วันเวลาปัจจุบัน 23 ก.ค. 2025, 05:03  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 35 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2010, 09:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความเทียบเคียงในตอนที่สอง

เปรียบได้กับพฤติกรรมที่เกิดขึ้นโดยถูกต้องตามธรรมดาแห่งกระบวนธรรม เป็นธรรมชาติเป็นไปเองตามเหตุปัจจัย คือ เกิดจากความรู้แจ้งประจักษ์ ตามหลักการที่ว่า เมื่อเหตุปัจจัยพร้อมแล้วผลก็เกิดขึ้นเอง จำเป็นจะต้องเกิด ถึงฝืนก็ไม่อยู่ คือ เมื่อรู้สภาวะของสังขารทั้งหลายแท้จริงแล้วจิตก็หลุดพ้น หมดความยึดติดเอง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2010, 09:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถามว่า ถ้าอย่างนั้นปุถุชนเมื่อยังไม่เกิดญาณทัสสนะจะพยายามปฏิบัติตามหลักความไม่ยึดมั่นถือมั่นบ้างไม่ได้หรือ

ตอบว่า ได้ และควรอยู่ เพราะเพียงมองเห็นโทษของความยึดมั่นก็นับว่าเป็นประโยชน์แล้ว แต่ข้อสำคัญ จะต้องมีสติรู้ ระลึกไว้ว่า นี้เราอยู่เพียงในขั้นของความยึดมั่นในความไม่ยึดมั่นเท่านั้น เมื่อจะทำอะไร อาจบอกตัวเองว่า เราจะทำการนี้ด้วยความไม่ยึดมั่น พร้อมนั้นก็ระลึกไว้ด้วยว่า เราจะทำไปตามเหตุตามผล ไม่หลงไปตามความยึดมั่นในความไม่ยึดมั่นนั้น พยายามทำการด้วยปัญญา ด้วยความรู้ความเข้าใจให้มากที่สุด

เพียงเท่านี้ ก็จะเป็นการกระทำที่เป็นคุณ ผลที่จะได้ในระดับนี้ก็คือเป็นการฝึกตน เป็นการปูพื้นฐานสำหรับความไม่ยึดมั่นที่แท้จริงต่อไปและผลเสียจากการกระทำเลยเถิดเกินไป หรือ มากไปหรือหลอกตัวเองก็จะไม่เกิดขึ้น

แต่ถ้าเข้าใจผิดเห็นไปว่า นี่แหละ คือความไม่ยึดมั่น ก็จะผิดพลาดเกิดผลเสียได้ทันที

http://fws.cc/whatisnippana/index.php?topic=513.0

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 02 ต.ค. 2010, 21:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2009, 09:34
โพสต์: 1478

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


... :b8:

ขอบคุณค่ะ ท่าน suthee

:b1:


แก้ไขล่าสุดโดย เอรากอน เมื่อ 02 ต.ค. 2010, 21:19, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 04 ต.ค. 2010, 12:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ก.ย. 2010, 23:16
โพสต์: 77

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


นักปฏิบัติธรรมปฏิบัติจิตภาวนาที่มีสติปัญญาสามารถสังเกตรู้ที่จิตที่ใจของตนเองได้ ให้รู้เองเห็นเอง(สันทิฏฐิโก) ตา,หู,จมูก,ลิ้น,กาย,เป็นอายตนะที่รับผัสสะ ไม่มีอะไรชัดเจนแจ่มแจ้งยิ่งกว่าจิตใจ สิ่งใดก็ตามที่มีสภาพเกิดขึ้นในเบื้องต้น แปรปรวนในท่ามกลาง แตกสลายในที่สุด สิ่งนั้นๆล้วนแล้วแต่เป็นเงาของจิตเป็นอาการของจิตทั้งนั้น จิตที่แท้ไม่มีการเกิดไม่มีการดับ นักปฏิบัติจิตภาวนาร้อยทั้งร้อยจะพากันไปดูไปรู้ที่เงาของจิตหรืออาการของจิต สิ่งใดก็ตามที่เกิดๆดับๆสิ่งนั้นชื่อว่าเงาของจิตหรืออาการของจิต การดูจิตก็คือดูสิ่งที่ไม่เกิดไม่ดับก็คือจิตหรือรู้ที่ไม่เกิดไม่ดับนั่นเอง สิ่งที่เกิดๆดับๆมันไม่รู้ ให้มาดูมารู้สิ่งที่ไม่เกิดไม่ดับคือจิตหรือรู้ที่ไม่เกิดไม่ดับนั่นเอง สิ่งที่เกิดๆดับๆไม่ใช่พระนิพพาน สิ่งที่ไม่เกิดไม่ดับคือ พระนิพพาน ปล่อยสติปัญญาไปอยู่กับเงาของจิตหรืออาการของจิตก็เลยหาพระนิพพานไม่พบสักทีเลยนิพพานไปไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน จิตที่รู้เกิดรู้ดับเป็น สมุทัยเหตุให้เกิดทุกข์ ผลที่เกิดจากจิตที่รู้เกิดรู้ดับเป็น ทุกข์ จิตที่รู้ไม่เกิดไม่ดับเป็น มรรคข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ ผลที่เกิดจากจิตที่รู้ไม่เกิดไม่ดับเป็น นิโรธความดับทุกข์หรือนิพพานนั่นเอง จะไปถามหานิโรธนิพพานอยู่ที่ไหน? ไม่ต้องไปถามหาให้เสียเวล่ำเวลาแต่จะปรากฏขึ้นที่จิตที่ใจของนักปฏิบัติจิตปฏิบัติธรรมด้วยทุกคน (ยกเว้นพวกที่แบกหามตู้คำภีร์มาอวดกันเล่น)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 05 ต.ค. 2010, 08:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 ส.ค. 2010, 11:59
โพสต์: 105

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


suthee เขียน:
นักปฏิบัติธรรมปฏิบัติจิตภาวนาที่มีสติปัญญา
สามารถสังเกตรู้ที่จิตที่ใจของตนเองได้ ให้รู้เองเห็นเอง(สันทิฏฐิโก)
ตา,หู,จมูก,ลิ้น,กาย,เป็นอายตนะที่รับผัสสะ
ไม่มีอะไรชัดเจนแจ่มแจ้งยิ่งกว่าจิตใจ

สิ่งใดก็ตามที่มีสภาพเกิดขึ้นในเบื้องต้น แปรปรวนในท่ามกลาง แตกสลายในที่สุด
สิ่งนั้นๆล้วนแล้วแต่เป็นเงาของจิตเป็นอาการของจิตทั้งนั้น


จิตที่แท้ไม่มีการเกิดไม่มีการดับ
นักปฏิบัติจิตภาวนาร้อยทั้งร้อย จะพากันไปดูไปรู้ที่เงาของจิตหรืออาการของจิต
สิ่งใดก็ตามที่เกิดๆดับๆสิ่งนั้นชื่อว่าเงาของจิตหรืออาการของจิต


การดูจิตก็คือดูสิ่งที่ไม่เกิดไม่ดับ ก็คือจิตหรือรู้ที่ไม่เกิดไม่ดับนั่นเอง
สิ่งที่เกิดๆดับๆมันไม่รู้ ให้มาดูมารู้สิ่งที่ไม่เกิดไม่ดับคือจิตหรือรู้ที่ไม่เกิดไม่ดับนั่นเอง

สิ่งที่เกิดๆดับๆไม่ใช่พระนิพพาน สิ่งที่ไม่เกิดไม่ดับคือ พระนิพพาน

ปล่อยสติปัญญาไปอยู่กับเงาของจิตหรืออาการของจิต
ก็เลยหาพระนิพพานไม่พบสักที เลยนิพพานไปไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน


จิตที่รู้เกิดรู้ดับเป็น สมุทัยเหตุให้เกิดทุกข์
ผลที่เกิดจากจิตที่รู้เกิดรู้ดับเป็น ทุกข์
จิตที่รู้ไม่เกิดไม่ดับเป็น มรรคข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์
ผลที่เกิดจากจิตที่รู้ไม่เกิดไม่ดับเป็น นิโรธความดับทุกข์หรือนิพพานนั่นเอง

จะไปถามหานิโรธนิพพานอยู่ที่ไหน? ไม่ต้องไปถามหาให้เสียเวล่ำเวลา
แต่จะปรากฏขึ้นที่จิตที่ใจของนักปฏิบัติจิตปฏิบัติธรรมด้วยทุกคน
(ยกเว้นพวกที่แบกหามตู้คำภีร์มาอวดกันเล่น)



ขอนุญาตท่านสุธี จัดเรียงความเห็นหน่อยนะครับ :b1:

เรียนท่านสุธีว่า พระพุทธเจ้าท่านไม่เคยกล่าวถึงคำว่าเงาของจิตแต่อย่างใดเลยครับ
ท่านมีแต่บอกว่า จิตหรือวิญญาณ นั้นไม่เที่ยง เป็นอนัตตา มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา


ทั้งตัวดูจิตและตัวที่ถูกจิตดู ต่างก็มีการเกิดดับทั้งสิ้นไม่ใช่หรือครับ
ที่ท่านสุธีกล่าวว่า การดูจิตก็คือดูสิ่งที่ไม่เกิดไม่ดับ ก็คือจิตหรือรู้ที่ไม่เกิดไม่ดับนั่นเอง สิ่งที่เกิดๆดับๆมันไม่รู้ ให้มาดูมารู้สิ่งที่ไม่เกิดไม่ดับคือจิตหรือรู้ที่ไม่เกิดไม่ดับนั่นเอง

เรียนถามท่านสุธีว่า แล้วตัวที่ดู ตัวที่รู้ความไม่เกิดไม่ดับนี้ มีการเกิดดับไหม
ถ้าไม่เกิด แล้วมันจะไปรู้ความไม่เกิดไม่ดับได้อย่างไรกันครับ?
แต่เมื่อมันเกิด มันก็ย่อมหนีการดับ ไปไม่พ้น ครับ

นิพพาน ไม่ใช่สิ่งที่ต้องค้นหา ไม่ใช่หรือครับ
เพียงแค่ว่าหยุดการค้นหาเท่านั้น นิพพานก็จะปรากฏขึ้นเอง มิใช่หรือครับ

ที่ทีใดปราศจากตัณหา ที่นั่นย่อมมีความดับเย็น :b45:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 35 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร