ทักษา

สุขในฌาณ คือ สุขในนิพพาน..จริง

จตุตถฌานที่เจอ..คงเป็นเรื่องหลับใน..???

สงสาร ตา มีแต่คนอัดๆ ไม่อัตยายมั่ง เล่นไพ่ประจำ

เกือบไม่ทันมุข..อัตคุณตา...กะเขาสะแล้ววว...

ท่านเจโต อธิบายได้ไหมครับ ว่า ธรรมเอกผุดขึ้นตั้งมั่นในภายในเป็นอย่างไร ?ครับ
เพราะท่านบอกว่ามีประสบการณ์ ตอนบวช

ตามความเข้าใจส่วนตัวครับ เรื่อง นิโรธ5อย่าง

1.หลุดพ้นเพราะข่มไว้........หมายถึงการเข้าไประงับจิตในระดับของการหยุดปรุงแต่งสมมุติบัญญัติเพิกถอน
ถ้อยคำของการพูด มีจิตที่หยุดระงับดับอาการของการสัมผัสต่ออารมณ์ส่วนนอกด้วยพลังความหน่วงระงับอันเกิด
จากสมาธิ ภาวะอย่างนี้เป็นการเข้าถึงความดับชนิดที่เหมือนและใกล้เคียงกับความดับของจิตที่หลุดพ้น
จึงเป็นการเข้าถึง อารมณ์ชนิดที่เป็นดังความหลุดพ้น แต่เป็นการเข้าถึงได้ เพียงชั่วเวลาที่สมาธิยังมีความ
หน่วงนิ่งและยังหนักพอ หรือว่างจางพอ บุคคลพอได้ลุถึงสภาพอันเป็นการเพิกถอนสมมุติบัญญัติด้วย
ผลของสมาธิ จึงอาจสำคัญผิดคิดว่าตนหลุดพ้นแล้วก็เป็นได้ เพราะสภาพของการหยุดปรุง เป็นมิติที่
ทำให้รู้สึกถึงความพ้นจากทุกสิ่งที่เคยเป็น แม้ว่าจะเป็นการหยุดปรุงชนิดข่มด้วยสมาธิก็ตาม

2หลุดพ้นชั่วคราว........เป็นลักษณะของจิตที่สามารถเข้าถึงสภาพของการหยุดปรุง และเพิกถอนสมมุติ
บัญญัติได้ชั่วคราวด้วยจิตที่ถูกปัจจัยส่งหนุนมาอย่างไม่ตั้งใจ เช่น ด้วยการข่มจิตข่มกายทรมานกายทรมานจิต
ด้วยความเพียรตรากตรำต่อเนื่อง ด้วยการอดนอน ด้วยการอดอาหาร การทำความเพียรโดยมีลักษณะของการ
ทำให้จิตและกายอ่อนโรยแรง ก็มีผลทำให้จิตเริ่มอ่อนตัว และหดตัวจนถึงจุดอันเป็นภาวะสิ้นสุดการคิด ไม่คิด
และสามารถรู้จักมิติของการพ้นสมมุติบัญญัติได้ชั่วเวลาที่จิตยังหดตัว แต่พอร่างกายสดชื่นคืนกลับมา
สภาพที่เข้าถึงได้นี้ก็หายไป บุคคลก็คืนกลับเป็นคนเดิมที่ไม่มีกิเลสอะไรลดลง หรือแม้แต่การที่จิตมี
ภาวะของการปล่อยวางอารมณ์ได้ถูกลักษณะแม้เพียงชั่วคราว หรือเกิดความไม่ต้องการสิ่งใดโดยแท้จริงแม้
เพียงชั่วคราว หรือการหยุดชะงักเพราะความฉงนอย่างเต็มกำลังก็ทำให้ความคิดหยุดสนิทได้โดยไม่ตั้งใจ
การเข้าถึงมิติของการเพิกสมมุติบัญญัติด้วยอาการมากมายเหล่านี้ทำให้บุคคลที่ได้เข้าถึง สำคัญว่าตนถึงที่
สุดทุกมาก็มากมายแล้ว

3.หลดพ้นชนิดเป็นสมุทเฉท มีได้แต่เฉพาะพระอรหันต์ที่มีจิตหลุดพ้น จิตของท่านจะทรงอยู่ในสภาพของ
การหยุดปรุง มีการดับลง ของปฏิฆสัญญา และรูปสัญญา เพิกถอนสมมุติบัญญัติอยู่เองโดยปกติ และทรง
ตัวให้รู้เห็นได้ทุกเวลานาที เป็นการเข้าไปทรงอยู่บนฐานะที่เพิกถอน ไม่ใช่แค่เพียงการหยั่งเข้าไปรู้เพียง
ชั่วขณะ การหลุดพ้นแห่งจิตที่แท้จริงด้วยอริยมรรคสมังคีที่สมบูรณ์ ก็ยังมีอินทรีย์ที่ร้อนอยู่ถ้าหลุดพ้น
ใหม่ๆ

4. การหลุดพ้นด้วยผล อันเป็นความระงับการหยุดปรุงอย่างสนิท และมีอินทรีย์ที่เย็นสนิทเพราะความอิ่มเต็ม
ของผลสำเร็จ ความดับของท่านถึงพร้อมด้วยความเย็นสนิทลงของอินทรีย์ด้วย

5.การหลุดพ้น ที่หมายถึงการพ้นออกไป หมายถึงวาระของการปรินิพพาน ซึ่งเป็นเพียงฐานะเดียวที่
เป็นความหลุดพ้นจากขันธ์5ได้สนิทไม่มีส่วนเหลือ และไม่ต้องมีความเกี่ยวพันกันอีก ยามที่ยังมีชีวิต
ถึงแม้จะมีจิตหลุดพ้น ระงับการทำหน้าที่ของขันธ์5ได้ แต่ก็ยังมีการทำงานของขันธ์5อยู่เพราะรูปยังไม่หมด
เหตุปัจจัย ขันธ์ยังไม่แตกทำลาย ขันธ์5 จึงยังคงเกิดดับทำหน้าที่อยู่ บนผืนแห่งอารมณ์นิพพานซึ่งซ้อน
กันอยู่ เป็นการปรุงแต่ง ที่ทำงานบนผืนจิตชนิดที่หยุดปรุง จึงเป็นการปรุงที่เหมือนสักว่าปรุง

ขออนุญาตอย่างนี้ครับ

กระทู้ที่ผมตั้งขึ้นมาสนทนา ไม่ถูกต้องสมบูรณ์ครับ

ตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นข้ิอสนทนาเป็รประเด็นหลัก

ข้อบกพร่องที่มีท่านผู้อื่นยกขึ้นมาบ้าง

ที่ไม่ได้ถูกยกขึ้มาพูดถึงบ้าง

ต้องมีครับ

ยังไม่ได้นอนเลย พับผ่าสิ
http://youtu.be/HL2-cfpygtY