วันเวลาปัจจุบัน 26 ส.ค. 2025, 17:41  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 63 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2014, 18:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b12: :b12: :b12:
อารมณ์ดีแล้วเน๊าะ กรัชกาย

คนแก่นี่ชอบคุยเรื่องอดีตไม่ใช่หรือ เพราะเรื่องที่กรัชกายคุยอยู่ทุกวันนี้ก็ล้วนไปขุดคุ้ยอดีตคำถามของคนโน้นคนนี้มาซักมาถาม ข้อธรรมก็เอามาจากอดีต สองพันกว่าปีมาอ้าง เหตุที่ได้คุยได้สนทนากันทุกวันนี้ก็ล้วนอดีตเสียเป็นส่วนใหญ่ หาที่เป็นปัจจุบันธรรมปัจจุบันอารมณ์จริงๆได้น้อยมาก ไม่ใช่หรือ

การยกกระทู้อดีตมาให้ขำนี้ก็เพื่อชี้ให้เห็นว่า อดีตและอนาคตนี่เป็นปัจจัยให้ผู้คนคิดฟุ้งซ่าน สังขารต่อเนื่องไปไม่จบสิ้น ยังไงล่ะ พ่อนักวิชาการใหญ่



อโศกยังหลงว่า ตัวเองคิดนั่นนี่แล้วหลงคิดว่าตนเองคิดธรรมคิดเป็นธรรมะ คิกๆๆ


เอาอีกเนี่ยเรื่องชีวิต แนะนำเขาหน่อยดิพ่อนักปฏิบัติใหญ่ :b32:

อ้างคำพูด:
คือว่าเรานั่งสมาธิแล้วเริมเข้าสู่ความสงบ (ประมาณว่าโลกนี้ว่าง ๆ ค่ะ) แต่ไม่รู้ทำไมเกิดนึกกลัวขึ้นมา อยากออกจากสมาธิ มีคนแนะนำว่าต้องค่อย ๆ ถอยออกจากสมาธิ แต่เราทำไม่ได้ เพราะมันไม่ยอมออกค่ะ ไม่รู้ทำไง เลยลืมตาเสียเลย เท่านั้นเองใจก็เกิดสั่นขึ้นมาทันที รู้สึกวิงเวียนบอกไม่ถูก วันนั้นทั้งวันใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว กว่าจะปกติก็ช่วงเย็นแล้ว

เราเลยอยากถามว่า ทำอย่างไรไม่ให้กลัวเวลาเจอสถานเการณ์แบบนี้ และจะออกจากสมาธิด้วยวิธีไหนดีคะ ผู้รู้ช่วยตอบทีค่ะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2014, 20:21 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b12: :b12: :b12:
อารมณ์ดีแล้วเน๊าะ กรัชกาย

คนแก่นี่ชอบคุยเรื่องอดีตไม่ใช่หรือ เพราะเรื่องที่กรัชกายคุยอยู่ทุกวันนี้ก็ล้วนไปขุดคุ้ยอดีตคำถามของคนโน้นคนนี้มาซักมาถาม ข้อธรรมก็เอามาจากอดีต สองพันกว่าปีมาอ้าง เหตุที่ได้คุยได้สนทนากันทุกวันนี้ก็ล้วนอดีตเสียเป็นส่วนใหญ่ หาที่เป็นปัจจุบันธรรมปัจจุบันอารมณ์จริงๆได้น้อยมาก ไม่ใช่หรือ

การยกกระทู้อดีตมาให้ขำนี้ก็เพื่อชี้ให้เห็นว่า อดีตและอนาคตนี่เป็นปัจจัยให้ผู้คนคิดฟุ้งซ่าน สังขารต่อเนื่องไปไม่จบสิ้น ยังไงล่ะ พ่อนักวิชาการใหญ่



อโศกยังหลงว่า ตัวเองคิดนั่นนี่แล้วหลงคิดว่าตนเองคิดธรรมคิดเป็นธรรมะ คิกๆๆ


เอาอีกเนี่ยเรื่องชีวิต แนะนำเขาหน่อยดิพ่อนักปฏิบัติใหญ่ :b32:

อ้างคำพูด:
คือว่าเรานั่งสมาธิแล้วเริมเข้าสู่ความสงบ (ประมาณว่าโลกนี้ว่าง ๆ ค่ะ) แต่ไม่รู้ทำไมเกิดนึกกลัวขึ้นมา อยากออกจากสมาธิ มีคนแนะนำว่าต้องค่อย ๆ ถอยออกจากสมาธิ แต่เราทำไม่ได้ เพราะมันไม่ยอมออกค่ะ ไม่รู้ทำไง เลยลืมตาเสียเลย เท่านั้นเองใจก็เกิดสั่นขึ้นมาทันที รู้สึกวิงเวียนบอกไม่ถูก วันนั้นทั้งวันใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว กว่าจะปกติก็ช่วงเย็นแล้ว

เราเลยอยากถามว่า ทำอย่างไรไม่ให้กลัวเวลาเจอสถานเการณ์แบบนี้ และจะออกจากสมาธิด้วยวิธีไหนดีคะ ผู้รู้ช่วยตอบทีค่ะ

:b12:
นี่ก็คุ้ยอดีตมาถามอีกแล้ว ป่านนี้น้องคนนี้เขาก็แก้ปัญหาได้ละมั่ง และปัญหาอย่างนี้ก็เป็นปัญหาพื้นๆเกิดขึ้นไปทั่ว กรัชกายแก้เองไม่เป็นหรือ
:b7:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2014, 20:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b12: :b12: :b12:
อารมณ์ดีแล้วเน๊าะ กรัชกาย

คนแก่นี่ชอบคุยเรื่องอดีตไม่ใช่หรือ เพราะเรื่องที่กรัชกายคุยอยู่ทุกวันนี้ก็ล้วนไปขุดคุ้ยอดีตคำถามของคนโน้นคนนี้มาซักมาถาม ข้อธรรมก็เอามาจากอดีต สองพันกว่าปีมาอ้าง เหตุที่ได้คุยได้สนทนากันทุกวันนี้ก็ล้วนอดีตเสียเป็นส่วนใหญ่ หาที่เป็นปัจจุบันธรรมปัจจุบันอารมณ์จริงๆได้น้อยมาก ไม่ใช่หรือ

การยกกระทู้อดีตมาให้ขำนี้ก็เพื่อชี้ให้เห็นว่า อดีตและอนาคตนี่เป็นปัจจัยให้ผู้คนคิดฟุ้งซ่าน สังขารต่อเนื่องไปไม่จบสิ้น ยังไงล่ะ พ่อนักวิชาการใหญ่



อโศกยังหลงว่า ตัวเองคิดนั่นนี่แล้วหลงคิดว่าตนเองคิดธรรมคิดเป็นธรรมะ คิกๆๆ


เอาอีกเนี่ยเรื่องชีวิต แนะนำเขาหน่อยดิพ่อนักปฏิบัติใหญ่ :b32:

อ้างคำพูด:
คือว่าเรานั่งสมาธิแล้วเริมเข้าสู่ความสงบ (ประมาณว่าโลกนี้ว่าง ๆ ค่ะ) แต่ไม่รู้ทำไมเกิดนึกกลัวขึ้นมา อยากออกจากสมาธิ มีคนแนะนำว่าต้องค่อย ๆ ถอยออกจากสมาธิ แต่เราทำไม่ได้ เพราะมันไม่ยอมออกค่ะ ไม่รู้ทำไง เลยลืมตาเสียเลย เท่านั้นเองใจก็เกิดสั่นขึ้นมาทันที รู้สึกวิงเวียนบอกไม่ถูก วันนั้นทั้งวันใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว กว่าจะปกติก็ช่วงเย็นแล้ว

เราเลยอยากถามว่า ทำอย่างไรไม่ให้กลัวเวลาเจอสถานเการณ์แบบนี้ และจะออกจากสมาธิด้วยวิธีไหนดีคะ ผู้รู้ช่วยตอบทีค่ะ

:b12:
นี่ก็คุ้ยอดีตมาถามอีกแล้ว ป่านนี้น้องคนนี้เขาก็แก้ปัญหาได้ละมั่ง และปัญหาอย่างนี้ก็เป็นปัญหาพื้นๆเกิดขึ้นไปทั่ว กรัชกายแก้เองไม่เป็นหรือ
:b7:



คิกๆๆ เอามาถามเจ้าสำนักว่ามีภูมิปฏิบัติจริงมั้ย สรุปได้นานแล้วว่า อโศกขาดภูมินักปฏิบัติโดยสิ้นเชิง ไม่มีเลยจริงๆ อ่ะๆจริงๆ นะขอรับ สำรวจดูตนเองตรงไปตรงมาเถิด :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2014, 20:30 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b12: :b12: :b12:
อารมณ์ดีแล้วเน๊าะ กรัชกาย

คนแก่นี่ชอบคุยเรื่องอดีตไม่ใช่หรือ เพราะเรื่องที่กรัชกายคุยอยู่ทุกวันนี้ก็ล้วนไปขุดคุ้ยอดีตคำถามของคนโน้นคนนี้มาซักมาถาม ข้อธรรมก็เอามาจากอดีต สองพันกว่าปีมาอ้าง เหตุที่ได้คุยได้สนทนากันทุกวันนี้ก็ล้วนอดีตเสียเป็นส่วนใหญ่ หาที่เป็นปัจจุบันธรรมปัจจุบันอารมณ์จริงๆได้น้อยมาก ไม่ใช่หรือ

การยกกระทู้อดีตมาให้ขำนี้ก็เพื่อชี้ให้เห็นว่า อดีตและอนาคตนี่เป็นปัจจัยให้ผู้คนคิดฟุ้งซ่าน สังขารต่อเนื่องไปไม่จบสิ้น ยังไงล่ะ พ่อนักวิชาการใหญ่



อโศกยังหลงว่า ตัวเองคิดนั่นนี่แล้วหลงคิดว่าตนเองคิดธรรมคิดเป็นธรรมะ คิกๆๆ


เอาอีกเนี่ยเรื่องชีวิต แนะนำเขาหน่อยดิพ่อนักปฏิบัติใหญ่ :b32:

อ้างคำพูด:
คือว่าเรานั่งสมาธิแล้วเริมเข้าสู่ความสงบ (ประมาณว่าโลกนี้ว่าง ๆ ค่ะ) แต่ไม่รู้ทำไมเกิดนึกกลัวขึ้นมา อยากออกจากสมาธิ มีคนแนะนำว่าต้องค่อย ๆ ถอยออกจากสมาธิ แต่เราทำไม่ได้ เพราะมันไม่ยอมออกค่ะ ไม่รู้ทำไง เลยลืมตาเสียเลย เท่านั้นเองใจก็เกิดสั่นขึ้นมาทันที รู้สึกวิงเวียนบอกไม่ถูก วันนั้นทั้งวันใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว กว่าจะปกติก็ช่วงเย็นแล้ว

เราเลยอยากถามว่า ทำอย่างไรไม่ให้กลัวเวลาเจอสถานเการณ์แบบนี้ และจะออกจากสมาธิด้วยวิธีไหนดีคะ ผู้รู้ช่วยตอบทีค่ะ

:b12:
นี่ก็คุ้ยอดีตมาถามอีกแล้ว ป่านนี้น้องคนนี้เขาก็แก้ปัญหาได้ละมั่ง และปัญหาอย่างนี้ก็เป็นปัญหาพื้นๆเกิดขึ้นไปทั่ว กรัชกายแก้เองไม่เป็นหรือ
:b7:



คิกๆๆ เอามาถามเจ้าสำนักว่ามีภูมิปฏิบัติจริงมั้ย สรุปได้นานแล้วว่า อโศกขาดภูมินักปฏิบัติโดยสิ้นเชิง ไม่มีเลยจริงๆ อ่ะๆจริงๆ นะขอรับ สำรวจดูตนเองตรงไปตรงมาเถิด :b32:

:b11:
เชิญสรุปเอาตามใจอยากเลยนะกรัชกาย
ไม่อยากตอบคำถามที่น่าเบื่อหน่าย พัวพนไปไม่รู้หมดสิ้นอย่างนี้ รู้เอาเองตอบเอาเอง หรือถามผู้รู้ท่านอื่นก็แล้วกันนะครับ
:b21:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2014, 20:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b12: :b12: :b12:
อารมณ์ดีแล้วเน๊าะ กรัชกาย

คนแก่นี่ชอบคุยเรื่องอดีตไม่ใช่หรือ เพราะเรื่องที่กรัชกายคุยอยู่ทุกวันนี้ก็ล้วนไปขุดคุ้ยอดีตคำถามของคนโน้นคนนี้มาซักมาถาม ข้อธรรมก็เอามาจากอดีต สองพันกว่าปีมาอ้าง เหตุที่ได้คุยได้สนทนากันทุกวันนี้ก็ล้วนอดีตเสียเป็นส่วนใหญ่ หาที่เป็นปัจจุบันธรรมปัจจุบันอารมณ์จริงๆได้น้อยมาก ไม่ใช่หรือ

การยกกระทู้อดีตมาให้ขำนี้ก็เพื่อชี้ให้เห็นว่า อดีตและอนาคตนี่เป็นปัจจัยให้ผู้คนคิดฟุ้งซ่าน สังขารต่อเนื่องไปไม่จบสิ้น ยังไงล่ะ พ่อนักวิชาการใหญ่



อโศกยังหลงว่า ตัวเองคิดนั่นนี่แล้วหลงคิดว่าตนเองคิดธรรมคิดเป็นธรรมะ คิกๆๆ


เอาอีกเนี่ยเรื่องชีวิต แนะนำเขาหน่อยดิพ่อนักปฏิบัติใหญ่ :b32:

อ้างคำพูด:
คือว่าเรานั่งสมาธิแล้วเริมเข้าสู่ความสงบ (ประมาณว่าโลกนี้ว่าง ๆ ค่ะ) แต่ไม่รู้ทำไมเกิดนึกกลัวขึ้นมา อยากออกจากสมาธิ มีคนแนะนำว่าต้องค่อย ๆ ถอยออกจากสมาธิ แต่เราทำไม่ได้ เพราะมันไม่ยอมออกค่ะ ไม่รู้ทำไง เลยลืมตาเสียเลย เท่านั้นเองใจก็เกิดสั่นขึ้นมาทันที รู้สึกวิงเวียนบอกไม่ถูก วันนั้นทั้งวันใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว กว่าจะปกติก็ช่วงเย็นแล้ว

เราเลยอยากถามว่า ทำอย่างไรไม่ให้กลัวเวลาเจอสถานเการณ์แบบนี้ และจะออกจากสมาธิด้วยวิธีไหนดีคะ ผู้รู้ช่วยตอบทีค่ะ

:b12:
นี่ก็คุ้ยอดีตมาถามอีกแล้ว ป่านนี้น้องคนนี้เขาก็แก้ปัญหาได้ละมั่ง และปัญหาอย่างนี้ก็เป็นปัญหาพื้นๆเกิดขึ้นไปทั่ว กรัชกายแก้เองไม่เป็นหรือ
:b7:



คิกๆๆ เอามาถามเจ้าสำนักว่ามีภูมิปฏิบัติจริงมั้ย สรุปได้นานแล้วว่า อโศกขาดภูมินักปฏิบัติโดยสิ้นเชิง ไม่มีเลยจริงๆ อ่ะๆจริงๆ นะขอรับ สำรวจดูตนเองตรงไปตรงมาเถิด :b32:

:b11:
เชิญสรุปเอาตามใจอยากเลยนะกรัชกาย
ไม่อยากตอบคำถามที่น่าเบื่อหน่าย พัวพนไปไม่รู้หมดสิ้นอย่างนี้ รู้เอาเองตอบเอาเอง หรือถามผู้รู้ท่านอื่นก็แล้วกันนะครับ
:b21:


อ้าวๆ แล้วแบบนั้น สอนเขาภาวนาไปๆ อาการอย่างนั้นปรากฏแก่เขา อโศกจะนั่งทำตาปริบๆหรือ

จะพูดความจริงให้ฟัง วิธีที่อโศกพูดเป็นบทเป็นกลอน....นั่น ไม่เท่าไหร่ เพราะ เพียงแค่นำเอาข้อเขียนบทความบทกลอนที่โดนใจ มานั่งขบคิด คิดไปเรื่อยๆ (คิดค้นหาธรรม ตนเองว่างั้น) :b1: ไม่ค่อยมีปัญหา เหมือนวิธีบริกรรมแบบอื่นๆดอก บอกให้ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2014, 21:09 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5019


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:

อ้างคำพูด:
คือว่าเรานั่งสมาธิแล้วเริมเข้าสู่ความสงบ (ประมาณว่าโลกนี้ว่าง ๆ ค่ะ) แต่ไม่รู้ทำไมเกิดนึกกลัวขึ้นมา อยากออกจากสมาธิ มีคนแนะนำว่าต้องค่อย ๆ ถอยออกจากสมาธิ แต่เราทำไม่ได้ เพราะมันไม่ยอมออกค่ะ ไม่รู้ทำไง เลยลืมตาเสียเลย เท่านั้นเองใจก็เกิดสั่นขึ้นมาทันที รู้สึกวิงเวียนบอกไม่ถูก วันนั้นทั้งวันใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว กว่าจะปกติก็ช่วงเย็นแล้ว

เราเลยอยากถามว่า ทำอย่างไรไม่ให้กลัวเวลาเจอสถานเการณ์แบบนี้ และจะออกจากสมาธิด้วยวิธีไหนดีคะ ผู้รู้ช่วยตอบทีค่ะ



การนำปัญหาในลักษณะนี้มาถามเพื่อหาคำตอบที่เหมาะสม เป็นเรื่องที่ดีนะ

เพราะ หลายคนที่ปฏิบัติ ต่างมีโอกาสพบเจอในสิ่งที่แตกต่างกันไป บางคนก็กล้าที่จะถาม
แต่บางคนก็จะไม่กล้าที่จะถาม

เอกอนก็เคยเจอนะ ตามนั้นเลย เมื่อนั่งแล้วสงบ แล้วเมื่ออยู่ ๆ ก็รู้สึกว่ากระโดดเข้าไปสู่ความว่าง ๆ
ไม่รู้สึกถึงอะไร ๆ รอบข้างว่ามีเรย ... มันก็ปรากฎว่ารู้สึกหวั่น ๆ เช่นกัน ก็ต้องพยายามลืมตากลับขึ้นมา
ก็ยังเห็นสภาพแวดล้อมทุกอย่างเป็นปกติ ตู้ โต๊ะ เตียง พัดลม เสียงจิ้งหรีด ก็ยังคงมีอยู่ปกติ
แต่...ในสภาวะดังกล่าวในอารมณ์สมาธินั้น ๆ อะไร ๆ มันกลับหายไปหมด

แต่...พอดีเอกอนไม่ได้หวั่นอะไรมากมาย อยากรู้ความจริงมากกว่า
ก็เลย เข้าไปส่องมันต่อ...

อยากรู้ว่ามันหายไปได้ยังไง ก็...เข้าไปดูเข้าไปพิจารณามัน...
ว่ามันว่างยังไง มันว่างได้ไง
ก่อนที่มันจะว่างอย่างนั้น อะไรหายไป อย่างไร ทำไมมันถึงหายไปได้
ทำไมมันจึงไม่อาจจะทนทำความรู้อยู่ในสิ่งที่เราหยิบขึ้นมาหมายรู้ให้คงหมายรู้อยู่ตลอดได้
ทำไมมันจะต้องปล่อยสิ่งหนึ่ง และไปตั้งอยู่ในอีกสิ่ง ...

จิต...มันปล่อยได้ไง...
จิต...มันเข้าไปจับได้ไง...

สิ่งที่เกิดประกอบกับจิต คือ เจตสิก
เจตสิกที่หยาบ ก็มักจะเข้าไปตั้งอยู่ในสภาพธรรมที่หยาบ
เจตสิกที่ละเอียด ก็มักน้อมนำจิตเข้าไปตั้งอยู่ในสภาพธรรมที่ละเอียด
เจตสิกที่ปราณีต ก็มักน้อมนำจิตเข้าไปตั้งอยู่ในสภาพธรรมที่ปราณีต

จิตที่ผ่องใส เป็นจิตที่ผุดผ่องมาจากภายใน

:b1:

จิตที่ผ่องใส ตั้งอยู่ที่ใด ที่นั่นก็ผ่องใส

:b1:


แก้ไขล่าสุดโดย eragon_joe เมื่อ 26 เม.ย. 2014, 22:35, แก้ไขแล้ว 3 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 เม.ย. 2014, 21:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
ได้คนตอบปัญหาแล้วนะครับกรัชกาย ตรงตามธรรมด้วย
tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 เม.ย. 2014, 20:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b8:
ได้คนตอบปัญหาแล้วนะครับกรัชกาย ตรงตามธรรมด้วย


อ้างคำพูด:
ตรงตามธรรมด้วย


ว่าเข้าไปนั่น ธรรมที่อโศกพูดเนี่ยอะไร :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2014, 20:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b8:
ได้คนตอบปัญหาแล้วนะครับกรัชกาย ตรงตามธรรมด้วย


อ้างคำพูด:
ตรงตามธรรมด้วย


ว่าเข้าไปนั่น ธรรมที่อโศกพูดเนี่ยอะไร :b32:

s004
มองไม่ออก รู้ไม่ถึงหรือ ที่เอก้อนพูดมานั้นพูดจากประสบการณ์การปฏิบัติจริง เป็นธรรมทั้งนั้น กลับไปอ่านและพิจารณาให้ดี
อย่าอ่านลวกๆตามที่เคยชิน
:b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 เม.ย. 2014, 22:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b8:
ได้คนตอบปัญหาแล้วนะครับกรัชกาย ตรงตามธรรมด้วย


อ้างคำพูด:
ตรงตามธรรมด้วย


ว่าเข้าไปนั่น ธรรมที่อโศกพูดเนี่ยอะไร :b32:

s004
มองไม่ออก รู้ไม่ถึงหรือ ที่เอก้อนพูดมานั้นพูดจากประสบการณ์การปฏิบัติจริง เป็นธรรมทั้งนั้น กลับไปอ่านและพิจารณาให้ดี
อย่าอ่านลวกๆตามที่เคยชิน
:b16:


ประสบการณ์มีทั้งผิดและถูกอโศก :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2014, 16:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b8:
ได้คนตอบปัญหาแล้วนะครับกรัชกาย ตรงตามธรรมด้วย


อ้างคำพูด:
ตรงตามธรรมด้วย


ว่าเข้าไปนั่น ธรรมที่อโศกพูดเนี่ยอะไร :b32:

s004
มองไม่ออก รู้ไม่ถึงหรือ ที่เอก้อนพูดมานั้นพูดจากประสบการณ์การปฏิบัติจริง เป็นธรรมทั้งนั้น กลับไปอ่านและพิจารณาให้ดี
อย่าอ่านลวกๆตามที่เคยชิน
:b16:


ประสบการณ์มีทั้งผิดและถูกอโศก :b1:

:b13:
ใช่..ประสบการณ์ย่อมมีทั้งผิดและถูก เป็นเรื่องธรรมดา

"ผิดเป็นครู รู้เป็นหลัก"

ผิดก็แก้ไข ใดเป็นหลักก็ยึดถือ

สำคัญที่ต้องขยัน หมั่นฝึกปรือ

จึงจะถือว่าทำจริง ไม่ทิ้งทาง

ดีแต่พูด หรือวิจารณ์ นั้นไม่สวย

อาจจะซวย เข้าเนื้อ เถือถึงหนัง

จงทำจริง ทำใจให้อยู่กลาง

จักได้เป็นตัวอย่างของคนดี
:b12:
:b36:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2014, 16:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b8:
ได้คนตอบปัญหาแล้วนะครับกรัชกาย ตรงตามธรรมด้วย


อ้างคำพูด:
ตรงตามธรรมด้วย


ว่าเข้าไปนั่น ธรรมที่อโศกพูดเนี่ยอะไร :b32:

s004
มองไม่ออก รู้ไม่ถึงหรือ ที่เอก้อนพูดมานั้นพูดจากประสบการณ์การปฏิบัติจริง เป็นธรรมทั้งนั้น กลับไปอ่านและพิจารณาให้ดี
อย่าอ่านลวกๆตามที่เคยชิน
:b16:


ประสบการณ์มีทั้งผิดและถูกอโศก :b1:

:b13:
ใช่..ประสบการณ์ย่อมมีทั้งผิดและถูก เป็นเรื่องธรรมดา

"ผิดเป็นครู รู้เป็นหลัก"

ผิดก็แก้ไข ใดเป็นหลักก็ยึดถือ

สำคัญที่ต้องขยัน หมั่นฝึกปรือ

จึงจะถือว่าทำจริง ไม่ทิ้งทาง

ดีแต่พูด หรือวิจารณ์ นั้นไม่สวย

อาจจะซวย เข้าเนื้อ เถือถึงหนัง

จงทำจริง ทำใจให้อยู่กลาง

จักได้เป็นตัวอย่างของคนดี


แต่การปฏิบัติผิดขั้นฝึกจิต ถึงเข้าศรีธัญญานะขอรับอโศก คิกๆๆ

อ้างคำพูด:
ตอนแรกดิฉันมีอาการผิดปกติทางกายแล้วไปถามผู้สอน
แล้วได้คำตอบที่ไม่สมเหตุผลมากเลยจึงขาดความไว้ใจในตัวผู้สอน
คราวนี้พอเกิดอย่างอื่นตามมาก็ไม่ได้ถามอีก

ต่อมาทั้งตาฝาด หูแว่ว ได้ยินอะไรแบบพิเศษจากปกติ
ก็คิดว่าตัวเองวิเศษ ไม่ไปถามผู้ฝึกสอนอีก เพราะขาดความไว้วางใจ แถมหลงในสิ่งลวงนั้นแล้วด้วย
เป็นหนักจนต้องไปอยู่โรงพยาบาล และก็รักษาจนรู้ตัว และเข้าใจแล้วว่าเป็นเรื่องไม่จริง
แต่ยังมีอาการอย่างนึงที่ยังไม่หายคือใจแว่ว (ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดีค่ะเพราะมันคลายหูแว่ว แต่เสียงเหมือนมีคนอื่นพูดมาจากใจเรา)

กินยาตามหมอสั่งมาก็หลายเดือนก็ยังไม่หาย ยังงงอยู่ว่าเป็นไปได้อย่างไร
เสียงที่ได้ยินบอกว่า ไม่หายหรอกต้องเป็นคนจิตผิดปกติไปตลอดบ้างละ ต้องไปฝึกสมาธิต่อให้หายบ้างละ
ฟังไปก็งงไปเรื่อยค่ะ เข้าใจว่ามันเป็นอาการจิตเภทแบบที่หมอบอก

แต่ไม่รู้ว่าต้องเดินทางไปสุดวิธีรักษาแบบคนเป็นโรคจิต หรือควรกลับมาทางทำสมาธิแทน
แต่กลัวตอนที่ร่างกายผิดปกติ กลัวเป็นอีกแล้วจะไม่หายคราวนี้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2014, 16:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b8:
ได้คนตอบปัญหาแล้วนะครับกรัชกาย ตรงตามธรรมด้วย


อ้างคำพูด:
ตรงตามธรรมด้วย


ว่าเข้าไปนั่น ธรรมที่อโศกพูดเนี่ยอะไร :b32:

s004
มองไม่ออก รู้ไม่ถึงหรือ ที่เอก้อนพูดมานั้นพูดจากประสบการณ์การปฏิบัติจริง เป็นธรรมทั้งนั้น กลับไปอ่านและพิจารณาให้ดี
อย่าอ่านลวกๆตามที่เคยชิน
:b16:


ประสบการณ์มีทั้งผิดและถูกอโศก :b1:

:b13:
ใช่..ประสบการณ์ย่อมมีทั้งผิดและถูก เป็นเรื่องธรรมดา

"ผิดเป็นครู รู้เป็นหลัก"

ผิดก็แก้ไข ใดเป็นหลักก็ยึดถือ

สำคัญที่ต้องขยัน หมั่นฝึกปรือ

จึงจะถือว่าทำจริง ไม่ทิ้งทาง

ดีแต่พูด หรือวิจารณ์ นั้นไม่สวย

อาจจะซวย เข้าเนื้อ เถือถึงหนัง

จงทำจริง ทำใจให้อยู่กลาง

จักได้เป็นตัวอย่างของคนดี


แต่การปฏิบัติผิดขั้นฝึกจิต ถึงเข้าศรีธัญญานะขอรับอโศก คิกๆๆ

อ้างคำพูด:
ตอนแรกดิฉันมีอาการผิดปกติทางกายแล้วไปถามผู้สอน
แล้วได้คำตอบที่ไม่สมเหตุผลมากเลยจึงขาดความไว้ใจในตัวผู้สอน
คราวนี้พอเกิดอย่างอื่นตามมาก็ไม่ได้ถามอีก

ต่อมาทั้งตาฝาด หูแว่ว ได้ยินอะไรแบบพิเศษจากปกติ
ก็คิดว่าตัวเองวิเศษ ไม่ไปถามผู้ฝึกสอนอีก เพราะขาดความไว้วางใจ แถมหลงในสิ่งลวงนั้นแล้วด้วย
เป็นหนักจนต้องไปอยู่โรงพยาบาล และก็รักษาจนรู้ตัว และเข้าใจแล้วว่าเป็นเรื่องไม่จริง
แต่ยังมีอาการอย่างนึงที่ยังไม่หายคือใจแว่ว (ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดีค่ะเพราะมันคลายหูแว่ว แต่เสียงเหมือนมีคนอื่นพูดมาจากใจเรา)

กินยาตามหมอสั่งมาก็หลายเดือนก็ยังไม่หาย ยังงงอยู่ว่าเป็นไปได้อย่างไร
เสียงที่ได้ยินบอกว่า ไม่หายหรอกต้องเป็นคนจิตผิดปกติไปตลอดบ้างละ ต้องไปฝึกสมาธิต่อให้หายบ้างละ
ฟังไปก็งงไปเรื่อยค่ะ เข้าใจว่ามันเป็นอาการจิตเภทแบบที่หมอบอก

แต่ไม่รู้ว่าต้องเดินทางไปสุดวิธีรักษาแบบคนเป็นโรคจิต หรือควรกลับมาทางทำสมาธิแทน
แต่กลัวตอนที่ร่างกายผิดปกติ กลัวเป็นอีกแล้วจะไม่หายคราวนี้

Onion_L
กรัชกายไม่รู้หลักจนทำคนเข้าโรงพยาบาล(บ้า) ต้องรักษาประสาทเลยหรือนี่ อันตรายแล้วนะ รีบมาเรียนหลักเร็วๆ
:b37:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 เม.ย. 2014, 16:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:



กรัชกายไม่รู้หลักจนทำคนเข้าโรงพยาบาล(บ้า) ต้องรักษาประสาทเลยหรือนี่ อันตรายแล้วนะ รีบมาเรียนหลักเร็วๆ



คิกๆๆ อโศกเข้าไม่ถึงธรรม คือ เข้าไม่ถึงชีวิต :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 พ.ค. 2014, 14:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12:
:b4:
กรัชกายเข้าถึงชีวิตแล้วก็เข้าไปให้ลึกๆนะ เข้าไปให้ลึกจนรู้ ว่า

"อะไร? ทำให้ชีวิตต้องหายใจเข้า อะไรทำให้ชีวิตต้องหายใจออก"
s006


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 63 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร