ประเด็นมันไม่ใช่ว่าจะดื่มเพื่ออะไรดื่มทำไมดีหรือไม่ดี มันอยู่ที่ว่าสัทธรรมของขั้นปรมัตถธรรมที่จะเข้าใจลึกลงไปเรื่องเหตุและผลไม่ใช่ว่าเอาหลักความคิดของคนที่มีความคิดว่าสิ่งนั้นดีสิ่งนั้นไม่ดี. อย่างที่ผมยกตัวอย่างเรื่องการตายของบุคคลที่ถูกกระทำโดยบุคคลสองคนดังตัวอย่างที่ยกมาให้ทราบแล้ว. และผมขอยกตัวอย่างเพื่อนผมคนหนึ่งไม่กินเหล้าเลยทำอย่างไรก็ไม่มีใครทำให้เขาดื่มเหล้าได้ แต่เขาก็ทำความเลวได้อีกมากมาย. ส่วนอีกคนหนึ่งไม่ดื่มเหล้าเหมือนกันเพราะเขาเห็นโทษแต่เมื่อมีเหตุการที่สังคมที่เขาจะดื่มสักนิดเพื่อเป็นมารยาท. แต่ถ้าท่านจะกล่าวว่าก็ไม่ดื่มก็ไม่เห็นเป็นไรใครจะห้ามก็ทำได้ แต่ก็อาจไม่ต่างจากเพื่อนอีกคนที่ใครก็ไม่สามารถทำให้เขาดื่มได้แต่เขาก็ทำความเลวได้อีกมากมาย. แต่คนที่ดื่มเพราะสังคมเพราะเป็นมารยาทแต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ดีเลย การดื่มเพียงแค่เล็กน้อยเพื่อมารยาทไม่ได้ดื่มเพราะปราถนาที่จะดื่ม จึงตรงต่อคำที่พระพุทธเจ้ากล่าวอริยะไม่ประกอบเนืองๆ. นี่คือเหตุและผล. ไม่ใช่ทิฎฐิที่เอนไปในสุดโต่ง เรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องที่จะดื่มหรือไม่ดื่มมันเป็นเรื่องความจริงเจตนาเราคืออะไร พระองค์กล่าวว่าเจตนาเป็นกรรม

บุญก็คือบุญเป็นกุศล=ดี
บาปคือบาปเป็นอกุศล=เลว=ชั่ว
ทำดีไปสวรรค์ ทำชั่วไปนรก ทำดีปนชั่วเป็นอสุรกาย
อสุราแปลว่าจะไม่ขอดื่มสุราอีกต่อไป อ่ะฮ่อย อ่ะฮ่อย จบข่าว

ช่วยอธิบายที่พระพุทธองค์กล่าวกับผู้ถามพระองค์ ว่าอริยสาวกไม่ประกอยเนื่องๆในการดื่มสุราหน่อยซิ.ว่าเป็นอย่างไร

บิดเบือนอีกแล้ว...

เอาคำพูดตนใส่ปากพระพุทธเจ้า..อีกแล้ว..

เราไม่ได้พูดถึง...คนดื่ม..เป็นคนดีหรือคนไม่ดี..ในสังคม

แต่เรากำลังพูดถึง...อริยะ...จะผิดศีลเพื่อการสมาคม..เข้าสังคม..เพื่อมารยาท..หรือไม่?

ที่อโสกะ..ตอบมา..อยู่ในประเด็นและก้อสวยงามดีแล้ว...ว่า

"พระอริยเจ้าคือผู้ที่มีสติปัญญาดีจึงได้เห็นธรรมและบรรลุธรรม ท่านจะมีความแยบคายในการที่จะหลีกเลี่ยงการดื่มเหล้าเพื่อการสมาคมและสังคมนั้นกลับจะยกย่องนับถือไว้เป็นมิตรที่ดีในกลุ่มของเขาเมื่อเห็นความเด็ดเดี่ยวของการไม่ดื่มเหล้าหรือผิดศีลข้อที่ 5 "

ส่วน Bigtoo พูดอะไรนะ...ไม่ดื่มแต่ทำเลวก็มี..ดื่มแต่เป็นคนดีก็มี..พูดไปทั่ว..พูดไปไหนมาสามวาสองศอก.

จะยกตัวอย่างอย่างไรให้ดูดีมันก็ไม่ผิดหรอกนะดีมันก็คือดียกตัวอย่างได้ แต่นั้นยังไม่ถูกครบบริบทของความจริงที่ว่าอะไรทำได้แค่ไหนตามพุทธวจน ไม่เห็นจะคิดอะไรมากเลย การคิดที่แยบคลายที่สุดก็คือการที่เราไม่มีเจตนาดื่มก็แค่ยกจิบๆเท่านั้นไม่เสียน้ำใจเพื่อนสังคมก็ไปได้. แค่นี้ก็จบเรื่องคุณจะมาสอนธรรมะกันตรงนี้เหรอ. ผมไม่ดื่มครับผมถือศิลดูตาม้าตาเรือบ้าง อย่าหลงทางกันมากเลย. เราก็คิดว่าอย่างนั้นอย่างนี้มันดีก็ยึดกันไปไม่ต่างจากคนกินผักกินหญ้าที่คิดว่ามันดีตรงธรรมะ โง่เหมือนกัน

คำพูดของBigtoo ตกไป..ไม่ใช่ธรรม...ไม่เป็นแก่นสารสาระประโยชน์...ชี้แจงไปก็ไม่ได้อะไร

ถาม อโสกะ..ต่อดีกว่า..ให้เข้ากับหัวข้อกระทู้

ถาม....

เคยได้ยินมาว่า..อริยะมีศีลเป็นอธิศีล...ก็ว่า..ศีลของปุถุชน..กับอธิศีลของอริยะชน...เหมือนกัน..หรือต่างกันอย่างไร?

คับ

ชี้แจงไม่ได้อะไร. นั้นแหล่ะที่ชี้ไปสัมมาทิฎฐิเลย. ก็ที่เห็นๆในตัวกบไงเขาเรียกว่าคนมีศิลแต่ไม่มีอธิศิล.

ที่นี้พอเกิดการเจ็บป่วยยาบางตัวต้องเอาผสมเหล้าเกิดกลัวตาย ต้องกินยาบอกว่าผสมได้กินได้ไม่เกินองคุลีตอนนี้ก็กิน. ทำไมเห็นกินกันไม่ผิดเหล้าชัดๆทำไมไม่ผิดล่ะ. คุณคงตอบว่ามันเป็นยา. อ้าวมันมีเหล้าอยู่นะรู้ทั้งรู้ทำไมกิน ผมกลัว...ตายครับเลยกิน555555นี่หรือชาวพุทธ

คือ..ที่ไม่จำเป็นต้องชี้แจงอะไร..ก็เพราะ..คนในนี้...ทั้งที่เป็นอริยะชนและกัลยาณปุถุชน..เขาเห็นแล้ว...กระผมไม่จำเป็นต้องไปชี้แจงอะไร..ต่างหาก

มาที่คำถาม...ผมถามอโสกะดีกว่า..

อธิ = ยิ่งใหญ่

ศีล = ปกติ

อธิศีล = ศีลอันยิ่งใหญ่ ปกติอันยิ่งใหญ่

ยิ่งใหญ่ขนาดไหน??
ขนาดที่ไม่คลอนแคลนอีกแล้วแม้จะมีความตายมาพรากก็จักไม่คลอนแคลนเคลื้อนย้าย ล่วงศีล

เราเคยได้ยินภาษิตว่า "เสียชีพ อย่าเสียสัตย์"
สำหรับผู้กำลังจะเข้าถึงและเข้าถึงความเป็นอริยะแล้วคงจะมีภาษิตประจำใจว่า

"เสียชีพ อย่าเสียศีล"

อย่างที่ bigtoo กำลังจะพยายามอธิบายว่าพระอริยเจ้าจะยอมล่วงศีลสักน้อยนิดเพื่อมรรยาทในสังคมนั้น มันเป็นความคิดคาดเดาเอาตามหลักของเหตุผล แต่ สำหรับพระอริยเจ้าแล้วท่านมีสติปัญญาและความแยบคายที่จะรักษาสังคมแบบ บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น โดยที่ท่านเองก็ไม่ต้องล่วงศีลด้วย

ในกรณีเรื่องยาที่มีแอลกอฮอล์เป็นกระสาย ในพระวินัยเขาก็มีข้ออธิบายและอนุญาตให้ฉันได้หากหายาอื่นไม่ได้จริงๆลองเชิญท่านผู้เชี่ยวชาญในเรื่องคัมภีร์ค้นมาให้อ่านกันดูนะครับ

ผมว่าน่าจะพอหอมปากหอมคอแล้วเรากลับมาเข้าสู่ประเด็นที่ค้างไว้เรื่อง

การเอาออกเสียให้ได้ซึ่งความยินดียินร้ายในโลก นั้นมีวิธีการอย่างไรบ้าง จะดีไหมครับ เพราะเรื่อนี้ยังไม่ค่อยจะมีคนวิเคราะห์และประมวลไว้ ทั้งๆที่เป็นแก่นและหัวใจของสติปัฏฐาน 4

หรือว่ายังไงกันดีครับคุณกบคุณ bigtoo

จะเอาโทมนัสออกเสียได้...อาจจะเกินกำลังของคนที่แม้แต่ศีล...ก็ยังไม่เข้าถึงความเป็นอธิศีล..นะ

เพราะเอาโทมนัสออกได้..นี้...มิใช่เป็นอริยะมรรคของอริยะบุคคลเบื้องสูง..ไปแล้ว..ละมั้ง..

เอาแค่โสดาปฏิมัค...สกิทาคามีมัค...ก่อน...จะดีมั้ย?...

อธิศีล...ของโสดาบัน...น่าสนใจนะว่า..ท่านมีความคิดอย่างไรจึงยอมเสียชีพดีกว่าผิดศีล..?

น่าคิด..มั้ย?

อโสกะ...คิดว่า..อริยะโสดาบัน..ทำไมถึงทำอย่างนั้นได้...??

คุณอโสกะ คงยังไม่ลืมคำตถาคตกล่าวตอบแก่ผู้ที่ถามพระองค์นะครับ. คำว่าอริยะสาวกไม่ประกอบเนืองๆ. ส่วนเรื่องการเอาออกเสียให้ได้ซึ่งความยินดียินร้ายในโลกแค่ความคิดเรื่องการดื่มสุราแค่นี้ยังยึดติดแล้วจะไปเอาอะไรออกได้เล่า มันก็ถูกกิเลสกดหัวเลี้ยวรดไปตามความคิด ไม่เข้าใจว่ากรรมเกิดจากเจตนา ไม่ได้เกิดกับอาการกิริยาอะไรเลย. นี่คือสุตตะญานที่จะต้องฟังตรวสอบทำความเข้าใจให้ตรงเพราะสาวกภูมิความรู้ต้องเกิดจากการฟังไม่ใช่คิดเอาเองตามตนเองเข้าใจ.

ยาง..ยัง...พูดอีกว่า..อริยะสาวกไม่ประกอบเนือง ๆ

แต่ดีหน่อย..ที่ไม่ได้บอกว่าเป็นพระองค์กล่าว...