ช่างไปสรรหาภาพมา แล้วภาพที่เห็นพระคุณเจ้าท่านทำอะไรผิดเหรอ

เจ้าของสถานที่อาจจะนิมนต์ท่านไปพัก ตามปกติธรรมดาก็ได้นี่นา

แค่สีจีวรมันตัดกับธรรมชาติ เลยดูเด่นสะดุดเป็นพิเศษ


เรื่องของพระคุณเจ้า ผมว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
การแก้ไข หรือลงโทษควร กระทำอย่างรัดกุม และเงียบเชียบ
อย่าให้มีอึกทึกครึกโครม จนเป็นลักษณะการประจาน
เพราะจะทำให้ภาพลักษณ์โดยรวมของพระเสียหาย
และไม่ได้ทำ ให้ศาสนามั่นคงขึ้น หรือดีขึ้น มีแต่เสื่อมทรามลง

อย่างหนังสือพิมพ์ขยันเป็นพุทธบริษัทธิ์ที่ดี พระทำผิดทีก็ประจานความผิด
ไปทั้งประเทศ ศาสนามันถึงได้เสื่อมเร็วยิ่งขึ้น

ดูศาสนาอื่นเขาสิ เขาควบคุมการแพร่กระจายข่าวสารเกี่ยวกับแง่ไม่ดีของพวกเขา
และหนังสือพิมพ์ก็ไม่กล้าลงข่าว อย่างแวดวงของคริส อิสลามกล้าขุดคุ้ยเอามาประจานรึเปล่า
ไม่ใช่พวกเขาไม่มีอะไรไม่ดี แต่เพราะไม่มีใครเอาข่าวมาประจาน

แต่กับพุทธ นี่ นสพ. กล้ากระทำทุกอย่าง โดยไม่ได้ทำให้ศาสนาดีขึ้นเลย
ยิ่งอยากประกาศความเลวร้ายของพระสงฆ์ออกมามากเท่าไร ก็คือการทำลาย
สงฆ์ทั้งคณะ ทำร้ายจิตใจ ไปถึงพระทุกรูป ซึ่งบางท่านอาจไม่รู้อะไรด้วยเลย
แต่ก็ต้องมาถูกมองแบบเหมารวมไปด้วยโดยไม่รู้ตัว

ยิ่งว่าพระยิ่งตำหนิพระ ว่าให้ลูกฟังบ้าง หลานฟังบ้าง หนังสือพิมพ์บ้าง
โทรทัศน์บ้าง ตามสถานที่ต่างๆบ้าง เวลาคันปากก็หยิบเรื่องพระเสียๆมาประจานมาวิจารณ์
ว่ามันทุกโอกาสที่นึกได้ เจอใครก็ว่าให้ฟัง แล้วก็ปากต่อปาก ปากต่อปาก
ไม่นานพวกรักศาสนา ก็ช่วยทำลายศรัทธา ที่ผู้คนยังพอมีต่อสถาบันสงฆ์ให้หมดไป

แล้วได้อะไรกันขึ้นมา นอกจากช่วยกันทำให้คนที่ยังไม่หมดศรัทธา หมดศรัทธาเร็วยิ่งขึ้น
และคนที่ไม่ศรัทธาอยู่แล้ว ก็ยิ่งดูถูกพระ แม้แต่คุณเองก็อาจจะเป็นคนหนึ่ง
ที่มองพระด้วยหางตาก็ได้ หรือสบประมาทไว้ก่อนในใจ แล้วค่อยตาม
สังเกตดูดีๆทีหลัง ถ้าดีจริงค่อยมองท่านเต็มตา


ความเลวความชั่ว ความเสื่อมตอนนี้มีทุกวงการ อย่ามองแคบๆว่าวงการศาสนาเสื่อมทราม

การประจาน เป็นคนละอย่างกับการแก้ไข
เรื่องที่มีผลเกี่ยวข้องกระทบถึงศรัทธาต่อสถาบันสงฆ์ เป็นเรื่องใหญ่
ควรหาวิธีแก้ไขอย่างเงียบสงบ และได้ผล แต่ไม่ควรประจาน

เช่นอย่างคุณนำรูปพระคุณเจ้ามาประกาศความไม่ดี เีรียกว่าประจานไม่ใช่แก้ไข


และทุกวันนี้ไม่มีทางแก้ไขได้ เพราะมันเป็นที่ระบบ.......ระบบของคณะสงฆ์มันเน่าฟอนเฟะ
ภิกษุที่ทำตัวไม่งามมันก็เป็นแค่ปลายเหตุ

ยิ่งรู้ลึกยิ่งล้วงลึกก็ยิ่งเศร้า สู้อย่ารู้มันดีกว่า เพราะรู้แล้วก็แก้ไขอะไรไม่ได้

พอกันที สำหรับเรื่องพระคุณเจ้า ขอเชิญคุณขยันตามสอดส่องพวกท่าน ตามอัธยาศัยครับ
ผมไปตามหานิพพานดีกว่า เหนื่อยเปล่าอีกซะหละมั้งเรา

ก็จะขอยกพระสูตรมาให้อ่านเป็นโพสต์สุดท้ายเหมือนกันเพราะพิจารณาคุณแล้วไม่รู้เป็นพวกที่ชอบให้พรโยมหรือเปล่า ถามจริง ๆ ไอ้พรที่ให้กันเนี๋ยมันจะทำเจริญในชีวิตได้มั๊ย ถ้าไม่นำไปปฏิบัติดีปฎิบัติชอบ ตามพระธรรมคำสอน หัวใจมันคาอยู่ตรงนี้หละ และรู้มั๊ยรังเกียจที่สุดการบิณฑบาตที่ในตลาดในซอกซอยเนี๋ย ผู้คนสัญจรผ่านไปมาเต็มไปหมด ใส่บาตยืนกันเกะกะไม่พอ มานั่งรับพรกันอี๊ก โอ๊ย...มันได้บุญปนบาปละซิ คนเขาเดินผ่านไปผ่านมาลำบาก อีกคนก็จะทำบุญมันเจริญลูกกะตาซะที่ไหน ..คุณ..ไปบอกพระท่านคุณนับถือหรือตัวคุณเป็นพระเองก็อ่านซะพระวินัยพระสูตรนี้ พระพุทธองค์สั่งว่าอย่างไรบ้างอ่านซะ .....

พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๗ ภาค ๒ - หน้าที่ 349

พระผู้มีพระภาคเจ้า .. .ครั้นแล้วทรงทำธรรมีกถารับสั่งกะภิกษุทั้ง

หลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล เราจักบัญญัติวัตรแก่ภิกษุผู้เที่ยว

บิณฑบาตเป็นวัตร โดยประการที่ภิกษุผู้เทียวบิณฑบาตเป็นวัตร พึงประพฤติ

เรียบร้อย.
[๔๒๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้เที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตร คิดว่า

จักเข้าบ้านในบัดนี้ เมื่อปกปิดมณฑลสาม พึงนุ่งให้เป็นปริมณฑล คาดประ

คดเอวห่มผ้าซ้อน ๒ ชั้น กลัดลูกดุม ล้างบาตรแล้ว ไว้พึงยืนด้วยคิดว่า เขาประสงค์จะถวาย เมื่อเขาถวายภิกษา พึงแหวกผ้าซ้อนด้วย

มือซ้าย พึงน้อมบาตรเข้าไปด้วยมือขวา แล้วพึงใช้มือทั้งสองประคองบาตรรับ

ภิกษา [color=#FF4000]และไม่พึงมองดูหน้าผู้ถวายภิกษา พึงกำหนดว่าเขาประสงค์จะถวายแกง

หรือไม่ประสงค์จะถวาย ถ้าเขาจับทัพพี จับภาชนะ หรือตั้งไว้ พึงยืนอยู่ด้วย

คิดว่า เขาประสงค์จะถวาย เมื่อเขาถวายภิกษาแล้ว พึงคลุมบาตรด้วยผ้าซ้อนถือเข้าบ้านโดยเรียบร้อย
ไม่ต้องรีบร้อน พึงปกปิดกายด้วยดีไปในละแวกบ้าน พึงสำรวมด้วยดีไปในละ

แวกบ้าน พึงมีตาทอดลงไปในละแวกบ้าน อย่าเวิกผ้าไปในละแวกบ้าน อย่า

หัวเราะลั่นไปในละแวกบ้าน พึงมีเสียงน้อยไปในละแวกบ้าน อย่าโยกกายไป

ในละแวกบ้าน อย่าไกวแขนไปในละแวกบ้าน อย่าโคลงศีรษะไปในละแวกบ้าน

อย่าค้ำกายไปในละแวกบ้าน อย่าคลุมศีรษะไปในละแวกบ้าน อย่าเดินกระโหย่ง

ไปในละแวกบ้าน เมื่อเข้านิเวศน์พึงกำหนดว่า จักเข้าทางนี้ จักออกทางนี้ อย่า

รีบร้อนเข้าไป อย่ารีบร้อนออกเร็วนัก อย่ายืนไกลนัก อย่ายืนใกล้นัก [/color]
อย่ายืน

นานนัก อย่ากลับเร็วนัก พึงยืนกำหนดว่า เขาประสงค์จะถวายภิกษา หรือไม่

ประสงค์จะถวาย ถ้าเขาพักการงาน ลุกจากที่นั่งจับทัพพี หรือจับภาชนะ หรือตั้ง

แล้วกลับโดยเรียบร้อย ไม่ต้องรีบร้อน พึงปกปิดกายด้วยดี ไปในละแวกบ้าน



พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๗ ภาค ๒ - หน้าที่ 350

พึงสำรวมด้วยดีไปในละแวกบ้าน พึงมีตาทอดลงไปในละแวกบ้าน ไม่พึงเวิก

ผ้าไปในละแวกบ้าน ไม่พึงหัวเราะลั่นไปในละแวกบ้าน พึงมีเสียงน้อยไปใน

ละแวกบ้าน ไม่พึงโยกกายไปในละแวกบ้าน ไม่พึงไกวแขนไปในละแวก

บ้าน ไม่พึงโคลงศีรษะไปในละแวกบ้าน ไม่พึงค้ำกายไปในละแวกบ้าน ไม่พึง

คลุมศรีษะไปในละแวกบ้าน ไม่พึงเดินกระโหย่งไปในละแวกบ้าน ภิกษุใดกลับ

บิณฑบาตจากบ้านก่อน ภิกษุนั้น พึงปูอาสนะไว้ พึงจัดตั้งน้ำล้างเท้า ตั่งรองเท้า

กระเบื้องเช็ดเท้า พึงล้างภาชนะรองของฉันตั้งไว้ พึงตั้งน้ำฉัน น้ำใช้ไว้ ภิกษุใด

กลับบิณฑบาตจากบ้านทีหลัง ถ้าอาหารที่ฉันแล้วยังเหลืออยู่ ถ้าจำนงก็พึงฉัน

ถ้าไม้จำนงก็พึงเททิ้ง ในที่ปราศจากของเขียวสด หรือพึงเทลงในน้ำที่ไม่มีตัว

สัตว์ ภิกษุนั้นพึงรื้อขนอาสนะ เก็บน้ำล้างเท้า ตั่งรองเท้า กระเบื้องเช็ดเท้า พึง

ล้างภาชนะรองของฉัน เก็บไว้ พึงเก็บน้ำฉัน น้ำใช้ พึงกวาดโรงฉัน ภิกษุ

ใดเห็นหม้อน้ำฉัน หม้อน้ำใช้ หรือหม้อน้ำชำระว่างเปล่า ภิกษุนั้นพึงจัดหาไป

ตั้งไว้ ถ้าเป็นการสุดวิสัย พึงกวักมือเรียกเพื่อนมา ให้ช่วยกันจัดตั้งไว้ แต่

ไม่พึงเปล่งวาจาเพราะข้อนั้นเป็นเหตุ

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้แลเป็นวัตรของภิกษุผู้เที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตร

ซึ่งภิกษุผู้เที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตร พึงประพฤติเรียบร้อย.



รูปภาพนำมาให้ดูกับพฤติกรรมของพวกที่ใช้ผ้าเหลืองมาเลี้ยงชีพโดยสะดวกสบายว่าคุณเข้าข้างเขาชอบทำตัวกันแบบนี้เยอะ (แค่เห็นเดินชายทะเลก็น่าเกลียดแล้ว)เพราะอุบาสกอุบาสิกา ใช้ศรัทธานำหน้าในการนับถือพระศาสนา (อย่างคุณ..ที่คัดค้านพระบัญญัติ) คิดแต่ว่าห่มเหลืองแล้วดีไปหมดนั้นไม่ถูก เราเป็นพุทธบริษัทต้องมีปัญญา ใช้ปัญญาในสิ่งที่ถูกต้อง ถูกพระธรรมวินัย จะไปนิพพานแล้วเหรอ โอ...เรื่องแค่นี้ยังคา...(ยังไม่รู้ว่าผิดวินัยพระ) ท่านผู้ใดเข้ามาอ่านก็อ่านให้ครบทุกกระทู้จะได้ความรู้ไปปฎิบัติ และขออนุโมทนากับคุณลุงชูผู้ตั้งกระทู้ และท่านใดได้ขยายความและนำพระวินัยมากล่าวอ้างอย่างถูกต้อง ตรงไปตรงมาตามพระวินัย ไม่คัดค้านไปเอาใจใคร
ไปเหมียนกัน ไปอ่านพระไตรปิฎกเพราะยังโง่อยู่มาก คุณลุงชูปิดกระทู้ด้วยนะจะบอกให้....

เที่ยวชมอย่างเดียว อยู่บนรถดีกว่า ไม่กล้าลง

กลัวผงฝุ่น มันละเอียด ปลิวมาติด คิดปัดไม่ทัน เดี่ยวได้เปื้อนฝุ่นไม่รู้ตัว

เอ้าว..เชิญต่อละก้า

ขอบคุณครับทุกท่านที่แสดงความเห็น
ให้เกียรติสนใจ ใส่ใจกันมากขนาดนี้
ขอบคุณทุกๆความเห็นครับ
...ด้วยความเคารพ

ก็มาปิดกระทู้เลยครับ
ขอรบกวนปิดกระทู้นี้ให้ด้วยครับ