชรับเงินตกนรก
บวชแล้วรับเงินเนี่ยไม่ได้ฆ่าใครใช่ไหม
แล้วพระพุทธเจ้าบัญญัติว่าบวชรับเงินตกนรก
จะเชื่อว่าการบวชตอบแทนคุณมารดาเป็นบุญ
เลยอยากได้ทำตามๆกันด้วยความไม่รู้555
ไม่เชื่อคำสอนของพระพุทธเจ้าว่าบวชรับเงินตกนรกแล้วจะบวชไปทำไมคะ
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2019, 09:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
กรัชกาย เขียน:
Rosarin เขียน:

อ้าวแล้วทำไมไม่ละอายแก่ใจตัวเองที่ทำตามที่ขอบวชไม่ได้ตถาคตประกาศคำสอนให้คนที่ฟังเข้าใจถูกค่ะ
รู้จักคำว่า บวชไหมสละอาคารบ้านเรือนสมบัติเงินทองลูกเมียไม่มีญาติแล้วอายชาวบ้านที่รู้จักคำสอนมั๊ย
มาจำวัดที่เขาถวายพระพุทธเจ้าได้ฟรีบวชแล้วทำไมตอนรับเงินไม่รู้จักคิดว่าตนเองสถานภาพไหนล่ะ
ปัจจัยสี่มีจีวร3ผืนที่หลับที่นอนก็ฟรีสังฆทานยาก็ใช้ได้ฟรีอาหารก็เดินอุ้มบาตรไปขออาหารได้
มีครบหมดแล้วเนี่ยพระพุทธเจ้าไม่ให้ทำงานหาเงินยังรับเงินไม่เห็นโทษไม่ละอายแก่ใจที่ทำผิด
ประกาศๆๆๆทุกศาสนาให้มาดูว่าชาวพุทธและพระภิกษุทำลายคำสอนด้วยการรับเงินให้เงินกัน
:b32: :b32:



อ้างคำพูด:
รู้จักคำว่าบวชไหมสละอาคาร บ้านเรือน สมบัติ เงินทอง ลูกเมีย ไม่มีญาติ

เคยถามแล้ว แต่ไม่ตอบสักที ถามอีก เขาบวช ๗ วัน ๑๕ วัน ให้เขาสละอาคารชุด คอนโด บ้านเรือนให้เกลี้ยงเลยไหม ตอบ ชัดๆ

:b12:
ทำไมถึงไม่รู้จักคิด
เห็นเขาทำอะไร
ก็ทำตามเลย
ไม่มีปัญญา
:b32:
เข้าใจใช่ไหมว่า
พระพุทธเจ้า
สละหมด
:b32:
ครั้งพุทธกาลเขาทำตามพระพุทธเจ้า
ใครเป็นต้นแบบเป็นตัวอย่าง
แล้วมีใครหยิบเงินไปด้วย
จะทำตามพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้ามีบัญชีเงินมั๊ย
มีสติใช่ไหมรู้ตัวว่าสละหมดแล้ว
ไม่มีห่วงในหนี้สินบ้านเรือนลูกเมีย
ไม่มีที่ดินทรัพย์สินใดๆต้องแบกภาระ
รู้สึกตัวแล้วใช่ไหมว่าเบื้องต้นก่อนบวชสละได้หมดแล้ว555
:b12:
อันที่ทำตามประเพณีด้วยความอยากได้บุญ
มันไม่ได้บุญเพราะบุญตามคำสอนคือสละได้
:b32:
ปกติเนี่ยฆ่าสัตว์ใช่ไหมตกนรกแต่บวชรับเงินตกนรก
บวชแล้วรับเงินเนี่ยไม่ได้ฆ่าใครใช่ไหม
แล้วพระพุทธเจ้าบัญญัติว่าบวชรับเงินตกนรก
จะเชื่อว่าการบวชตอบแทนคุณมารดาเป็นบุญ
เลยอยากได้ทำตามๆกันด้วยความไม่รู้555
ไม่เชื่อคำสอนของพระพุทธเจ้าว่าบวชรับเงินตกนรกแล้วจะบวชไปทำไมคะ
:b32: :b32:



พฤติกรรมเลียนแบบ โหยหาอดีต :b1: แบบแม่สุจินเด๊ะเบย

จะยกตัวอย่างให้คิด ครั้งโบราณคนใช้ควายไถนา :b32: แต่ปัจจุบันใช้รถไถนา ทำไมไม่ใช่ควายไถนาเหมือนโบราณ ก่อนเอาแรงกันเกี่ยวข้าว แต่ปัจจุบันใช้รถเกี่ยวข้าว ทำไมไม่เอาแรงกันเกี่ยวเหมือนโบราณ
อดีตพื้นที่ตรงนี้ๆเคยเป็นท้องไร่ท้องนาไม่มีบ้านเรือน ปัจจุบันเป็นที่ตื้นเขินเป็นดอนมีบ้านอยู่เต็มไปหมด เป็นที่ตั้งเป็นโรงงาน ทำไมแหกคอกจากโบราณ :b13:

ก่อนทางเดินเป็นทางเกวียน แล้วต่อมาเป็นถนนลูกรัง ต่อมาเป็นถนนลาดยาง ทำให้ผิดไปจากเดิมทำไม ทางเกวียนหายไปไหน :b32: เอาทางเกวียนคืนมา

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ธ.ค. 2019, 11:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ม.ค. 2015, 21:55
โพสต์: 1239

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า​ เธอจงเบื่อหน่ายมากในสิ่งทั้งปวง​ เพราะยึดถือเพียงหนึ่งก็ทุกข์เพียงหนึ่ง​ อย่ากล่าวไปใยว่าจะไปยึดให้มากมายไปกว่านั้น​

แค่รู้ทันจะคิดดับๆ​ ก็ไม่ต้องยึดถืออะไรเลยสักอย่าง​ ทั้งรับเงินหรือไม่รับเงิน​ จะแพ้หรือชนะ​ จะสุขหรือจะทุกข์​ จะดีใจหรือเสียใจ​ รู้ทันจะคิดดับๆ​ ก็สละได้ซึ่งความนึกคิดอารมณ์ทั้งปวง​ จึงไม่ต้องไปตกนรก​อารมณ์​พลุ่นพล่าน​ เดือดดาลเร่าร้อนทั้งกายและทั้งใจ​ นี่แหละเรียกว่านรกอารมณ์ปัจจุบัน

เคยไปสอนใส่ดีให้นักศึกษาที่วิทยาลัย​ นักศึกษาบอกศรัทธามากที่ย่อนรกมาไว้ที่ปลายจมูกได้​ ลมหายใจเข้า​ เข้าดับ​ ลมหายใจออก​ ออกดับ​

ถ้าลมหายใจเข้าร้อนใจ​ เรียกว่า​ นรกทางจมูก​
ได้ยินเสียงแล้วโกรธ​ เรียกว่า​ นรกทางหู
กินของไม่อร่อย​ หงุดหงิด​ เรียกว่า​ นรกทางลิ้น
เห็นสิ่งไม่พอใจ​ หงุดหงิด​ เรียกว่า​ นรกทางตา
นึกคิดอะไรแล้วไม่ถูกใจ​ เรียกว่า​ นรกทางใจ​
ร่างกายกระทบเย็นร้อน​ ทรมานกาย​ เรียกว่ากายนรก

ถ้าไม่เชื่อไปดูได้ที่นรกอายตนะ​ที่พระไตรปิฎก

จากสายสืบนิสัยศาสตร์


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 38 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร