พระพุทธเจ้าได้ทรงจำแนกเรื่องของอจินไตย
เรื่องที่ไม่ควรนึก ไม่ควรนำมาคิดเอาไว้ 4 ลักษณะคือ

1) วิสัยของพระพุทธเจ้า
2) วิสัยของฌานหรือการทำจิตใจให้เป็นสมาธิแน่วแน่
3) ผลของกรรม
4) ความรู้สึกนึกคิดในเรื่องโครงสร้างของโลก
เพราะสิ่งเหล่านี้มีไม่ประโยชน์ ไม่สามารถนำมาเป็นแนวทางของความหลุดพ้นไปได้

...พระโพธิสัตว์เมือ่ได้รับพุทธทำนายจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในภัทรกัปนั้น...
...จิต...เจตสิกของพระโพธิสัตว์ก็จะกลายเป็นพระวิสุทธิเทพ...ประทับรอความสำเร็จบน...
...สรวงสวรรค์ชั้นดุสิตา...วิสุทธิเทพคือผู้ที่ได้รับการทำนายจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า...
...ในแต่ละยุค...ในแต่ละภัทรกัป...ทำหน้าที่ในการพุทธทำนายของพระพุทธเจ้าในแต่ละพระองค์...
...เป็นการทำนายต่อๆกันไปของพระพุทธเจ้าว่า...ต่อไปจะมีพระพุทธเจ้าองค์ใดมาตรัสรู้...
...พระสัมมาสัมโพธิญาณ...เพื่อที่จะสืบทอดพระศาสนาต่อไป...

...ซึ่งพระวิสุทธิเทพในแต่ละยุคในแต่ละสมัยจะมีเพียวแค่พระองค์เดียวเท่านั้น...
...เป็นสภาวะกายแก้ว...มีดวงจิตใสสะอาด...ไม่มีสภาวะกิเลส...ตัณหา...
...เพราะเป็นสภาวะจิตเดิมๆที่ประภัสสร...จิตบริสุทธิ์ไม่มีการปรุงแต่งใดๆทั้งสิ้น...
...เสวยวิมุตติสุขในสวรรค์ชั้นดุสิตาเพื่อรอกาลเวลาลงมาบำเพ็ญเพียรสะสมบารมี...
...ลงมาจุติเกิดบนโลกธาตุเช่น...เกิดเป็นนกกระจาบ...เกิดเป็นลิง...เกิดเป็นช้าง...
...เกิดเป็นพญานาค...เกิดเป็นมนุษย์...หรือเกิดเป็นเทพ...เกิดเป็นพรหม...

...เพื่อที่จะลงมาเรียนรู้ทุกๆ อณูในการจุติเกิดเพื่อเก็บสะสมบำเพ็ญเพียรบารมีให้ครบ...
...30ทัศให้จงได้...จิตที่ลงมาจุติเกิดจาก "พระวิสุทธิเทพ" เรียกว่า "มหาโพธิสัตว์"...
...พระวิสุทธิเทพจะแบ่งจิตลงมาจุติเกิดเป็นมหาโพธิสัตว์ได้นั้น...จะต้องได้รับ...
...การอัญเชิญจากพระอินทร์ พระพรหม พระยม พระกาฬ...ให้ลงมาจุติช่วยเหลือ...
...ความทุกข์ยากของเหล่าเวไนยสัตว์เสียก่อน...พระวิสุทธิเทพก็จะต้องพิจารณา...
...ในคำทูลเชิญนั้นว่าสมควรหรือไม่...ถ้าถึงกาลเวลาอันควรท่านก็จะแบ่งภาคลงมา...

...เมื่อตรวจสภาพผู้คนในชาติเดือดร้อน...พระวิสุทธิเทพ...ก็จะอธิษฐานแบ่งจิต...
...ออกไปตามความเหมาะสม...เช่น...ลงมาจุติทั้งองค์..แบ่งครึ่งลงมาจุติ...
...หรือแบ่งออกไปเป็นดวงจุติ 3 ดวง...5 ดวง...7 ดวง...9 ดวง...ฯลฯ...
...สุดแล้วแต่เหตุปัจจัยในภพชาตินั้นๆ...ถ้าลงมาทำหน้าที่ได้สมบูรณ์ถูกต้อง...
...จิต...เจตสิกที่ถูกแบ่งมาจุติบนโลกธาตุ...ก็จะกลับขึ้นไปรวมเป็นหนึ่ง...

...แต่ถ้าจิต...เจตสิกดวงใดเกิดความลุมหลงอยู่ในดงกิเลส...หลงติดสุขในตัณหา...
...และความทะยานอยาก...จิตดวงนั้นก็จะถูกปล่อยให้ทนทุกข์เวทนาไปตามกรรม...
...ที่ทำเอาไว้ต้องชดใช้วิบากกรรม...แต่จิตของมหาโพธิสัตว์นั้นจะมีทิพยญาณ...
...หรือญาณพิเศษกว่าจิต เจตสิกดวงอื่นๆ...คือมีจิตใต้สำนึกผุดขึ้นมาเอง...
...เพื่อที่จะคอยมาเตือนสติมหาโพธิสัตว์ให้เกิดความสำนึก...รับผิดชอบในหน้าที่...
...ว่าตนปรารถนาพุทธภูมิ...เราปรารถนาอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ...
...เราปรารถนาที่จะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าให้จงได้...

อิ อิ ขอวางมาดสำรวมคุยกับคุณ sbth ก่อน
ส่วนนาย เดี๋ยวเจอกัน ชอบนักเชียว เอาสั้น ๆ มาล่อ เนี๊ยะ

คุณ sbth ครับ
ตอนนี้ คุณอยากรวย หรือ อยากหลุดพ้น มากกว่ากันล่ะ...
ผมจะได้...พยายามออกความเห็นได้ตรงกับประเด็นที่คุณสงสัย...
เพราะจริง ๆ ผมไม่ได้อยากจะยืนยัน ว่ามันจริง หรือ มันไม่จริง
มันเป็นเรื่องของการมองเห็น

มันจึงเป็นได้ทั้ง จริง และ ไม่จริง

ขึ้นอยู่ที่คุณยืนมองมันจากพิกัดไหน...องค์ประกอบในการมองเห็น...

ระยะทางเปลี่ยน องศาเปลี่ยน ความจริงที่เห็นก็เปลี่ยน...

เคราะห์มาซ้ำ..กรรมมาซัด..เอานะ

คอมพ์มันเจ้งบ่ง..พอซ่อมเสร็จ..

การไฟฟ้า..ท่านใจดี..มาเปลี่ยนเสาไฟแบบยกทั้งแผง..พร้อมเล็บสายโทรฯทั้งแถบ

การโทรศัพท์..ท่านก็แสนขยัน..มาต่อสายโทร..ทันทีเมื่อคืนนี้..หลังการไฟฟ้าทำเสร็จมาแล้วหนึ่งอาทิตย์..

ข้อ 1 ล่วงรู้เหตุการณ์ในอดีตของบุคคลอื่นได้
ได่ค่ะ เพราะจะได้รู้กรรมที่เป็นเหตุแห่งผลในปัจจุบัน

ข้อ 2 ล่วงรู้เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน ณ สถานที่อื่นได้
ได้ค่ะ ก็รู้ที่ที่มำให้เกิดผลในปัจจุบันค่ะ

ข้อ 3 ล่วงรู้เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของใครๆ ได้
ได้ค่ะ ก็รู้ผลของเหตุทึ่เกิดในปัจจุบันค่ะ

ข้อ 4 คนที่ไม่ใช่พระพุทธเจ้าจะสามารถมีญาณหรืออภิญญาอย่างที่บอกไปได้หรือเปล่าครับ หากสมมุติว่าทำได้เรียกว่าการฝึกอะไรครับ
ไม่ใช่ค่ะ คนที่ไม่ใช่พระพุทธเจ้าก็รู้ได้ รู้เป็นลำดับค่ะ โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ พระโพธิสัตว์ พระพุทธเจ้าค่ะ รู้แจ้งทั้งในธรรมและอภิญญาทั้งหกค่ะ

ข้อ 5 หากล่วงรู้อนาคตได้ แสดงว่าอนาคตมีการถูกกำหนดไว้ก่อนแล้วใช่หรือเปล่าครับ เราจะเปลี่ยนแปลงอนาคตได้หรือเปล่าครับ
ใช่ค่ะ แต่อนาคตเปลี่ยนแปลงได้ ต้องเปลี่ยนเหตุ ซึ่งเหตุเกิดในปัจจุบันค่ะ เมื่อรู้เหตุแล้ว เราก็ไม่ทำเหตุให้เกิดนา่ะค่ะ