โฮะๆๆๆเอะอะๆๆอะไรไม่พอใจน่ะเป็นโทสะเกิดก็คิดแต่จะไล่
ตัวเองไม่มีปัญญาเข้าใจถูกตามยังจะแสดงความไม่รู้ออกมาดีได้หรือคะ

การฟังว่าไม่มีเราคนที่เขาเคยฟังมาแล้วเขารู้ว่าไม่มีเราแล้วมีอะไรเดี๋ยวนี้เลย
แล้วตัวเองเข้าใจแค่ไหนว่าไม่มีเราแล้วมีอะไรที่ตรงกับที่ตถาคตตรัสบ้าง
คำสอนของพระพุทธเจ้าทรงแจกแจงอะไรบ้างโดยละเอียดรู้ชัดไหม
ต้องตรงกับความจริงที่กายใจตนกำลังมีด้วยนะไม่ใช่ชื่อบัญญัติคำ
แต่เป็นความเป็นจริงของอารมณ์ที่จิตรู้ตรงตามที่ปรากฏก่อนดับ
กะพริบตาเกิดจิตขณะใหม่ครบ6ทางไม่รู้ตรงอะไรเลยคือไม่รู้ทั้งหมดแปลว่ามีอวิชชา

บอกตั้งหลายครั้งแล้วว่า ๗-๘ ที่ฟังมานั่นน่า คือฟังแม่สุจินต์ คิกๆๆ

ไม่มีเราแล้วใครฟัง ใครพูด คุณโรสฟัง แม่สุจินพูด

กระพริบอีกแระ คุณโรสเห็นจิตเกิดดับทั้ง ๖ ทางไหม

๑. เห็น

๒. ไม่เห็นแต่ฟังแม่สุจินพูดจำได้

ข้อไหน ๑ หรือ ๒ ตอบดังๆชัดๆไปเลย

ทบทวนใหม่หลายๆรอบ
สาวกแปลว่าผู้ฟังเข้าใจถูกตามได้ตรงจริงที่กายใจกำลังมี
ท่านเคยตั้งใจฟังจริงๆจังๆสักครั้งในชีวิตหรือยังคะ
คำสอนของพระพุทธเจ้าคิดเองไม่ได้เลย
แม้แต่คำเดียวก็ต้องฟังให้เข้าใจก่อน
ว่าแต่ละคำคืออะไรและเชื่อมโยง
มาสัมพันธ์กันอย่างไรต้องตรง
ตามเป็นจริงคือเข้าใจถูก
ตามทีละ1ทางว่าเกิด
แต่ละทางอย่างไร
ที่มีการประชุม
ตามเหตุปัจจัย
เกิดเป็นไปเอง
ไม่มีใครทำขึ้น
ไม่มีใครบังคับ
การเกิดการดับ
แต่ทุกอย่างมีแล้ว
ตามกรรมกำหนดมา
กำลังเป็นไปตามเหตุปัจจัย
ไม่อยู่ในอำนาจบังคับทำตามใจได้
แต่ต้องอาศัยการฟังบ่อยๆเพื่อเข้าใจ
ความเป็นไปของธัมมะแต่ละทางนั้นตามเสียง
เพื่อเข้าใจความจริงที่ปรากฏตรงทางตรงเสียงแต่ละทางตรงทางเกิดนั้นๆ
ฟังบ่อยๆเพื่อให้จิตปรุงแต่งถูกตามได้และระลึกตามจนตรงความจริงที่กำลังมีนั้นก่อนดับซึ่งดับคือ
สภาพธรรมที่กำลังปรากฏว่ามีแล้วกำลังเกิดดับครบทั้ง6ทางแล้วการรู้ตรง1ทางทำได้แค่ฟังให้เข้าใจตรงๆ

บอกไม่รู้จักตั้งใจฟังเลยนะคะจะรอให้มีตาลปัตรมากางมันทำฟังไม่ได้แล้ว
ไปไม่กลับ/หลับไม่ตื่น/ฟื้นไม่มี/หนีไม่พ้น
เพราะทุกคนที่ตายไม่มีใครกลับมาบอก
มีแต่ต้องมีศรัทธาฟังความจริงเพื่อ
เข้าใจจิตที่กำลังเป็นไปแล้วตาม
ที่ตถาคตตรัสรู้และแสดงให้
สาวกเข้าใจถูกเกิดสัมมาตามได้คร่าาาาา

ตอบข้อไหน ? ถ้าเป็นนักเรียนสอบตกเรียนซ้ำชั้นแน่นวล ถามอย่างตอบอย่าง

ทำไมไม่รู้จักดูความจริงที่ตนกำลังมีตามคำที่อ่านให้เข้าใจถูกตามได้ที่กายใจตนเองนะคะไม่ใช่อ่านเปล่าๆ
ที่ถามน่ะสงสัยเป็นนิวรณธรรมของตัวเองส่งออกไปคิดเรื่องคนอื่นรู้หรือไม่รู้ถ้าเขาบอกว่ารู้ก็เชื่อเลยเหรอคะ

คำสอนของพระพุทธเจ้าไม่ใช่ให้เชื่อตามหลักกาลามสูตร10
แต่ให้ฟังบ่อยๆเพื่อไตร่ตรองให้เกิดปัญญาของตนเอง
จนกว่าจะรู้คุณของทุกคำที่มีโอกาสได้ยินได้ฟังค่ะ
เพราะเป็นคำที่มีค่าที่หาอะไรมาประมาณไม่ได้

อ้าว ซ้ำชั้นอีกปีหนึ่ง

มาอีกแระกาลามสูตร พูดอ้างโดยที่รู้จุดประสงค์ของสูตรนี้

น่าจะเข้าหลักอ่านหนังสือไม่แตกนี่

ยังไม่สำนึกอีก...ที่เกิดอยู่นี้น่ะ...มีกิเลสเป็นอาสาวะนอนเนื่องสะสมในจิต
นอนมาในจิตรอเกิดตอนเห็นได้ยินได้กลิ่นลิ้มรสรู้กระทบสัมผัสคิดนึก
ตอนนี้กำลังมีจิตครบทั้ง6ทางเกิดดับสลับกันโดยมีภวังค์คั่นดำรงภพ
จะเกิดสัมมามรรคได้ตอนกำลังสะสมปัญญาตรงขณะที่รู้ตรงสัจจะ
เดี๋ยวนี้ถ้าไม่ได้ทำสุตมยปัญญาแปลว่าไม่มีปัญญาแทรกเข้าในจิต

ถ้ามีจิตที่ตรงและเกิดสัมมาได้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ถ้ามีปัญญาเกิดแทรกระหว่างธรรมต่างๆก็ถือว่าดี

แต่อย่าให้กรรมอกุศลมันเข้าแทรก ต้องเลิกด่าว่าพระสงฆ์ และขอโทษต่อพระรัตนตรัย จึงจะประเสริฐแท้

กัลยาณมิตรเขาจะพยายามสนับสนุนให้คุณได้สิ่งดีๆ ขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง ว่าจะเห็นคุณค่ากัลยาณมิตร หรือ จะยอมรับแต่ธรรมของคนพาล

เหตุปัจจัยคือธรรมชาติ

ธรรมชาติทั้งหมดดำเนินไปเพราะเหตุปัจจัย

ภพต่างๆ ชาติต่างๆ ก็ปรากฏเพราะเป็นธรรมชาติ เห็นต้นไม้ภูเขา เสียงต่างๆ เพราะอยู่ในวงของภพ

เช่นเดียวกับเดินอาศัยบนโลก ย่อมไม่เห็นลูกโลกใบนี้ หรือไม่สามารถรับรู้สภาวะของโลกที่หมุนไปเรื่อยๆด้วยความเร็วสูงได้ แม้โลกจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วหลายพันกิโลเมตรต่อวินาที ก็ไม่มีใครสามารถรับรู้สภาพความเร็วของโลกได้ เพราะมีสิ่งบดบังไม่ให้เรารับรู้ เช่นแรงเฉื่อย

เราอย่าพึ่งกระหยิ่มใจว่าเรารับรู้สภาพตรงของธรรมชาติแล้วคิดว่าเรามีปัญญาตรง

เพราะว่าหากเราไม่ได้เอาธรรมะมาใช้ในการฝึกฝนและดำเนินชีวิต เราก็ไม่สามารถเรียกตนเองว่าพัฒนาอะไรได้เลย แถมถอยหลังเข้าคลอง แทนที่จะไปได้สวย มันจะตกม้าตายเพราะความเข้าใจผิดว่าเรารับรู้สภาวะตรงของกายจิต ไม่อย่างนั้นพยามารก็แพ้ราบคาบไปนานแล้ว เพราะกลอุบายของพยามารมีทุกรูปแบบ มันสามารถทำให้คุณหลงระเริงคิดว่าข้านี้รู้เห็นตรง ปัญญาเกิดเพราะทวารทั้ง6ทำงานตรงไม่บิดพลิ้วนั้น คุณกำลังโดนมารหลอกใช้ และผลของมันนั้น คุณจะทรมาณเป็นล้านๆเท่าเพราะความรู้เท่าไม่ถึงกาล

ไม่รู้จักอริยสัจจะหรือคะ
ความจริงที่รู้ตรงแล้วเดี๋ยวนี้
ไม่รู้อะไรเลยก็รับมาตรงๆสิคะ
ก็ไม่ได้กำลังทำปัญญาตามลำดับนี่
ข้ามปัญญาแรกไม่ได้ไงเหมือนเทน้ำ
จากแก้วข้างบนล้นลงมาแก้วด้านล่าง
แก้วข้างบนไม่เต็มไม่มีทางถึงแก้วที่2-3
สุตมยปัญญาจินตามยปัญญาภาวนามยปัญญา
ล้นจากปัญญาแรกจึงจะเป็น2ล้นจาก2ถึงจะเป็น3จ้ะ
เรื่องตำหนิอลัชชีน่ะไม่ทำตามพระธรรมวินัยไม่ใช่ภิกษุในธรรมวินัยไม่บาปเลยนะคะ
เพราะกำลังประกาศพระพุทธศาสนาให้คนที่สะสมปัญญามาเข้าใจถูกตามได้จะได้ตาสว่างมืดมานาน555