วันเวลาปัจจุบัน 23 พ.ค. 2024, 12:36  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 286 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 12, 13, 14, 15, 16, 17, 18 ... 20  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ย. 2015, 11:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


คนแก่..นี้พูดไม่รู้เรื่อง..จริง...

ผมส่งเสริม..ชักชวน.ยินดี...กับคนอธิฐานเป็นนั้นเป็นนี้..ตรงไหน...ฮึ..คนแก่

พวกหลงสังขาร...วิปัสสนึกเอาตามใจ..

ก็แค่ไม่ตำนิ..และคุยกันเป็นปกติ..ก็เท่านั้นเอง...รึอโสกะเอาแต่จะพูดตำนิเขาไปเรื่อย..อย่างนี้..

ผมกำลังสงสัยว่า...คนที่จะไปพร้อมกับพระศรีอริยะ...กะ...อโสกะ..นี้...ใครจะไปนิพพานได้ก่อนกัน..นะ

ระวังใว้เหอะ..อโสกะ..พวกทำสัทธรรมปฏิรูป...ชอบบัญญัติศัพท์แปลกๆใหม่ๆ...ไม่รู้จะยาวไกลแค่ไหน..ก็ไม่รู้

ดูแลตัวเองให้มากๆ..ก่อนดีมั๊ย..อโสกะ??


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ย. 2015, 15:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


เห็นอโสกะ พล่ามอยู่นานล่ะ แถมยังมาแขวะเรื่องคนที่อธิษฐานให้บรรลุธรรมในยุคพระศรี..กล่าวหาว่าเห็นช้างขี้ ขี้ตามช้าง..โชคดีนะ ที่โทสะคุนน้องเบาบางลง ไม่อย่างงั้น อโสกะได้หนาวแน่ ตนเองอยากไปนิพพาน อยากเผยแพร่ธรรมพระพุทธองค์ ก็ก้มหน้าก้มตาทำไปดิ มายุ่งไรกับการอธิษฐานคนอื่น อโสกะคิดว่าคนอื่นเขาไม่สร้างความเพียรรึไง
คุนน้องไม่ได้เก่งแบบอโสกะนิ บรรลุนิพพานในชาตินี้ได้ คุนน้องตัดกิเลสได้จริง คุยน้องคงไปนุ่งขาวห่มขาว ปฏิบัติธรรมตลอดชีวิตล่ะ แต่คุนน้องยังอยากใช้ชีวิตทางโลกอยู่ มันก็เรื่องของคุนน้อง
แล้วทำไมนางวิสาขาไม่สร้างความเพียรจนบรรลุอรหันต์ในชาตินั้นเลยล่ะ เป็นโสดาบันตั้ง7ขวบแล้วแต่งงานมีลูกมีสามีทำไม อโสกะอย่าเอาความคิดตนเอง มาตำหนิคนอื่นดีกว่า ถ้าสุเมธดาบทไม่อธิษฐาน จะมีพระพุทธเจ้านามว่า พระสมณโคดม
ไหมล่ะ? คิดสิคิด ว่าใครบำเพ็ญบารมีมาทางใด เขามีทิศทางจะไปสู่ความสำเร็จ ทางใด ทางใดเขาจะนิพพาน เขาเลยอธิษฐาน เพื่อสร้างกำลังใจ ส่วนนิพพาน ที่นั่งเพ้อฝันเอา แต่กิเลสยังเต็มหัวจิตหัวใจ ชาติไหนๆก็ไม่ถึงนิพพาน


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ย. 2015, 16:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12: :b13: :b13:
55555555
วันนี้ได้เห็นเข็มมิเตอร์วัดความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมกระดิกแรงด้วยเพราะสองพี่น้อง กบ กง (Kong) มาช่วยกันวิพากษ์วิจารณ์

คนที่เขาอธิษฐานจริงๆยังไม่เห็นมีใครมาเดือดร้อน มีแต่ตุ๊กแกมาร้องแทน มันก็น่าแปลกดีนะ

อโศกะมาบอกเตือนว่าการอธิษฐานผิดๆ มันเป็นมิจฉาทิฏฐิผูกมัดตัวเองไว้กับวัฏฏะสงสาร มันเป็นกลลวงของมารที่ขุดล่อคนที่หลงตนว่าจะได้สร้างกุศลใหญ่ให้ติดข้องอยู่

นี่คือความเมตตาปรารถนาดี มิใช่เรื่องไปกีดขวางทางของใครใครจะเชื่อไม่เชือถือปฏิบัติตามก็ไม่ได้มีข้อความหรือคำสั่งบังคับเป็นสิทธิโดยอิสระเสรีของทุกคนไม่มีอะไรจะต้องน่าเจ็บร้อน ถ้าไม่มีแผลอะไรในใจ

แต่กงกับกบมาเจ็บร้อนแทนนี่น่าจะมีอะไรซ่อนลึกอยู่ในใจเป็นเหตุมากกว่ากระมัง

แต่จะอย่างไรก็ตามเถอะ เมื่อตกลงใจเป็นลูกศิษย์ของพระสมณะโคดมพระพุทธเจ้าแล้วก็พึงควรเคารพเชื่อถือ ปฏิบัติตาม ทำพระนิพพานให้แจ้งในปัจจุบันชาตินี้ จึงจะถือว่าดีที่สุด ฉลาดที่สุด

:b37:
:b38:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 พ.ย. 2015, 21:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
คนแก่..นี้พูดไม่รู้เรื่อง..จริง...

ผมส่งเสริม..ชักชวน.ยินดี...กับคนอธิฐานเป็นนั้นเป็นนี้..ตรงไหน...ฮึ..คนแก่

พวกหลงสังขาร...วิปัสสนึกเอาตามใจ..

ก็แค่ไม่ตำนิ..และคุยกันเป็นปกติ..ก็เท่านั้นเอง...รึอโสกะเอาแต่จะพูดตำนิเขาไปเรื่อย..อย่างนี้..

ผมกำลังสงสัยว่า...คนที่จะไปพร้อมกับพระศรีอริยะ...กะ...อโสกะ..นี้...ใครจะไปนิพพานได้ก่อนกัน..นะ

ระวังใว้เหอะ..อโสกะ..พวกทำสัทธรรมปฏิรูป...ชอบบัญญัติศัพท์แปลกๆใหม่ๆ...ไม่รู้จะยาวไกลแค่ไหน..ก็ไม่รู้

ดูแลตัวเองให้มากๆ..ก่อนดีมั๊ย..อโสกะ??


:b9: :b9: :b9:

หลงสังขารไปใหญ่.....ใครมีแผล...ใครเดือดร้อนรึ

:b32: :b32: :b32:

แค่คุณอโสกะไม่มีเซ้น....แล้วมาคุยว่าถึงฌาน 4 นี้..ดูท่าจะฌานหลง..ซะละม้าง..

:b22: :b22: :b22:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ย. 2015, 05:45 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
คนแก่..นี้พูดไม่รู้เรื่อง..จริง...

ผมส่งเสริม..ชักชวน.ยินดี...กับคนอธิฐานเป็นนั้นเป็นนี้..ตรงไหน...ฮึ..คนแก่

พวกหลงสังขาร...วิปัสสนึกเอาตามใจ..

ก็แค่ไม่ตำนิ..และคุยกันเป็นปกติ..ก็เท่านั้นเอง...รึอโสกะเอาแต่จะพูดตำนิเขาไปเรื่อย..อย่างนี้..

ผมกำลังสงสัยว่า...คนที่จะไปพร้อมกับพระศรีอริยะ...กะ...อโสกะ..นี้...ใครจะไปนิพพานได้ก่อนกัน..นะ

ระวังใว้เหอะ..อโสกะ..พวกทำสัทธรรมปฏิรูป...ชอบบัญญัติศัพท์แปลกๆใหม่ๆ...ไม่รู้จะยาวไกลแค่ไหน..ก็ไม่รู้

ดูแลตัวเองให้มากๆ..ก่อนดีมั๊ย..อโสกะ??


:b9: :b9: :b9:

หลงสังขารไปใหญ่.....ใครมีแผล...ใครเดือดร้อนรึ

:b32: :b32: :b32:

แค่คุณอโสกะไม่มีเซ้น....แล้วมาคุยว่าถึงฌาน 4 นี้..ดูท่าจะฌานหลง..ซะละม้าง..

:b22: :b22: :b22:

:b13: :b13: :b13:
5555555555
ดูท่า ๆ ๆ ๆ

ฮ่าๆๆๆๆ

ในใจของกบนี้มีแต่ความคาดเดา (doubt) สงสัยอยู่ไม่รู้จบ เพราะไม่ลงมือปฏิบัติจริง พิสูจน์ธรรมจริงๆ

เข้าป่า ไปทัวร์วัดป่า สนทนาปฏิบัติธรรมอยู่กับพ่อแม่ครูบาอาจารย์เสียบ้างเน้อ กบ

onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ย. 2015, 06:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


การใช้คำว่า..ดูท่า..นี้ให้เกียรติ์..นะเนี้ย.. wink
เรื่อง...ไม่มีเซ้นต์..นี้...เห็นชัด ไม่รู้เล้ย..ว่า...แต่ละคนมีคุณธรรมอยู่ตรงไหน

โสดาบันนี้...อย่างน้อยจะรู้สึกได้เลยว่า...คนนี้กล่าวธรรมจากใจที่เป็นธรรมมั้ย..หรือว่าปากพูดธรรมะไปอย่างนั้น ๆ แหละ..ข้างในไม่มีอะไร..อย่างนี้เป็นต้น....
(ด้วยเหตุนี้...คนมีธรรม..จะกราบคนก็กราบถูกคนถูกธรรม...หรือที่เรียกว่า..ธรรมะจัดสรร )

ถ้าเก่งมากกว่านี้....ก็รู้ได้ว่า..คนที่กำลังพูดด้วย...อยู่ตรงไหนระหว่างทางเข้าถึงความเป็นอริยะ..กำลังบำเพ็ญบารมีอะไร..กำลังทำข้อสอบข้อไหนอยู่....พอรู้แล้ว...มันก็เฉยได้..อุเบกขาได้...ไม่ไปวุ่นวาย..โวยวาย...สงสัยว่าทำไมไม่เอานิพพานในชาตินี้วะ..อะไรอย่างนี้เป็นต้น

อาการทะเล้อทะล่าออกไปรับรองคุณธรรมของใครเพียงแค่คนนั้นพูดถูกใจ..ใช้คำถูกใจ..ดับไปต่อหน้าต่อตา..อะไรทำนองนี้....จึงมันไม่เกิดขึ้นแน่

รู้ใจตัวเองมากเท่าไร..อาการรู้ใจคนอื่นมันเป็นผลผลอยได้ไม่ต้องไปหัดอะไร
รู้ใจตัวน้อยเท่าไร....อาการหลงสังขารตนก็มากตาม

ยิ่งอโสกะพูดมากเท่าไร....คนมีธรรมเขาก็เห็นชัดเจนมากเท่านั้น

อันนี้ฝากใว้ให้ดูตัวเองก้อแล้วกัน..ไม่ใช่การประจานดีสเครดิตอะไร...นะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ย. 2015, 18:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
การใช้คำว่า..ดูท่า..นี้ให้เกียรติ์..นะเนี้ย.. wink
เรื่อง...ไม่มีเซ้นต์..นี้...เห็นชัด ไม่รู้เล้ย..ว่า...แต่ละคนมีคุณธรรมอยู่ตรงไหน

โสดาบันนี้...อย่างน้อยจะรู้สึกได้เลยว่า...คนนี้กล่าวธรรมจากใจที่เป็นธรรมมั้ย..หรือว่าปากพูดธรรมะไปอย่างนั้น ๆ แหละ..ข้างในไม่มีอะไร..อย่างนี้เป็นต้น....
(ด้วยเหตุนี้...คนมีธรรม..จะกราบคนก็กราบถูกคนถูกธรรม...หรือที่เรียกว่า..ธรรมะจัดสรร )

ถ้าเก่งมากกว่านี้....ก็รู้ได้ว่า..คนที่กำลังพูดด้วย...อยู่ตรงไหนระหว่างทางเข้าถึงความเป็นอริยะ..กำลังบำเพ็ญบารมีอะไร..กำลังทำข้อสอบข้อไหนอยู่....พอรู้แล้ว...มันก็เฉยได้..อุเบกขาได้...ไม่ไปวุ่นวาย..โวยวาย...สงสัยว่าทำไมไม่เอานิพพานในชาตินี้วะ..อะไรอย่างนี้เป็นต้น

อาการทะเล้อทะล่าออกไปรับรองคุณธรรมของใครเพียงแค่คนนั้นพูดถูกใจ..ใช้คำถูกใจ..ดับไปต่อหน้าต่อตา..อะไรทำนองนี้....จึงมันไม่เกิดขึ้นแน่

รู้ใจตัวเองมากเท่าไร..อาการรู้ใจคนอื่นมันเป็นผลผลอยได้ไม่ต้องไปหัดอะไร
รู้ใจตัวน้อยเท่าไร....อาการหลงสังขารตนก็มากตาม

ยิ่งอโสกะพูดมากเท่าไร....คนมีธรรมเขาก็เห็นชัดเจนมากเท่านั้น

อันนี้ฝากใว้ให้ดูตัวเองก้อแล้วกัน..ไม่ใช่การประจานดีสเครดิตอะไร...นะ

:b12: :b12:
ก็ทำนองเดียวกันนั่นแหละ

ยิ่ง กบ พูดมากเท่าไร....คนมีธรรมเขาก็เห็นชัดเจนมากเท่านั้น
:b13: :b13: :b13: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ย. 2015, 19:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ช่าย...ผู้มีปัญญาเขาเห็นเอง..

แต่ถึงจะไม่เห็น..กระผมก็ไม่เดือดร้อน... wink wink

สงสารก็แต่คนหลงสังขาร...แค่ซิกเซ้นต์ธรรมด้า....ธรรมดา...ก็ยังบอดสนิท s002

ยิ่งมาคุยว่า..ได้ฌาน 4 ด้วยแล้วนะ....ยิ่งสงสารเข้าไปใหญ่.. :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 พ.ย. 2015, 19:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ย้ำ...ย้ำ... :b9: :b9: :b9:

กบนอกกะลา เขียน:
การใช้คำว่า..ดูท่า..นี้ให้เกียรติ์..นะเนี้ย.. wink
เรื่อง...ไม่มีเซ้นต์..นี้...เห็นชัด ไม่รู้เล้ย..ว่า...แต่ละคนมีคุณธรรมอยู่ตรงไหน

โสดาบันนี้...อย่างน้อยจะรู้สึกได้เลยว่า...คนนี้กล่าวธรรมจากใจที่เป็นธรรมมั้ย..หรือว่าปากพูดธรรมะไปอย่างนั้น ๆ แหละ..ข้างในไม่มีอะไร..อย่างนี้เป็นต้น....
(ด้วยเหตุนี้...คนมีธรรม..จะกราบคนก็กราบถูกคนถูกธรรม...หรือที่เรียกว่า..ธรรมะจัดสรร )


ถ้าเก่งมากกว่านี้....ก็รู้ได้ว่า..คนที่กำลังพูดด้วย...อยู่ตรงไหนระหว่างทางเข้าถึงความเป็นอริยะ..กำลังบำเพ็ญบารมีอะไร..กำลังทำข้อสอบข้อไหนอยู่....พอรู้แล้ว...มันก็เฉยได้..อุเบกขาได้...ไม่ไปวุ่นวาย..โวยวาย...สงสัยว่าทำไมไม่เอานิพพานในชาตินี้วะ..อะไรอย่างนี้เป็นต้น

อาการทะเล้อทะล่าออกไปรับรองคุณธรรมของใครเพียงแค่คนนั้นพูดถูกใจ..ใช้คำถูกใจ..ดับไปต่อหน้าต่อตา..อะไรทำนองนี้....จึงมันไม่เกิดขึ้นแน่

รู้ใจตัวเองมากเท่าไร..อาการรู้ใจคนอื่นมันเป็นผลผลอยได้ไม่ต้องไปหัดอะไร
รู้ใจตัวน้อยเท่าไร....อาการหลงสังขารตนก็มากตาม

ยิ่งอโสกะพูดมากเท่าไร....คนมีธรรมเขาก็เห็นชัดเจนมากเท่านั้น

อันนี้ฝากใว้ให้ดูตัวเองก้อแล้วกัน..ไม่ใช่การประจานดีสเครดิตอะไร...นะ


ใช้เป็นเครื่องมือตรวจสอบตัวเอง....ได้นะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ย. 2015, 01:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องเล่า .... แว่นส่องธรรม
Quote Tipitaka:
.... [๑๔๗๑] ดูกรอานนท์ ข้อที่บุคคลเกิดมาเป็นมนุษย์แล้วพึงกระทำกาละ มิใช่เป็นของ
น่าอัศจรรย์ ถ้าเมื่อผู้นั้นๆ กระทำกาละแล้ว เธอทั้งหลายพึงเข้ามาหาเราแล้วสอบถามเนื้อความ
นั้น ข้อนี้เป็นความลำบากของตถาคต

เพราะฉะนั้นแหละ เราจักแสดงธรรมปริยายชื่อธรรมาทาส(แว่นส่องธรรม)
ที่อริยสาวกประกอบแล้ว เมื่อหวังอยู่ พึงพยากรณ์ตนด้วยตนเองได้ว่า เรามี
นรก กำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ปิตติวิสัย อบาย ทุคติ วินิบาต สิ้นแล้ว เราเป็นพระโสดาบัน
มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้ในเบื้องหน้า.

[๑๔๗๒] ดูกรอานนท์ ก็ธรรมปริยายชื่อธรรมาทาส ที่อริยสาวกประกอบแล้วเมื่อหวังอยู่พึงพยากรณ์ตนด้วยตนเองได้ว่า เรามีนรก กำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ปิตติวิสัย อบาย ทุคติ วินิบาต สิ้นแล้ว เราเป็นพระโสดาบัน
มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้ในเบื้องหน้า เป็นไฉน?

อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้าว่า
แม้เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ
ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้แจ้งโลก เป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึก ไม่มี
ผู้อื่นยิ่งกว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกธรรม

ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระธรรมว่า พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคตรัสดีแล้ว
อันผู้ได้บรรลุจะพึงเห็นเอง ไม่ประกอบด้วยกาล ควรเรียกให้มาดู ควรน้อมเข้ามา อันวิญญูชน
พึงรู้เฉพาะตน

ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระสงฆ์ว่า พระสงฆ์สาวกของ
พระผู้มีพระภาค ปฏิบัติดีแล้ว ปฏิบัติตรง ปฏิบัติเป็นธรรม ปฏิบัติสมควร คือ คู่แห่งบุรุษ ๔
บุรุษบุคคล ๘ นี่พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาค ผู้ควรของคำนับ ควรของต้อนรับ ควรของ
ทำบุญ ควรทำอัญชลี เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า

ประกอบด้วยศีลที่พระอริยเจ้าใคร่แล้ว ไม่ขาด ไม่ทะลุ ไม่ด่าง ไม่พร้อย เป็นไท
วิญญูชนสรรเสริญ อันตัณหาและทิฏฐิไม่ลูบคลำแล้ว เป็นไปเพื่อสมาธิ


นี้แล คือ ธรรมปริยายชื่อธรรมาทาส ที่อริยสาวกประกอบแล้ว เมื่อหวังอยู่ พึงพยากรณ์ตนด้วยตนเองได้ว่า เรามีนรก กำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน ปิตติวิสัย อบาย ทุคติ วินิบาต สิ้นแล้ว เราเป็นพระโสดาบัน
มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้ในเบื้องหน้า.


คำของพระพุทธองค์ ไม่สลับซับซ้อน พระพุทธองค์ใช้คำแสดงซึ่งง่ายต่อการเข้าใจ

Quote Tipitaka:
[๗๔๗] สาวัตถีนิทาน. ครั้งนั้น ท่านพระพาหิยะเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ
ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ครั้นแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอประทานพระวโรกาส ขอพระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมโดยย่อแก่
ข้าพระองค์ ซึ่งข้าพระองค์ได้ฟังแล้ว จะพึงเป็นผู้หลีกออกจากหมู่ อยู่ผู้เดียว ไม่ประมาท มีความ
เพียร มีใจเด็ดเดี่ยวเถิด

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรพาหิยะ เพราะฉะนั้น เธอจงชำระเบื้องต้นในกุศลธรรมให้บริสุทธิ์เสียก่อน
ก็อะไรเป็นเบื้องต้นของกุศลธรรม คือศีลที่บริสุทธิ์ดี และความเห็นอันตรง.

[๗๔๘] ดูกรพาหิยะ เมื่อใดแล ศีลของเธอจักบริสุทธิ์ดี และความเห็นของเธอจักตรง
เมื่อนั้น เธอพึงอาศัยศีล ตั้งมั่นในศีล แล้วเจริญสติปัฏฐาน ๔


สติปัฏฐาน ๔ เป็นไฉน?
ดูกรพาหิยะ เธอจงพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัด
อภิชฌาและโทมนัสในโลกเสีย พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาอยู่ ... พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ ...
พิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสใน
โลกเสีย

เมื่อใด เธออาศัยศีล ตั้งมั่นอยู่ในศีลแล้ว จักเจริญสติปัฏฐาน ๔ เหล่านี้ อย่างนี้
เมื่อนั้น เธอพึงหวังความเจริญในกุศลธรรมทั้งหลายได้ทีเดียว ตลอดราตรีหรือวันที่จักมาถึง ไม่มี
ความเสื่อมเลย.


[๗๔๙] ครั้งนั้น ท่านพระพาหิยะชื่นชม อนุโมทนา ภาษิตของพระผู้มีพระภาค
แล้วลุกจากอาสนะ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาค กระทำประทักษิณแล้วหลีกไป ท่านพระพาหิยะ
หลีกออกจากหมู่อยู่ผู้เดียว ไม่ประมาท มีความเพียร มีใจเด็ดเดี่ยว ไม่นานนักก็กระทำให้แจ้ง
ซึ่งที่สุดแห่งพรหมจรรย์อันยอดเยี่ยม ที่กุลบุตรทั้งหลายออกบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องการนั้น
ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ รู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่
ควรทำทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี และท่านพระพาหิยะเป็นพระอรหันต์องค์
หนึ่งในจำนวนพระอรหันต์ทั้งหลาย.

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ย. 2015, 18:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b38:
คำสอนหลวงพ่อหลวงตาก็ไม่สลับซับซ้อน

โยม....การภาวนาไม่ต้องเอาอะไรมาก ยังไม่จำเป็นต้องไปอ่านมากเรียนมากแต่ให้ปฏิบัติเยอะตามที่หลวงตาบอก

เริ่มต้นให้เอาสติไปกำหนดรู้ลมหายใจ คือกำหนดรู้ที่จุดที่ลมหายใจกระทบกายของเราชัดที่สุด มีฐานอยู่ที่ ปลายจมูก บริเวณแนวหน้าผาก กลางอก หน้าท้อง
หรือสะดือ ใครชัดที่ไหนให้เอาที่นั่นเป็นฐานที่ตั้งของสติ เอาสติไปกำหนดรู้ลมที่ตรงนั้น ไม่ว่าจะนั่ง นอน ยืน เดิน อย่าลืมฐานลมตรงนั้น

ลมจะเข้ายาวเข้าสั้น ออกยาว ออกสั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ให้รู้ทันอยู่เสมอ
ไม่ชาลมหายใจก็จะละเอียดเหลือน้อยลงไป กายจะสงบ นานเข้าๆจิตก็จะสงบ

เมื่อสงบมากจนแทบไม่รู้ลมหายใจแล้วก็ให้ย้ายสติไปกำหนดที่ตัวรู้ จิตรู้อะไรก็เอาสติไปกำหนดรู้ระลึกรู้ให้ทัน ไม่ช้าไม่นานจนลมสงบถึงที่สุดเหมือนหยุดหายใจ ก็จะเหลือแต่ตัวรู้หรือผู้รู้ที่บริสุทธิ์ผุดเป็นธรรมอันเอกอยู่ เป็นปรมัตถ์ อนัตตาเพราะปราศจากความเห็นเป็นเราเป็นตน มานึกคิดปรุงแต่ง และแล้วธรรมต่างเขาก็จะเกิดขึ้นเองเป็นเองโดยอัตโนมัติ

:b37:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 พ.ย. 2015, 21:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b32: :b32: :b32:

จะพูดว่า..ใจสงบแล้วจะเห็นธรรมเองอัตโนมัติ...
เข้าใจนะหมายถึงอะไร

หรือแม้จะพูดว่า...ใจสงบแล้วให้พิจารณาธรรม....
ก็เข้าใจ

แต่ไม่รู้ว่า...ลูกศิษย์ที่เอามาโพสต์...จะเข้าใจถูกมั้ย..นะซิ

:b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ย. 2015, 14:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
:b32: :b32: :b32:

จะพูดว่า..ใจสงบแล้วจะเห็นธรรมเองอัตโนมัติ...
เข้าใจนะหมายถึงอะไร

หรือแม้จะพูดว่า...ใจสงบแล้วให้พิจารณาธรรม....
ก็เข้าใจ

แต่ไม่รู้ว่า...ลูกศิษย์ที่เอามาโพสต์...จะเข้าใจถูกมั้ย..นะซิ

:b32: :b32: :b32:

:b12:
ลูกศิษย์อยู่ใกล้ชิดครูบาอาจารย์ศึกษามานานทำไมจะไม่เข้าใจ
กบซิอยู่ไกลจะเข้าใจถ่องแท้รื้อ?

แม้แต่คำว่า "ให้พิจารณาธรรม" ที่กบพูดมานั้นก็เฉไปจากธรรมจริงๆแล้ว
ลองไปวิตกวิจารณ์แค่คำนี้ก่อนจนปัญญาแล้วกลับมาถามได้จะเฉลยให้ฟังภายหลัง

ใบ้ให้นิดหนึ่งว่าตอนที่ใจสงบมากนั้น ความคิดนึกไม่มี แต่สภาวธรรมที่เหนือความคิดลึกนั้นมีอยู่ ???

s006
s004
:b38:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 พ.ย. 2015, 14:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อาจเข้าใจมากกว่าคนพูด...ก็ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 พ.ย. 2015, 06:07 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




dd146_resize.jpg
dd146_resize.jpg [ 41.77 KiB | เปิดดู 1892 ครั้ง ]
กบนอกกะลา เขียน:
อาจเข้าใจมากกว่าคนพูด...ก็ได้

:b12:
ถ้าเข้าใจได้มากกว่าก็อนุโมทนา

แต่ไหนลองบอกมาซิว่าเข้าใจยังไง?

อาจเป็นความเข้าใจที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนจากธรรมก็ได้นะ

s004
s006
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 286 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 12, 13, 14, 15, 16, 17, 18 ... 20  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 21 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร