วันเวลาปัจจุบัน 16 ก.ค. 2025, 01:48  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 184 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 9, 10, 11, 12, 13  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2011, 10:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


โพสหมิ่น สมถะอีกแล้ว...ซุป Onion_L
สมถะเป็นวิชชาสำคัญในพระพุทธศาสนาอีกอย่างนึง
ขาดไม่ได้ด้วย
Onion_L


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2011, 19:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


Supareak Mulpong เขียน:
อาการไม่ทุกข์ไม่สุขเพราะรู้เท่าทันสิ่งที่เข้ามากระทบสัมผัสทั้ง ๖ ตามความเป็นจริงของโลกและชีวิตว่า สิ่งเหล่านี้ไม่เที่ยงฯ เป็นอุเบกขาที่เกิดมาจากความรู้ที่ทำให้พ้นโลก หรือ เกิดจากโลกุตตระปัญญา เป็นอุเบกขาที่ไม่มีอามิสยิ่งกว่าไม่มีอามิส จึงเป็นสุขในวินัยของอริยะ



สาธุ สาธุ สาธุ


อานนท์ ! อินทรีย์ภาวนาชั้นเลิศ (อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา) ในอริยวินัย เป็นอย่างไรเล่า ?
อานนท์ ! ในกรณีนี้

อารมณ์อันเป็นที่ชอบใจ ไม่เป็นที่ชอบใจ ทั้งเป็นที่ชอบใจและไม่เป็นที่ชอบใจ
อันบังเกิดขึ้นแก่ภิกษุ เพราะเห็นรูปด้วยตา


ภิกษุนั้นรู้ชัดอย่างนี้ว่า

“อารมณ์ที่เกิดขึ้นแล้วแก่เรานี้ เป็นสิ่งมีปัจจัยปรุงแต่ง ( สงฺขต )
เป็นของหยาบ ๆ ( โอฬาริก )
เป็นสิ่งที่อาศัยเหตุปัจจัยเกิดขึ้น ( ปฏิจฺจ สมุปฺปนฺน )
แต่มีสิ่งโน้นซึ่งรำงับและประณีต กล่าวคือ อุเบกขา” ดังนี้
อารมณ์อันเป็นที่ชอบใจ ไม่เป็นที่ชอบใจ ทั้งเป็นที่ชอบใจและไม่เป็นที่ชอบใจ
อันบังเกิดขึ้นแก่ภิกษุนั้น ย่อมดับไป อุเบกขายังคงดำรงอยู่



อานนท์ ! อารมณ์อันเป็นที่ชอบใจ ไม่เป็นที่ชอบใจ ทั้งเป็นที่ชอบใจ และไม่เป็นที่ชอบใจอันบังเกิดขึ้นแก่ภิกษุนั้น ย่อมดับไป เร็วเหมือนการกระพริบตาของคน อุเบกขายังคงดำรงอยู่

อานนท์ ! นี้แล เราเรียกว่า อินทรีย์ภาวนาชั้นเลิศในอริยวินัย ในกรณีแห่ง รูปที่รู้แจ้งด้วยจักษุ


--------------------------------------------------------------------------------

-อุปริ. ม. 14/542–545/856–861.

ในกรณีแห่ง เสียงที่รู้แจ้งด้วยโสตะ กลิ่นที่รู้แจ้งด้วยฆานะ รสที่รู้แจ้งด้วยชิวหา
โผฎฐัพพะที่รู้แจ้งด้วยผิวกาย และ ธรรมารมณ์ที่รู้แจ้งด้วยใจ ทรงตรัสอย่างเดียวกัน
ต่างกันแต่อุปมาแห่งความเร็วในการดับแห่งอารมณ์นั้น ๆ คือ
กรณีเสียง – ความเร็วแห่งการดีดนิ้วมือ
กรณีกลิ่น – ความเร็วแห่งหยดน้ำตกจากใบบัว
กรณีรส – ความเร็วแห่งน้ำลายที่ถ่มจากปลายลิ้นของคนแข็งแรง
กรณีโผฏฐัพพะ – ความเร็วแห่งการเหยียดแขนพับแขนของคนแข็งแรง
กรณีธรรมารมณ์ – ความเร็วแห่งการแห้งของหยดน้ำบนกระทะเหล็ก ที่ร้อนแดงอยู่ตลอดวัน

http://watnapp.com/read/keep-cool/i000/#content

สาธุ สาธุ สาธุ :b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 เม.ย. 2011, 21:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ธ.ค. 2010, 14:56
โพสต์: 122

โฮมเพจ: chanachai20102553@gmail.com
แนวปฏิบัติ: ค้นหาธรรมของพุทธเจ้า
งานอดิเรก: มองธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ทุกเล่ม
ชื่อเล่น: แค่นามสมมุติ
อายุ: 32

 ข้อมูลส่วนตัว


ดูก่อนท่านทั้งหลาย...........................

สุขในทุกข์ ทุกข์ในสุข อยู่คู่กันมิห่างหาย มิวางวายในปุถุชน

.....................................................
เราจักขออำนาจบุญกุศลที่ตัวเราได้กระทำไว้ในอดีต ปัจจุบัน และ อนาคต
จงแผ่อำนาจแห่งบุญกุศลทั้งหลายไปสู่ทั่วทั้งสากลโลก ทั้ง16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน วิญญาณที่มีรูป และ ไม่มีรูป ทั่วทั้งทุกอณูใน 3 โลกจงได้รับแห่งบุญกุศลที่เราได้จักกระทำไว้ด้วยเทอญ สาธุ.................................


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 เม.ย. 2011, 01:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๖
มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์



[๘๖๕] ดูกรอานนท์
เราแสดงการเจริญอินทรีย์อย่างไม่มีวิธีอื่นยิ่งกว่าในวินัยของพระอริยะ
แสดงพระเสขะผู้ยังปฏิบัติอยู่
แสดงพระอริยะผู้เจริญอินทรีย์แล้ว

ด้วยประการฉะนี้แล
ดูกรอานนท์
กิจใดอันศาสดาผู้แสวงหาประโยชน์เกื้อกูล ผู้อนุเคราะห์ อาศัยความอนุเคราะห์พึงทำแก่สาวกทั้งหลาย
กิจนั้นเราได้ทำแล้วแก่พวกเธอ
ดูกรอานนท์
นั่นโคนไม้
นั่นเรือนว่าง
เธอทั้งหลายจงเพ่งฌาน
อย่าได้ประมาท
อย่าได้เป็นผู้เดือดร้อนในภายหลัง
นี้เป็นคำพร่ำสอนของเราแก่พวกเธอ ฯ
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระภาษิตนี้แล้ว ท่านพระอานนท์จึงชื่นชมยินดี
พระภาษิตของพระผู้มีพระภาคฉะนี้แล ฯ
จบ อินทรียภาวนาสูตร ที่ ๑๐
จบ สฬายตนวรรค ที่ ๕
-----------------------------------------------------
----------------------------------------------------- เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔ บรรทัดที่ ๑๑๐๔๓ - ๑๑๐๗๓. หน้าที่ ๔๖๙ - ๔๗๐.
http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B= ... agebreak=0


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 เม.ย. 2011, 18:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 7
สมาชิก ระดับ 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 ม.ค. 2010, 11:43
โพสต์: 523

แนวปฏิบัติ: ดูปัจจุบันอารมณ์ เจริญมรรค ๘
งานอดิเรก: ปฏิบัติธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ประทีปแห่งเอเซีย
ชื่อเล่น: อโศกะ
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www




Prayim_resize.jpg
Prayim_resize.jpg [ 86.69 KiB | เปิดดู 5109 ครั้ง ]
cool
คนหนึ่งยึดแน่นในสมถะ อีกคนยึดแน่นในวิปัสสนา เลยมีเรื่องถกเถียงกันยาว

คนติดตามอ่านได้ สุตตมยปัญญาและจินตมยปัญญา

ทั้ง 2 คน 2 ฝ่าย และกองเชียร์ มาเข้าคอร์สอบรมวิปัสสนาภาวนาพร้อมๆกัน ต่อหน้าวิปัสสนาจารย์ผู้มีความรู้ความสามารถ คงจะได้บุคคล เหล่า 8 จำพวกเพิ่มขึ้นอีกเยอะในชาตินี้

สาธุ อนุโมทามิ

:b6:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2011, 02:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


เป็นความเข้าใจผิดของ คุณอนัตตาธรรม ที่คิดว่าผม เอาสมถะอย่างเดียว
เพราะสมถะและวิปัสสนา เกิดขึ้นร่วมกันในจิดวงเดียวกัน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2011, 20:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มี.ค. 2011, 21:46
โพสต์: 373

ชื่อเล่น: ฮานะ ธรรมอาสา
อายุ: 28

 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
เป็นความเข้าใจผิดของ คุณอนัตตาธรรม ที่คิดว่าผม เอาสมถะอย่างเดียว
เพราะสมถะและวิปัสสนา เกิดขึ้นร่วมกันในจิดวงเดียวกัน


:b13: ฮ๊าฮา ยังฮาได้อีก นะเจ้าข๊ะ

ท่านหลับอยู่ อ่านหนังสือก็ไม่แตก ปฏิบัติก็ไม่ฉาน

สมถะ กับ วิปัสนา เป็น จิตคนละดวง แต่อารมณ์เดียวกัน เจ้าข่ะ
จิต เกิด ดับ ทีละดวง ไม่ได้เกิดใน จิตดวงเดียวกัน หรอก นะเจ้าข๊ะ

จิตสองดวง เกี่ยวก้อยกันไป ไม่มี๊ ไม่มี :b22:

Quote Tipitaka:
[๕๓๘] ภิกษุย่อมเจริญสมถะและวิปัสสนาคู่กันไปอย่างไร ฯ

ภิกษุย่อมเจริญสมถะและวิปัสสนาคู่กันไป ด้วยอาการ ๑๖ คือ

ด้วยความเป็นอารมณ์ ๑ ด้วยความเป็นโคจร ๑ ด้วยความละ ๑ ด้วยความสละ ๑
ด้วยความออก ๑ ด้วยความหลีกไป ๑ ด้วยความเป็นธรรมละเอียด ๑ ด้วยความ
เป็นธรรมประณีต ๑ ด้วยความหลุดพ้น ๑ ด้วยความไม่มีอาสวะ ๑ ด้วยความ
เป็นเครื่องข้าม ๑ ด้วยความไม่มีนิมิต ๑ ด้วยความไม่มีที่ตั้ง ๑ ด้วยความว่าง
เปล่า ๑ ด้วยความเป็นธรรมมีกิจเป็นอันเดียวกัน ๑ ด้วยความไม่ล่วงเกินกันและ
กัน ๑ ด้วยความเป็นคู่กัน ๑ ฯ


:b8: ฮานะ อนุโมทนา ขะ

rolleyes ฮ๊า ฮา ฮ๊า ฮา :b4: rolleyes

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2011, 23:34 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 มี.ค. 2011, 11:05
โพสต์: 223


 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
เป็นความเข้าใจผิดของ คุณอนัตตาธรรม ที่คิดว่าผม เอาสมถะอย่างเดียว
เพราะสมถะและวิปัสสนา เกิดขึ้นร่วมกันในจิดวงเดียวกัน


:b8: วิมุตติญาณทัสสนะหรือครับ

เกิดผัสสะปุ๊บ เห็นไตรลักษณ์ปั๊บ โดยปราศจากขันธ์ใดๆ อย่างงี้หรือครับ :b6: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 01:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


จิตที่เห็นแจ้ง(วิปัสสนา) จิตนั้น เป็นกามาวจรจิตหรือเปล่า
สภาวะธรรมที่เรียกว่าวิปัสสนา มีอยู่ในจิตที่เป็นอกุศล หรือเป็นจิตทีมีนิวรณ์หรือ?
ฮานะ ดูทรงมันเหมือน noomairu เลยนะ :b6: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 01:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ซี้ซั้ว ลอกมาแบบ ฮานะ ก็ แบบนี้ แล :b29: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 13:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มี.ค. 2011, 21:46
โพสต์: 373

ชื่อเล่น: ฮานะ ธรรมอาสา
อายุ: 28

 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
จิตที่เห็นแจ้ง(วิปัสสนา) จิตนั้น เป็นกามาวจรจิตหรือเปล่า
สภาวะธรรมที่เรียกว่าวิปัสสนา มีอยู่ในจิตที่เป็นอกุศล หรือเป็นจิตทีมีนิวรณ์หรือ?
ฮานะ ดูทรงมันเหมือน noomairu เลยนะ :b6: :b32:


:b13: ท่านnoomairu คงเป็นอดีต ที่ทำความ คับแค้นฝังใจ ของ ท่านหลับอยู่ สินะ

อย่ามาทำ ซี้ซั้ว เฉไฉ เลย เจ้าข่ะ คิดว่า ฮานะ ไม่รู้ทัน หรอกหรือ ฮึ๊ฮึ๊

พื้นฐาน ธรรม ท่านหลับอยู่ ยังไม่แน่น ก็ยอมรับมาเถอะ เจ้าข่ะ ไม่ต้องกลัว เสียหน้า
สมถะ กับ วิปัสนา เป็นจิตคนละดวง ไม่ได้ เกิดขึ้นร่วมกัน ใน จิตดวงเดียวกัน
ละวาง ตัวตน แล้วกลับไป ศึกษา ปฏิบัติ ใหม่ นะเจ้าข๊ะ

รู้จริง แล้วค่อยมา ฮ๊าฮา ฮ๊าฮา กันนะ rolleyes :b4:

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 23:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


เดาผิดนะ
:b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ก.ค. 2011, 13:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 มี.ค. 2011, 21:46
โพสต์: 373

ชื่อเล่น: ฮานะ ธรรมอาสา
อายุ: 28

 ข้อมูลส่วนตัว


:b32: ฮ๊าฮา ไม่ผิด แม้แต่นิดเดียว เจ้าข่ะ
เพราะว่า ฮานะ ไม่ได้ใช้การ เดา อย่าง ท่านหลับอยู่

นอกจากจะ เดา ซี้ซั้วว่า ฮานะ เกี่ยวข้องกับ ท่านnoomairu แล้ว
ท่านหลับอยู่ ยังใช้การ เดา ในการ ศึกษา ปฏิบัติ ธรรม อีกด้วย นะเจ้าข๊ะ

มีอย่างที่ไหน สมถะ กับ วิปัสนา เกิดขึ้นใน จิต ดวงเดียวกัน
เดา มั่วแหลก แบบนี้ ไม่มีทาง เข้าใจ ธรรมตามความเป็นจริง ได้หรอกเจ้าข่ะ

ยก พระไตรปิฏก มาแต่ละทีก็ มั่วแหลกลาน

ท่านหลับอยู่ ไป ศึกษา ปฏิบัติ มาใหม่เถอะ นะเจ้าข๊ะ
รู้จริง โดยไม่ต้อง เดา แล้วค่อยมา ฮ๊าฮา... rolleyes

:b8: ฮานะ อนุโมทนา ขะ :b4: :b13:

.....................................................
ผู้ใดประพฤติธรรม ผู้นั้นชื่อว่าบูชาตถาคตอย่างยิ่ง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.พ. 2016, 11:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


Supareak Mulpong เขียน:
อาจารย์สินธพเป็นอนาคามีมรรค ยังไม่ถึงอนาคามีผล ถึงผลเมื่อใหร่ท่านคงบวช ถึงตอนนั้นใครไปถามอะไรท่าน ท่านก็ตอบได้คำเดียวว่า ไม่ใช่กิจของสงฆ์ ... ตอนเป็นโสดาบันท่านเป็นกายะสักขี ชาติๆ ก่อนๆ ท่านเป็นฤาษีที่ทรงฌานอภิญญามากที่สุดท่านหนึ่ง ชาติต่อๆ มาก็ได้บวช แต่ก็ปฏิบัติถึงแค่ฌานอภิญญา เคยเป็นถึงสังฆราช (เปรียญ ๑๘ ประโยค) ถึงชาตินี้ ท่านเลยมีของเก่าติดตัวมามาก จึงเกิดฌานทัศนะตอนบรรลุโสดาปัตติผลเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๐

ยังไม่มีอรหันต์เกิดขึ้นมนโลกมากว่า ๑๔๐๐ ปีแล้ว อรหันต์องค์แรกที่จะเกิดขึ้นมาในยุคนี้ อาจจะเป็นคุณก็ได้ ใครจะรู้


http://www.77jowo.com/content/394/

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews ... 0000139723

อยากให้คุณ Supareak ยังอยู่จังเลย

:b7: :b1: :b7:

ตอนนี้อนาคามีของท่านกำลังถูกตรวจสอบ... :b5:


แก้ไขล่าสุดโดย eragon_joe เมื่อ 07 ก.พ. 2016, 12:08, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ก.พ. 2016, 11:57 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


:b14: ...และก็พลอยทำให้นึกถึงคุณอโศกะ...

ที่ชอบมีอะไรแหวกแนวมาแสดง... :b6: :b6: :b6:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 184 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 9, 10, 11, 12, 13  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร