วันเวลาปัจจุบัน 17 ก.ค. 2025, 01:34  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 71 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.พ. 2013, 21:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ต.ค. 2008, 19:58
โพสต์: 294

โฮมเพจ: https://www.facebook.com/McDoorEdgeRubber
แนวปฏิบัติ: ตามหาพุทโธ
งานอดิเรก: ถ่ายภาพ สะสมพระเครื่องพระบูชา เลี้ยงปลา เลี้ยงแมว
ชื่อเล่น: Mc
อายุ: 0
ที่อยู่: สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

 ข้อมูลส่วนตัว www


ขอโทษนะครับ
ผมคิดว่าถ้าทำตามที่พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านสั่งสอนมาดีกว่าไหมครับ s002

.....................................................
ถ้าจะตาย จะเสียดายทำไมเล่าชีวี
ต้องรู้เท่าทันธาตุขันธ์นี้ ล้วนแต่มีอนิจจังทั้งหมด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.พ. 2013, 06:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8576


 ข้อมูลส่วนตัว


ผมมีความคิดอย่างนี้นะครับ
ธรรมะ ย่อมชนะ อธรรม พระพุทธองค์สอนอย่างนี้
ผู้ใดสะสมกรรมอันใดผู้นั้นต้องรับผลของกรรมอันนั้น
มนต์ดำมนต์แดงอะไรน่ะ เพราะว่าผู้นั้นไม่มีธรรมะ ไม่ปฏิบัติธรรมะต่างหาก
คิดว่าแค่ศีล ๕ ก็คงไม่มีเขาผู้นั้นก็ย่อมมี อธรรม
อธรรม เป็นโทษเป็นทุกข์แล้วจะไปวิ่งหาหลวงพ่อ หลวงอาจารย์ที่ไหน
โทษของตัวเองยังจะไปให้คนอื่นเขารักษา กรรมของตัวเองยังจะไปให้คนอื่นเขาเอาออก
มารักษาศีลปฏิบัติธรรมเถอะ อธรรมย่อมพ่ายแพ้ไปเอง
คำสอนของพระพุทธเจ้าก็มีอยู่ ยังไม่ลบเลือนหายไปไหน อย่าได้ทำตัวให้ออกนอกเส้นทาง
ของพระพุทธองค์เลย แล้วท่านอาจจะไปพบพระศาสดาองค์ใหม่แล้วมันจะยุ่งไปกันใหญ่

ขอให้เข้าใจธรรมะของพระพุทธองค์เถิดอย่าได้หลงไหลกันอีกเลย

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.พ. 2013, 18:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8576


 ข้อมูลส่วนตัว


พระพุทธศาสนา เป็นศาสนาที่ถือเรื่องกรรมเป็นใหญ่ เป็นกรรมนิยม
ซึ่งผิดกับศาสนาอื่นที่นับถือ เทวนิยม เป็นต้น เพราะเข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นด้วย
การบันดาลของเทพเจ้า แต่พระพุทธศาสนาถือว่า สัตว์ทั้งหลายจะดีหรือชั่ว ย่อมขึ้นอยู่
ด้วยกรรมของตนเอง ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับผู้อื่น หรือขึ้นอยู่กับวงค์ตระกูลเป็นประการสำคัญ
เพราะการทำดีทำชั่วต้องทำด้วยตนเอง ไม่มีผู้อื่นกระทำให้ เหตุนี้สัตว์ทั้งหลาย
จึงมีกรรมเป็นของตนเองไม่ใช่มีผู้อื่นมาทำให้ เหตุนี้สัตว์ทั้งหลายจึงมีกรรมเป็นของตนเอง
คือต้องทำกรรมเอง จะให้คนอื่นมารับกรรมแทนกันไม่ได้ หรือมารับผลแทนตนไม่ได้
การที่มีกรรมเป็นของตน เรียกว่า กมฺมสฺสโกมฺหิ
เมื่อทำกรรมไว้อย่างไรก็ต้องรับผลของกรรมอันนั้นตามที่ทำไว้ เรียกว่า กมฺมทายาโท
คือเป็นทายาทของกรรมที่ทำแล้วจึงจำแนกสัตว์ให้ไปเกิดในที่ต่างๆกัน เรียกว่า กมฺมโยนิ
คือกรรมที่เป็นกำเนิด และกรรมที่ที่ทำไปแล้วยังติดตามไปทุกหนทุกแห่ง
จะไม่สูญหายไปไหน เรียกว่า กมฺมพนฺธู คือมีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์
แม้พ่อแม่ญาติพี่น้องก็ไม่ชื่อว่าเป็นเผ่าพันธ์วงศ์ญาติที่แท้จริง คือชาตินี้เป็นญาติกัน
แต่พอตายแล้วก็แยกย้ายกันไป แต่ส่วนกรรมที่ทำแล้วย่อมติดตามไปทุกภพทุกชาติ
จนกว่าจะเข้าพระนิพพาน ถ้ากรรมดีก็เหมือนวงศ์ญาติที่ดี ญาติดีก็จะคอยอุปถัมภ์ค้ำชู
ให้มีความสุขความเจริญ แต่ถ้ากรรมชั่วย่อมติดตัวล้างผลาญให้เป็นทุกข์เดือดร้อนอยู่เรื่อยไป
กรรมจึงเป็นที่พึงที่อาศัยของสัตว์โลก เรียกว่า กมฺมปฏิสรโณ
เพราะเมื่อกรรมชั่วให้ผลอยู่ แม้ญาติพ่อแมพี่น้องตลอดจนผู้มีอำนาจราชศักดิ์ก็ไม่อาจจะช่วย
ให้พ้นทุกข์ได้ แต่ถ้ากรรมดีให้ผลอยู่ แม้ใครจะคิดร้ายทำลายชีวิตก็ไม่อาจทำลายล้างได้เลย

เมื่ออ่านคำที่กล่าวมาแล้ว ก็ไม่ควรที่จะไปแสวงหาหรือแหงนหน้าหาพระศาสดาใหม่กันอีกเลย

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.พ. 2013, 13:30 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


คนเก่ง เอาแต่ลอกมันเยอะ. พูดยังกะ เจ้าของกระทู้ไม่ได้นับถือพุทธ. พี่หมอแกรู้จัก หายใจเข้าพุทหายใจออกโธ นี่ เลิศกว่า พวกชอบ โพส โชว ภูมิ อีก. ย้อนถามง่ายๆ. พี่หมอแก ไปทำกรรมอะไรมา ถึง ป่วยแบบนี้. หากจะกล่าว่ส แกเป็นจิตเภท. เพราะกรรมอะไร. มีเหตุ อะไร จึงส่งผลกรรมแบบนี้ :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.พ. 2013, 13:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


Suttavan เขียน:
มีวิธีไหน ใช้ ปราบกุมาร ได้บ้าง เพราะเค้าใช้กุมารเป็นสื่อ ทำให้เขารู้ความคิดของเรา หรือรู้ในสิ่งที่คนอื่นพูดคุยกับเรา

ไม่ดี ครับ. หาก. กุมารหรือวิญญาน อะไรนั่น. มีอยู่. ไปเบียดเบียนเขาไม่ได้. เป็นบาป.แล้วหากคุณก็ไปผูกพยาบาท แบบนี้ไม่จบ. ยาว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.พ. 2013, 13:51 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


McArowana เขียน:
ขอโทษนะครับ
ผมคิดว่าถ้าทำตามที่พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านสั่งสอนมาดีกว่าไหมครับ s002

ทำได้ หน่ะดี แต่ตอนนี้ พี่แกช่วยตัวเองไม่ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.พ. 2013, 13:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ฆราวาส ผู้มีญานหยั่งรู้ท่านนึง แกเตือนผมมา ว่า คุณอย่าไปพัวพัน (เรื่องนี้) เดี๋ยวผมจะซวย เพราะเจ้ากรรมเขาไม่ยอม

แต่ผมประเภท ชอบก้าวก่ายนิดๆ เจ้าของกระทู้ควรทำตามที่ผม แนะไปข้างต้น

อันนี้ อยากรู้ ส่วนตัว :b10: มีปัญหาเรื่องที่ หรือ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.พ. 2013, 20:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.พ. 2013, 00:12
โพสต์: 12

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
ฆราวาส ผู้มีญานหยั่งรู้ท่านนึง แกเตือนผมมา ว่า คุณอย่าไปพัวพัน (เรื่องนี้) เดี๋ยวผมจะซวย เพราะเจ้ากรรมเขาไม่ยอม

แต่ผมประเภท ชอบก้าวก่ายนิดๆ เจ้าของกระทู้ควรทำตามที่ผม แนะไปข้างต้น

อันนี้ อยากรู้ ส่วนตัว :b10: มีปัญหาเรื่องที่ หรือ


ปัญหาเกิดจากเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่ปัจจุบันไม่เล็กเพราะเป็นสาวแล้วอายุ ไม่ถึง 16 ปี ตามจองเวรจองกรรม มาหลายภพหลายชาติ แต่ไม่เคยทัน มาพบเจอกันในชาติปัจจุบัน เค้าผูกใจเจ็บอาฆาตแค้น ที่ภพชาติหนึ่ง ขออนุญาตไปบวชแล้วไม่ยอมศึกออกมาดูแลเค้า ตามที่ได้สัญญาเอาไว้ก่อน บวช เหตุเพราะติดใจในรสพระธรรม รสแห่งความสุข ความสงบของจิต จึงไม่ได้ลาสิกขาออกมา จนกระทั้งสิ้นสุดอายุขัย มาภพชาติปัจจุบัน มาเจอกันแต่อายุต่างกันมาก เค้ามีใจรัก แต่ทางคนในบ้านผมไม่เล่นด้วยเพราะ รสพระธรรมที่ได้รับในภพชาติปัจจุบัน ที่ทำให้จิตสงบ และต้องการที่จะเจริญขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ก็มาสะดุด ตามที่ท่านเข้าใจ จะภาวนาก็โดนกระแสกด ทำให้คำภาวนาหาย พอจับลมหายใจเข้าออก ก็กดกระแสกลางอก จนจะหายใจไม่ได้ แต่จิต มีรู้อยู่ตลอด บางครั้งนึกถึง ครูอาจารย์ ก็โดนแทรกด้วยการนำให้จิตคิด ล่วงเกิน แม้นแต่พระพุทธเจ้า องค์สมเด็จพระปฐมก็ยังโดนกระแสแทรก ทำห้เหมือนกับว่า จิตของเราเป็นผู้ล่วงเกิน นั้นเป็นทางจิต แต่อาการทางกายก็อย่างที่ผมได้เคยโพสต์ไปแล้ว ซึ่งผมเองไม่ได้เป็นคนโดน แต่เห็นแล้ว อุเบกขาตัวเองไม่ได้ เดือดร้อนแทนทุกครั้ง แต่คนในบ้านที่โดนก็ ปรามผมทุกครั้ง เพราะไม่อยากให้ไปผูกเวรกับคนประเภทนี้ แต่เข้าใจมั้ยว่า มับเจ็บใจ


แก้ไขล่าสุดโดย Suttavan เมื่อ 26 ก.พ. 2013, 22:31, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.พ. 2013, 22:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


เหนื่อยเน๊าะ.... grin grin

หากเราย้อนกลับไปดูกรรมเก่าเราได้...

เห็นภาพที่เราทำกับใครต่อใครเขา....

ไม่แน่....เราอาจจะโทษตัวเองจนโทษใครไม่ลง...ก็ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.พ. 2013, 22:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ฆ่ากันไป..ฆ่ากันมา....หรือทำร้ายกันไป...ทำร้ายกันมา...ไม่ใช่หนทางแก้ไข

แต่คนที่ขาดปัญญา....จะทำ

ความโกรธ....ความโลภ...ทำให้ขาดปัญญา...โดยเฉพาะในช่วงสำคัญ..ๆ

ความโกรธ....ความเกลียด....ของเรา...จะกลายเป็นอาหารแห่งความชั่วของศัตรู

อยากให้ศัตรูอ่อนแรง....เราต้องลดความโกรธ....ความเกลียดของตัวเราเอง...ครับ

หากขาดปัญญาแล้ว....จะไม่เข้าใจเลยว่าทำไม


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.พ. 2013, 22:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


ต้องวางจิต เมตตา ครับ พี่หมอ สวดมนต์ 12ตำนานให้มากๆ onion เคส นี้ ต้องพระอภิญญาท่าน เคลียร์ให้ อย่างเดียว. s002 อย่าไปแค้น ครับ เดี๋ยวมันจะเป็น มหากาพย์ อภิมหาแค้น. พี่หมอไปแค้นจน จิตนิ่ง นี่ เดี๋ยวมันจะกลายเป็นแกุศลฌาน หน่ะ ยุ่งเลยคราวนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ก.พ. 2013, 23:52 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


คันปาก อยากเล่ากระทู้นี้ทำให้ผมตื่นเต้น :b9: ผมเคยไปเที่ยวแถวอิสานใต้. ก็มีรุ่นน้องคนนึง เล่าให้ฟังว่า มีพวกแกคนนึงชอบเล่นพนันมาก ได้เข้าไปเล่นในบ่อน ฝั่งเขมร พอดึกๆเคลิ้มๆ (ปกติพวกจะเล่นเลิกยันเช้า). คืนนึง มัน ทำชิฟ ตกลงพื้น มันก็ก้มลงไปเก็บ แล้วมันก็ เห็น ผู้หญิง เด็กคนแก่ โดนล่ามไว้ใต้โต๊ะ (ผี) ไอ้คนนั้น ก็ ลุกขึ้นมานั่ง นิ่ง เฉยๆ ไม่เล่นไม่กล้าลุกไปไหน (กลัว) จนเช้า ถึง ออกจากบ่อน. ภายหลัง ทราบว่า ที่บ่อน มีการเล่นและ เลี้ยง ผีสะกดกักขังคนที่ตายไปต่างๆ เพื่อจะให้เป็นผีพนันในบ่อนนั้น :b14: :b5:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.พ. 2013, 04:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8576


 ข้อมูลส่วนตัว


ตามธรรมดาของที่มีค่าสูงนั้น ย่อมรักษาได้ยาก
สมบัติทีมีค่าอาจจะต้องสูญหาย ดังเช่นผู้ที่เคยได้รับทรัพย์สมบัติอันเป็นมรดกจากบิดามารดา
หรือญาติ บางคนอาจปกครองทรัพย์สมบัติได้เป็นอย่างดี ไปตลอดถึงลูกหลาน
บางคนเมื่อได้รับมรดกตกทอดมาแล้ว ก็ไม่สามารถที่จะปกปักรักษาทรัพย์สมบัตินั้น
ไว้ให้ยืนยาวได้ ด้วยการไม่เข้าใจในการรักษาอย่างหนึ่ง

หรือไม่สนใจในการรักษา ปล่อยให้ตกเรี่ยเสียหายไปอย่างหนึ่ง
หรือเป็นผู้ไม่มีบุญที่จะรักษาสมบัตินั้นไว้ได้โดยอัคคีภัยบ้าง โจรภัยบ้าง
อุทกภัยบ้าง ราชภัยบ้าง ข้อนี้ฉันใด ในด้านความรู้ที่สำคัญๆ
ระเบียบประเพณีที่อันดีงามก็ค่อยๆสูญหายไป กลับได้แต่วิชาความรู้และระเบียบประเพณี
เกี่ยวกับบำรุงตัณหา มานะ ทิฏฐิ เข้ามาแทน
ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นบุคคลที่เข้าใจ และสนใจในการรักษาสิ่งเหล่านี้ไว่ใหมากขึ้น
เพื่อช่วยกันระวังรักษาให้สิ่งที่ดีงามเหล่านี้ตั้งมั่นดำรงอยู่ได้

ปัจจุบันนี้ระเบียบประเพณีที่ดีงามและวิชาความรู้ในด้านพระพุทธศาสนาก็ค่อยๆสูญหายไป
มิใช่น้อย ทั้งนี้เป็นเพราะหมู่ชนในประเทศนั้นๆ ขาดความรู้ความเข้าใจ หรือขาดความเอาใจใส่
ต่อการรักษา หรือไม่มีบุญวาสนาที่จะรักษาเอาไว้นั่นเอง

ดังเช่นในประเทศอินเดีย แต่เดิมนั้นวิชาความรู้ในด้านพระพุทธศาสนาก็ดี
การปฏิบัติสมถะวิปัสสนาก็ดี หรือระเบียบประเพณีที่ประพฤติปฏิบัติกัน
ตามปกติก็ดี มีความเจริญรุ่งเรืองมากในสมัยนั้น แต่ปัจจุบันนี้ความเจริญต่างๆ เหล่านั้น
ได้สูญหายไปเกือบหมดสิ้นแล้ว

ก็ไม่น่าเชื่อเลยว่าเคยเป็นประเทศที่มีพระพุทธศาสนารุ่งเรืองมาก่อน
เพราะได้ประสบแต่วิชาความรู้และระเบียบประเพณี ตลอดจนการประพฤติปฏิบัติที่เป็นของเก่า
และของใหม่ ซึ่งเกี่ยวกับการบำรุงบำเรอ ตัณหา มานะ ทิฏฐิ เป็นส่วนมาก
ความเป็นไปเช่นนี้หาใช่จะเป็นแต่เฉพาะในประเทศอินเดียเท่านั้นก็หาไม่
แม้แต่ในประเทศอื่นๆที่เคยเจริญด้วยวิชาความรู้ และการปฏิบัติสมถะวิปัสสนา ระเบียบประเพณี
ตลอดจนมารยาทของชนที่อยู่ในประเทศนั้นๆ บางสิ่งบางอย่างก็สูญหายไปเช่นเดียวกัน

ลัทธิอื่นๆ วิชาความรู้อย่างอื่นๆระเบียบประเพณีอย่างอื่นๆบ้าง เข้ามาแทนที่หมด
ชนรุ่นหลังๆไม่มีใครรู้เรื่องราวโดยถี่ถ้วนพากันเข้าใจไปตามความคิดเห็นของผู้มีอำนาจ
ที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบันนี้ วิชาความรู้และการปฏิบัติในด้านพระพุทธศาสนาที่มีค่ายอดเยี่ยมนั้น
ได้แก่วิชาความรู้ในพระอภิธรรม และการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานนั่นเอง
ที่กล่าวมานี้มิใช่ว่าจะยกย่องพระอภิธรรมที่ตนได้ศึกษามาว่ายอดเยียมกว่า
แต่เพราะเป็นความจริงตามหลักพุทธภาษิตและอรรถกถา ฏีกา

ผลที่ได้รับจากการศึกษาพระอภิธรรมและปฏิบัติวิปัสสนานั้น
ก็ปรากฏอยู่ในหมู่พุทธมามกชนเป็นพยานหลักฐานอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นกล่าวขยายความให้มากมาย

สำหรับผลเสียที่ได้รับจากการศึกษาและการปฏิบัติของผู้ที่ไม่กระทำเอาจริงจัง
ทั้งมีจิตใจไม่บริสุทธินั้นก็ย่อมมีบ้างเป็นธรรมดา
แต่ก็ไม่ใช่เป็นจำนวนมาก เพราะแม้แต่ในสมัยพุทธกาล
เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังมีพระชนม์อยู่นั้น ผลเสียเหล่านี้ก็ยังมีอยู่
ทั้งในหมู่บรรพชิตและคฤหัสถ์

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.พ. 2013, 08:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 10:41
โพสต์: 4463

อายุ: 0
ที่อยู่: วัฏสงสาร

 ข้อมูลส่วนตัว


พระธรรม หน่ะสุดยอด. แต่ มีบางคนศึกษา แค่ ทษฏี นิดๆหน่อยๆรู้.ประวัติศาสตร์นิดๆ บางทีก็หลงตน ว่า เรารู้แล้ว และไปประเมิน คนอื่นว่า ต่ำกว่าตน. ผมคิดว่า นี่สิ. หนักกว่า โดนของ :b6:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 ก.พ. 2013, 15:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8576


 ข้อมูลส่วนตัว


หลับอยุ่ เขียน:
พระธรรม หน่ะสุดยอด. แต่ มีบางคนศึกษา แค่ ทษฏี นิดๆหน่อยๆรู้.ประวัติศาสตร์นิดๆ บางทีก็หลงตน ว่า เรารู้แล้ว และไปประเมิน คนอื่นว่า ต่ำกว่าตน. ผมคิดว่า นี่สิ. หนักกว่า โดนของ :b6:

เอาอะไรไป ตีค่าประเมิน วัดผลเขา

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 71 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร