วันเวลาปัจจุบัน 30 ก.ค. 2025, 03:09  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 47 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ม.ค. 2012, 22:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


ชาวโลก เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
ชาวโลก เขียน:
Onion_L ขอนอกรอบนิ๊ดดดด..(

อารายอ่ะ อีก3 ที่ต้องทำน่ะ เราไม่รู้อ่ะบอกหน่อยสิ แต่เราจำได้ว่าต้องทำพร้อมกันหมดที่เดียวม่ะใช่เหรอ(เราอ่านตามหนังสือเอาน่ะ)..ตอนแรกน่ะดูมันแต่กายแหละ มันไม่เก่งนิ ต้องทำทีหล่ะอย่าง พอดูกายหาย เราก็มั่วต่อน่ะ เราเห็นหัวมันยังอยู่เลยกายหายช่างมัน ดูหัวต่อ ดูภายในสมองว่ามันมีอะไรบ้าง..ดูไปดูมามันดันหายอีก คราวนี้ ม่ะมีอะไรดูอ่ะ..เลยเอาว่ะ ลองดูจิตก็ได้ ก็แค่ดูมันว่ามีอะไร..ดูตามตำราว่าน่ะ ดูว่า เอ่อ จิตมีราคะก็จิตมีราคะ จิตมีโกรธก็ดูจิตมีโกรธ ก็ดูแบบนี้ไปน่ะ ดูไปดูมามันหายไปอีก ไม่มีอะไรจะดู ก็เลยดูๆแบบนี้ไปเรื่อยๆ ดูอวกาศไปซะงั้น...มันเป็นอย่างเนี้ยะน่ะ เราเดินผิดไปไหมน่ะ..ผิดต้องรีบเตือนเราน่ะ เราจะรีบแก้ เพราะเราทำตามตำรา แต่อ่านน้อยๆ พอเข้าใจและลงมือทำอย่างเดียวน่ะ เราเลยไม่เป๊ะเรื่องทฤษฎีน่ะ s005


ตามตำราเหมือนกันครับ ว่า มี กาย เวทนา จิต และธรรม ครับ แล้วผลจากที่ท่านว่ามันดบ หรือหายนั้น มันส่งผลกับท่านตอนสภาวะปกติมั้ยครับ เพราะผลจากการปฎิบัติมันต้องดูตอน ปกติไม่ทำสมาธิ
มันทำให้ท่าน ทุกข์น้อยลงมั้ย ยังมีโกรธ โลภ หลง มั้ย เห็นเพศตรงข้าม แล้วยังมี กำหนัดมั้ย ต้องดูจากพวกเหล่านี้แหละครับ

ตอบเท่าที่รู้และคิดว่าใช่ แต่อาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้นะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ม.ค. 2012, 22:52 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ม.ค. 2012, 16:35
โพสต์: 110


 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
ชาวโลก เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
ชาวโลก เขียน:
Onion_L ขอนอกรอบนิ๊ดดดด..(

อารายอ่ะ อีก3 ที่ต้องทำน่ะ เราไม่รู้อ่ะบอกหน่อยสิ แต่เราจำได้ว่าต้องทำพร้อมกันหมดที่เดียวม่ะใช่เหรอ(เราอ่านตามหนังสือเอาน่ะ)..ตอนแรกน่ะดูมันแต่กายแหละ มันไม่เก่งนิ ต้องทำทีหล่ะอย่าง พอดูกายหาย เราก็มั่วต่อน่ะ เราเห็นหัวมันยังอยู่เลยกายหายช่างมัน ดูหัวต่อ ดูภายในสมองว่ามันมีอะไรบ้าง..ดูไปดูมามันดันหายอีก คราวนี้ ม่ะมีอะไรดูอ่ะ..เลยเอาว่ะ ลองดูจิตก็ได้ ก็แค่ดูมันว่ามีอะไร..ดูตามตำราว่าน่ะ ดูว่า เอ่อ จิตมีราคะก็จิตมีราคะ จิตมีโกรธก็ดูจิตมีโกรธ ก็ดูแบบนี้ไปน่ะ ดูไปดูมามันหายไปอีก ไม่มีอะไรจะดู ก็เลยดูๆแบบนี้ไปเรื่อยๆ ดูอวกาศไปซะงั้น...มันเป็นอย่างเนี้ยะน่ะ เราเดินผิดไปไหมน่ะ..ผิดต้องรีบเตือนเราน่ะ เราจะรีบแก้ เพราะเราทำตามตำรา แต่อ่านน้อยๆ พอเข้าใจและลงมือทำอย่างเดียวน่ะ เราเลยไม่เป๊ะเรื่องทฤษฎีน่ะ s005


ตามตำราเหมือนกันครับ ว่า มี กาย เวทนา จิต และธรรม ครับ แล้วผลจากที่ท่านว่ามันดบ หรือหายนั้น มันส่งผลกับท่านตอนสภาวะปกติมั้ยครับ เพราะผลจากการปฎิบัติมันต้องดูตอน ปกติไม่ทำสมาธิ
มันทำให้ท่าน ทุกข์น้อยลงมั้ย ยังมีโกรธ โลภ หลง มั้ย เห็นเพศตรงข้าม แล้วยังมี กำหนัดมั้ย ต้องดูจากพวกเหล่านี้แหละครับ

ตอบเท่าที่รู้และคิดว่าใช่ แต่อาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้นะครับ


แปลว่า ให้เรามั่วแบบเดิมต่อไปใช่ม่ะ..เพราะไม่มีใครฟันธงให้นิ....เฮ้อ..มั่วต่อไปเถอะเรา :b34: :b34:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ม.ค. 2012, 23:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


ชาวโลก เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
ชาวโลก เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
ชาวโลก เขียน:
Onion_L ขอนอกรอบนิ๊ดดดด..(

อารายอ่ะ อีก3 ที่ต้องทำน่ะ เราไม่รู้อ่ะบอกหน่อยสิ แต่เราจำได้ว่าต้องทำพร้อมกันหมดที่เดียวม่ะใช่เหรอ(เราอ่านตามหนังสือเอาน่ะ)..ตอนแรกน่ะดูมันแต่กายแหละ มันไม่เก่งนิ ต้องทำทีหล่ะอย่าง พอดูกายหาย เราก็มั่วต่อน่ะ เราเห็นหัวมันยังอยู่เลยกายหายช่างมัน ดูหัวต่อ ดูภายในสมองว่ามันมีอะไรบ้าง..ดูไปดูมามันดันหายอีก คราวนี้ ม่ะมีอะไรดูอ่ะ..เลยเอาว่ะ ลองดูจิตก็ได้ ก็แค่ดูมันว่ามีอะไร..ดูตามตำราว่าน่ะ ดูว่า เอ่อ จิตมีราคะก็จิตมีราคะ จิตมีโกรธก็ดูจิตมีโกรธ ก็ดูแบบนี้ไปน่ะ ดูไปดูมามันหายไปอีก ไม่มีอะไรจะดู ก็เลยดูๆแบบนี้ไปเรื่อยๆ ดูอวกาศไปซะงั้น...มันเป็นอย่างเนี้ยะน่ะ เราเดินผิดไปไหมน่ะ..ผิดต้องรีบเตือนเราน่ะ เราจะรีบแก้ เพราะเราทำตามตำรา แต่อ่านน้อยๆ พอเข้าใจและลงมือทำอย่างเดียวน่ะ เราเลยไม่เป๊ะเรื่องทฤษฎีน่ะ s005


ตามตำราเหมือนกันครับ ว่า มี กาย เวทนา จิต และธรรม ครับ แล้วผลจากที่ท่านว่ามันดบ หรือหายนั้น มันส่งผลกับท่านตอนสภาวะปกติมั้ยครับ เพราะผลจากการปฎิบัติมันต้องดูตอน ปกติไม่ทำสมาธิ
มันทำให้ท่าน ทุกข์น้อยลงมั้ย ยังมีโกรธ โลภ หลง มั้ย เห็นเพศตรงข้าม แล้วยังมี กำหนัดมั้ย ต้องดูจากพวกเหล่านี้แหละครับ

ตอบเท่าที่รู้และคิดว่าใช่ แต่อาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้นะครับ


แปลว่า ให้เรามั่วแบบเดิมต่อไปใช่ม่ะ..เพราะไม่มีใครฟันธงให้นิ....เฮ้อ..มั่วต่อไปเถอะเรา :b34: :b34:


เอาอย่างนี้ท่าน ท่านลองเข้าไปอ่านในกระทู้ "ขอความคิดเห็น ภาพนี้ด้วยครับ" นั้นเป็นเส้นทางเท่าที่ผมจะมีความรู้จากการฟังเทศ จากพระต่างๆ และจากกัลยาณมิตรทั้งหลาย รวมทั้งปัญญาที่เกิดตอนทำสมาธิ จนสรุปได้ ตามนั้น ครับ
ควรไม่ควรแล้วแต่ท่านจะพิจารณา ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ม.ค. 2012, 23:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ม.ค. 2012, 16:35
โพสต์: 110


 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
ชาวโลก เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
ชาวโลก เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
ชาวโลก เขียน:
Onion_L ขอนอกรอบนิ๊ดดดด..(

อารายอ่ะ อีก3 ที่ต้องทำน่ะ เราไม่รู้อ่ะบอกหน่อยสิ แต่เราจำได้ว่าต้องทำพร้อมกันหมดที่เดียวม่ะใช่เหรอ(เราอ่านตามหนังสือเอาน่ะ)..ตอนแรกน่ะดูมันแต่กายแหละ มันไม่เก่งนิ ต้องทำทีหล่ะอย่าง พอดูกายหาย เราก็มั่วต่อน่ะ เราเห็นหัวมันยังอยู่เลยกายหายช่างมัน ดูหัวต่อ ดูภายในสมองว่ามันมีอะไรบ้าง..ดูไปดูมามันดันหายอีก คราวนี้ ม่ะมีอะไรดูอ่ะ..เลยเอาว่ะ ลองดูจิตก็ได้ ก็แค่ดูมันว่ามีอะไร..ดูตามตำราว่าน่ะ ดูว่า เอ่อ จิตมีราคะก็จิตมีราคะ จิตมีโกรธก็ดูจิตมีโกรธ ก็ดูแบบนี้ไปน่ะ ดูไปดูมามันหายไปอีก ไม่มีอะไรจะดู ก็เลยดูๆแบบนี้ไปเรื่อยๆ ดูอวกาศไปซะงั้น...มันเป็นอย่างเนี้ยะน่ะ เราเดินผิดไปไหมน่ะ..ผิดต้องรีบเตือนเราน่ะ เราจะรีบแก้ เพราะเราทำตามตำรา แต่อ่านน้อยๆ พอเข้าใจและลงมือทำอย่างเดียวน่ะ เราเลยไม่เป๊ะเรื่องทฤษฎีน่ะ s005


ตามตำราเหมือนกันครับ ว่า มี กาย เวทนา จิต และธรรม ครับ แล้วผลจากที่ท่านว่ามันดบ หรือหายนั้น มันส่งผลกับท่านตอนสภาวะปกติมั้ยครับ เพราะผลจากการปฎิบัติมันต้องดูตอน ปกติไม่ทำสมาธิ
มันทำให้ท่าน ทุกข์น้อยลงมั้ย ยังมีโกรธ โลภ หลง มั้ย เห็นเพศตรงข้าม แล้วยังมี กำหนัดมั้ย ต้องดูจากพวกเหล่านี้แหละครับ

ตอบเท่าที่รู้และคิดว่าใช่ แต่อาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้นะครับ


แปลว่า ให้เรามั่วแบบเดิมต่อไปใช่ม่ะ..เพราะไม่มีใครฟันธงให้นิ....เฮ้อ..มั่วต่อไปเถอะเรา :b34: :b34:


เอาอย่างนี้ท่าน ท่านลองเข้าไปอ่านในกระทู้ "ขอความคิดเห็น ภาพนี้ด้วยครับ" นั้นเป็นเส้นทางเท่าที่ผมจะมีความรู้จากการฟังเทศ จากพระต่างๆ และจากกัลยาณมิตรทั้งหลาย รวมทั้งปัญญาที่เกิดตอนทำสมาธิ จนสรุปได้ ตามนั้น ครับ
ควรไม่ควรแล้วแต่ท่านจะพิจารณา ครับ


งั้นเราจะไปลองลงใหม่แบบที่เราเข้าใจ จริงๆเราลงไปครั้งหนึ่งแล้วหล่ะ แต่ถอนออก เพราะเรากลัวผิด ผิดเรื่องเขียนธรรมหรือบอกในสิ่งผิดๆเกี่ยวกับธรรมนั้นบาปนัก เราคิดอย่างนี้(เรากลัวบาปน่ะ)แต่เราจะลองไปดูและไปแสดงความคิดเห็นแบบเราอีกครั้งดีกว่า..เผื่อจะได้มีข้อติดีๆเกิดขึ้นกับเราบ้าง..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ม.ค. 2012, 01:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ม.ค. 2012, 16:35
โพสต์: 110


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
ชาวโลก เขียน:
แต่ไม่ฟุ้งซ่านทำยากมากน่า s002 ตอนทำสมาธิไม่ฟุ้งหรอก อยู่ในสมาธิได้ แต่ช่วงไม่ได้ทำสมาธิซิ คิดโน้นคิดนี่ไปเรื่อยหล่ะ ระงับไงดี เราก็ได้แต่แก้ๆไขตัวเอง แบบว่า ถ้าฟุ้งก็มองมัน หรือภาวนาไป ..เรามาถูกทางหรือยังน่ะ ..แนะนำที Kiss


:b16: :b16:
อิอิ ไม่รู้จิ

เรา...มองเห็นแบบว่า งี๊น่ะ

ตามการเห็นการเปลี่ยนแปลงของอาการ/ความคิด

1 ฟุ้งซ่าน
2 รู้ฟุ้ง
3 เกิดแง่เปรียบเทียบฟุ้ง/ไม่ฟุ้ง
4 เกิดคิดอยากหยุดฟุ้ง

ไอ้ตรง.. เกิดคิดอยากหยุดฟุ้ง นั่นน่ะ มันหยุดฟุ้งได้หรือยัง
และมันหยุดฟุ้ง ได้มั๊ยนั่นน่ะ
ที่ดับไปคือ ความคิดเก่าดับไป
ความคิดใหม่ปรากฎ
อะไรเป็นปัจจัยให้ความคิดเก่าดับไป
อะไรเป็นปัจจัยให้ความคิดใหม่ปรากฎ

อะไรเป็นปัจจัยให้ฟุ้งซ่าน
อะไรเป็นปัจจัยให้รู้ฟุ้ง
อะไรเป็นปัจจัยให้เกิดแง่เปรียบเทียบฟุ้ง/ไม่ฟุ้ง
อะไรเป็นปัจจัยให้เกิดความคิดอันจะให้หยุดฟุ้งปรากฎ

ความคิดเราเกิดดับ เกิดดับ
ฟุ้งเกิด ฟุ้งดับ
รู้ฟุ้งเกิด รู้ฟุ้งดับ
คิดเปรียบเทียบเกิด คิดเปรียบเทียบดับ
คิดการทำให้หยุดฟุ้งเกิด คิดการทำให้หยุดฟุ้งดับ
และก็กลับมาเห็นสิ่งที่คิดนั้น เป็นอาการฟุ้งไปในธรรมต่ออีก

สิ่งที่ฟุ้งในอดีต สิ่งที่ฟุ้งในปัจจุบัน สิ่งที่ฟุ้งในอนาคต
เห็นแล้ว น่ารากแตกนะ

:b6: :b6: :b6:

เมื่อมันเห็นความน่าเอียน ในอาการคิดเรื่อยเปื่อย
ดังนั้น พอสติรู้ว่าฟุ้งไปในธรรมปุ๊บ มันก็จบลงตรงนั้นเอง
สภาวะธรรมมันเป็นสภาวะธรรมของมันอย่างนั้น

ความคิดมันเป็นอย่างนั้น มันไปของมันไปเรื่อยนั่นล่ะ
มันมา เดี๋ยวมันก็ไป ไปไวเสียด้วย
คิดสีแดง คิดสีดำ เดี๋ยวคิดถึงแฟน เดี๋ยวคิดถึงหมา
เดี๋ยวคิดถึงเพื่อน
คิดถึงอะไร อารมณ์ก็เปลี่ยนไปตามความคิด
แม้แต่อยากจะหยุดคิด/ฟุ้งซ่าน
ก็คิดไปในธรรมที่จะไม่ฟุ้งซ่าน

จริง ๆ ก็คือ แค่หยุดคิด และรู้สภาวะหยุดนั้น

:b1: :b1: :b1:

อันนี้แสดงความเห็น ตามความเข้าใจส่วนตัว น๊ะจ๊ะ

:b16: :b16: :b16:


ยิ่งอ่านยิ่งรู้ว่า ทำได้ยาก.. s002


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ม.ค. 2012, 01:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
student เขียน:
ฝึกจิต เขียน:
student เขียน:
ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
จิตปรุงแต่ง เปลี่ยนแปลง แปรปรวนไม่คงที่ เกิดดับ เกิดดับ ตลอดเวลา ทุกข์ใจจึงเกิดขึ้น


ผมเห็นมาเช่นนั้น เลยคิดเช่นนั้น พิจารณาดู ถูกไม่ถูกไม่เป็นไร เพียรตามจริตเราไป ย่อมเกิดผล

ผมอ่านทบทวนคำอธิบายของคุณอยู่ 2 3 วัน จึงพิจารณาว่าพระไตรลักษณ์นั้นคือสภาพที่เสมอเหมือนของสรรพสิ่ง ดังนั้นทุกสรรพสิ่งจึงอยู่ภายใต้กฎของพระไตรลักษณ์ คนที่จะทำความเพียรนั้นต้องกำหนดสิ่งต่างๆเข้าในกฏของพระไตรลักษณ์ครับ จึงเป็นความเห็นที่แย้งกับคุณที่ว่า อย่าตั้งธงไตรลักษณ์ไว้ก่อน ความเห็นจะนำไปสู่การปฏิบัติ จุดของการปฏิบัติของตัวผมอยู่ที่อายตนะทั้ง12 ที่กระทบกัน เช่น การปวดเมื่อยขาเป็นผัสสะที่เกิดจากกายวิญญาณ ถามว่าเกี่ยวอะไรกับพระไตรลักษณ์ เกี่ยวข้องโดยตรงครับ เพราะความปวดเมื่อยเป็นสภาวะธรรมอย่างหนึ่ง คือทุกข์ แล้วเกิดกับเราคนเดียวหรือไม่ ก็ไม่ใช่ เกิดกับสังขารที่มีใจครอง เสมอเท่าเทียมกัน นั่นคืออนัตตา แม้แต่หายใจเข้าออกกำหนดรู้ ตัวผมกำหนดรู้ว่าเป็นผัสสะที่เกิดจากกายวิญญาณ คือการทำงานของอวัยวะของร่างกาย เพราะเราสนใจที่การหายใจจึงเป็นวิญญาณ หากเราไม่สนใจเราก็ยังหายใจต่อได้ด้วยกลไกธรรมชาติอยู่แล้ว ผัสสะก็เกิดขึ้น แล้วก็มาพิจารณาว่า สั้นบ้าง ยาวบ้าง อยาบบ้าง ละเอียดบ้าง เพราะผัสสะที่เกิดจากกายวิญญาณนั่นเอง สังขารก็เกิดตามมาว่า เอ ทำไมลมหายใจเรายังไม่ละเอียด เอ ลมหายใจละเอียดแล้ว แล้วอะไรต่อ การพิจารณาด้วยการกำหนดพุทโธเป็นผัสสะที่เกิดจากใจคือมีสติอยู่ที่ธรรมารมณ์ หรืออายตนะภายนอก นี่ผมพิจารณาอย่างนี้ ธรรมทั้งปวงล้วนอาศัยเหตุ การปฏิบัติของผมกับอายตนะทั้ง12 ก็เป็นแบบนี้ครับต้องน้อมเข้ากฏของพระไตรลักษณ์ คือพิจารณาสภาพที่เป็นเหตุและผล ขอความคิดเห็นเกี่ยวกับ อย่าตั้งธงไตรลักษณ์ของคุณอย่างละเอียดครับผม ว่าคุณมีแนวทางพิจาณาธรรมอย่างละเอียดอย่างไร?


อย่าพึงโกรธผมนะครับท่าน เพราะผมเองก็แค่คนโง่ที่กำลังค้นหาหนทางอยู่ ความคิดเห็นก็อาจถูกบ้าง ไม่ถูกบ้าง หรือไม่ถูกเลย นะครับ
เอาที่ผมเข้าใจนะครับ ทุกสรรพสิ่งย่อมเป็นไปตามกฎไตรลักษณ์อยู่แล้ว ดังนั้นไม่ว่าอะไรเกิดก็จบอยู่ที่กฎไตรลักษณ์ ชั้ยมั้ยครับ เอาอย่างนี้ สมมุติว่า สมมุตินะครับ ตอนนี้มีคนเดินมาด่าหรือต่อยท่าน ท่านจะโกรธเขามั้ย ท่านจะน้อมจิตสู่กฎไตรลักษณ์ได้ทันทีมั้ย ว่าโดนต่อยอันนี้ ก็ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา อย่ายึดมั่นมันเลย อภัยให้เขาเถอะ ถ้าท่านทำได้แสดงว่าท่านมาถูกทางแล้ว
ส่วนผม ผมกลับใช้อุบายอีกอย่างมาระงับอารมณ์ คือ ไม่มีตัวกู ของกู จริงแล้วมันก็คือส่วนหนึ่งของกฎไตรลักษณ์นั้นแหละ แต่มันเข้าถึงจิตได้ง่านกว่า ผมเลยใช้คำนี้ แทน
เล่าเรื่องผมนิดนึง คือตอนนี้มีลูกหนี้งานผม ค้างเงินผมอยู่ ก็เป็นล้านบาทอยู่หลายเดือนแล้ว หากเป็นเมื่อก่อนผมคงจัดหนักไปแล้ว แต่ตอนนี้มีคำนี้อยู่ในจิต ให้เข้าใจความเป็นจริงเลยสบายใจได้อยู่
ก็เป็นเช่นนี้แหละครับ


พระไตรลักษณ์เป็นธรรมที่ลึกซึ้ง ครับผม หากคำว่าตัวกูของกู ที่สั้นๆ ทำให้ธรรมบางอย่างกระจ่างชัดเจน ก็ขออนุโมทนาครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ม.ค. 2012, 01:13 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


ชาวโลก เขียน:
eragon_joe เขียน:
ชาวโลก เขียน:
แต่ไม่ฟุ้งซ่านทำยากมากน่า s002 ตอนทำสมาธิไม่ฟุ้งหรอก อยู่ในสมาธิได้ แต่ช่วงไม่ได้ทำสมาธิซิ คิดโน้นคิดนี่ไปเรื่อยหล่ะ ระงับไงดี เราก็ได้แต่แก้ๆไขตัวเอง แบบว่า ถ้าฟุ้งก็มองมัน หรือภาวนาไป ..เรามาถูกทางหรือยังน่ะ ..แนะนำที Kiss


:b16: :b16:
อิอิ ไม่รู้จิ

เรา...มองเห็นแบบว่า งี๊น่ะ

ตามการเห็นการเปลี่ยนแปลงของอาการ/ความคิด

1 ฟุ้งซ่าน
2 รู้ฟุ้ง
3 เกิดแง่เปรียบเทียบฟุ้ง/ไม่ฟุ้ง
4 เกิดคิดอยากหยุดฟุ้ง

ไอ้ตรง.. เกิดคิดอยากหยุดฟุ้ง นั่นน่ะ มันหยุดฟุ้งได้หรือยัง
และมันหยุดฟุ้ง ได้มั๊ยนั่นน่ะ
ที่ดับไปคือ ความคิดเก่าดับไป
ความคิดใหม่ปรากฎ
อะไรเป็นปัจจัยให้ความคิดเก่าดับไป
อะไรเป็นปัจจัยให้ความคิดใหม่ปรากฎ

อะไรเป็นปัจจัยให้ฟุ้งซ่าน
อะไรเป็นปัจจัยให้รู้ฟุ้ง
อะไรเป็นปัจจัยให้เกิดแง่เปรียบเทียบฟุ้ง/ไม่ฟุ้ง
อะไรเป็นปัจจัยให้เกิดความคิดอันจะให้หยุดฟุ้งปรากฎ

ความคิดเราเกิดดับ เกิดดับ
ฟุ้งเกิด ฟุ้งดับ
รู้ฟุ้งเกิด รู้ฟุ้งดับ
คิดเปรียบเทียบเกิด คิดเปรียบเทียบดับ
คิดการทำให้หยุดฟุ้งเกิด คิดการทำให้หยุดฟุ้งดับ
และก็กลับมาเห็นสิ่งที่คิดนั้น เป็นอาการฟุ้งไปในธรรมต่ออีก

สิ่งที่ฟุ้งในอดีต สิ่งที่ฟุ้งในปัจจุบัน สิ่งที่ฟุ้งในอนาคต
เห็นแล้ว น่ารากแตกนะ

:b6: :b6: :b6:

เมื่อมันเห็นความน่าเอียน ในอาการคิดเรื่อยเปื่อย
ดังนั้น พอสติรู้ว่าฟุ้งไปในธรรมปุ๊บ มันก็จบลงตรงนั้นเอง
สภาวะธรรมมันเป็นสภาวะธรรมของมันอย่างนั้น

ความคิดมันเป็นอย่างนั้น มันไปของมันไปเรื่อยนั่นล่ะ
มันมา เดี๋ยวมันก็ไป ไปไวเสียด้วย
คิดสีแดง คิดสีดำ เดี๋ยวคิดถึงแฟน เดี๋ยวคิดถึงหมา
เดี๋ยวคิดถึงเพื่อน
คิดถึงอะไร อารมณ์ก็เปลี่ยนไปตามความคิด
แม้แต่อยากจะหยุดคิด/ฟุ้งซ่าน
ก็คิดไปในธรรมที่จะไม่ฟุ้งซ่าน

จริง ๆ ก็คือ แค่หยุดคิด และรู้สภาวะหยุดนั้น

:b1: :b1: :b1:

อันนี้แสดงความเห็น ตามความเข้าใจส่วนตัว น๊ะจ๊ะ

:b16: :b16: :b16:


ยิ่งอ่านยิ่งรู้ว่า ทำได้ยาก.. s002


ความเพียร ทำให้ท่านพ้นทุกข์
รู้เมื่อไหร่ก็ทำ ทำไปเรื่อยๆมันจะมาเอง ฟุ่งซ่านจะลดลงเรื่อยๆเอง ดูลมหายใจก็ได้ ดูกิริยากายก็ได้ ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ม.ค. 2012, 01:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ม.ค. 2012, 16:35
โพสต์: 110


 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:

ความเพียร ทำให้ท่านพ้นทุกข์
รู้เมื่อไหร่ก็ทำ ทำไปเรื่อยๆมันจะมาเอง ฟุ่งซ่านจะลดลงเรื่อยๆเอง ดูลมหายใจก็ได้ ดูกิริยากายก็ได้ ครับ


:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ม.ค. 2012, 08:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


ชาวโลก เขียน:
ฝึกจิต เขียน:

ความเพียร ทำให้ท่านพ้นทุกข์
รู้เมื่อไหร่ก็ทำ ทำไปเรื่อยๆมันจะมาเอง ฟุ่งซ่านจะลดลงเรื่อยๆเอง ดูลมหายใจก็ได้ ดูกิริยากายก็ได้ ครับ


:b8:


ท่านลองฟังเทศของหลวงตาพระมหาบัวดูนะครับ จะเห็นว่าท่าน ทีความเพียรสูงมาก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ม.ค. 2012, 11:39 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


ชาวโลก เขียน:
....ดูไปดูมามันหายไปอีก ไม่มีอะไรจะดู ก็เลยดูๆแบบนี้ไปเรื่อยๆ ดูอวกาศไปซะงั้น... มันเป็นอย่างเนี้ยะน่ะ เราเดินผิดไปไหมน่ะ..ผิดต้องรีบเตือนเราน่ะ เราจะรีบแก้ เพราะเราทำตามตำรา แต่อ่านน้อยๆ พอเข้าใจและลงมือทำอย่างเดียวน่ะ เราเลยไม่เป๊ะเรื่องทฤษฎีน่ะ s005


... :b1: :b1:

อืมมมม์...

ยังมีการดู :b1:

ดู การดู เดี๋ยวการดู ก็จะหายไปอีก

:b32: :b32: :b32:

s006 s006 อืมม
ดูเหมือนไม่มีอะไรที่ทนต่อการเพ่งพิจารณา เลยแฮะ


s006 s006 s006


แก้ไขล่าสุดโดย eragon_joe เมื่อ 29 ม.ค. 2012, 13:43, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ม.ค. 2012, 11:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


Quote Tipitaka:
เมื่อ
ดิฉันทั้งหลายออกจากภพนี้ไปสู่บุรีคือนิพพานอันอุดม


Quote Tipitaka:
ไม่มีการสมาคมด้วยสัตว์และสังขารอัน
ไม่เป็นที่รัก ไม่มีการพลัดพรากจากสัตว์และสังขารอันเป็นที่รัก
ที่นั้นนักปราชญ์กล่าวว่าเป็นอสังขตสถาน
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๓ บรรทัดที่ ๔๔๗๑ - ๔๘๘๗. หน้าที่ ๑๙๓ - ๒๑๐.
http://www.84000.org/tipitaka/read/v.ph ... agebreak=0


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ม.ค. 2012, 11:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุนิสัยหมกเม็ด ยกมาไม่หมดก็ยังคงเหมือนเดิม ตลกดี โลโก้บ่งบอกว่าศรัทธาพระไตรปิฏก แต่การกระทำไม่ใช่..... เสียเวลาทำมาหากินอ่ะ :b6:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ม.ค. 2012, 15:38 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ม.ค. 2012, 16:35
โพสต์: 110


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
ยังมีการดู :b1:

ดู การดู เดี๋ยวการดู ก็จะหายไปอีก

:b32: :b32: :b32:


:b17: :b17: ...ถูกต้องแล้วคร๊าาาบบ...เดี๋ยวนี้ไม่ดูแล้ว..อวกาศอ่ะ.. :b4: :b4: (ไม่ชอบลอยเท้งเต้งไปเรื่อยๆน่ะ s002 )


อ้างคำพูด:
s006 s006 อืมม
ดูเหมือนไม่มีอะไรที่ทนต่อการเพ่งพิจารณา เลยแฮะ


s006 s006 s006


ทำมายต้องทนอ่ะ..งงเหมือนกัน s006 s006 ... แค่ดูไปเรื่อยๆ.. cool
(คือ เรื่อย ๆๆๆๆๆๆ...ฯลฯ..ไม่มีที่สิ้นสุด เท่านั้นเอง ไม่เห็นต้องทนเลย )


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ม.ค. 2012, 17:34 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


ชาวโลก เขียน:
ทำมายต้องทนอ่ะ..งงเหมือนกัน s006 s006 ... แค่ดูไปเรื่อยๆ.. cool
(คือ เรื่อย ๆๆๆๆๆๆ...ฯลฯ..ไม่มีที่สิ้นสุด เท่านั้นเอง ไม่เห็นต้องทนเลย )


:b6: :b6: ดูกำกวม ๆ แฮะ

ก็จะขอหน้ามึนตอบแบบส่งเดชล่ะกัน :b32: :b32:

เพราะไม่แน่ใจว่าท่านจะกล่าวถึง การเห็นที่ ที่ไม่มีที่สิ้นสุดรึเปล่า

:b10: :b10: :b10:

คือ ที่นั่น ที่ ๆ เห็นทุกอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ถ้าจิตยังพอใจในอารมณ์อย่างทางโลก มันอยู่ไม่ได้
มันรับสภาพที่ปรากฎไม่ได้
ไม่ใช่เรื่องง่าย

คือเข้าไปก็ยากแล้ว
การทรงตัวอยู่ในนั้น ยากยิ่ง

:b6: :b6: :b6:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ม.ค. 2012, 19:18 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ม.ค. 2012, 16:35
โพสต์: 110


 ข้อมูลส่วนตัว


eragon_joe เขียน:
ชาวโลก เขียน:
ทำมายต้องทนอ่ะ..งงเหมือนกัน s006 s006 ... แค่ดูไปเรื่อยๆ.. cool
(คือ เรื่อย ๆๆๆๆๆๆ...ฯลฯ..ไม่มีที่สิ้นสุด เท่านั้นเอง ไม่เห็นต้องทนเลย )


:b6: :b6: ดูกำกวม ๆ แฮะ

ก็จะขอหน้ามึนตอบแบบส่งเดชล่ะกัน :b32: :b32:

เพราะไม่แน่ใจว่าท่านจะกล่าวถึง การเห็นที่ ที่ไม่มีที่สิ้นสุดรึเปล่า

:b10: :b10: :b10:

คือ ที่นั่น ที่ ๆ เห็นทุกอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ถ้าจิตยังพอใจในอารมณ์อย่างทางโลก มันอยู่ไม่ได้
มันรับสภาพที่ปรากฎไม่ได้
ไม่ใช่เรื่องง่าย

คือเข้าไปก็ยากแล้ว
การทรงตัวอยู่ในนั้น ยากยิ่ง

:b6: :b6: :b6:


คิดไปโน้นนนน.. s004 ..เราแค่ตอบคำว่า ดูเหมือนไม่มีอะไรที่ทนต่อการเพ่งพิจารณา เลยแฮะ เท่านั้นเอง ก็ ไม่เห็นต้องทนกับการเพ่งพิจารณานิ เพราะ เราทำแบบเรื่อยๆ ไม่เคยคิดว่าต้องทนกับการกระทำ ต้องทนกับการปฎิบัติธรรม..เมื่อไหร่เรายังหายใจได้ เราก็ปฎิบัติธรรม
ทุกลมหายใจเข้าออกอยู่นั้นเองแหละ..และเราอ่ะ ยังอ่อนด้อยอยู่มาก เราเลยต้องเดินแบบเรื่อยๆเอาน่ะ... onion onion


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 47 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร