วันเวลาปัจจุบัน 26 ก.ค. 2025, 08:55  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 75 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 06:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


FANTASIA เขียน:
:b1: ขอบคุณค่ะแต่ดิฉันเห็นว่าน้องเค้าทำถูกต้องแล้วที่ไปแจ้งความว่าคุณกับคุณบัวผ่องจ้องทำลายพระพุทธศาสนาตามหลักฐานที่ยังอยู่ในกระทู้นี้

ฮานะ ธรรมอาสาเตือนภัยฯ ร้องเรียนสมาชิกจาบจ้วงและจ้องทำลายพุทธศาสนา
viewtopic.php?f=11&t=39206

ไม่แปลกครับที่คุณจะเห็นด้วยกับคุณฮานะ ถ้าไม่เห็นด้วยนี่ซิแปลก
อวยกันจนออกนอกหน้า จนคิดว่าเป็นคนๆเดียวกันขนาดนั้น

แล้วไอ้กระทู้ที่เอามาอ้างนั้นน่ะ มันเหมือนแม่ค้าในตลาดที่ด่าฉอดๆฝ่ายเดียว
แล้วกล่าวหาว่า ลูกค้ามาหาเรื่อง อันนี้เป็นการกระทำของคุณครับ

จะวิจารณ์ข้อโต้แย้งของคู่กรณี มันต้องเอาหลักฐานของทั้งสองฝ่ายมากาง
ไม่ใช่เอาแต่หลักฐานมาฝ่ายเดียวแถมเป็นหลักฐานเท็จเสียด้วย อีกทั้งเป็นพวกเดียวกัน
ไปๆมาๆอาจอวตาลมาเองด้วย

ผมจะเล่าเหตุที่พอจะเป็นอุทาหรณ์ เรื่องนี้มีคู่กรณีอยู่3คน
ไอ้ข้อกล่าวหาต่างๆต้องแยกครับ ทางแอดมินเขาตัดสินว่า ป้าผ่องแกจาบจ้วง
ส่วนผมทางแอดมินเขาเอากฏข้อบังคับทั้งหมดที่มีมาตัดสินผม ซึ่งใครดูก็ต้องรู้สึกขบขัน
ซึ่งมันทำให้ผมไม่รู้สึกโกรธทางเว็บหรือแอดมินก็เพราะ ข้อหาที่หยื่นให้ ผมก็ตลกขบขันไปด้วย

ส่วนตัวผู้ร้องเอง มันก็เกิดมาจากที่เคยกล่าวว่า จะกระชากอัตตาคนอื่น
แต่ไม่รักษาอัตตาตัวเองให้ดี อาการไปแจ้งแอดมินนี่แหล่ะเป็นอาการของคนอัตตาแตก
สติแยก จนไปกล่าวหาคู่กรณีมั่วไปหมดครับ อย่างเช่นกล่าวหาผม จาบจ้วงลบหลู่พุทธศาสนา

ขอเน้นครับเผื่อคนตาบอดตาใส โดยเนื้อหาที่โดนลบไป ความสำคัญที่ผมกับคุณฮานะ
โต้เถียงกันมันอยู่ที่ คุณฮานะกล่าวหาว่า พระพุทธเจ้าไม่มีสัจจะให้สัจจะกับมารแล้วทำไม่ได้
และยังกล่าวหาว่า พระอานนท์ไร้ซึ่งปัญญา อีกทั้งเหล่าสาวกที่พระพุทธเจ้ายังพระชนม์ชีพอยู่
ซึ่งเหล่าสาวกนี้ในความหมายก็คือ เอหิภิกขุฯ ไม่ได้เป็นโสดาบัน

มันเป็นผมครับที่มาโต้แย้งคุณฮานะแกว่าไม่เป็นความจริง
แล้วไง๋ผลมันถึงได้กลับตาลปัตร เป็นผมไปลบหลู่พระพุทธเจ้า พุทธศาสนา
แบบนี้ยุติธรรมดีนี่ครับ คุณแฟนตาเซีย บุตรโต

FANTASIA เขียน:
:ส่วนการต้องติดโทษแบนนั้นน้องเค้าก็ไม่ได้เห็นว่าเป็นเรื่องสลักสำคัญอะไรหรอกนะคะ
เพราะอันที่จริงแล้วตอนนี้น้องก็ยังเข้ามาใช้เว็บบอร์ดได้ตามปกติเหมือนสมาชิกคนอื่นๆ โดยทั่วไปอยู่ค่ะ

ก็พูดแบบนี้ไง ผมได้บอกในตอนต้นกระทู้โน้นว่า ระวังคนอื่นจะเข้าใจว่า...
คุณเป็นอวตาลหรือเป็นนอมินีคุณฮานะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 09:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


FANTASIA เขียน:
:b1: ดังที่ดิฉันเคยกล่าวไว้แล้วว่า...........
คนที่มีสภาวะธรรมสูงกว่าย่อมมองคนที่มีสภาวะธรรมในระดับเดียวกันหรือต่ำกว่าออกว่าเป็นเช่นไร
ส่วนคนที่มีสภาวะธรรมต่ำกว่าย่อมจะไม่สามารถล่วงรู้สภาวะของคนที่มีสภาวะธรรมสูงกว่าได้
และบางคนก็ไม่รู้แม้กระทั่งสภาวะของตนเองว่าตั้งแต่เกิดมาจนบัดนี้มีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง
การที่คุณอ่าน คห.ของน้องฮานะแล้วเก็บสาระธรรมไม่ได้เลย
เป็นการยืนยันสภาวะของคุณว่าต่ำกว่าเด็กอย่างฮานะขนาดไหน

คุณครับเลิกพูดเถอะครับ ไอ้เรื่องสภาวะธรรมสูงกว่าหรือต่ำกว่า
เอาง่ายๆแค่ กาละเทศะธรรมง่ายๆคุณกับคุณฮานะยังไม่เข้าใจเลย
ผมได้เกริ่นบอกคุณไปแล้วว่า ....
ที่นี่เป็นห้องสนทนาธรรม มันรู้เรื่องเข้าใจกันด้วยตัวหนังสือ
การที่จะให้อีกฝ่ายเข้าใจอีกฝ่าย มันต้องบรรยายมาเป็นตัวหนังสือ
มันถึงจะสื่อกันได้ ไม่ใช่เข้ามาแล้วใช้ภาษาที่ตัวเองรู้เพราะตัวเอง
พอคนอื่นไม่เข้าใจความหมายของคำที่ตัวเองกำหนด
ก็เที่ยวได้ไปชี้หน้าปรามาสเขาว่า สภาวะธรรมต่ำ ของตัวสูงส่ง
แบบนี้เขาเรียกหลงสร้างวิมานในอากาศ ระวังตกมาหัวทิ่มส้วมสาธารณะเอานะครับ


มันก็เหมือนในห้องเรียนที่อาจาย์กำลังอธิบาย แปลความหมายของรากศัพท์ใดๆ
ให้นักศึกษาฟังอยู่ อยู่ดีๆคุณก็อ้าปากร้องภาษาถิ่นบ้านคุณมา พอคนอื่นไม่รู้เรื่อง
พาลโกรธคุณ กลับไปหาว่าเขามีสภาวะที่ต่ำกว่า
มันเป็นคนละเรื่อง มันเป็นตัวคุณกับคุณฮานะต่างหาก
ที่ไม่รู้จักกาละเทศะ ไม่ใช่คนอื่นมีสภาวะธรรมที่ต่ำกว่า


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 09:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


FANTASIA เขียน:
การที่คุณอ่าน คห.ของน้องฮานะแล้วเก็บสาระธรรมไม่ได้เลย
เป็นการยืนยันสภาวะของคุณว่าต่ำกว่าเด็กอย่างฮานะขนาดไหน

เห็นยกตนข่มท่านกับไอ้เรื่องสภาวะที่สูงส่งเลิศเลอเนี้ย
อยากถามครับ สมมุติคุณแฟนตาเซียเดินไปเจอสุนัขจรจัด แล้วมันเห่าภาษาของมัน
ถ้าคุณแฟนตาเซีย ไม่เข้าใจแสดงว่า คุณแฟนตาเซียมีสภาวะธรรมที่ต่ำกว่าสุนัขจรจัดที่ว่าหรือครับ
ที่ผมกล่าวแบบนี้ไม่ใช่คำหยาบหรือดูถูกดูแคลนนะครับ เพียงแต่จะอธิบายให้เห็นภาพชัดๆ
FANTASIA เขียน:
:b1: ดิฉันขอยกตัวอย่างเรื่อง พุทโธ ที่น้องเค้าทำให้ฝังใจคุณมาจนบัดนี้ก็แล้วกันนะคะ

มันไม่ถึงขนาดฝังจิตฝังใจหรอกครับ เพียงแต่จำความได้เท่านั้นเอง
ที่สามารถทำให้คนๆหนึ่งที่หลงยึด พุทโธเป็นอัตตา
ยึดเสียจนแน่น ยึดเสียจนไม่รู้จะอธิบายว่ามันคืออะไร
และภูมิใจครับที่สามารถทำให้ อัตตาตัวรู้ของใครบางคนแตกดังโพ๊ะ
FANTASIA เขียน:
ขอให้คุณละวางอคติที่มีต่อน้องเค้าก่อนแล้วค่อยย้อนกลับไปอ่าน คห.ของเค้าใหม่

ขอร้องครับกรุณาอย่าพูดในลักษณะ บทกลอนพาไปหรืออ่านตามสคริปแบบนี้
มันอาจเป็นเหตุให้ผมตีความไปได้ว่า คุณมีสภาวะธรรมที่ต่ำกว่าผมนะครับ

คุณพูดมาได้ไงครับว่าผมมีอคติกับน้องเขา ในความเห็นก่อนยังพูดอยู่แหม่บๆ
ว่า ผมแสดงความเห็นเป็นห่วงเป็นไยน้องเขา มันก็จริงครับที่ผมห่วงใยน้องเขา
แต่พอเห็นว่า แกไม่ยอมเปลี่ยนแปลงยังหลงคิดไปว่า วิธีการที่ใช้อยู่มันถูกต้อง
ผมก็ต้องชี้แนะบ้าง ...
ด้วยวิธีหอกทมิฬ แทงทมิฬครับ จะได้รู้สึกตัวนี่เป็นความห่วงใยนะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 10:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


FANTASIA เขียน:
และพิจารณาดูให้ดีว่าการแสดงเรื่อง พุทโธ ผู้รู้ ไม่เกิด ไม่ดับ ของน้องเค้าพูดถึงสภาวะระดับไหน
เปรียบเทียบกับ คห.ของคุณที่ไปแย้งน้องว่า พุทโธ เกิดขึ้นแล้วก็ดับไปนั่นพูดถึงอะไรกันแน่

ประเด็นเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ตรงสภาวะใครจะผิดจะถูกหรอกครับ มันอยู่ที่ในตอนแรกน้องฮานะเขา
ไม่สามารถอธิบายได้ว่า พุทโธที่น้องเขาอ้างคืออะไร จนถูกผมเซ้าซี้จนกระเทือนไปถึงอัตา
สภาวะที่สูงส่งของน้องเขา เรื่องที่คุณว่ามันถึงได้เกิดขึ้น
แต่มันแปลกอยู่อย่างครับ ผมเป็นคนเปิดทางให้น้อง เขาจะมีทางเดินไม่ใช่หรือครับ
เท่าที่จำได้ เห็นเขากำลังหลงหาทางเดินไปเจอ ถูกมัดไว้กับตัวพุทโธ
ผมมาแก้เชือกให้แถมปูพรมแดงให้แกเดินอีกด้วย
เป็นผมไม่ใช่หรือครับที่แสดงความเห็นนำทางให้ แกถึงจับจุดได้หาทางได้
ถึงได้มาเริ่มเถียงเริ่มประเด็นใหม่ ถ้าไม่ปูทางให้แกก็ยังคงดองอยู่กับพุทโธนั้นแหล่ะครับ

FANTASIA เขียน:
[น้องฮานะบอกไปแล้วว่า พุทโธ ของคุณนั้นไม่ใช่ผู้รู้ของแท้แต่เป็นแค่วิญญาณ
สาระในธรรมนั้นคุณจะเข้าใจได้หรือไม่เพียงใด ในเมื่อคุณเห็นได้แค่วิญญาณที่มีอวิชชาความหลงบงการอยู่
แต่น้องเค้ากล่าวถึงผู้รู้ที่ไม่หลงและน้องก็ชี้ให้เห็นในจุดนี้มาโดยตลอด
หากว่ากลับไปอ่านแล้วคุณก็ยังหาสาระธรรมซึ่งมีอยู่ในแทบจะทุกคำพูดของน้องเค้าไม่เจอ
ดิฉันขอแนะนำให้คุณโฮฮับนำคำพูดของน้องฮานะไปกราบขอคำปรึกษาจากครูบาอาจารย์ที่เชื่อถือได้เสียก่อนดีกว่านะคะ
เผื่อว่าผ้าเหลืองจะช่วยให้คุณตาสว่างขึ้นมาได้บ้างไม่มากก็น้อยค่ะ
ดิฉันขออวยพรให้คุณได้พบกับคณาจารย์ที่มีสภาวะธรรมระดับเดียวกับน้องหรือสูงกว่าน้องก็ยิ่งดีเลยนะคะ
ขอพระพุทธองค์ทรงเมตตา ... ค่ะ ^^

พูดต่อจากความเห็นที่แล้วครับว่า ก่อนที่ผมจะเปิดทางให้น้องเขา
น้องเขาก็จมปลักอยู่กับว่า ป้าผ่องแร่ด ท่านโฮกิเลสหนามานะบาน
ยังฮาได้อีกนะข่ะ ฮานะข่ะๆๆๆๆๆๆๆๆ พุทโธข่ะๆๆๆๆๆๆๆๆ

ขอพระธรรมทรงโปรด!!!!!!!


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 11:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2011, 10:18
โพสต์: 590

โฮมเพจ: www.bhuddhakhun.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


รูปภาพ

ด้วยเหนื่อยนัก พักลงบ้าง วางลงก่อน
ค่อยคลายถอน ผ่อนเมื่อยล้า พาสุขี
เรื่องยุ่งยาก เว้นวรรคบ้าง ห่างสักที
หาสิ่งดี ที่เสริมสร้าง สิ่งสร้างสรร

ความสุขนั้น อันมีค่า พาสดชื่น
เหมือนคนตื่น จากหลับไหล ใช่เสกสรรค์
คือสรรสร้าง ทางสดสวย ช่วยโลกกัน
คือสร้างสรรค์ อันคุณค่า น่าภูมิใจ

ถึงเหนื่อยนัก ก็จักวาง ว่างสักนิด
ค่อยครุ่นคิด พินิจดู จึงรู้ได้
แม้ลำบาก ตรากตรำ นำสู้ไป
ด้วยเข้าใจ และเข้าถึง จึงรู้คุณ

.....................................................
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 18:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ม.ค. 2011, 17:26
โพสต์: 353


 ข้อมูลส่วนตัว


อย่างนี้เขาเรียกว่าส่งจิตออกนอกหรือเ้ปล่า s002


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ย. 2011, 11:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




41_1736.jpg
41_1736.jpg [ 27.79 KiB | เปิดดู 6652 ครั้ง ]
tongue
สรุปแล้ววิวาทะกันมาถึงวันนี้ได้ประโยชน์อะไรกันบ้างเอ่ย?
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ย. 2011, 14:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ค. 2011, 19:14
โพสต์: 115


 ข้อมูลส่วนตัว


FLAME เขียน:
โอ่ มีเว็บไซต์อย่างงั้นด้วยหรือครับ
คุณ fantasia ช่วยทำลิงค์ให้สักหน่อยได้ไหมครับ


:b1: ด้วยความยินดีค่ะ

ท่านอาจารย์เข้าไปในหลายเว็บให้สังเกตเว็บที่มีพระไตรปิฎกนะคะ ^^
ลานธรรมจักรแห่งนี้ท่านก็เคยเข้ามาอยู่พักหนึ่งเหมือนกันค่ะ
และคุณเฟลมก็อาจจะเคยสนทนากับท่านมาบ้างแล้วก็ได้นะคะ

แต่ก็อย่างที่ดิฉันบอกไว้ว่าคนที่มีทิฏฐิน้อยอย่างน้องฮานะเท่านั้นถึงจะยอมรับการกระชากอัตตาจากท่านอาจารย์ได้
เพราะคนทั่วไปจะยกให้อัตตาของตนเป็นใหญ่เหนือเกล้ามากกว่าต้องการขัดเกลาเอาอัตตาของตนออก

หากคุณพบผู้ที่ทำให้คุณเกลียดเข้าไส้ได้ยิ่งกว่าน้องฮานะหรือว่าดิฉันนั่นแหละ ท่านอาจารย์ละค่ะ ^^

เท่าที่ผ่านก็มีหลายคนที่โดนท่านอาจารย์กระชากอัตตาจนทนไม่ไหว
ทั้งคุณพลศักดิ์ คุณทิดจ้อย คุณเทวดา คุณกรัชกาย คุณบัวผ่อง คุณโฮฮับ แม้แต่คุณชาติสยาม
ต่างก็แสดงออกชัดเจนว่ารับท่านไม่ได้จริงๆ

:b1: ดังที่ดิฉันได้กล่าวไว้ใน คห.ต้นๆ เรื่องการนับถือครูบาอาจารย์นั้น
คนส่วนมากก็มักจะเอาอัตตาของตนเป็นใหญ่ในการเลือกนับถือครูบาอาจารย์
ฉะนั้นพอครูบาอาจารย์ท่านทำอะไรที่ขัดใจตนก็พาลเลิกนับถือท่านเสียอย่างนั้น
แทนที่เขาจะได้รับการขัดเกลาเอากิเลสออกก็เลยกลายเป็นเสียโอกาสไป
แม้จะหันเข้าหาธรรมแล้วก็ตามแต่ใจยังเคลือบแฝงด้วยอวิชชาอย่างหนาแน่น
มันก็ยากที่จะก้าวหน้าในการปฏิบัติเพื่อสลัดทิ้งตัวตนต่อไปได้นะคะ

:b1: ดิฉันขอแนะนำว่าหากมีใครทำให้อัตตาของคุณกำเริบได้
นั่นแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นผู้มีสภาวะธรรมที่เหนือกว่าคุณหรืออย่างน้อยก็อยู่ในระดับเดียวกัน
แต่ไม่มีทางที่เขาจะมีสภาวะต่ำกว่าได้ หากเป็นเช่นนั้นการแสดงของเขาจะไม่ทำให้คุณสั่นสะเทือนได้เลยแม้แต่นิดเดียว
เพราะผู้ที่มีสภาวธรรมสูงกว่าย่อมอยู่เหนืออำนาจกิเลสของผู้ที่มีสภาวธรรมต่ำกว่าตนเสมอดังนี้ค่ะ

ดูได้จากกรณีของน้องฮานะที่เข้ามาทำให้หลายคนออกอาการโกรธจนตัวสั่น
บางคนรู้สึกเฉยๆ บางคนหมั่นไส้ บางคนสมเพช บางคนก็รู้สึกแตกต่างออกไปจากนี้
แต่ถ้ายังมีความรู้สึกสะท้อนออกมาจากการกระทบกับการแสดงของน้องเค้า(หรือใครก็ตาม)
นั่นหมายความว่าสภาวะธรรมของผู้นั้นไม่ได้สูงกว่าน้องเค้าอย่างแน่นอน
อาจจะเท่ากันหรือต่ำกว่าน้องเค้าก็ตามแต่ความรุนแรงของความรู้สึกสะเทือนที่เกิดขึ้น
และการสั่นสะเทือนนั้นก็เพราะมีอวิชชาความหลงเป็นเหตุอยู่นั่นเอง

แต่จะรู้ตัวว่าใจตนสั่นสะเทือนได้หรือไม่ตามเป็นจริงก็ต้องมีสติอยู่เสมอ
ถ้าขาดสติแล้วแม้ว่าตนกำลังโกรธจนตัวสั่นก็ยังไม่รู้ตัวอยู่นั่นเองว่าตนถูกโทสะครอบงำเข้าให้แล้ว

เมื่อใจไม่กล้ำกรายด้วยความรักและความชังเมื่อนั้นก็หลับสบาย

ขอพระพุทธองค์ทรงเมตตา ... ค่ะ ^^


แก้ไขล่าสุดโดย FANTASIA เมื่อ 19 ก.ย. 2011, 16:53, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ย. 2011, 14:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ค. 2011, 19:14
โพสต์: 115


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
FANTASIA เขียน:
:b1: ดิฉันขอเพิ่มเติมสำหรับคุณกบนอกกะลาค่ะ

:b1: ขอเพิ่มเติมตรงนี้อีกสักหน่อยว่า.........
คุณกบนอกกะลาอย่ามัวหลงทางไปสุงสิงกับเว็บที่ตั้งขึ้นมาเพื่อด่าพระสงฆ์อยู่เลยนะคะ

อนุโมทนาค่ะ ^^


แล้วแฟนต้าไปทำอะไรแถวนั้น...ละจ๊ะ
:b32: :b32:


:b1: ดิฉันเข้าไปเก็บข้อมูลสำหรับศูนย์เตือนภัยพระพุทธศาสนาน่ะค่ะ ^^


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ย. 2011, 14:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ค. 2011, 19:14
โพสต์: 115


 ข้อมูลส่วนตัว


student เขียน:
อ้างคำพูด:
FANTASIA เขียน
ดังที่ดิฉันเคยกล่าวไว้แล้วว่า...........
คนที่มีสภาวะธรรมสูงกว่าย่อมมองคนที่มีสภาวะธรรมในระดับเดียวกันหรือต่ำกว่าออกว่าเป็นเช่นไร
ส่วนคนที่มีสภาวะธรรมต่ำกว่าย่อมจะไม่สามารถล่วงรู้สภาวะของคนที่มีสภาวะธรรมสูงกว่าได้
และบางคนก็ไม่รู้แม้กระทั่งสภาวะของตนเองว่าตั้งแต่เกิดมาจนบัดนี้มีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง


ขอแทรกนะครับ เพื่อเป็นการยืนยันหลักการสอนของพุทธศาสนา เรื่องเหตุและผลว่าธรรมทั้งปวงล้วนอาศัยเหตุ การเป็นพุทธบริษัท4คนหนึ่ง ย่อมอาศัยเหตุคือความศรัทธาต่อคำสอนของพระพุทธเจ้า หากไม่มีความศรัทธาย่อมไม่เชื่อในพุทธศาสนา ยกเว้นธรรมคืออาสวะ4 คือ กาม ภพ ทิฏฐิ และอวิชชา เป็นการดำเนินชีวิตตามเผ่าพันธ์เชื่อตามกันมา
หากจะอธิบายเรื่องของสภาวะธรรมนั้นต้องขอถามว่าเหตุเกิดของสภาวะธรรมที่ว่าคืออะไร? เกิดขึ้นเพราะปฏิบัติตนในหนทางแห่งมรรคมีองค์8 หรือปล่าวครับ ชี้แจงตรงนี้ครับ เพราะหากไม่ใช่ อยากถามว่าปฏิบัติตนตามหลักอะไร? หากบอกว่าปฏิบัติตามหลักมรรคมีองค์8 ผมขอบอกว่า ผมไม่เชื่อ ข้อความที่อ้างอิงเรื่องของสภาวะธรรมที่คุณกล่าวมาอาจเกิดขึ้นเพราะนับถือศาสนาอื่นหรือปล่าว

ในศาสนาอื่น เชื่อกันว่าผู้ที่อ้างสภาวะธรรมเป็นไปด้วยอำนาจของGod
ในศาสนาอื่น เชื่อกันว่าผู้มีสภาวะธรรมเป็นไปด้วยกำลังของญาณ

ในพุทธศาสนา ปัญญาเกิดจากการปฏิบัติตามหลักมรรคมีองค์8 ปฏิบัติตนโดยสายดับของปฏิจจสมุปบาทอันเป็นธรรมที่พระพุทธเจ้านำมาบอก มีเหตุเพราะสิ่งนี้มีสิ่งนี้จึงมี มีผลเพราะสิ่งนี้ดับสิ่งนี้จึงดับไปด้วย

การอ้างถึงสภาวะธรรมที่สูงกว่าคนอื่น คนอื่นต่ำกว่าจึงไม่เห็นสภาวะธรรม จึงเป็นการอธิบายผิดหลักของพุทธศาสนา


:b1: คุณเข้าใจผิดแล้ว........ญาณในทางพระพุทธศาสนาก็มีไม่ใช่มีค่ะ

พระพุทธองค์ก็ทรงแสดงถึงอตีตังสญาณ อนาคตังสญาณ และญาณอื่นๆ ดังที่มีกล่าวไว้ในพระสูตรต่างๆ
ดิฉันขอยกตัวอย่างพระสูตรที่กล่าวถึงอนาคตังสญาณของพระพุทธองค์มาให้ดูดังนี้ค่ะ

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๗ พระอภิธรรมปิฎก เล่มที่ ๔

กถาวัตถุปกรณ์

อนาคตญาณกถา

[๑๐๖๙] สกวาที ความรู้ในอนาคต (สภาวะที่ยังไม่มาถึง) มีอยู่หรือ
ปรวาที ถูกแล้ว
ส. อนาคตรู้ได้โดยมูล รู้ได้โดยเหตุ รู้ได้โดยนิทาน (เหตุเป็นแดนมอบให้
ซึ่งผล) รู้ได้โดยสมภพ (เหตุเป็นแดนเกิด) รู้ได้โดยประภพ (เหตุ
เป็นแดนเกิดก่อน) รู้ได้โดยสมุฏฐาน รู้ได้โดยอาหาร (เหตุนำมาซึ่งผล)
รู้ได้โดยอารมณ์ (เหตุเป็นที่ยึดหน่วง) รู้ได้โดยปัจจัย (เหตุเป็นที่อาศัย
เป็นไป) รู้ได้โดยสมุทัย หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๑๐๗๐] ส. ความรู้ในอนาคตมีอยู่ หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. รู้ความเป็นเหตุปัจจัยที่เป็นอนาคตได้ รู้ความเป็นอารัมมณปัจจัยที่เป็น
อนาคตได้ รู้ความเป็นอธิปติปัจจัยที่เป็นอนาคตได้ รู้ความเป็นอนันตร-
ปัจจัยที่เป็นอนาคตได้ รู้ความเป็นสมนันตรปัจจัยที่เป็นอนาคตได้ หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๑๐๗๑] ส. ความรู้ในอนาคตมีอยู่หรือ?
ป. ถูกแล้ว
ส. โคตรภูบุคคล มีความรู้ในโสดาปัตติมรรคหรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล มีความรู้ในโสดาปัตติผล
หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ส. บุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งซึ่งสกทาคามิผล ฯลฯ เพื่อทำให้แจ้งซึ่ง
อนาคามิผล ฯลฯ เพื่อทำให้แจ้งซึ่งอรหัตผล มีความรู้ในอรหัตผล
หรือ?
ป. ไม่พึงกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[๑๐๗๒] ป. ไม่พึงกล่าวว่า ความรู้ในอนาคตมีอยู่หรือ?
ส. ถูกแล้ว
ป. พระผู้มีพระภาคได้ตรัสไว้ว่า ดูกรอานนท์ อันตราย ๓ อย่าง จักเกิด
แก่เมืองปาฏลีบุตร คือ จากไฟ หรือจากน้ำ หรือจากการแตก
ความสามัคคี ๑- ดังนี้ เป็นสูตรมีอยู่จริง มิใช่หรือ?
ส. ถูกแล้ว
ป. ถ้าอย่างนั้น ความรู้ในอนาคตก็มีอยู่น่ะสิ

อนาคตญาณกถา จบ

-----------------------------------------------------

เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๗ บรรทัดที่ ๑๐๒๖๓ - ๑๐๒๙๗. หน้าที่ ๔๒๖ - ๔๒๗.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka3/v ... 63&Z=10297

ส่วนการสามารถล่วงรู้สภาวธรรมของผู้ที่อยู่ในดับเดียวกันหรือต่ำกว่าได้นั้นไม่ได้เกิดจากญาณแต่เกิดจากปัญญาวิมุติค่ะ
สำหรับผู้ที่มีสภาวธรรมสูงกว่าเพราะเคยผ่านสภาวะในระดับที่ต่ำกว่ามาแล้วย่อมรู้แจ้งแทงตลอดในสภาวธรรมที่ต่ำกว่าได้ดังนี้ค่ะ

พระโสดาบันย่อมรู้สภาวะของปุถุชนว่ายังติดข้องอะไรอยู่แต่ไม่สามารถล่วงรู้สภาวะของอริยะบุคคลในระดับที่สูงกว่าตนได้
พระสกิทาคามีย่อมรู้แจ้งแทงตลอดในสภาวะของปุถุชนและพระโสดาบันได้แต่ไม่สามารถล่วงรู้สภาวะของพระอนาคามีและพระอรหันต์ได้
พระอนาคามีย่อมรู้แจ้งแทงตลอดในสภาวะของผู้ที่มีสภาวธรรมเท่าเทียมกันหรือต่ำกว่าท่านในทุกระดับได้แต่ไม่สามารถล่วงรู้สภาวะของพระอรหันต์ได้
ส่วนพระอรหันต์นั้นสามารถหยั่งรู้สภาวธรรมของบุคคลทุกระดับได้เพราะว่าท่านได้ผ่านมาหมดแล้วเปรียบเหมือนผู้ยืนอยู่บนยอดเขามองลงมาย่อมสามารถมองเห็นคนที่กำลังปีนป่ายขึ้นไปได้ไม่ว่าใครจะปืนขึ้นมาอยู่ในระดับไหนแล้วก็ตาม

:b1: นอกเหนือจากนี้ในเรื่องของปัญญายังมีรายละเอียดปลีกย่อยเกี่ยวกับขอบข่ายของปัญญาของแต่ละบุคคลที่อยู่ในระดับเดียวกันอีกด้วย ดังเช่น พระอรหันตสาวกกับพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ถึงแม้จะบรรลุอรหัตผลเหมือนกันแต่ขอบข่ายของปัญญาของพระพุทธองค์ย่อมกว้างขวางกว่าพระสาวกดังนี้ค่ะ

สรุปว่าผู้ที่มีประสบการณ์ผ่านสภาวะใดๆ มาก่อนแล้วย่อมเห็นสภาวะของผู้ที่ยังติดข้องอยู่ในระดับนั้นๆ ได้อย่างชัดเจน โดยไม่ต้องอาศัยจินตนาการหรือการเดาแต่อย่างใด

:b1: ปล.ดิฉันขอให้คุณลองไปอ่านบทความที่คุณเอรากอนโจนำมาลงไว้ในลิ้งนี้ให้ดีเสียก่อนนะคะ
viewtopic.php?f=1&t=39497&start=105
แล้วช่วยตอบให้ชื่นใจหน่อยว่าการที่หลวงปู่มั่นสามารถหยั่งรู้สภาวะของท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ได้นั้น หมายความว่าท่านพระอาจารย์มั่นเป็นคนนอกพุทธศาสนาหรือเปล่านะคะ ^^


แก้ไขล่าสุดโดย FANTASIA เมื่อ 19 ก.ย. 2011, 16:52, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ย. 2011, 15:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


อัตตาของเรานั้น ไม่ได้มีหรอกครับ เป็นเพียงแต่โทสะที่ที่ปรุงแต่งจิต เพราะมีสิ่งกระตุ้นจากรูป เสียง...ที่มากระทบทางอายตนะ เรื่องการกระเทือนมันก็เป็นเรื่องธรรมดาเพราะมีเหตุปัจจัย แต่ก็ขอให้มีสติรู้เท่าทันว่ากระเทือน ไม่เพลินต่อ ทุกขเวทนาที่เกิดขึ้นก็ให้รู้ว่าเป็นทุกขเวทนา แล้วก็อย่าหลงไม่พอใจในทุกขเวทนาที่เกิด อันจะเป็นการเพิ่มพูนอนุสัยกิเลสให้มากขึ้นอีก เกิดได้ก็ดับได้

ทุกข์หรือสุขไม่ได้เกิดจากตนหรือผู้อื่นบันดาล


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ย. 2011, 15:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ค. 2011, 19:14
โพสต์: 115


 ข้อมูลส่วนตัว


ทักษา เขียน:
FANTASIA เขียน:
โฮฮับ เขียน:
FANTASIA เขียน:
:หากการเชิดชูผู้ที่ปฏิบัติดีไปทำให้อัตตาของคุณกำเริบขึ้นมา
จนต้องมาทำตัวใหญ่ๆ เป็นอึ่งอ่างพองอัตตาสำแดงตนอยู่อย่างนี้

คุณครับเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าครับ การกระทำของผมครั้งนี้คุณว่า
ผมมาสำแดงเดชเป็นอึ่งอ่าง ผมว่ามันเป็นคุณนั้นแหล่ะครับ

มันใครกันครับที่ไม่รู้จักกาละเทศะ ไปอ้างชื่อคุณฮานะมากล่าววาจาเสียดสีผม
พอผมเตือนด้วยความหวังดีว่า อย่าไปเอ่ยชื่อเขา เดียวคนอื่นจะเข้าใจผิด
แทนที่จะเห็นคุณค่า กลับย้อนผมอีก หาว่าผมเอ่ยชื่อคุณฮานะในกระทู้นี้

ผมก็ต้องกลับมาแก้ข้อกล่าวหาและชี้แจงในข้อเท็จจริงซิครับ
ทำไมไม่ใช้สิ่งที่เป็นเหตุผลมากล่าวบ้างครับ ขอร้องเลิกเถอะกับ
ไอ้วิธีการยอกย้อนแบบไร้สาระเหมือนคนไม่รู้เรื่องธรรม


:b16: ขอประทานโทษนะคะ
ดิฉันเห็นใน คห.ของคุณตอนแรกก็ตัวเล็กๆ ดำๆ
จู่ๆ ก็พองตัวโตขึ้นมาแถมยังเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วย
นั่นไม่ใช่อึ่งอ่างพองอัตตาสำแดงเดชหรอกหรือคะ


แหมๆ ผมนี่ชื่นชมคุณ FANTASIA จริงๆเลยครับ ช่างสรรหาคำพูดอะไรก็ไม่รู้ได้มากมาย
กระชากอัตตาบ้างล่ะ อึ่งอ่างพองตัวบ้างล่ะ ตนเองมีสภาวะธรรมสูงส่งบ้างล่ะ แต่ละอย่าง
ช่างสร้างสรรดีทั้งนั้นนะ

นี่ๆ คุณ FANTASIA ผมจะบอกอะไรให้นะ อ่อ ต้องเรียกว่า ฮานะ ภาคอวตารดีกว่ารึเปล่านะ
เอหรือจะเรียกว่าอะไรดี เพราคุณนี่แปลงร่างจนผมงงไปหมดละ ไม่รู้คุณอยู่ร่างไหนแน่จริงป่ะ

ผมจะบอกให้นะว่าที่คุณพยายามตอดเล็กตอดน้อยหรือบางครั้งก็กระโดดขย้ำคนอื่นอยู่นั้น
มันก็บอกได้ว่าคุณไม่ได้มีสภาวะธรรมสูงหรืออะไรอย่างที่คุณเข้าใจหรอกแต่มันเป็นสภาวะ
กรรมของคุณต่างหาก กรรมบังตา อัตตามันจึงพุ่งพล่านใครจะกระชากยังไงอัตตาของคุณ
ก็ไม่หลุดไป จะเอาช้างเอามามาดึงมันก็ไม่ยอมออกนะอัตตาตัวนี้เนี่ย เพราะมันกลบตาจน
มืดบอดมองไม่เห็นทางสว่าซะแล้ว จึงเดินไปทางไหนก็เจอแต่ตอ โดยเฉพาะกับคุณ โฮฮับ
ที่คุณไปว่าเขาเป็น อึ่งอ่างพองตัว แต่ผมว่านะ คุณ FANTASIA เองน่ะ คางคกเลยล่ะทั่น
คากคกพองตัวเบ่อเร่อเที่ยวรีดยางพ่นพิษใส่เขาไปทั่วบอร์ด นิสัยอันธพาลครับ ผมจะบอก
ให้นะคุณโฮฮับเวลาแกจะจวกใครแกก็จะเลือกเป็นรายคนไป โยเฉพาะคนที่ปัญหามากอย่าง
คุณFANTASIA แต่สำหรับคุณFANTASIAนี่ระรานเขาไปทั่วทั้งบอร์ด ไม่ว่าหน้าอินทร์
หน้าพรหมคุณFANTASIA ไม่เว้นทั้งนั้น ทั้งๆที่บางคนเขาไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วย นี่แหละครับ
ที่ว่าคุณ FANTASIA เป็นคางคกพองตัว รีดยางพ่นใส่เขาไปทั่ว เห็นใครเดินผ่านไม่ได้
เป็นต้องโดนดีทุกรายไป อาการกระโดดขย้ำเหยื่อของคุณอย่างนั้นเรียกว่าอาการของคน
เสียสติครับ คือคิดว่าตนเองดีอยู่คนเดียว ถูกอยู่คนเดียว คนที่เห็นต่างไปจากคุณคือผิดหมด
พอเขาไม่ฟังคำเพ้อเจอของคุณ คุณก็เกิดอาการร้อนรนทนไม่ได้จนอัตตามันพองร้องอ๊อบๆ
เตรียมรีดยางพ่นพิษใส่เขาทันที น่าเวทนาจัง


:b1: ดิฉันต้องขออภัย(ตามมารยาทเท่านั้น)จริงๆ ค่ะ

หากการแสดงธรรมของดิฉันกลายเป็นยาพิษกระชากอัตตาของคุณทักษาออกมาด้วยอีกคน
ต้องขอสารภาพว่าดิฉันไม่ได้ตั้งใจให้ไปโดนอะไรของคุณเลยจริงๆ นะคะ
ถ้าหากว่าคุณไม่ออกมาแสดงอาการทุรนทุรายให้เห็นอยู่เช่นนี้
ดิฉันก็คงจะไม่ทราบจริงๆ ว่าคุณทักษาก็เกิดอาการต่อมอัตตาเป็นพิษไปกับเค้าด้วย

การจะให้ดิฉันเป็นถึงคางคกสารพัดพิษนั้นมันยิ่งใหญ่เกินไปมากจริงๆ ค่ะ
ขอให้คิดเสียว่าดิฉันเป็นเพียงธุลีดินให้คุณเหยียบย่ำสำรอกใส่ได้อีกตามสบายเลยนะคะ
เพราะดิฉันเป็นเช่นฝุ่นผงที่รองรับได้หมดไม่ว่าสิ่งปฏิกูลหรือเพชรนิลจินดาร่วงลงมาใส่
ดิฉันก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจเดียจฉันท์หรือว่ารู้สึกชื่นชมยินดีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งเลย ^^


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ย. 2011, 15:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ค. 2011, 19:14
โพสต์: 115


 ข้อมูลส่วนตัว


พุทธคุณ เขียน:
รูปภาพ

ด้วยเหนื่อยนัก พักลงบ้าง วางลงก่อน
ค่อยคลายถอน ผ่อนเมื่อยล้า พาสุขี
เรื่องยุ่งยาก เว้นวรรคบ้าง ห่างสักที
หาสิ่งดี ที่เสริมสร้าง สิ่งสร้างสรร

ความสุขนั้น อันมีค่า พาสดชื่น
เหมือนคนตื่น จากหลับไหล ใช่เสกสรรค์
คือสรรสร้าง ทางสดสวย ช่วยโลกกัน
คือสร้างสรรค์ อันคุณค่า น่าภูมิใจ

ถึงเหนื่อยนัก ก็จักวาง ว่างสักนิด
ค่อยครุ่นคิด พินิจดู จึงรู้ได้
แม้ลำบาก ตรากตรำ นำสู้ไป
ด้วยเข้าใจ และเข้าถึง จึงรู้คุณ


:b1: ดิฉันขออนุโมทนาในส่วนที่เป็นกุศลจิตของคุณค่ะ

แต่ว่าความเหน็ดเหนื่อยนั้นเป็นเวทนาที่เกิดขึ้นมาก็เพราะมีอวิชชาเป็นเหตุเริ่ม
จากนั้นตัณหาก็พาให้เราอยากพักผ่อนเพื่อปิดบังทุกขเวทนาเอาไว้
และเพราะอวิชชาความหลงว่าเป็นตัวตนนั่นเองทำให้เกิดความยึดมั่นถือมั่นว่าความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้านั้นเป็นของเราและเราต้องพักผ่อนเพื่อให้ตัวเราหายเหนื่อย(ชั่วครั้งชั่วคราว) มันหลอกให้เราเหนื่อยทีละน้อยจะได้รู้สึกว่าไม่ค่อยทุกข์เท่าไหร่เพื่อให้กลับมาเหนื่อยอยู่ในสังสารวัฏต่อไปอีกนานๆ แท้จริงแล้วมีแต่อวิชชาเท่านั้นลากพาไปให้เป็นทุกข์ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นค่ะ
เพราะฉะนั้นยิ่งเหนื่อยยิ่งดีจะได้เห็นทุกข์เมื่อเห็นว่าเป็นทุกข์จะได้หาทางทำเพื่อดับทุกข์ให้หมดไปอย่างเด็ดขาดเสียทีไงละคะ

ขอพระพุทธองค์ทรงเมตตา ... ค่ะ ^^


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ย. 2011, 15:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ค. 2011, 19:14
โพสต์: 115


 ข้อมูลส่วนตัว


deecup เขียน:
อย่างนี้เขาเรียกว่าส่งจิตออกนอกหรือเ้ปล่า s002


:b1: อิริยาบถเป็นเรื่องของกาย การภาวนาเป็นเรื่องของใจ
หากใจรู้ก็ไม่ส่งออกไปตามการแสดงภายนอก หากใจหลงก็ไหลส่งออกไปหมดค่ะ

ขอให้พิจารณาใจตนให้ดีนะคะ ^^


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 ก.ย. 2011, 15:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ค. 2011, 19:14
โพสต์: 115


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
tongue
สรุปแล้ววิวาทะกันมาถึงวันนี้ได้ประโยชน์อะไรกันบ้างเอ่ย?


กรณีนี้มีประโยชน์สำหรับคนหลงเป็นอย่างมากเพราะว่าการได้สำรอกกิเลสออกมาทำให้มีที่ว่างสำหรับใส่สัมมาทิฏฐิเข้าไปได้บ้างค่ะ

หากไม่เอากิเลสออกเสียบ้างใจก็จะไม่ว่างจากอวิชชาที่มีมาแต่เดิมนะคะ ^


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 75 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร