วันเวลาปัจจุบัน 19 ก.ค. 2025, 11:10  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 34 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ธ.ค. 2013, 07:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
โฮฮับ เขียน:
asoka เขียน:
คำสอนของพระองค์

เอ้อ ...เริ่มรู้ความมาบ้างแล้วนะ โฮฮับ

คำสอนของพระพุทธองค์ อย่างนี้พูดได้ ไม่ผิด

แต่ "ธรรมะของพระพุทธเจ้า" นี่ พูดไม่ถูก เพราะไม่ถูกต้องตามธรรม เนื่องจากไม่มีธรรมะอะไรที่เป็นของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็ไม่ทรงยึดถืออะไรเป็นของพระองค์ อย่างที่โฮฮับเข้าใจผิดไปด้วยอัตตทิฏฐิ และมานะทิฏฐิของตน อย่าเอาตนที่เต็มและหนาไปด้วยกิเลสไปเทียบวัดกับคุณธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงมีอยู่ จะเป็นการกล่าวตู่พระพุทธองค์ด้วยความไม่รู้จริง หรือ อวิชชา ที่โฮฮับชอบใช้ชอบพูดว่าคนอื่นนั่นแหละ บัดนี้กรรมสนอง อวิชชามันกำลังเกิดและชัดเจนกับโฮฮับยิ่งขึ้น ๆ ถ้าไม่รีบกลับตัวปรับจิตปรับใจ ปรับความเห็นให้ถูกต้องตามธรรม

ธรรมะมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาคู่กับโลก คู่กับสากลจักรวาล ด้วยอำนาจแห่งเหตุและปัจจัย ไม่มีใครเป็นเจ้าของ ปรุง แต่ง สร้างขึ้นมา เขาหากเป็นของเขามาเช่นนั้นเอง......ตถตา.....

รู้จักคำว่า...."ตถตา" ...ไหม โฮฮับ?
:b34: :b34: :b34: :b34:


อย่าเพ้อเจ้อ รู้จักไตรสรณคมณ์......เอาไปท่องก่อนนอน

...............พุทฺธัง สรณัง คัจฺฉามิ
...............ธมฺมัง สรณัง คัจฺฉามิ
................สงฺฆัง สรณัง คัจฺฉามิ
ทุติยมฺปิ....
ตติยมฺปิ..

รู้หรือเปล่ากับความหมายของคำว่า ขอเอา"พระธรรมเป็นที่พึ่งที่ระลึก"

โสกะอยู่กับโยคีมาก เลยคิดเนรคุณพระพุทธเจ้า แบบนี้ไงเขาเรียก พวกนอกกรีต :b32:

:b12: :b12: :b12:
ที่พูดมานี่มันเบสิกของชาวพุทธแท้อยู่แล้ว.......ไม่มีปัญหาอะไรอย่างโฮฮับเป็นห่วงเป็นใย อนุโมทนา

แต่ถามจริงๆเถอะ เก่งค้นเก่งอ้างปริยัติปานนี้ ตอบไม่ได้หรือว่า

"ตถตา".....แปลหรือหมายความว่าอย่างไร?......เป็นคุณสมมบัติของอะไร?

ทำไมถึงเฉไฉเลี่ยงไปพูดถึงเรื่องอื่นทุกที ที่จนแต้ม
:b10:
:b4: :b4: :b4:


มันเป็นโสกะที่ความจำเสื่อม อธิบายไปแล้วดันมาย้อนถามซ้ำซาก
จะบอกให้ที่โสกะมาย้อนถาม เป็นเพราะโสกะก็ไม่มีความเข้าใจในพุทธพจน์

ที่มาตะบี้ตะบันเถียงอยู่ได้ ก็เพราะอาศัยไปเปิดดูในกูเกิ้ล แล้วก็มาย้อนถาม
แบบนี้ไงพอเราตอบไป ก็ไม่รู้เรื่อง

เอาแบบนี้โสกะว่า "ตถตา" คืออะไร ไหนลองอธิบายมาซิ :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ธ.ค. 2013, 16:25 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
asoka เขียน:
โฮฮับ เขียน:
asoka เขียน:
คำสอนของพระองค์

เอ้อ ...เริ่มรู้ความมาบ้างแล้วนะ โฮฮับ

คำสอนของพระพุทธองค์ อย่างนี้พูดได้ ไม่ผิด

แต่ "ธรรมะของพระพุทธเจ้า" นี่ พูดไม่ถูก เพราะไม่ถูกต้องตามธรรม เนื่องจากไม่มีธรรมะอะไรที่เป็นของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็ไม่ทรงยึดถืออะไรเป็นของพระองค์ อย่างที่โฮฮับเข้าใจผิดไปด้วยอัตตทิฏฐิ และมานะทิฏฐิของตน อย่าเอาตนที่เต็มและหนาไปด้วยกิเลสไปเทียบวัดกับคุณธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงมีอยู่ จะเป็นการกล่าวตู่พระพุทธองค์ด้วยความไม่รู้จริง หรือ อวิชชา ที่โฮฮับชอบใช้ชอบพูดว่าคนอื่นนั่นแหละ บัดนี้กรรมสนอง อวิชชามันกำลังเกิดและชัดเจนกับโฮฮับยิ่งขึ้น ๆ ถ้าไม่รีบกลับตัวปรับจิตปรับใจ ปรับความเห็นให้ถูกต้องตามธรรม

ธรรมะมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาคู่กับโลก คู่กับสากลจักรวาล ด้วยอำนาจแห่งเหตุและปัจจัย ไม่มีใครเป็นเจ้าของ ปรุง แต่ง สร้างขึ้นมา เขาหากเป็นของเขามาเช่นนั้นเอง......ตถตา.....

รู้จักคำว่า...."ตถตา" ...ไหม โฮฮับ?
:b34: :b34: :b34: :b34:


อย่าเพ้อเจ้อ รู้จักไตรสรณคมณ์......เอาไปท่องก่อนนอน

...............พุทฺธัง สรณัง คัจฺฉามิ
...............ธมฺมัง สรณัง คัจฺฉามิ
................สงฺฆัง สรณัง คัจฺฉามิ
ทุติยมฺปิ....
ตติยมฺปิ..

รู้หรือเปล่ากับความหมายของคำว่า ขอเอา"พระธรรมเป็นที่พึ่งที่ระลึก"

โสกะอยู่กับโยคีมาก เลยคิดเนรคุณพระพุทธเจ้า แบบนี้ไงเขาเรียก พวกนอกกรีต :b32:

:b12: :b12: :b12:
ที่พูดมานี่มันเบสิกของชาวพุทธแท้อยู่แล้ว.......ไม่มีปัญหาอะไรอย่างโฮฮับเป็นห่วงเป็นใย อนุโมทนา

แต่ถามจริงๆเถอะ เก่งค้นเก่งอ้างปริยัติปานนี้ ตอบไม่ได้หรือว่า

"ตถตา".....แปลหรือหมายความว่าอย่างไร?......เป็นคุณสมมบัติของอะไร?

ทำไมถึงเฉไฉเลี่ยงไปพูดถึงเรื่องอื่นทุกที ที่จนแต้ม
:b10:
:b4: :b4: :b4:


มันเป็นโสกะที่ความจำเสื่อม อธิบายไปแล้วดันมาย้อนถามซ้ำซาก
จะบอกให้ที่โสกะมาย้อนถาม เป็นเพราะโสกะก็ไม่มีความเข้าใจในพุทธพจน์

ที่มาตะบี้ตะบันเถียงอยู่ได้ ก็เพราะอาศัยไปเปิดดูในกูเกิ้ล แล้วก็มาย้อนถาม
แบบนี้ไงพอเราตอบไป ก็ไม่รู้เรื่อง

เอาแบบนี้โสกะว่า "ตถตา" คืออะไร ไหนลองอธิบายมาซิ :b32:

:b34:
ผมถามใให้โฮฮับตอบเพื่อจะให้ได้รู้ว่าคำตอบที่ลอกเรียนจากตำรามามันต่างจากคำตอบที่ได้จากการปฏิบัติจริงอย่างไร...ตอบมาซิ กลัวผิดหรือ...กลัวเสียหน้าหรือ...อย่าทำเฉไฉเลี่ยงไปไหนอีกล่ะ
:b34:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ธ.ค. 2013, 18:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:

ผมถามใให้โฮฮับตอบเพื่อจะให้ได้รู้ว่าคำตอบที่ลอกเรียนจากตำรามามันต่างจากคำตอบที่ได้จากการปฏิบัติจริงอย่างไร...ตอบมาซิ กลัวผิดหรือ...กลัวเสียหน้าหรือ...อย่าทำเฉไฉเลี่ยงไปไหนอีกล่ะ
:b34:


อันที่จริงได้อธิบายไปแล้วในกระทู้นี้ โสกะไม่รู้ไม่เข้า
ก็เลยยังตะบี้ตะบันถาม แต่ไม่เป็นไร เอามาให้ดูเป็นเป็นความเห็นในกระทู้ใหม่...

โฮฮับ เขียน:
อยากจะยกตัวอย่าง...เช่นคำว่า ธรรมชาติ เราไม่สามารถเอาคำว่าธรรมชาติ
ไปพิจารณาหาเหตุที่มาได้ เพราะธรรมชาติไม่ใช่ธรรมะ ไม่ใช่โลกุตตระ

ธรรมชาติเป็นบัญญัติที่บัญญัติขึ้นจากความเป็นโลกียะ หมายความว่า...
ธรรมชาติมันไม่ใช่พุทธพจน์ มันเป็นเพียงภาษาที่คนในสังคมเขาใช้กัน
มันไม่สามารถเอามาพิจารณาหาเหตุปัจจัยของมันได้

ตรงข้ามถ้าเป็นพุทธพจน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นอภิธรรม
พุทธพจน์นั้นจะต้องเอามาพิจารณาหาเหตุปัจจัยหรือหาธรรมที่เป็นเหตุให้เกิด
พุทธพจน์นั้นได้

เช่นพุทธพจน์ที่บัญญัติว่าตถตา
ถ้าเราอยากรู้ความหมายของพุทธพจน์นี้ ไม่ใช่การไปเปิดพจนานุกรมเพื่อเอาคำแปล

แต่สิ่งที่เราต้องทำก็คือ เราจะต้องพิจารณาหาเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิด..ตถตา
มันแน่นอนอยู่แล้วว่า เราจำเป็นต้องพิจารณาธรรมต่างในพระธรรมวินัย
ต้องหาว่า พระธรรมวินัยบทไหนบอกเหตุที่มาของคำว่า....ตถตา

จากประสบการณ์ เหตุปัจจัยที่ทำให้เกิด..ตถตาก็คือ ปฏิจสมุบาท อิทัปปัจจยตาและสังขาร
กระบวนการเกิดขึ้นของปฏิจจสมุบาทและสังขาร ซึ่งเป็นไปตามกฎแห่งอิทัปปจยตา
ท่านเรียกกระบวนการเหล่านี้ว่า
.......ตถตา

ดูแล้ว"ตถตา" อาจดูเหมือนความเป็นธรรมชาติของโลก
แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่ เพราะ"ตถตา"เมื่อตายแล้วไม่ดับสูญ
แต่ธรรมชาติตายแล้วดับสูญ

ดังนั้นความเป็นธรรมะ จึงหมายถึงเป็นธรรมของพระโคดมพุทธเจ้า
เพราะธรรมะไม่ใช่ธรรมชาติ ธรรมชาติไม่มีเจ้าของ แต่ธรรมะมีเจ้าของ
นั้นก็คือพระโคดม
:b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 ธ.ค. 2013, 23:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




IMG0066A_resize.jpg
IMG0066A_resize.jpg [ 14.5 KiB | เปิดดู 734 ครั้ง ]
โฮฮับ เขียน:
asoka เขียน:

ผมถามใให้โฮฮับตอบเพื่อจะให้ได้รู้ว่าคำตอบที่ลอกเรียนจากตำรามามันต่างจากคำตอบที่ได้จากการปฏิบัติจริงอย่างไร...ตอบมาซิ กลัวผิดหรือ...กลัวเสียหน้าหรือ...อย่าทำเฉไฉเลี่ยงไปไหนอีกล่ะ
:b34:


อันที่จริงได้อธิบายไปแล้วในกระทู้นี้ โสกะไม่รู้ไม่เข้า
ก็เลยยังตะบี้ตะบันถาม แต่ไม่เป็นไร เอามาให้ดูเป็นเป็นความเห็นในกระทู้ใหม่...

โฮฮับ เขียน:
อยากจะยกตัวอย่าง...เช่นคำว่า ธรรมชาติ เราไม่สามารถเอาคำว่าธรรมชาติ
ไปพิจารณาหาเหตุที่มาได้ เพราะธรรมชาติไม่ใช่ธรรมะ ไม่ใช่โลกุตตระ

ธรรมชาติเป็นบัญญัติที่บัญญัติขึ้นจากความเป็นโลกียะ หมายความว่า...
ธรรมชาติมันไม่ใช่พุทธพจน์ มันเป็นเพียงภาษาที่คนในสังคมเขาใช้กัน
มันไม่สามารถเอามาพิจารณาหาเหตุปัจจัยของมันได้

ตรงข้ามถ้าเป็นพุทธพจน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นอภิธรรม
พุทธพจน์นั้นจะต้องเอามาพิจารณาหาเหตุปัจจัยหรือหาธรรมที่เป็นเหตุให้เกิด
พุทธพจน์นั้นได้

เช่นพุทธพจน์ที่บัญญัติว่าตถตา
ถ้าเราอยากรู้ความหมายของพุทธพจน์นี้ ไม่ใช่การไปเปิดพจนานุกรมเพื่อเอาคำแปล

แต่สิ่งที่เราต้องทำก็คือ เราจะต้องพิจารณาหาเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิด..ตถตา
มันแน่นอนอยู่แล้วว่า เราจำเป็นต้องพิจารณาธรรมต่างในพระธรรมวินัย
ต้องหาว่า พระธรรมวินัยบทไหนบอกเหตุที่มาของคำว่า....ตถตา

จากประสบการณ์ เหตุปัจจัยที่ทำให้เกิด..ตถตาก็คือ ปฏิจสมุบาท อิทัปปัจจยตาและสังขาร
กระบวนการเกิดขึ้นของปฏิจจสมุบาทและสังขาร ซึ่งเป็นไปตามกฎแห่งอิทัปปจยตา
ท่านเรียกกระบวนการเหล่านี้ว่า
.......ตถตา

ดูแล้ว"ตถตา" อาจดูเหมือนความเป็นธรรมชาติของโลก
แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่ เพราะ"ตถตา"เมื่อตายแล้วไม่ดับสูญ
แต่ธรรมชาติตายแล้วดับสูญ

ดังนั้นความเป็นธรรมะ จึงหมายถึงเป็นธรรมของพระโคดมพุทธเจ้า
เพราะธรรมะไม่ใช่ธรรมชาติ ธรรมชาติไม่มีเจ้าของ แต่ธรรมะมีเจ้าของ
นั้นก็คือพระโคดม
:b13:

Onion_L Onion_L Onion_L Onion_L

ความเห็นของโฮฮับ
อ้างคำพูด:
ธรรมชาติไม่มีเจ้าของ แต่ธรรมะมีเจ้าของ
นั้นก็คือพระโคดม

:b13: :b13: :b13:
ช่างน่าขำเสียจริง คำพูดจากความไม่รู้จริงของโฮฮับ เอาอัตตาตัวเอง มาทำให้พระบรมศาสดามัวหมอง

มีอะไรหรือที่เป็นของพระสมณโคดมพุทธเจ้า หรือพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ในเมือ่ทุกพระองค์ก็จะทรงสรุปธรรมที่พระองค์สอนว่า

"สัพเพธัมมา อนัตตา"

ธรรมทั้งหมดทั้งปวง เป็นอนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้ ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา......
:b34: :b34: :b34: :b34: :b34:
แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 34 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร