วันเวลาปัจจุบัน 18 ก.ค. 2025, 07:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 82 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2013, 14:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
asoka เขียน:
สัจจธรรมของธาตุดิน คือ หนัก เบา แข็ง อ่อน หยาบกระด้าง นุ่มนิ่ม.....ธาตุดิน จะไปอยู่ที่ใด ยุคสมัยใด โลกหรือจักรวาลอันใด ชาติหรือภาษาใด ธาตุดินก็จะคงความจริงของมันไว้ ถ้าเรียกด้วยบัญญัติภาษาไทยก็จะมีคุณลักษณะหรือสัจจะของดิน คือ หนัก เบา แข็ง อ่อน หยาบกระด้าง นุ่มนิ่ม

ธาตุน้ำ สัจจะของธาตุน้ำคือ....ซึมซับ เอิบอาบ ไหลหยดย้อย แตกแยก เกาะกุมกันเข้า

ธาตุลม สัจจะของธาตุลมคือ ..... เจ็บ ปวด เต้น ตอด โยก คลอน ไหว นิ่ง

ธาตุไฟ สัจจะของธาตุไฟคือ.....ร้อน หนาว เย็น อุ่น

สัจจะของเกลือคือ เค็ม

สัจจะของ รูป คือ สิ่งที่ถูกรู้

สัจจะของนาม คือ สิ่งที่ไปรู้รูป

ดังนี้เป็นต้น


เลอะเทอะ! คำว่า.."ดิน" มันเป็นสมมุติบัญญัติ
ตัวธรรมชาติแท้ๆคือ ลักษณะของสมมุติบัญญัตินั้น

ความสำคัญหรือความเป็นธรรมชาติ มันไม่ได้อยู่ที่ชื่อที่เราไปเรียกขานมัน
คำว่าดิน จึงไม่มีความหมายในธรรมชาติ ความหมายตามธรรมชาติและเป็นธรรมชาติ
ก็คือลักลักษณะของสิ่งนั้น....เช่น อ่อน แข็งฯลฯ

โดยธรรมชาติที่กล่าวมา ถ้าเราไม่เอาใจเราไปยุ่งเกี่ยวกับมัน
ความเป็นสัจจะของมันเรียกว่า.....สมมติสัจจะ
ซึ่งพระพุทธองค์ทรงให้สัจจะวาจาสิ่งนี้ไว้ว่า........เป็นอนัตตา

:b34:
อ้างคำพูด:
เลอะเทอะ! คำว่า.."ดิน" มันเป็นสมมุติบัญญัติ
ตัวธรรมชาติแท้ๆคือ ลักษณะของสมมุติบัญญัตินั้น

Onion_L

ไม่ต้องอะไรมาก แค่ข้อความท่อนที่ยกมานี้ ก็แสดงให้เห็นว่าโฮฮับไม่รู้จริงๆ แล้วยังมาอวดรู้

ดิน......หรือธาตุดิน.....เป็นปรมัตถบัญญัติ.....คือบัญญัติบอกชื่อของธาตุธรรมชาติที่มีอยู่จริง เป็นสัจจธรรมที่มีอยู่จริงคู่โลก คู่จักรวาลนี้

เขาเรียก "ปรมัตถบัญญัติ" รู้หรือเปล่าโฮฮับ

เล็กน้อยแค่นี้ยังผิดแล้วที่เหลือมากกว่านั้นจะไม่ผิดมากขึ้นกว่านี้อีกหรือ โมฆะบุรุษ โฮฮับ

ไม่ต้องเสียเวลามาวิพากษ์วิจารณ์อะไรอย่างอื่นกันอีกละกระมัง

:b12: :b12: :b12: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2013, 14:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
asoka เขียน:
ที่ง่ายๆและพื้นๆกว่านั้นเช่น
ส่วน สิ่งที่เป็นธรรม หรือเป็นสัจจธรรมนั้น เป็น อนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้ ไม่มีแก่นสาร ตัวตน เขาหากเป็นของเขาอยู่เช่นนั้นไม่มีเปลี่ยนแปลงไปเป็นอื่น

สัจจธรรมของธาตุดิน คือ หนัก เบา แข็ง อ่อน หยาบกระด้าง นุ่มนิ่ม.....ธาตุดิน จะไปอยู่ที่ใด ยุคสมัยใด โลกหรือจักรวาลอันใด ชาติหรือภาษาใด ธาตุดินก็จะคงความจริงของมันไว้ ถ้าเรียกด้วยบัญญัติภาษาไทยก็จะมีคุณลักษณะหรือสัจจะของดิน คือ หนัก เบา แข็ง อ่อน หยาบกระด้าง นุ่มนิ่ม


โสกะนีมั่วได้มั่วดีไม่มีลิมิต เอาลักษณะของธรรมชาติมาละเลง
ลักษณะของธรรมชาติ กับสัจจะของธรรมชาติ...มันเป็นคนล่ะอย่างกัน

ธรรมชาติมันมีสองอย่าง นั้นคือธรรมชาตินอกกายใจและธรรมชาติภายในกายใจเรา(ตัวเรา)
การพิจารณาธรรมชาตินอกกายใจ มันเป็นตัวเราไปพิจารณาธรรมชาตินั้น
เมื่อเป็นตัวเราเป็นผู้พิจารณา ธรรมที่เกิดขึ้นจึงเป็นสิ่งที่เกิดภายในกายใจเรา
สิ่งที่เกิดภายในกายใจเรา ท่านเรียกสังขาร.......

สังขารมันแปรป่วนเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา.....เข้าใจหรือเปล่าล่ะ

แทนที่จะตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติ มัวแต่ไปถ่ายรูปคนนั้นคนนี้ เพื่อแค่จะเอามาอวด
ทำตัวเหมือนเด็กเล็กที่พึ่งจะรู้จักการเอารูปขึ้นเว็บ ชาวบ้านเขาเห็นแล้วมันรกลูกกะตา :b32:

:b34: :b34:
เข้าใจและรู้ดีลึกซึ้งกว่าที่โฮฮับรู้มาเสียอีกว่า

สัพเพสังขารา อนิจจา

แต่ที่ว่า สิ่งที่เกิดภายในกายใจเรา ท่านเรียกสังขาร..

ถามว่า นิพพาน เกิดขึ้นที่ไหน?

แล้ว นิพพาน เป็นอะไร สังขาร หรือ อสังขาร สังขตัง หรือ อสังขตัง เป็นปรมัตถ์ หรือ สมมุติ

ดูให้ดีๆ พิจารณาให้ถ้วนถี่หน่อยนะ โมฆะบุรุษ โฮฮับ


แล้วโฮฮับเข้าใจดีหรือยังเรื่อง "สัพเพธัมมา อนัตตา"
:b34: :b34: :b34:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2013, 14:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




พระธาตุห้วยบอน 2.jpg
พระธาตุห้วยบอน 2.jpg [ 110.83 KiB | เปิดดู 2519 ครั้ง ]
walaiporn เขียน:
อาการหรือสิ่งที่เกิดขึ้น ในสมาธิ

อาการดุจไฟฟ้าช็อต

มีอาการดุจมีของแหลมทิ่มแทงตรงหัวใจ

มีอาการช็อตวาบไปทั้งร่างอย่างรุนแรงมาก


สภาวะที่เกิดขึ้นเหล่านี้ เป็นความปกติของสภาวะ ที่เกิดขึ้น ขณะจิตเป็นสมาธิอยู่

เรื่องสภาวะที่ดูวิเศษ หรือ พิเศษ

สิ่งที่เกิดขึ้น ดูแปลกประหลาด มหัศจรรย์ มีเกิดขึ้นมากมาย ขณะจิตเป็นสมาธิอยู่

แค่ดู แค่รู้ ว่ามีเกิดขึ้น อย่ายึด

ยึดเมื่อใด สภาวะอุปกิเลส เกิดขึ้นทันที




ที่กล้าพูด เพราะ เจอมาหมดแล้ว และ เคยหลงติดกับความอยากมาแล้ว

อยากมี อยากได้ อยากเป็นอะไรๆ ในสมมุติ

มีอาการแบบ ที่คิดว่า กามราคะ ไม่มีอีกแล้ว หมดแล้ว

ไม่มานั่งตรวจสอบตัวเองแบบนั้นหรอก

ไม่ทำอย่างที่คนอื่นทำ เช่น ไปนั่งดูหนังโป๊ เพื่อสอบอารมณ์ตัวเอง

สภาวะจะเกิดขึ้น ตามความเป็นจริงได้อย่างไร

กิเลสถูกกดข่มไว้ แต่ไม่รู้ว่าถูกกดข่ม ก็หลงคิดว่า ไม่มี
เพราะไม่มีความรู้สึกใดๆเกิดขึ้น ขณะที่ดูหนังโป๊


วลัยพร เป็นฆราวาส สามารถตรวจสอบได้ตามความเป็นจริง

ก็ไม่ยากนิ ลองของจริงเลย จะได้ไม่หลง

เหตุที่ วลัยพร มีคู่ครองเพราะเหตุนี้แหละ

แต่เป็นเหตุที่เกิดกับผู้มีเหตุปัจจัยร่วมกับ

ทำให้ วลัยพรไม่หลงทาง เลยหลุดจากอุปกิเลสได้

ชีวิตคู่ก็ไม่เสียหาย
เพราะเขาเองก็อยากรู้บางอย่าง ที่ตัวเขาไม่รู้

เมื่อต่างคนต่างรู้แล้ว
ชีวิตคู่ของเราสองคน จึงมีความเป็นกัลยาณมิตรต่อกัน ไม่ใช่แบบสามีภรรยา

:b27:
ในที่สุดก็ได้ทราบว่าวลัยพรได้พยายามอ่าน "รีดนมจากเขาวัว" จนจบ

อนุโมทนาด้วย เพราะอย่างน้อยขณะนี้เรื่องนี้ได้ถูกบันทึกไว้ในสัญญาของวลัยพรแล้ว

ถึงแม้ครั้งนี้จะมาอ่านในมุมลบ คือเพื่อ หาประเด็นจับผิด ดังที่ยกมาพูด

แต่วันข้างหน้าเมื่อถึงเวลาที่เมฆดำได้เคลื่อนคล้อยพ้นไปจากใจของวลัยพรแล้ว วลัยพรอาจได้อะไรที่เป็นบวกจากเรื่อง "การรีดนมจากเขาวัว" นี้พอสมควร

อาการที่น้องวลัยพรประสบนั้น มันแค่ ปิติ และเวทนาเบื้องต้นธรรมดาๆ แต่อาการของธรรมส่ง มรรครับนั้นมันจะเป็นอาการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิต เมื่อเกิด มันจะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว แล้วจะไม่เกิดให้เห็นอีกเลยตลอดไป เพราะเขาทำงานเพียงครั้งเดียวไม่มีซ้ำสอง

เพิ่มชั่วโมงบินไปเรื่อยๆ อย่าหยุดยึดอยู่เท่าที่รู้ งานยังไม่เสร็จ กิจยังไม่สมบูรณ์อย่าเพิ่งด่วนตัดสินอะไรไปด้วยอัตโนมัย ยิ่งสูง ยิ่งหนาว ให้ระวังไว้ให้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง

"อริยุวาตันตราย"

:b4: :b4: :b4:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2013, 14:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




070dsq_resize.jpg
070dsq_resize.jpg [ 26.51 KiB | เปิดดู 2515 ครั้ง ]
bbby เขียน:
:b8: อ่านแล้วเป็นความรู้สึกที่บรรยายออกมาไม่ถูกค่ะ
ขอบคุณค่ะ :b8: คุณอโศกะ :b41: :b55: :b49:

:b8:
สาธุที่เกิดธรรมะปีติ

จับประเด็นที่เป็นประโยชน์ออกมา สอนใจและพัฒนาวิธีปฏิบัติธรรมเฉพาะตัวของเราให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ไม่นานเนิ่นช้า เกินชาตินี้ ดวงตาเห็นธรรม การเข้าถึงธรรมถึงนิพพาน สามารถเกิดกับชีวิตเราได้ ไม่ต้องสงสัย

สาธุ

เจริญสุขเจริญธรรมตลอดปีใหม่นี้เทอญ
น้อง bbby
:b27:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2013, 14:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:


อาการที่น้องวลัยพรประสบนั้น มันแค่ ปิติ และเวทนาเบื้องต้นธรรมดาๆ แต่อาการของธรรมส่ง มรรครับนั้นมันจะเป็นอาการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิต เมื่อเกิด มันจะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว แล้วจะไม่เกิดให้เห็นอีกเลยตลอดไป เพราะเขาทำงานเพียงครั้งเดียวไม่มีซ้ำสอง

เพิ่มชั่วโมงบินไปเรื่อยๆ อย่าหยุดยึดอยู่เท่าที่รู้ งานยังไม่เสร็จ กิจยังไม่สมบูรณ์อย่าเพิ่งด่วนตัดสินอะไรไปด้วยอัตโนมัย ยิ่งสูง ยิ่งหนาว ให้ระวังไว้ให้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง
"อริยุวาตันตราย"




ทีกับผู้ที่โสกะ มีเหตุปัจจัยร่วม เที่ยวยกยอปอปั้น

พอเป็นสภาวะที่เกิดขึ้นกับคนอื่น คำพูดนี่ พลิกหน้ามือ เป็นหลังมือ

ของกรู วิเศษหมด ของคนอื่น มันแค่ธรรมดาๆ

ทั้งๆที่ ไม่ว่าจะเกิดสภาวะต่างๆเหล่านี้กับใคร มันก็แค่ ธรรมดาๆๆๆๆ

ที่ไม่ธรรมดา เพราะ เกิดการยึดติดในสภาวะที่เกิดขึ้นกันเอง

เรื่องคำขู่ ใช้กับวลัยพร ไม่ได้ผลหรอก

วลัยพร เชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ทรงตรัสไว้ว่า

ภิกษุทั้งหลาย ! บาปกรรมแม้ประมาณน้อย
บุคคล บางคนทำแล้ว บาปกรรมนั้น นำเขาไปนรกได้

ส่วนบาปกรรมประมาณน้อยอย่างเดียวกันนั้น บางคนทำแล้ว
กรรมนั้นเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม ไม่ปรากฏผลมาก ต่อไปเลย…

ภิกษุทั้งหลาย ! ใครกล่าวว่า
คนทำกรรม อย่างใดๆ ย่อมเสวยกรรมนั้นอย่างนั้นๆ ดังนี้

เมื่อเป็นอย่างนั้นๆ การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ย่อมมีไม่ได้
ช่องทางที่จะทำที่สุดทุกข์โดยชอบก็ไม่ปรากฏ

ส่วนใครกล่าวว่า

คนทำกรรม อันจะพึงให้ผล อย่างใดๆ
ย่อมเสวยผลของกรรมนั้นอย่างนั้นๆ ดังนี้

เมื่อเป็นอย่างนี้ การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ย่อมมีได้
ช่องทางที่จะทำที่สุดทุกข์โดยชอบก็ย่อมปรากฏ.
ติก. อํ. ๒๐/๓๒๐/๕๔๐.


ผิดกับโมฆบุรุษ ที่มักชอบใช้คำข่่มขู่มั่ง สาปแช่งผู้อื่นมั่ง

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2013, 14:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
bbby เขียน:
:b8: อ่านแล้วเป็นความรู้สึกที่บรรยายออกมาไม่ถูกค่ะ
ขอบคุณค่ะ :b8: คุณอโศกะ :b41: :b55: :b49:

:b8:
สาธุที่เกิดธรรมะปีติ

จับประเด็นที่เป็นประโยชน์ออกมา สอนใจและพัฒนาวิธีปฏิบัติธรรมเฉพาะตัวของเราให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ไม่นานเนิ่นช้า เกินชาตินี้ ดวงตาเห็นธรรม การเข้าถึงธรรมถึงนิพพาน สามารถเกิดกับชีวิตเราได้ ไม่ต้องสงสัย

สาธุ

เจริญสุขเจริญธรรมตลอดปีใหม่นี้เทอญ
น้อง bbby
:b27:




นั่นไง นึกไว้แล้ว ไม่มีผิด :b32:

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2013, 14:58 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
bbby เขียน:
:b8: อ่านแล้วเป็นความรู้สึกที่บรรยายออกมาไม่ถูกค่ะ
ขอบคุณค่ะ :b8: คุณอโศกะ :b41: :b55: :b49:


ที่คุณเต้บอกว่า "ความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูก" มันเป็นเพราะอ่านไม่รู้เรื่อง
หรืออ่านแค่สามบรรทัด.......

คุณเต้ครับ เห็นคุณเต้ปรารถนาพุทธภูมิ การจะได้มาซึ่งพุทธภูมิ มันต้องมีเมตตาเป็นหลัก
จะเมตตาอะไรต้องเข้าใจด้วยครับว่า สิ่งที่เราเมตตานั้น มันจะทำให้เกิดโทษต่อผู้ที่เราให้
ความเมตตาหรือเปล่า

ผมกล้ารับรองได้ว่า คุณเต้อ่านเนื้อหาที่เห็นไม่หมดหรืออ่านไม่รู้เรื่อง
ดังนั้นการกล่าว ในทำนองเหมือนจะ ให้กำลังใจผู้เอาเนื้อหานั้นมาเผยแพร่
มันอาจก่อให้เกิดโทษกับเขา เพราะเขาอาจหลงระเริงคิดว่า
สิ่งที่ตัวเองเอามาโพสถูกต้อง มันเลยจะเป็นการปิดหนทางธรรมเขาน่ะครับ

สรุปครับว่า.....อ่านไม่รู้เรื่องก็บอกเขาไปตามตรง
หรือถ้าไม่เห็นด้วยก็บอกเขาว่า.....ฉันไม่เห็นด้วย
อย่าสักแต่อนุโมทนาซี้ซั่ว มันจะทำให้เขาหลงระเริงกับอวิชาเสียเปล่าๆ
:b13:

Onion_L

สู่รู้อีกแล้วโมฆะบุรุษโฮฮับ

มุมมองของน้องเขาสะอาดบริสุทธิ์ เป็นกุศลยิ่งกว่าโฮฮับหลายเท่านัก จิตหยาบๆอย่างโฮฮับจะไปประเมินจิตสะอาดของน้องเขาได้อย่างไร มันผิดวิสัย

ธรรมะคำสอนของหลวงพ่อธีนั้นเป็นที่เคารพเชื่อถือศรัทธาของสาธุชนทั่วเมืองไทยและต่างประเทศ

แค่เคล็ดลับการปฏิบัติธรรม

"หา เห็น ตัด ถึง"

ที่หลวงพ่อสอน ก็ทำให้สาธุชน นับพันนับหมื่นตื่นขึ้นมาพบทาง จนเกิดศรัทธาลงมือปฏิบัติจริง พิสูจน์ธรรมจริง ค้นพบอัตตาและอนัตตา พาตนพ้นวัฏฏะ ได้หลายร้อยหลายพันคน

โฮฮับติดนิสัยมองโลกในแง่ลบ คอยจับผิดแก้ไขผู้อื่น ไม่เตือนตน ไม่แก้ไขตน ยอมรับสารภาพว่าตนเป็นคนชั่วหยาบ ไม่เปลี่ยนไม่พัฒนา มีมิจฉาวาจาเป็นเจ้าเรือน ท่องไปในลานธรรมและกระทู้ต่างๆ ขวางทาง ขวางธรรม สร้างกรรมหนักให้กับตนไม่รู้หยุดหย่อน หากไม่รีบแก้ไขเสียก่อน จะชวดเชยประโยชน์และโอกาสที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ สูญเปล่า เป็นบุคคลว่างเปล่า หรือโมฆะบรุษไร้ค่า

:b34: :b34: :b34:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2013, 15:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
asoka เขียน:
bbby เขียน:
:b8: อ่านแล้วเป็นความรู้สึกที่บรรยายออกมาไม่ถูกค่ะ
ขอบคุณค่ะ :b8: คุณอโศกะ :b41: :b55: :b49:

:b8:
สาธุที่เกิดธรรมะปีติ

จับประเด็นที่เป็นประโยชน์ออกมา สอนใจและพัฒนาวิธีปฏิบัติธรรมเฉพาะตัวของเราให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ไม่นานเนิ่นช้า เกินชาตินี้ ดวงตาเห็นธรรม การเข้าถึงธรรมถึงนิพพาน สามารถเกิดกับชีวิตเราได้ ไม่ต้องสงสัย

สาธุ

เจริญสุขเจริญธรรมตลอดปีใหม่นี้เทอญ
น้อง bbby
:b27:




นั่นไง นึกไว้แล้ว ไม่มีผิด :b32:

:b12: :b12: :b12:
เมื่อเห็นคำชม ด้วยธรรมและบริสุทธิ์ใจเป็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน แทนที่จะอนุโมทนาบุญไปกับเขาเช่นนี้

แสดงว่า วิปริตธัมโม กำลังเกิดขึ้นบนจิตสามัญ ความเสียศูนย์เริ่มจะเกิดขึ้นแล้ว พึงระวังให้มาก

s007

หลักยึดใจที่เอามาพิมพ์บ่อยๆเป็นครั้งที่ ร้อยแล้วกระมัง ก็ยังไม่ชี้ตรง เป(็นเพียงหลักยึดเพื่อให้กำลังใจเท่านั้น

หลักยึดใจพึงควรเป็นหลักปฏิบัติ ที่ชี้ตรงสู่เป้าหมายสูงสุดของชาวพุทธ จึงจะเป็นเครื่องแสดงออกถึงความมุ่งมั่น จริงใจ ที่เรียกว่า "โยนิโสมนสิการ" อย่างแท้จริง....โปรดพิจารณา


อ้างคำพูด:
วลัยพร เชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ทรงตรัสไว้ว่า

ภิกษุทั้งหลาย ! บาปกรรมแม้ประมาณน้อย
บุคคล บางคนทำแล้ว บาปกรรมนั้น นำเขาไปนรกได้

ส่วนบาปกรรมประมาณน้อยอย่างเดียวกันนั้น บางคนทำแล้ว
กรรมนั้นเป็นทิฏฐธรรมเวทนียกรรม ไม่ปรากฏผลมาก ต่อไปเลย…

ภิกษุทั้งหลาย ! ใครกล่าวว่า
คนทำกรรม อย่างใดๆ ย่อมเสวยกรรมนั้นอย่างนั้นๆ ดังนี้

เมื่อเป็นอย่างนั้นๆ การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ย่อมมีไม่ได้
ช่องทางที่จะทำที่สุดทุกข์โดยชอบก็ไม่ปรากฏ

ส่วนใครกล่าวว่า

คนทำกรรม อันจะพึงให้ผล อย่างใดๆ
ย่อมเสวยผลของกรรมนั้นอย่างนั้นๆ ดังนี้

เมื่อเป็นอย่างนี้ การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ย่อมมีได้
ช่องทางที่จะทำที่สุดทุกข์โดยชอบก็ย่อมปรากฏ.
ติก. อํ. ๒๐/๓๒๐/๕๔๐.


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2013, 15:13 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:


อ้างคำพูด:
ผิดคาดค่ะ เราอ่านทุกตัวอักษรเลยค่ะ เรากลับมีความรู้สึกว่าธรรมะของท่าน
เป็นธรรมะที่เราอ่านแล้วรู้สึกเข้าใจง่ายค่ะ ตัวอักษรทุกตัวเหมือนอยู่ในสมองเลยค่ะ
นึกขึ้นมาก็จำได้เหมือนมีความรู้สึกคุ้นๆค่ะ


คุณโฮฮับเขียน


อ้างคำพูด:
พูดจริงหรือเปล่า.....อยากจะเป็นพระโพธิสัตว์......เขาห้ามมุสาน่ะ


ขอยกมือขึ้น แล้วกล่าวว่า พูดตามความสัจจริงที่เขียนมาทั้งหมดข้างบนนี้ค่ะ

อ้างคำพูด:
คุณไม่ได้มีความนับถือพระพุทธเจ้า สิ่งที่คุณนับคือเทพเจ้าหรือเซียน


เทพเจ้าหรือเซียน รู้สึกว่าชีวิตเราจะได้ไปเกี่ยวข้องกับท่านอยู่2-3ครั้งค่ะ
ก่อนที่เราจะเริ่มศึกษาธรรม

อ้างคำพูด:
กับคุณเต้ก็เหมือนกัน ดีน่ะที่ไม่อ้างพระพุทธองค์
ถ้าอ้างพุทธองค์แล้วพูดจาโยงไปเจ้ากรรมนายเวร อิทธิฤทธิ์ ก็ต้องเจอผมสวนเช่นกัน :b6:


แล้วเราจะไปอ้างท่านได้อย่างไรค่ะ ในเมื่อตัวเราศึกษาธรรมของท่านอยู่
เพราะเราอยู่ในสถานะฆราวาสค่ะ แต่เราตั้งท่านกับพระโพธิสัตว์กวนอิมไว้ในใจค่ะ :b8:

อ้างคำพูด:
อยากเป็นโพธิสัตว์ก็เป็นไป แต่ไม่ใช่เอาพระธรรมของพระโคดมไปมั่ว
พระโพธิสัตว์กับพระธรรมที่พระโคดมสอน ไม่เกี่ยวข้องกัน....เข้าใจมั้ย




พระโพธิสัตว์กับพระธรรมที่พระโคดมสอน ไม่เกี่ยวข้องกัน....

ไม่เกี่ยวข้องกันแบบไหนค่ะ :b8:
เราเคยพูดเรื่องนี้ในเว๊บนี้อยู่ครั้งหนึ่ง ซึ่งก็เขียนมาแนวคล้ายๆกับคุณโฮฮับนี่ล่ะค่ะ
แต่ก่อนเราเคยคุยเรื่องธรรมะกับกลุ่มคนที่นี่ พอเราคุยกับเค้า
เค้าบอกแนวทางธรรมะของคุณ คือแนวของพระไทย ไม่เหมือนแนวธรรมะของเค้า
เราก็จบเลยไม่คุยต่อ

เราก็เลยนึก เวลาคุยกับคนไทย คนไทยบอกธรรมะของเราเป็นมหายาน
เวลาคุยธรรมะกับคนที่นี่ คนที่นี่บอกธรรมะคุณเป็นธรรมะพระไทย เราก็เลยจบดีกว่า
คุณโฮฮับเคยเป็นมั๊ย บางสิ่งบางอย่างคุณรู้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร
เพราะฉนั้น เราคิดว่าทำตัวเป็นคุณเฉยดีที่สุดค่ะ :b12: :b41: :b55: :b49:


แก้ไขล่าสุดโดย bbby เมื่อ 19 ธ.ค. 2013, 15:24, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2013, 15:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


walaiporn เขียน:
ต้องทำลาย

สภาวะที่เกิดขึ้น กับการปฏิบัติ

แท้จริงแล้ว ไม่มีอะไรหรอก


ที่มีเกิดขึ้น ล้วนเกิดจาก เหตุเดียวกันหมด คือ ไม่อยากเกิด

เมื่อไม่อยากเกิด ต้องทำลาย ความไม่อยาก เหตุของ ความอยากที่มีอยู่ก่อน

ความไม่อยากเกิด คือ ความอยากมี อยากได้ อยากเป็นอะไรๆในสุมมติ ที่เป็นเหตุของ ความไม่อยาก

ต้องทำลายความอยากที่เหนียวแน่น ตัวนี้ ให้ได้ก่อน

หากทำลายความอยาก ที่แฝงอยู่ในความไม่อยาก ตัวนี้ ลงไปได้

อุปกิเลส ย่อมเกิดขึ้นได้ยาก เพราะ มีสติ รู้เท่าทันต่อ ความอยาก ที่แฝงอยู่ในความไม่อยาก ที่เกิดขึ้น

ความอยาก ที่แฝงอยู่ในความไม่อยาก จึงปรากฏในสภาวะของ อุเบกขา ที่เกิดขึ้น

จึงคิดว่า ไม่มีอะไรๆ ในสิ่งที่ต้องการ สภาวะที่เกิดขึ้น ทำให้คิดว่า ไม่มี

ส่วนมีหรือไม่มี มักหลุดสิ่งที่มีอยู่ และเป็นอยู่เนืองๆ ความเป็นนั่น เป็นนี่ ออกมาให้เห็น

:b27:

ไม่อยากเกิด

เป็นเพียง 1 เหตุ ในอีกหลายๆเหตุ ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนหันมาสนใจศึกษาและประพฤติปฏิบัติธรรม

ไม่เป็นบล๊อคเดียว เรื่องเดียวอย่างที่เราเป็นหรอก

เบื่อชีวิต

เห็นทุกข์

เห็นความไม่เที่ยง

เห็นความไร้สาระแก่นสาร

เห็นความบังคับบัญชาอะไรไม่ได้

อย่างนี้เป็นต้น ก็เป้นเหตุ เป็นแรงบันดาาาลใจให้ดิ้นรนเพื่อจะพ้นไปจากโซ่ตรวนเหล่านี้ สู่อิสระและเสรีภาพที่แท้จริง

:b4: :b4: :b4:
แต่กำ็ขออนุโมทนาที่มีมุมมองเป็นบวกและสงบเย็น
tongue


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2013, 17:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
bbby เขียน:
อ้างคำพูด:
ผิดคาดค่ะ เราอ่านทุกตัวอักษรเลยค่ะ เรากลับมีความรู้สึกว่าธรรมะของท่าน
เป็นธรรมะที่เราอ่านแล้วรู้สึกเข้าใจง่ายค่ะ ตัวอักษรทุกตัวเหมือนอยู่ในสมองเลยค่ะ
นึกขึ้นมาก็จำได้เหมือนมีความรู้สึกคุ้นๆค่ะ


คุณโฮฮับเขียน
อ้างคำพูด:
พูดจริงหรือเปล่า.....อยากจะเป็นพระโพธิสัตว์......เขาห้ามมุสาน่ะ


ขอยกมือขึ้น แล้วกล่าวว่า พูดตามความสัจจริงที่เขียนมาทั้งหมดข้างบนนี้ค่ะ


ถ้าเป็นอย่างที่พูด แล้วที่ผมถามไปล่ะครับ ไม่เห็นตอบมาเลย
ถ้าอ่านมันต้องตอบได้ซิครับ :b6:

bbby เขียน:
อ้างคำพูด:
คุณไม่ได้มีความนับถือพระพุทธเจ้า สิ่งที่คุณนับคือเทพเจ้าหรือเซียน


เทพเจ้าหรือเซียน รู้สึกว่าชีวิตเราจะได้ไปเกี่ยวข้องกับท่านอยู่2-3ครั้งค่ะ
ก่อนที่เราจะเริ่มศึกษาธรรม

อ้างคำพูด:
กับคุณเต้ก็เหมือนกัน ดีน่ะที่ไม่อ้างพระพุทธองค์
ถ้าอ้างพุทธองค์แล้วพูดจาโยงไปเจ้ากรรมนายเวร อิทธิฤทธิ์ ก็ต้องเจอผมสวนเช่นกัน :b6:


แล้วเราจะไปอ้างท่านได้อย่างไรค่ะ ในเมื่อตัวเราศึกษาธรรมของท่านอยู่
เพราะเราอยู่ในสถานะฆราวาสค่ะ แต่เราตั้งท่านกับพระโพธิสัตว์กวนอิมไว้ในใจค่ะ :b8: :

คุณเต้ครับที่ผมบอกว่าไม่เชื่อว่า คุณอ่านบทความนั้นหมด เพราะเท่าที่สังเกตุ
คุณยังอ่านภาษาไทยไม่คล่อง คุณยังขาดความเข้าใจในภาษาไทยครับ

คุณก็คล้ายกลับคุณโสกะครับ นั้นเข้าก็ไม่่อยเข้าใจภาษาไทย ทั้งๆที่อยู่เมืองไทย
อาจเป็นเพราะว่า อยู่ตามดอยใช้ภาษาชาวเขา(ไม่ได้ดูถูกนะครับ)

คุณเต้ไม่เข้าใจคำว่า..."อ้าง" เอาเป็นว่าความเห็นนี้ผ่านไปก็แล้วกันครับ :b13:

bbby เขียน:

พระโพธิสัตว์กับพระธรรมที่พระโคดมสอน ไม่เกี่ยวข้องกัน....

ไม่เกี่ยวข้องกันแบบไหนค่ะ :b8:
เราเคยพูดเรื่องนี้ในเว๊บนี้อยู่ครั้งหนึ่ง ซึ่งก็เขียนมาแนวคล้ายๆกับคุณโฮฮับนี่ล่ะค่ะ
แต่ก่อนเราเคยคุยเรื่องธรรมะกับกลุ่มคนที่นี่ พอเราคุยกับเค้า
เค้าบอกแนวทางธรรมะของคุณ คือแนวของพระไทย ไม่เหมือนแนวธรรมะของเค้า
เราก็จบเลยไม่คุยต่อ

เราก็เลยนึก เวลาคุยกับคนไทย คนไทยบอกธรรมะของเราเป็นมหายาน
เวลาคุยธรรมะกับคนที่นี่ คนที่นี่บอกธรรมะคุณเป็นธรรมะพระไทย เราก็เลยจบดีกว่า
คุณโฮฮับเคยเป็นมั๊ย บางสิ่งบางอย่างคุณรู้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร
เพราะฉนั้น เราคิดว่าทำตัวเป็นคุณเฉยดีที่สุดค่ะ :b12: :b41: :b55: :b49:


พระโพธิสัตว์ คือผู้บำเพ็ญทานบารมี เพื่อจะได้ตรัสรู้ในภายภาคหน้า

หมายความว่า เขาจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ใหมด้วยตัวเอง
โดยไม่ต้องพึ่งพระธรรมของพระโคดมครับ

แล้วเรื่องจิตไปรู้อะไร ที่เรียกซิกเซ้นน่ะ ผมไม่ได้หมายถึงว่า มันไม่จริง
มันมีอยู่จริง แต่พระพุทธองค์ท่านให้ละวาง ไม่งั้นมันจะปิดทางปัญญาและนิพพานครับ

การระลึกชาติได้ มันก็มีอยู่จริง ผู้จะบรรลุเป็นพระอรหันต์
ย่อมต้องรู้อดีตชาติ แต่การรู้ไม่ใช่การรู้แบบในหนังหรือแบบโยคีนั่งเทียน
แบบนี้มันโม้ครับ
:b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2013, 17:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
ไม่ต้องอะไรมาก แค่ข้อความท่อนที่ยกมานี้ ก็แสดงให้เห็นว่าโฮฮับไม่รู้จริงๆ แล้วยังมาอวดรู้

ดิน......หรือธาตุดิน.....เป็นปรมัตถบัญญัติ.....คือบัญญัติบอกชื่อของธาตุธรรมชาติที่มีอยู่จริง เป็นสัจจธรรมที่มีอยู่จริงคู่โลก คู่จักรวาลนี้

เขาเรียก "ปรมัตถบัญญัติ" รู้หรือเปล่าโฮฮับ

เล็กน้อยแค่นี้ยังผิดแล้วที่เหลือมากกว่านั้นจะไม่ผิดมากขึ้นกว่านี้อีกหรือ โมฆะบุรุษ โฮฮับ

ไม่ต้องเสียเวลามาวิพากษ์วิจารณ์อะไรอย่างอื่นกันอีกละกระมัง[/b]:


ยังไม่สำนึก โสกะจะบอกให้น่ะว่า สิ่งที่เป็นปรมัตถธรรมคือ......

จิต เจตสิก รูป นิพพาน

มันมีดินที่ว่าหรือเปล่า บอกแล้วยังเถียง ไม้แก่ดัดยากจริงๆ :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2013, 17:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
โฮฮับ เขียน:
bbby เขียน:
:b8: อ่านแล้วเป็นความรู้สึกที่บรรยายออกมาไม่ถูกค่ะ
ขอบคุณค่ะ :b8: คุณอโศกะ :b41: :b55: :b49:


ที่คุณเต้บอกว่า "ความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูก" มันเป็นเพราะอ่านไม่รู้เรื่อง
หรืออ่านแค่สามบรรทัด.......

คุณเต้ครับ เห็นคุณเต้ปรารถนาพุทธภูมิ การจะได้มาซึ่งพุทธภูมิ มันต้องมีเมตตาเป็นหลัก
จะเมตตาอะไรต้องเข้าใจด้วยครับว่า สิ่งที่เราเมตตานั้น มันจะทำให้เกิดโทษต่อผู้ที่เราให้
ความเมตตาหรือเปล่า

ผมกล้ารับรองได้ว่า คุณเต้อ่านเนื้อหาที่เห็นไม่หมดหรืออ่านไม่รู้เรื่อง
ดังนั้นการกล่าว ในทำนองเหมือนจะ ให้กำลังใจผู้เอาเนื้อหานั้นมาเผยแพร่
มันอาจก่อให้เกิดโทษกับเขา เพราะเขาอาจหลงระเริงคิดว่า
สิ่งที่ตัวเองเอามาโพสถูกต้อง มันเลยจะเป็นการปิดหนทางธรรมเขาน่ะครับ

สรุปครับว่า.....อ่านไม่รู้เรื่องก็บอกเขาไปตามตรง
หรือถ้าไม่เห็นด้วยก็บอกเขาว่า.....ฉันไม่เห็นด้วย
อย่าสักแต่อนุโมทนาซี้ซั่ว มันจะทำให้เขาหลงระเริงกับอวิชาเสียเปล่าๆ
:b13:

Onion_L

สู่รู้อีกแล้วโมฆะบุรุษโฮฮับ

มุมมองของน้องเขาสะอาดบริสุทธิ์ เป็นกุศลยิ่งกว่าโฮฮับหลายเท่านัก จิตหยาบๆอย่างโฮฮับจะไปประเมินจิตสะอาดของน้องเขาได้อย่างไร มันผิดวิสัย



ตอนนี้รู้สึกอยากได้กระโถนสักใบ....รู้สึกมันจะอาเจียรกับความเสแสร้ง
โสกะนี้มันโบราณเต่าล้านปีจริง ๆ
ไอ้วิธีหน้าไหว้หลังหลอก มือถือสาก ปากถือศีลแบบนี้เขาเลิกใช้กันแล้ว
:b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2013, 18:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


คุณโฮฮับเขียน

อ้างคำพูด:
พระโพธิสัตว์ คือผู้บำเพ็ญทานบารมี เพื่อจะได้ตรัสรู้ในภายภาคหน้า

หมายความว่า เขาจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ใหมด้วยตัวเอง
โดยไม่ต้องพึ่งพระธรรมของพระโคดมครับ


:b8: :b8: :b8:

ขอบคุณคำตอบนี้ค่ะคุณโฮฮับ เพราะคำตอบคำนี้ เป็นคำตอบที่เราตามหาอยู่
ทีนี้เราเข้าใจความหมายของคำว่า ธรรมะในแนวของมหายาน แล้วค่ะ :b1: :b41: :b55: :b49:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ธ.ค. 2013, 18:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ค. 2006, 22:20
โพสต์: 5976

โฮมเพจ: http://walaiblog.blogspot.com/
แนวปฏิบัติ: กายคตาสติ
อายุ: 0
ที่อยู่: สมุทรปราการ

 ข้อมูลส่วนตัว


ว่ากันแหม่บๆๆๆ ปากมันแผล่บ


asoka เขียน:
]เมื่อเห็นคำชม ด้วยธรรมและบริสุทธิ์ใจเป็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน แทนที่จะอนุโมทนาบุญไปกับเขาเช่นนี้

แสดงว่า วิปริตธัมโม กำลังเกิดขึ้นบนจิตสามัญ ความเสียศูนย์เริ่มจะเกิดขึ้นแล้ว พึงระวังให้มาก



แว่บเดียว กลับมายกยอปอปั้นอีกแล้ว คลื่นไส้กับพฤติกรรมของโสกะจริงๆ



asoka เขียน:
อยากเกิด


แต่กำ็ขออนุโมทนาที่มีมุมมองเป็นบวกและสงบเย็น




โสกะ อยากขายของมากขนาดนั้น เลยเหรอ

ไม่ต้องมายกยอปอปั้น แบบนั้นหรอก เพราะ ใช้กับวลัยพรไม่ได้ผล

เห็นแล้ว คลื่นไส้ กับ วาจาอ่อนหวานแบบเสแสร้ง



สำหรับวลัยพร คำยกยอปอปั้นของโสกะ

ไม่ต่างกับเด็ก ที่ทำท่ามาประเหลาะ จะขายของ

อยากจะขายของ ก็พูดกันตรงๆว่า จะขายของ

ไม่ต้องมาทำท่่า ปากว่า ตาขยิบแบบนี้หรอก

.....................................................
มิจฉาปณิหิตจิต จิตที่ตั้งไว้ผิด ย่อมตามพิชิตตัวเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ตามการกระทำของแต่ละคน (ตามความเป็นจริง)


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 82 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร